สืบเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมาวอแวอยากได้น้ำหอมหนักมาก แต่ไม่มีกลิ่นหรือแบรนด์ที่อยากได้ในใจเลย โจทย์ในใจมีแค่อยากได้น้ำหอมกลิ่นกุหลาบเอาไว้ฉีดยั่วๆ เวลาไปปาร์ตี้แค่นั้น ก็เดินวนน้ำหอมอยู่หลายเคาน์เตอร์และหลายวันมากๆ ทำการบ้านจากในเวปก็แล้วก็ยังไม่เจอที่ถูกใจ จนวันนั้นไปเดินเซนทรัลลาดพร้าว ด้วยความไม่ได้ไปนานมากงงเป็นไก่ตาแตกเลยค่ะ เค้ารีนูเวทพื้นที่ใหม่เคาน์เตอร์สลับที่เปลี่ยนกันไปหมดเลย ก็เลยเดินเล่นไปเรื่อยๆ และชั้นไปสะดุดตากับเคาน์เตอร์ Burberry!!! น้ำหอมขวดหรูหราวางเรียงรายอยู่ มันคือ Burberry Signature Eau de perfume

ซึ่งบอกตรงๆ ว่าไม่เคยเห็นไลน์นี้ของเค้าเลย เลยไปลองดมก็คือดมแล้วโดนตกเลยแม่ วันนั้นประมาณเกือบสองชั่วโมงที่สิงอยู่ในเคาน์เตอร์พี่ BA เค้าก็ให้ข้อมูลดีมากๆ ว่าแบบน้ำหอมไลน์นี้เป็นน้ำหอมไลน์น้ำหอมที่แพงกว่าไลน์ปกติให้ความลักชูมากกว่าที่เคย เค้าก็ขายอีกว่าดีเทลขวดเอยโบว์เอยเป็นยังไงแต่ละขวดไม่เหมือนกันนะคะ โบว์เนี่ยเป็นหนังลูกวัวจากอิตาลีไอชั้นก็ตาลุกวาวเลยจ้า อย่างที่บอกชั้นอยากได้กลิ่นกุหลาบอยู่เลยก็เลยพุ่งไปที่สองกลิ่น คือ Tudor rose กับ Garden rose จะบอกว่าใจวันนั้นคือชอบทั้งสองกลิ่นได้ฟีลคนละแบบเลย เพราะ Tubor rose ให้ฟีลควีนมากกกก แบบฉันคือเจ้าแม่ ไม่สิแบบเป็นฟีลสวยแพงเลอค่าราชนิกูล 

พี่ BA ก็ตกชั้นอีกว่าคุณน้องมาถูกทางแล้วค่ะเพราะกลิ่นนี้คือกุหลาบของควีนอลิเซเบธโอเคแม่ ชั้นเอาอันนี้ก็ได้ชั้นจะเป็นควีน 555555 ส่วนอีกกลิ่น Garden rose ชั้นก็ชอบมากมากเป็นฟีลคุณหนูกลิ่นมีความไลท์กว่า Tudor rose ฉีดได้ทุกวัน ฟีลใสๆ ลูกคุณฉีดไปเรียนสวยๆ ใจตอนนั้นอยากซื้อทั้งคู่แต่แบบกัดฟันมาก เลยตัดสินใจเอา Tubor rose มาก่อนเพราะเป็นโจทย์ที่อยากได้ตั้งแต่แรก ก่อนกลับพี่ Ba บอกชั้นว่าจริงๆ น้ำหอมไลน์นี้เบลนด์กันได้นะคะคุณน้อง ชั้นก็แบบหะ ไหนๆ คุณพี่ลองให้หนูหน่อย เค้าก็เลยหยิบกลิ่น Clary Sage มาฉีดทับกลิ่น Tudor rose ที่แขนชั้นที่มีอยู่แล้วพี่เค้าเปรยว่ามันเป็นกลิ่นหญ้าชั้นก็แบบหะหญ้าใครจะไปคิดว่าหญ้าจะหอมอะแก 555555 

