ตำนานPower Couple 'BENNIFER' ประกาศหมั้นรอบสอง!

42 12


Vibeจากยุค2000s ที่ถูกเรียกว่า The Noughties /The Aughts  ที่หวนกลับมาสร้างความคึกคักในปี 2022  อาจจะยิ่งโด่งดังมากขึ้นไปอีก   เมื่อ Bennifer  คู่รักsuperstar ผู้ดึงดูดทุกความสนใจในช่วงที่แทบลอยด์กำลังบูมสุดๆ  ได้หวนกลับมาเริ่มต้นกันใหม่และพัฒนาความสัมพันธ์อย่างจริงจังถึงขั้นลงหลักปักฐาน!   ใช่แล้วค่ะ Bennifer กำลังเข้าสู่พิธีวิวาห์อีกครั้ง หลังจากที่พวกเค้ายกเลิกงานไปเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน    และในคราวนี้ หลายฝ่ายสัมผัส energy ความรักอันหวานซึ้งและฟันธงว่า   แผนการแต่งงานครั้งนี้จะไม่ล่มเหมือนกับในอดีต

มาติดตามเส้นทางความรักของ Bennifer ไปกับพวกเราได้เลยค่ะ!


จาก'Bennifer' power couple แห่งยุค  Y2K  สู่  'Bennifer2.0'

เรื่องราวของคู่นี้อาจจะทำให้ผู้ชมจินตนาการถึงพล็อทหนัง romantic  เมื่อคนที่เคยเป็นอดีตรักตราตรึงในวัยหนุ่มสาวได้ก้าวเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง     แม้แต่ฝ่าย J Lo  เองก็ยอมรับว่า  คนที่ประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่าใครก็คือตัวเธอเอง      

ในช่วงเริ่มต้นเมื่อสื่อบันเทิงได้นำเสนอหลักฐานความสัมพันธ์ของคู่นี้  ก็ดึงดูดความสนใจจากโลก internet ให้ลงความเห็นอย่างอื้ออึง  มีทั้งกลุ่มแฟนๆที่ตื่นเต้นดีใจ และโหยหาความหลังยุค Y2K   และผู้ที่ไม่แน่ใจว่า นี่เป็นทางเลือกที่เหมาะสมต่อ Ben และ Jen หรือไม่   รวมถึงหลายคนที่ฟันธงว่า  นี่เป็นเพียงความสัมพันธ์วูบวาบแบบ rebound เพราะทั้งคู่เพิ่งจะแยกทางจากอดีตคนรักมาหมาดๆ  และคงต้องการเสริมสร้าง self-esteem ด้วยตัวคั่นเวลาเพื่อจะได้ move on จากความเจ็บปวดจากการเลิกรา     

โดยเฉพาะ J Lo ที่เกือบจะเข้าพิธีวิวาห์กับ A-Rod หรือ Alex Rodriguez  อดีตนักอเมริกันฟุตบอลชื่อดัง  หลังจากสื่อรายงานหลายครั้งว่า เขามีพฤติกรรมนอกใจเธอซ้ำๆ จนเธอไม่สามารถก้าวต่อไปในความสัมพันธ์นี้ได้อีก  แม้จะไม่มีการยืนยันว่าข่าวลือนี้เป็นเรื่องจริง   แต่ภาพความสัมพันธ์ที่ดูแนบแน่นของทั้งคู่  รวมถึงการใช้ชีวิตแบบครอบครัวแสนอบอุ่นที่ทั้งสองทำหน้าที่เป็นพ่อแม่ให้กับลูกๆ (จากการแต่งงานครั้งที่ผ่านมา)ร่วมกัน  ทำให้หลายคนปักใจว่า  ต้นตอของรักร้าวไม่น่าจะพ้นเรื่องการนอกใจของฝ่ายชาย   โดยเฉพาะข่าวลือเรื่อง A-Rod   ส่งข้อความจีบดาราreality  Madison LeCroy   โดบเธอยอมรับว่า DM หากันจริงๆ แต่ไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกาย หรือนัดพบกัน จึงถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จากข้อหานอกใจ   และหลังจากนั้นไม่นานก็มีการยืนยันชัดเจนว่า J Lo และ A-Rod  ตัดสินใจแยกทางและแน่นอนว่า เรื่องวิวาห์ก็เป็นอันยกเลิกไป

