Ep.15 อุปสรรคการรักษาโรคซึมเศร้ากับบุคคลใกล้ชิด

Kamoltip Pocky 20 ก.พ. 65 39 18

ฮายยยยยยยย

นอดออยู่บ้านทุกวันมาล้าวววววววว

Ep.15 เราจะมาเล่าเรื่องตอนที่เราสวิงอาการแย่ลง
และส่งผลกระทบต่อ ป๋ากับม๊า จนต้องมานั่งคุยกัน
ในเรื่องของแนวทางรักษา

คำเตือน
เรื่องราวใน Ep นี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน
ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ต้องเปิดใจกว้างๆในการอ่าน
และทำความเข้าใจ เพราะเราได้มีการคุยและปรับความเข้าใจกับพ่อแม่ แล้ว

มาเริ่มกันเลย……

ตลอดเวลาที่เรารักษาโรคซึมเศร้า เรามีอุปสรรคเรื่องหนึ่ง คือ พ่อ แม่ วัยเกษียณ ที่รักและหวังดีกับเรา แต่มีทัศนคติเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า ที่ผิดๆ จากสื่อต่างที่ได้รับมาเป็นเวลานาน จนไม่เข้าใจโรคซึมเศร้าที่เราเป็นอยู่ พ่อ แม่ ก็จะปฎิบัติกับเราตาม ในแบบที่ท่านเข้าใจ โดยที่ไม่รู้ว่าส่งผลต่อการรักษา และสภาวะการควบคุมอารมณ์ของเรา

1. ทั้งสองท่านมักจะพาเราไปโน้นไปนี้ ในที่คนเยอะๆ เพื่อจะให้เราไม่อุดอู้อยู่แต่ในบ้าน

>> ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เรามีอาการแพนิก ตื่นคน ใจเต้นแรง กำมือเกร็งสั่น เวลาไปที่คนเยอะๆ และเราต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่ต้องทำตัวปกติ เพื่อให้ท่านทั้งสองสบายใจ
>>ในแนวทางการรักษา คือ ต้องค่อยๆปรับเปลี่ยนค่อยๆเป็นค่อยไป เริ่มจากสถานที่ ที่คนน้อยๆก่อน ค่อยๆปรับ ซึ่งในตอนนี้ เราเริ่มเดินห้างในวันธรรมดาได้ ที่ไม่ใช่วันหยุด แต่ตลาดนัดใหญ่ยังไม่สามารถเดินได้

2. ทั้งสองท่านมักจะพูดกับเราว่า อย่าคิดว่าตัวเองป่วย เพราะเราจะไม่หายป่วย
>> ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นเรื่องยากมากๆ การที่เราต้องทำตัวสดใส ทั้งที่เราไม่ได้ อยากสดใจ ต้องฝืนยิ้มทั้งที่ในใจไม่อยากยิ้ม ต้องทำตัวให้ปกติที่สุด เพื่อให้ทั้งสองท่านสบายใจ
>> ในแนวทางการรักษา เรื่องนี้ละเอียดอ่อน ต้องให้เวลากับเรา ในการควบคุมอารมณ์ การที่เราต้องฝืนใจทำตัวปกติจะทำให้เราเครียดมาก และแย่ลงมากๆ จนเราต้องระเบิด ออกมา

3. ทั้งสองท่านชอบที่จะให้กำลังเราโดยเอาเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่นๆที่เค้าลำบากกว่าเรา เช่น คนโน้นเค้าลำบากกว่าเราเค้ายังอยู่ได้เลย เราเป็นเราตอนนี้ โชคดีที่สุดแล้ว
>> ซึ่งในความเป็นจริงคือ สำหรับผู้ป่วยแบบเรา การถูกเปรียบเทียบมัน เป็นเรื่องน่าผิดหวังในตัวเอง และในเรื่องของความรู้สึกมันเอามาเปรียบเทียบไม่ได้ แต่เราก็ยังต้องทำตัวปกติ เพื่อให้ทั้งสองท่านสบายใจ
>> ในแนวทางรักษามันเป็นเรื่อง ที่จะทำให้คนไข้แบบเราด้อยค่าตัวเอง เพราะไม่สามารถเป็นอย่างที่คนอื่นเป็นได้
และจมอยู่กับความผิดหวังในตัวเอง