ชั้นก็เลยให้เค้าสเปรย์แขนอีกข้างแบบ Clary Sage เพียวๆ แล้วก็กลับบ้าน แต่พอกลับบ้านไปฉันดมแขนตัวเองไม่หยุดเลยแม่ แบบเห่ยมันดีมันมีความนวลๆ ละมุนๆ ไม่หวานมากแต่แบบสะอาด ละชั้นก็ไปทำนู่นทำนี่กำลังจะอาบน้ำตอนสี่ทุ่มดมแขน กลิ่นยังอยู่โอเอมจีกลิ่นทนมากตั้งแต่บ่ายคือกลิ่นยังชัดอยู่เลยเช้ามาชั้นเลยไปพารากอนเว่ย ไปยืนเล่นอีกรอบทีนี้คือลองฉีดแบบ Tudor rose ก่อน แล้ว Clary Sage อีกข้างฉีด Clary Sage ก่อนแบ้วฉีด Tudor rose ทับ เห่ยแกเชื่อไหมมันกลิ่นไม่เหมือนกัน คือน้ำหอมอันนี้มันมีหลายมิติมากมากเลยตัดสินใจสอยมาอีก 1 แบบกัดฟัน 5555555 คือเอา clary Sage เพราะว่าเหมือนได้น้ำหอม 4 กลิ่น ตอนจ่ายตังก็ยังวอแวกับ garden roses อยู่นะ แต่มันเบลนด์กับ tudor rose ไม่ฟินเท่า clary sage อะแก ตอนนั้นก็เน้นความคุ้มค่าเนอะ เลยแปะขวดนั้นไว้ก่อนเอาเป็นว่าขอสรุปว่าทำไมถึงต้องจัดดีกว่า

สรุปสั้นๆ 

1. เป็นน้ำหอมที่อยู่ในไลน์ลักชูรี่ของแบรนด์

2. กลิ่นเค้ามีหลายมิติมากๆ หลังจากที่ได้ลองใช้มาสักพัก ฉีดทุกวัน! ย้ำว่าทุกวันจริงๆ กลิ่นเค้ามีความซับซ้อนสนุกมากๆ

3. นอกจากกลิ่นเค้าเบลนด์กันเองแล้วปังมากๆ เรายังแอบเอาไปแบรนด์กับแบรนด์อื่นก็ปังเหมือนกัน แต่กลิ่นแบรนด์อื่นจะค่อนข้างจางเร็วกว่านิดนึง

4. กลิ่นติดทนมากแม่สเปรย์ไม่เกินสองสเปรย์คือทน 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืนนางก็ทำมาแล้ว(อันนี้เราคิดว่าขึ้นอยู่กับคนด้วยนะ ส่งนตัวเราถ้าวันไหนไม่ได้เบลนด์น้ำหอมจะสเปรย์แค่ครั้งเดียว)

5. หัวสเปรย์เค้าฟุ้งมาก กลิ่นกระจายดี

ในส่วนของกลิ่น Tudor Rose

1. เราคิดว่าเหมาะกับการไปปาร์ตี้ที่สุด

2.กลิ่นแรกที่ฉีดได้กลิ่นหนังค่อนข้างชัดพอฉีดไปสักพักจะได้กลิ่นพีชอ่อนๆตัดกับกลิ่นกุหลาบให้ฟีลลึกลับน่าค้นหาฉีดกลางคืนเดี่ยวๆคือปังมาก

ส่วนกลิ่น Clary Sage

1.ให้ความรู้สึกเบาแต่มีมิติมากๆกลิ่นแรกจะเป็นกลิ่นคล้ายสมุนไพรนิดนึงแต่กลิ่นไปสักพักมันฟุ้งแบบเย็นๆหอมมากกก มันมีกลิ่นสะระแหน่สด ผสมกับหญ้าแฝกสมุนไพรและกลิ่นหญ้าแห้ง แล้วคือหอมจริงๆกลิ่นนี้คือเอาไปเบลนหรือโดดๆก็รอด

2. ใช้ได้ทุกวันเลย

สามารถลองไปลองสเปรย์น้ำหอมได้ที่เคาเตอร์ Burberry Siam Paragon และ Central Ladprao น้าเอยได้มาในราคาขวดละ 9,000 บาท