แต่เพียงสองสัปดาห์หลังจากประกาศเลิก A-Rod     สื่อดังอย่าง Page Six  และอีกหลายเจ้าก็รายงานพร้อมเพรียงกันว่า    Ben ได้รับการเชื้อเชิญจาก Jen ให้ร่วมใช้เวลาสุดพิเศษด้วยกันในบ้านที่ LA ของเธอ  ซึ่งราวๆสามเดือนก่อน  เขาเพิ่งจะแยกทางกับนางเอกตากลม Ana de Armas     

เรื่องราวของ Bennifer2.0 จึงเริ่มต้นขึ้น!


  Fact ที่หลายคนลืมเลือน:  สื่อนำเสนอภาพลักษณ์ของ  Bennifer ในด้านลบจนถูกโหวตให้เป็นคู่รักยอดแย่แห่งยุค 2000s 


การสร้างสมชื่อเสียงของ J Lo ในฐานะ superstar กว่าสองทศวรรษอาจจะทำให้ผู้คนแทบจะลืมเลือนไปแล้วว่า ในยุค2000s ที่เธอถูกยกให้เป็นราชินีแห่งข่าวฉาวบน tabloid (เพราะในช่วงนั้น social media ยังไม่ใช่ platform ที่มีอิทธิพลดังในปัจจุบัน) แม้ว่าผลงานดนตรีของเธอจะประสบความสำเร็จระดับสร้างปรากฏการณ์ แต่สื่อมักตีข่าวให้เธอดูไม่น่าเชื่อถือ และถูกรุมวิจารณ์ด้วยความหมั่นไส้ หากเป็นยุคนี้ ก็อาจจะเปรียบเทียบได้ว่าคล้ายกับภาพลักษณ์ของ Kim Kardashian ส่วน Ben ก็ไม่แตกต่างกันแม่แต่น้อย


นี่คือข่าวลือที่สื่อเคยใช้ดึงดูดความสนใจจากผู้ชม



J.Lo

  • สื่อมักเล่นข่าวโด่งดังแล้วลืมตัว ทำตัวเป็น diva จอมบงการ  เมื่อเข้าพักในโรงแรมหรือออกทัวร์หรือรายการ TV ก็จะส่ง request จุกจิก หากไม่ถูกใจก็จะเหวี่ยงใส่  ข่าวลือที่ถูกผูกติดกับเธอหลายปีคือการเรียกร้องให้จัดห้องสีขาวล้วน ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ ดอกไม้ก็อย่ามีสีอื่นมาปน
  • เคยกลายเป็นประเด็นฮือฮา เมื่อมีผู้ปล่อยข่าวลือว่า  Jen จ้าง stylist มาทำหน้าที่ดูแลหัวนมของเธอให้ดูพุ่งสะกดสายตาในวีดีโอ Jenny From the Block
  • ยังมีข้อกล่าวหาจากแม่บ้านโรงแรมเคยถูกไล่ออกเพราะได้รับคำร้องเรียนจาก Jen ว่าแม่บ้านเข้ามาขอลายเซ็นซึ่งเป็นการรบกวนความเป็นส่วนตัว  (โรงแรมยืนยันปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง)
  • ลือสนั่นว่าถูกปลดจากตำแหน่ง brand ambassador ของ Louis Vuitton เพราะพฤติกรรม diva และขนสินค้าในการถ่ายแบบกลับบ้าน  ( Marc Jacobs ที่ทำหน้าที่ creative director ในขณะนั้นออกโรงปฏิเสธ ยืนยันว่า Jen มีอธยาศัยดีและแบรนด์ก็มอบสินค้าให้เธอกลับไปเอง เพราะไม่ว่าดีไซน์เนอร์คนไหนก็อยากให้เธอใช้สิรค้าที่พวกเค้าออกแบบ)
  • มักถูกวิจารณ์หาว่าหิวแสง ใช้บั้นท้ายขนาดใหญ่เป็นจุดขาย  สื่อตีข่าวเรื่องก้นของเธอไม่รู้กี่ครั้งกี่หน  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศัลยฺกรรมก้นให้ใหญ่สะดุดตา และการทำประกันก้นไว้เป็นล้าน   และถึงขั้นที่ถูกพิธีกรถามกลางรายการ TV  จนเธอต้องตอบแบบเพลียๆว่าไม่เคยทำ และข่าวลือเรื่องตัวเธอมันมากจนถกหลายชั่วโมงก็ไม่จบ
  • เคยวิพากษ์วิจารณ์นางเอกอย่าง Gwyneth Paltrow (ได้ยินข่าวของเธอกับ Brad มากกว่าเรื่องผลงาน), Winona Ryder (ผลงานดีจนได้ชิง Oscar แต่คนใน Hollywood ไม่ชอบหน้าเธอ)  และ Cameron Diaz  (นางแบบที่โชคดีที่ได้รับโอกาสมากมาย)  จะบอกได้ว่าเป็นยุค 'แสดงความห้าว' ของ Jen ก็ไม่ผิดนัก
  • ข่าวลือเรื่องพฤติกรรมแบบ diva นั้นแรงมากถึงขั้นที่ผู้กำกับหนัง Enough  ยอมรับตรงๆว่า ชื่อเสียงเสียหายของ J.Lo ทำให้เขาเคยนึกหวาดหวั่นใจที่จะได้ร่วมงานกับเธอ
 