อ่านมาถึงตรงนี้ บางคนอาจจะคิดว่า เราทำไม่ถึงไม่พูด ไม่บอกในสิ่ง จะที่ทำให้ตัวเองแย่ลงกับ พ่อ แม่ ตั้งแต่แรก
ค่ะ ที่เราต้องอดทน ต้องฝืนใจตัวเอง เพราะโดยพื้นฐานนิสัยเราคือไม่ชอบเอาความทุกข์ของตัวเอง บอกให้พ่อแม่รู้ เนื่องจากเราไม่อยากให้เค้ามาทุกข์ใจในเรื่องของเราหรือ สิ่งที่เราเป็น และความเชื่อของท่านทั้งสอง ที่มีเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า มันคือผิดไปหมด ซึ่งเราก็พยายามหา คลิปคุณหมอ หรือ ภาพที่มีข้อความที่เข้าใจง่ายๆเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า เอาให้พ่อแม่ ดู แต่ก็ ไม่ได้ดูจริงจังอะไร

แต่ระเบิดเวลา มันก็ทำงานโดยที่เราคิดว่า พ่อกับแม่ ต้องเข้าไปหาหมอจิตเวชกับเราเพื่อให้ ท่านทั้งสองทราบถึงสภาวะอารมณ์ที่ เราไม่สามารถควบคุมได้แล้ว เพื่อให้ท่านทั้งสอง ทำความเข้าใจโรคของเรา โดยที่คุณหมอจะเป็นคนพูดให้ทั้งสองท่านฟังจะได้เข้าใจไปพร้อมๆกับที่เรา ได้พูดระบายสิ่งที่อยู่ในใจให้หมอฟัง

พอกลับมาบ้าน ท่านทั้งสองถามเราว่า หาหมอคนนี้ยังโอเคอยู่ไหม หรืออยากกลับไปหาหมอคนเดิม เพราะหมอคนใหม่ที่รักษากับโรงพยาบาลใกล้บ้าน เค้าแจ้งเราว่า เค้าไม่มียาที่จะปรับให้เราแล้ว มีแต่จะประยาให้เรากินเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมทุกครั้งที่เราบอกว่า ไม่ดีขึ้น ยากล่อมประสาท และยาต้านซึมเศร้า ที่จากเดิมกินวันละเม็ด จนโอเวอร์โดสไปถึงวันละ 8 เม็ด ท้อไปหมด เวลาถูกแอดยาเพิ่ม เราเลยบอก ไม่ไหวแล้ว ก็เลยคุยกันว่า โอเคงั้นเรากลับไปหาหมอคนเดิมที่คลีนิค กายใจคลีนิก

และในตอนนี้ พ่อกับแม่ เข้าใจโรคซึมเศร้า มากขึ้นแล้ว และอ่านรูปภาพที่เราส่งให้อย่างจริงจัง ทุกอย่างตอนนี้มันดีมากขึ้นจริงๆ เราใกล้จะหายแล้ว ❤️❤️

สุดท้ายเราอยากบอกว่า ผู้ป่วยซึมเศร้าอย่างพวกเราแค่ต้องการคนเข้าใจ ฉะนั้นบุคคลใกล้ชิดมีความสัมพันธ์ต่อการรักษามากๆ ไม่ว่าจะคนในครอบครัวหรือแฟน หรือเพื่อน ทุกคนสำคัญหมดค่ะ อย่าปล่อยให้ความไม่เข้าใจ
มาเป็นอุปสรรคในการรักษานะคะ มันจะยากมากที่จะหาย

จบแล้วค่ะ Ep.15

Ep.16 จะมาเล่า ว่ากลับมาหาหมอคนเดิมแล้วหมอคุยอะไรกับเราบ้าง กับการได้รับการจ่ายยาโอเวอร์โดส

ม๊าาาาาาา แต่งหน้ากันนนนนนนนนนนนน

ลุคนี้คือ แต่งได้ทุกวันนนนน เบาๆสบายๆ
เครื่องสำอางราคาเบาๆ และราคากลางๆ