ในปัจจุบันนี้มีคลินิกความงาม-ผิวหนังใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะมากกก! เมื่อก่อนอาจเน้นที่รักษาสิว มีทรีตเมนต์หน้า กับเลเซอร์กรุบกริบ แต่ตอนนี้คลินิกความงามเค้ามีคอร์สต่างๆ ให้เราเลือเยอะเวอร์ แต่ละคลินิกก็มีราคาให้เลือกแตกต่างกัน ตามระดับเกรดของสินค้า

เพื่อนๆ สายจิ้มน่าจะคุ้นกันดีกัน เช่น โบท็อกซ์อเมริกา โบท็อกซ์เยอรมัน โบท็อกซืเกาหลี ซึ่งแบรนด์ที่มาจากต่างยี่ห้อ ต่างประเทศผู้ผลิต ก็มีราคาที่ต่างกันตามคุณภาพและการขนส่ง สามารถเลือกได้ตามความต้องการของเรา

นอกจากจะเลือกคลินิกที่เราไว้วางใจแล้ว เรายังต้องเช็คต่อเพื่อเพิ่มความมั่นใจ เพราะของที่จะเข้ามาในผิวหนังหรือร่างกายเรา เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยมากที่สุด! ถ้าเห็นแก่ของราคาถูก (เกินไป) อาจจะต้องมาตามรักษาทีหลัง หมดเงินค่ารักษามากกว่าค่าเสริมความงามอีก! ไม่คุ้มแน่นอน

มือใหม่หัดเข้าคลินิก มาลองเช็คลิสต์ความปลอดภัยของผิวเรากัน!

1. คลินิก

เลือกคลินิกตามสนใจ อาจจะลิสต์มาก่อนก็ได้ว่าราคาแต่ละคลินิกเป็นยังไงบ้าง คลินิกไหนที่เป็นของแพทย์เฉพาะทาง ค่ารักษาโดยอาจารย์หมอราคาก็อาจจะแรงหน่อย ถือเป็นค่าฝีมือและความชำนาญ ผลที่ได้คุ้มค่าแน่นอน ลองให้หมอ, พยาบาล, คนทั่วไป กดสิวให้ แล้วจะรู้ซึ้งถึงความต่างเลยล่ะ ขอบอก!

2.  หมอ

ดูรายชื่อหมอที่ทำการรักษาที่คลินิกว่ามีชื่ออะไรบ้าง ด้วยการสอบถามทางคลินิกโดยตรง เชื่อว่าเดี๋ยวนี้แทบทุกคลินิกมีโซเชียลมีเดียของตัวเองแล้ว ก็ทักไปถามเลยค่ะ หรือจะโทรไปก็ได้ จากนั้นก็เอาชื่อไปเสิร์ชในเว็บแพทยสภาก่อน ว่ารายชื่อนี้มีวุฒิจริงมั้ย ถ้ามีก็ผ่านไปอีกหนึ่ง

แต่หมอที่ไม่ขึ้นชื่อก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นหมอปลอมเสมอไปน้าา ถ้าแน่ใจว่าพิมพ์ชื่อถูกต้องแล้วยังไม่ขึ้น เป็นไปได้ว่าคุณหมออาจเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลใหม่ ก็เลยเสิร์ชไม่เจอนั่นเอง

ถึงจะไม่เจอในเว็บแพทยสภา ก็เอาชื่อคุณหมอไปเสิร์ชกูเกิ้ลเลย ว่าเป็นหมอประจำอยู่ที่โรงพยาบาลไหนด้วยไหม ถ้ามีชื่อขึ้นในโรงพยาบาลก็ถือว่าผ่าน หรือเพื่อความแน่ใจ โทรไปสอบถามโรงพยาบาลอีกทีก็ได้ค่ะ