นี่เป็นเพียงส่วนน้อยของข่าวลือในด้านเสียหายของ superstar สาวเชื้อสายละติน่า  และเมื่อเธอเริ่มต้นความสัมพันธ์อันร้อนแรงกับพระเอก A List ชื่อดัง   สื่อก็ยิ่งเกาะติดและสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับคู่ Bennifer  
ในขณะที่ J.Lo  ถูกนำเสนอในภาพของนางมารหยิ่งยโส    อีกฝ่ายก็ไม่ได้มีชื่อเสียงสดใสไปกว่ากันนัก

Ben

  • จากประวัติการรับการบำบัดอาการติดเหล้าก็ทำให้ถูกมองว่าเป็นหนุ่มเสเพลที่ขาดความยับยั้งชั่งใจ
  • สื่อมักเปรียบเทียบ  Ben กับเพื่อนซี้อย่าง  Matt Damon ที่เคยเป็นนักศึกษา Harvard และได้รับคำชื่อชมว่ามีคุณสมบัติสมบูรณ์แบบ ถึงปัจจุบันนี้ เมื่อ Ben ตกเป็นข่าวฉาวเมื่อใด สื่อก็จะพยายามเข้าถึง Matt เพื่อขอความเห็นจากเขาเสมอ
  • เคยมีชื่อเสียงเรื่องparty ทำให้ถูกเหมาว่าเป็นผู้ชายเจ้าชู้ที่ไม่สามารถมีความสัมพันธ์จริงจังได้
  • ข่าวลือเรื่องนิสัยชอบเล่นพนันก็ยิ่งทำให้คะแนนภาพลักษณ์น้อยลงไปอีก


