ของขวัญวันเกิดแบบเหวอๆ (ต่อ)
Powerpuffgirls 36 17 เค้าแจกฟรี/ มีคนให้มาแหละ :)About This Look!
ของขวัญวันเกิดแบบเหวอๆ (ต่อ) สวัสดีค่ะสาวๆที่น่ารักทุกท่าน มาตามสัญญาค่ะ หลังจากที่หายไปสักพักเนื่องจากเรามัวแต่ยุ่งกับการตรวจสุขภาพประจำปี(ฟรี)และก็ จองวัคซีน(ฟรี) ก็แหม...ของฟรีแบบนี้ใครจะไปพลาดล่ะ จริงมั๊ยคะสาวๆ มาเข้าเรื่องที่เราค้างกันไว้เมื่อคราวที่แล้วกันต่อค่ะ (ก็ยังคงหนีไม่พ้นของฟรี!!! อิอิอิ) คราวที่แล้วที่เราได้ของขวัญมาจากเพื่อนแล้วก็มีไฮไลท์ไอเทม เป็นตัวสบู่วาซาบิ จากแบรนด์ Wasabi-O ที่เรากะว่าจะลองเทสดู แต่ก่อนจะไปบอกเล่าเรื่องสบู่ที่เทส เราขอเล่านอกเรื่องนิดนึงค่ะ คือพอดีอาทิตย์ก่อนไปเดิน ซุปเปอร์มาเก็ตแถวบ้านมา แอบตกใจเพราะไปเห็นวาซาบิที่เราๆใช้กินกับพวกอาหารญี่ปุ่น มันมีแบรนด์ Wasabi-O ด้วยซึ่งเป็นวาซาตัวท็อปๆที่คนนิยมกินกันเลย เราเลยไปหาข้อมูลมาโอ้วววว....สรุปว่าเค้าเป็นแบรนด์เดียวกันค่า มาเข้าเรื่องของเรากันต่อนะคะสาวๆ หลังจากแกะกล่องดูและเราก็สัมผัสตัวสบู่และก็ดมกลิ่นลองดูว่าจะพอได้มั๊ย สรุปคือกลิ่นมันละมุนมากจ้า ด้วยความชอบส่วนตัวเราเลือกเป็นสูตรมะพร้าวเอามาลองใช้ก่อน แต่เลือกที่จะลองใช้กับผิวกายหรือผิวตัวก่อนนะคะ เพื่อความชัวร์ ถึงแม้เราจะชอบของฟรี แต่เรื่องผิวหน้าเราคิดเยอะค่ะ เพราะหน้าเราเป็นสิวผิวแพ้ง่ายไม่อยากให้มันเห่อหนักกว่าเดิม หลังจากที่เราเทสกับผิวกายได้ 3 วัน ปรากฏว่าผิวเราโดยเฉพาะตรงหน้าอก ท้ายทอย แผ่นหลัง ซึ่งก็คือจุดที่เรามีสิวขึ้นเยอะเช่นกัน ปรากฏว่าตัวที่เป็นสิวหัวหนองๆมันเริ่มแห้ง คือมันแห้งเร็วกว่าปกติ (ไม่รู้เราคิดไปเองรึเปล่านะ) สกิดนิดเดียวคือหัวสิวหลุดออกมาเลย และที่แน่ๆผิวไม่แห้ง ไม่คันด้วยนะ พอเราเห็นแบบนั้นเลยตัดใจ แบบเอาหละเป็นไงเป็นกัน ตัดใจเอามาใช้ล้างหน้า ซึ่งต้องบอกทุกคนก่อนเลยว่าหน้าเราเป็นสิวฮอร์โมน แบบเรื้อรัง มาตั้งแต่สมัยมัธยม จนตอนนี้อายุปาเข้าไป 30+(โสดออนเซลล์) แล้วยังไม่หายเป็นสิว หาหมอเข้าคลินิกมาตลอดชีวิต ทั้งสถาบันของรัฐปละเอกชนรวมๆแล้วไม่ต่ำกว่าสิบที่ ที่ไหนว่าดีเราไปหมด ไปโรงเรียนโดนเพื่อนล้อ ทั้งโมโห ทั้งอาย (พูดแล้วน้ำตาจะเล็ด) คือรักษาทีก็หายที แล้วกลับมาเป็นอีกวนๆซ้ำๆ เสียเงินรักษาหน้าตลอดชีวิตคือคิดคร่าวๆ น่าจะหลายแสนบาทนะเราว่า บางทีซื้อคอร์สเป็นหมื่นๆต่อครั้ง เลเซอร์เอย ยาเอย จนเราได้มีโอกาสมาสนิทกับเพื่อนที่เป็นเภสัชกร และก็เพื่อนที่เป็นหมอผิวหนัง เค้าจึงแชร์เคล็ดลับการดูแลผิวให้ คือไม่จำเป็นต้องเข้าคลินิกให้เสียเวลาเสียเงิน คือสามารถหาพวกเวชสำอางค์ ต่างๆจากพวกร้านยาได้เลย และก็เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับผิวตัวเองพอ กลับเข้าเรื่องใช้สบู่ Wasabi-O ล้างหน้าต่อค่ะ (นอกเรื่องตลอด... อิอิ) ใช้วันแรกไม่แสบ ไม่ตึงไม่คัน ไม่แพ้นะคะ เราก็เลยลองใช้มาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ ก็น่าจะราวๆสัก 2 อาทิตย์กว่าๆได้ค่ะ ปรากฏว่าที่เห็นได้ชัดคือสิวหัวหนองมันแห้ง และโดยเฉพาะผดลดลงแบบเห็นได้ชัด สิวเสี้ยนลดลง จะเหลือก็แค่นิดหน่อยแทบมองไม่เห็น เรามีแนบรูปก่อนและหลังมาด้วยค่ะ ซ้ายเป็นรูปตอนสิวเห่อๆ คือถ่ายรูปจำเป็นต้องใช้แอพเพราะสิวเห่อมากจนน่ากลัว ส่วนรูปขวาคือเราถ่ายวันนี้จากกล้องหน้าซึ่งเป็นกล้องสด (ภาพอาจไม่ชัดบ้าง) และถ่ายหลังจากที่เราล้างหน้าเสร็จใหม่ๆ ไม่มีเมคอัพใดๆ (พลีชีพสุดๆ) จะเห็นได้ว่าภาพหลังจากการใช้สบู่วาซาบิแล้วสิบลดลงเห็นได้ชัดมากแต่ ยังมีรอยสิวและจุดด่างดำจากสิวอยู่ อันนี้คงต้องสรรหาผลิตภัณฑ์ลดจุดด่างดำและรอยสิวตัวอื่นๆจากร้านยามาใช้ เราว่าไม่นานน่าจะดีขึ้นกว่านี้อีก วันนี้เราขอจบรีวิวเท่านี้ก่อนนะคะสาวๆ จะต้องเตรียมตัวไปฉัดวัคซีนพรุ่งนี้เช้า ขอให้สาวๆทุกคนโชคดีค่ะ สวยวันสวยคืนนะคะ ปล.มารีวิว สบู่ Wasabi-O เป็นการรีวิวจากการใช้จริงนะคะแบรนด์ไม่ได้จ้างและเราก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆค่ะ หากสาวๆท่านใดสนใจลองหาข้อมูลเพิ่มเติมใน Google ได้เลยนะคะ บ๊ายบาาาย อ้างอิง https://www.jeban.com/topic/336966