แต่เหมือนว่าตอนนี้ไม่ได้มีข้อห้าม ว่าหมอที่ทำการรักษาผิวหนัง ต้องเป็นแพทย์ที่จบเฉพาะทางด้านผิวหนังจริงๆ เท่านั้น หมอทั่วไปหรือเวชปฏิบัติ ที่จบหมอจริงแต่ไม่ได้ต่อเฉพาะทาง ก็สามารถรักษาโรคผิวหนังได้ แต่คลินิกอย่าแอบอ้างวุฒิเกินจริงก็พอ

ถ้าคลินิกไหนเคลมว่ารักษาโดยแพทย์ผิวหนังทุกคน ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ก็ควรเลี่ยงดีกว่าค่ะ เพราะคลินิกไม่ได้มีความจริงใจต่อลูกค้าสักเท่าไหร่

ส่วนใครที่อยากพบแพทย์ผิวหนังจริงๆ การเช็ครายชื่ออย่างเป็นทางการตอนนี้ยังไม่มี ก็ลองถามคลินิกดูค่ะว่าหมอจบเฉพาะทางจากที่ไหน ปีไหน ขอดูใบเซอร์ไปด้วยเลย แล้วลองเสิร์ชต่อค่ะ ว่าในโปรแกรมนั้นมีชื่อหมอมั้ย

ไม่ต้องเขอะเขิน หรือเกรงใจเกินไป หมอคือคนที่เราจะฝากผิวหนัง ผิวหน้าของเรากับเขา เพราะฉะนั้นต้องเป็นหมอจริงเท่านั้น! หมอปลอมหรือหมอเถื่อน ก็พักไปก่อนนน อย่าหาทำ ผิวพังขึ้นมาไม่คุ้มแน่จ้าา

3. หัตถการ

ขนาดโบท็อกซ์ยังมีหลายเกรด หลายประเทศ เครื่องเลเซอร์ก็เช่นกัน! เดี๋ยวคลินิกหลายที่ มีโปรโมชั่นราคาทำเลเซอร์ที่ถูกมาก ก็ต้องดูยี่ห้อด้วยว่าคือตัวไหน ผ่าน USFDA หรือเปล่า ใช้ของประเทศไหน ถึงจะใช้งานยิงเลเซอร์ได้เหมือนกัน แต่คุณภาพต่าง ประสิทธิภาพการใช้ก็ต่างกันนะ

ถ้าเจาะลึกหน่อยก็เทียบสเป็กของแต่ละแบรนด์ที่คลินิกเลือกใช้ เช่น Peak Power, Pulse Duation Wave Lengths จะสวยและปลอดภัยในสมัยนี้ต้องรอบคอบให้สุด (เหนื่อยได้แต่อย่าท้อค่า)

สำหรับสายฉีดฟิลเลอร์ เราสามารถสอบถามตัวแทนจำหน่ายโดยตรงได้ด้วยนะ ว่าคลินิกที่เราสนใจได้สั่งฟิลเลอร์มาจากที่นี่หรือเปล่า ถ้าไม่ได้สั่งก็โบกมือลาได้เลย เพราะนำเข้าได้เจ้าเดียวเท่านั้น🥶

4. โรงพยาบาล

อันนี้เหมาะกับคนไม่รีบ ไม่ได้ต้องการสวยด่วน ก็เลือกโรงพยาบาลไปเลยค่ะ ไม่ต้องเหนื่อยในการค้นหาข้อมูลจุกจิก เพียงแค่ไปรักษาไปโรงพยาบาลโดยตรงเป็นอันจบ! ได้พบหมอผิวหนังของแท้แน่นอน

โรงพยาบาลรัฐหลายที่เค้าก็มีหัตถการให้ทำแล้วนะ ไม่ว่าจะเลเซอร์รอยแดง รอยดำ หรือหลุมสิว อันนี้ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแน่นอน ข้อเสียคืออาจจะต้องจองคิวนานหน่อย ยิ่งช่วงโควิดแบบนี้ด้วยแล้ว อาจจะใช้เวลาหลายเดือนเลยทีเดียว

เพื่อนๆ มีวิธีการเช็คยังไงกันอีก มาบอกต่อกันได้นะ ยุคนี้เราจะต้องสวยและฉลาดเลือกไปด้วยกัน :)