หลังจากที่เคยสร้างความฮือฮาจากความสัมพันธ์กับ Puff Diddy (Sean Diddy Comb) ความรักครั้งใหม่กับ Ben Affleckเริ่มต้นอย่างไม่สวยงามนัก เพราะผลงานหนัง Gigli ที่พวกเค้าประชันบทบาทคู่กัน (และตกหลุมรักกันกลางกองถ่าย) ล้มเหลวทางด้านรายได้จนเรียกได้ว่าหายนะ ส่วนคะแนนวิจารณ์ก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดินจนถูกรุมล้อเลียน ยิ่งพวกเค้าควงคู่กันอย่างเปิดเผย ก็กลายมาเป็นเป้าหมายจากสื่อที่จ้องจับผิดหาประเด็นใหม่มาขายเป็น scandal แต่ในขณะเดียวกัน สื่อนี่เองที่ได้กล่าวหาว่า พวกเค้ากำลังเอนจอยกับกระแสความสนใจที่รุมล้อมเข้ามา แม้ว่า J.Lo จะส่งวีดีโอ Jenny From The Block ที่ถ่ายทำขึ้นมาจากมุมมองของคู่รักคนดังที่ถูกสื่อติดตามเพื่อขาย gossip มากเกินไปและเป็นการส่งสารประท้วงที่ถูกลุกล้ำความเป็นส่วนตัว แต่ผลลัพธ์น่าจะออกมาตรงข้าม สื่อยิ่งหิวกระหายที่จะเข้าถึงชีวิตส่วนตัวของคู่นี้ให้มากที่สุด สิ่งที่ตามมาก็คือ สายตาเอือมระอาจากหลายคนในสังคมที่พิพากษาพวกเค้าว่าเป็นคู่รักน่ารำคาญที่ชอบโชว์ บ้างก็วิจารณ์ว่า เบื่อหน่ายที่จะได้ยินข่าวของพวกเค้า พิสูจน์ได้จากการสำรวจความเห็นจาก Date.com, Matchmaker.com และ Amor.com เพื่อจัดลำดับคู่รักยอดแย่แห่งยุค 2000s Bennifer ก็ติดอันดับหนึ่งโดยกวาดคะแนนไปเกินครึ่ง ทิ้งคู่อื่นๆไปอย่างไม่เห็นฝุ่น!



เมื่อ Bennifer ประกาศเลื่อนพิธีวิวาห์ก่อนหน้าวันงานเพียงไม่กี่วัน พายุข่าวลือยิ่งทวีความรุนแรง โดยที่สื่อต่างประโคมข่าวไปในทางเดียวกันว่า สาเหตุที่พวกเค้ายังไม่สามารถยกระดับความสัมพันธ์ไปสู่ความเป็นคู่ชีวิตได้มาจากพฤติกรรมของ Ben ตามหน้าปก tabloid เต็มไปด้วยคำกล่าวหาเรื่อง การนอกใจ, การพนัน, และความหวาดกลัวการผูกมัด ส่วนคำชี้แจงจากคู่นี้ก็คือ ไม่สามารถรับมือกับความกดดันจากการเกาะติดทุกความเคลื่อนไหวจากสื่อ พวกเค้าถึงขั้นที่ต้องว่าจ้างเจ้าสาวตัวปลอมและจองสถานที่อื่นๆไว้ล่อหลอกนักข่าวไว้ถึงสามงาม ก็คิดว่ามันบิดเบี้ยวไปกันใหญ่จนต้องหยุดทุกอย่างไว้ชั่วคราว


แต่ไม่ได้มีกระแสความเห็นใจออกมามากนัก นันเป็นเพราะว่า พวกเค้าคือคู่รักคนดังที่ครองพื้นที่หน้าสื่อจนถูกรุมหมั่นไส้และแดกดันว่าเอียนกับข่าว Bennifer จนเชียร์ให้สมหวังไม่ลง แม้พวกเค้าจะพยายามแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ก็ไม่ประสบผลและประกาศเลิกกันในปีต่อมา
ในทางกลับกัน  เมื่อทั้งสองตัดสินใจแยกทางกันในปี 2004 และ move on ไปมีรักใหม่ดับคนอื่น  ก็ไม่ต้องเผชิญกับแรงกดดันหนักหน่วงแต่อย่างใด    หลายปีผ่านไป เมื่อทั้งสองได้เปิดใจพูดถึงสาเหตุที่จบความสัมพันธ์กัน ก็ให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่า  ในยุคที่ถือว่าเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมtabloid   มันยากเย็นนักที่จะประคองความรักให้ไปรอดท่ามกลางความสนใจที่ล้นหลามขนาดนั้น

เวลาเปลี่ยน ทัศนคติก็เปลี่ยน

 หลายคนอาจจะลืมเลือนกระแสร้อนแรงของคู่ Bennifer เมื่อ18-19 ปีก่อนไปแล้ว  แต่ผู้ที่ยังจดจำบรรยากาศที่เต็มไปด้วยอคติได้ฝังใจคงหนีไม่พ้นเจ้าตัวที่ตกเป็นเป้าหมายของสื่อนั่นเอง    เพียงไม่กี่เดือนก่อนที่จะมีข่าว The Return of Bennifer   ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือเพราะการส่งสัญญาณใดกันแน่   Ben จึงให้สัมภาษณ์ call out สื่อที่เล่นงาน J.Lo ในยุค 2000s ไว้ว่า

"คนพวกนั้นเล่นเธออย่างโคตรใจร้ายใจดำ เหยียดเพศ เหยียดเชื้อชาติ   เขียนข่าวด้วยเนื้อหาน่ารังเกียจและร้ายกาจ ซึ่งถ้าใช้คำพูดแบบเดียวกันในยุคนี้ก็คงถูกไล่ออกสถานเดียว"


"ในปัจจุบัน เธอกลายมาเป็นตัวแม่และได้รับการยกย่องนับถือจากผลงานต่างๆ   พื้นเพของเธอ และความสำเร็จของเธอ  แน่นอนว่าเธอคู่ควรกับคำยกย่องเหล่านั้น"







ประกาศการหมั้นอย่างจนกองเชียร์ฟินไปถ้วนหน้า


J.Lo ไม่ได้ประกาศข่าวดีผ่าน Instagram และ  Twitter ที่มีผู้ติดตามหลักร้อยล้านแบบตรงๆ แต่ชักชวนให้คนเข้าไปชมที่ลิงค์ OnTheJLo.com    ซึ่งปรากฏเป็นภาพที่จ้องมองแหวนเพชรสีเขียวอย่างตื้นตันใจ และพึมพำว่า You're perfect  ซึ่งตรงกับประโยคเริ่มต้นของเนื้อเพลง Dear Ben   เพลงรักหวานหยดที่เธอแต่งให้กับ  Ben เมื่อ 20 ปีที่แล้ว!


แหวนหมั้นวงที่ 2  เพชรสีนำโชคของ J Lo


แม้ภาพแหวนหมั้นแทนรักของทั้งคู่จะยังดูไม่แจ่มแจ้งระดับHD แต่สื่อดังก็ได้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านเพชรเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลของแหวนวงนี้แล้ว Mike Fried ประธานบริษัท Diamond Pro ได้ยืนยันกับ Page Six ว่า เขาตื่นตะลึงกับแหวนเพชรสีเขียวบนนิ้วนางข้างซ้ายของซุปตาร์สาว เพราะเพชรสีเขียวไซส์ใหญ่ขนาดนี้หาได้ยากมาก และเขาได้ตีมูลค่าของมันไว้เกินกว่า$5ล้าน หรืออาจมีความเป็นไปได้ว่าจะมีราคาพุ่งสูงไปถึง$10ล้าน!

มีรายงานว่า เพชรสีเขียวนี้มีขนาด 8.5 กะรัต โดยเป็นงานการออกแบบของดีไซน์เนอร์เครื่องประดับอัญมณี Tamara Rahaminov และ Nicol Goldfinerจาก Rahaminov Diamonds และยังมีความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญหลายคนว่า นี่เป็นเพชรที่หายากซะยิ่งกว่าเพชรสีชมพูบนแหวนหมั้นที่ Ben มอบให้J.Lo เมื่อยี่สิบปีก่อนซะอีก



"ฉันบอกอยู่เสมอว่า สีนำโชคของฉันคือสีเขียว  พวกคุณอาจจะจำชุดสีเขียวตัวเด่นของฉันได้"


"ฉันค้นพบว่าฉันเคยพานพบกับหลากหลายเหตุการณ์ในชีวิตที่มีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้นเมื่อฉันได้แต่งกายด้วยสีเขียว"

 


เพราะอะไรจึงมั่นใจกับการกลับมารักกันใหม่?

 จากระยะแรกที่กลับมารักกันใหม่ ผู้คนต่างลงความเห็นไปต่างๆนานา  มีทั้งตื่นเต้นยินดีและไม่เห็นด้วย   หลายคนแสดงความกังขาจากข่าว Ben ประสบปัญหาติดสุราและทำให้อาการซึมเศร้ากำเริบในปี2020 รวมถึงเรื่องส่วนตัวที่กลายข่าวฉาวอีกหลายครั้ง   ทั้งยังตั้งคำถามว่า การ return ที่ดูหวานชื่นของพวกเค้าจะก้าวไปสู่ความสัมพันธ์ที่จริงจัง หรือเป็นแค่ spark วูบวาบชั่วคราวตามประสาคนเพิ่งโสด   แต่J.Lo ได้เปิดเผยกับ Rolling Stone ว่า  การเรียนรู้จากความทรงจำอันเจ็บปวดในอดีตของพวกเค้าได้กลายเป็นแรงผลักดันให้คบหากันด้วยความสุขุมรอบคอบมากขึ้น

"กระแสโจมตีในตอนนั้นมันโหดร้ายมาก  เป็นสิ่งที่จะต้องเก็บฝังลึกไว้ภายในเพื่อจะเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้"


"ประหลาดดีที่เมื่อBenและฉันได้คบกัน  เราก็รักกันมากจริงๆ ถือเป็นช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิต แต่ในขณะเดียวกันเราก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วง และมันก็กัดกินความสัมพันธ์จนพังทลาย เพราะตอนนั้นเราอายุน้อยเกินไปที่จะทำความเข้าใจว่า สิ่งสำคัญจริงๆในชีวิตเราคืออะไร"


"ฉันเชื่อว่า เราคงไม่กลับมารักกันอีกครั้ง ถ้าเล็งเห็นว่า ความสัมพันธ์จะลงเอยในอีหรอบเก่า เราได้ค้นพบสิ่งที่มีความสำคัญมากยิ่งกว่า  และได้รู้ถึงวิธีที่จะปกป้องมันไว้   เรารู้แนวทางการใช้ชีวิต สิ่งที่เราสามารถเปิดเผยและสิ่งที่ควรเก็บสงวนไว้ส่วนตัว  ซึ่งในตอนนี้เราสามารถรักษาสมดุลเอาไว้ได้ ซึ่งมันเกิดจากประสบการณ์และความรอบรู้ที่สั่งสมขึ้นในเวลาหลายปีที่ผ่านมา"







"ฉันรู้สึกว่าตัวเองแสนจะโชคดีและภาคภูมิใจที่ได้อยู่กับเขา"

 J Lo เผยความรู้สึกกับ People Magazine


"มันเป็นเรื่องราวความรักที่งดงามเมื่อเราได้รับโอกาสเป็นครั้งที่2"

"ในครั้งก่อนที่เราเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์  เราออกจะไม่ประสาอยู่บ้าง และถูกเหยียดหยาม"

"เราจึงคิดตรงกันว่า  ว้าว ตอนนี้เราช่างมีความสุขมากๆและเราไม่ต้องการให้ประวัติศาสตร์กลับมาซ้ำรอย"


"เราอายุมากขึ้น ฉลาดเฉลียวมากขึ้น ผ่านประสบการณ์มามากขึ้น เรากำลังอยู่ในจังหวะชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม เราต่างก็มีลูกๆกันแล้วค่ะ และเราต้องรอบคอบกับสิ่งเหล่านี้ เราหวงแหนสิ่งที่มีเพราะมันคือช่วงเวลาที่งดงามสำหรับทุกๆคน"


J.Lo ยืนยันว่า เธอจะทำสุดความสามารถเพื่อปกป้องความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความรักและความสุขของเธอและ Ben

"เมื่อคุณได้พบกับใครบางคน และหลงรักเค้ามากมายเหลือเกิน  แล้วยังได้รับโอกาสเป็นครั้งที่สอง มันเป็นสิ่งสวยงามเปี่ยมคุณค่าที่เกิดขึ้นได้ยาก เราจะไม่มองข้ามคุณค่าของมันไปค่ะ"



บอกได้เลยว่า แฟนๆของ Bennifer2.0  ต่างก็เอาใจช่วยให้พวกเค้าเข้าพิธีวิวาห์สวยงามในฝันเพื่อเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขสมหวังโดยไม่มีอุปสรรคมาขวางกั้น  คาดว่าพวกเราจะได้ฟังข่าวดีเพิ่มเติมกันอีกเร็วๆนี้!


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE