วันนี้เลือกวิธีดูแลสิวที่หลังมาฝากกันนะครับ เพราะเป็นปัญหาที่ผมเองก้อมักจะเจอเองเป็นประจำ  ผมเลยลองศึกษา และพัฒนาสินค้าสำหรับการดูแลสิวที่หลังออกมา เพื่อให้อ่อนโยนจากธรรมชาติ ใช้ได้ทุกวัน เพื่อสามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ใช้อยู่ได้แต่ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า

สิวที่หลัง bacne คืออะไร?

สิวที่หลัง หรือที่ภาษาอังกฤษอาจจะเรียกว่า back acne หรือ bacne คือสิวที่เกิดขึ้นบริเวณหลังก้อไม่ต่างกับบริเวณใบหน้าเพราะเกิดจากการอุดตันในรูขุมขน แต่วิธีการดูแลสิวบริเวณหลังอาจจะแตกต่างกับบริเวณใบหน้า ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

• พื้นที่ในการดูแลบริเวณหลังที่มากกว่า
• บริเวณหลังเป็นพื้นที่ภายใต้ร่มผ้าที่มีโอกาสเกิดการระคายเคืองได้มากกว่า
• เข้าถึงการดูแลผิวบริเวณหลังด้วยตัวเองยากกว่า และเป็นข้อดีของการมีคู่ หึหึ

สิวที่เกิดบริเวณหลังมีหลายประเภทขึ้นอยู่ระดับความรุนแรง 

6 ประเภทของสิวที่หลัง

เรียงจากความรุนแรงที่น้อยที่สุดไปรุนแรงมากที่สุด 

สิวอุดตัน comedones

1. สิวหัวขาว (white head, closed comedones)

เกิดจากหัวสิวที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนภายใต้ผิวหนังเจริญเป็นหัวสิวสีขาว

2. สิวหัวดำ (black head, closed comedones)

สิวที่เกิดจากการอุดตันรูขุมขนที่เปิดอยู่บริเวณผิวหนัง หัวสิวสีดำไม่ได้เกิดจากสิ่งสกปรกไปอุดตันรูขุมขนแต่เกิดจากปฏิกิริยาของไขมันและอากาศ

สิวอักเสบ inflammatory

3.   สิวอักเสบแบบตุ่มนูนแดง (Papules)
      สิวที่มีสีชมพูขนาดเล็ก เกิดจากการอักเสบของสิวอุดตัน เป็นสิวชนิดที่ไวต่อการสัมผัสอาจติดเชื้อรุนแรงขึ้นหรือเป็นแผลเป็นได้หากไปดึงหรือบีบ
4.   สิวอักเสบแบบหัวหนอง (Pastules)
      อาจมีหัวสิวเป็นหนองสีขาวหรือสีเหลืองที่เกิดจากการรวมตัวของสิวหัวขาวและอาการแดงบริเวณรอบๆหัวสิว ไม่ควรดึงหรือบีบเพราะอาจทำให้เป็นจุดด่างดำหรือแผลเป็นได้

5.   สิวอักเสบแบบก้อนลึก (Nodules)

      สิวที่เติบโตอยู่ภายใต้ผิวหนังมีขนาดใหญ่ แข็ง อักเสบ และอาจมีอาการเจ็บหรือปวด
6.   สิวหัวช้าง หรือ ซีสต์ (Cysts)
      สิวที่มีขนาดใหญ่ เป็นหนอง มีอาการเจ็บหรือปวดร่วมด้วย อาจก่อให้เกิดแผลเป็น สิวหัวช้างมักเป็นสิวระดับรุนแรง

สาเหตุของการเกิดสิว

วิธีการดูแลสิวบริเวณที่หลังอย่างถูกต้องเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ไม่มีวิธีการไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน มีแต่เราต้องเข้าใจสาเหตุของการเกิดเป็นสิ่งสำคัญ เหตุผลที่ทำให้เกิดสิวโดยสรุป
เกิดจากปัจจัยภายในร่างกาย (intrinsic factor)

• genetic: ถ่ายทอดพันธุกรรมจากคนในครอบครัว หากคนในครอบครัวเป็นก้อมีโอกาสเป็น
• hormones: การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเป็นอีกหนึ่งสเหตุที่ทำให้เกิดสิว เช่นตอนเป็นวันรุ่นเรามีโอกาสเป็๋นสิวได้มากกว่าวัยอื่น หรือถ้าเป็นผู้หญิงช่วงหลังคลอด หรือ หลังการมีประจำเดือนก้อมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเช่นเดียวกัน
• Sweat: ต่อมเหงื่อบริเวณหลังเป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย และหากดูแลต่อมเหงื่อภายใต้เสื้อผ้าที่สวมใส่ไม่ดี อาจจะทำให้เกิดการอักเสบได้

เกิดจากปัจจัยภายนอกร่างกาย (extrinsic factor)

• Food: อาหารหรือเครื่องดื่มประเภทที่มีระดับน้ำตาลสูง (high glycemic index) ทำให้เกิดการอักเสบภายในเซลล์ผิวสูงขึ้น จึงกระตุ้นให้เกิดการขับน้ำมันออกมามากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นเหตุของการเกิดสิว
• Medication: การใช้ยาบางประเภทอาจจะกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้น เช่นยาต้านโรคซึมเศร้าเป็นต้น
• Clothing: ประเภท หรือลักษณะของผ้าที่สวมใส่ หรือ สัมผัสก้อทำให้เกิดสิวได้เช่นกันหากเสื้อผ้าฟิต หรือ ระบายอากาศได้ไม่ดี

สิวแบบไหนที่เราสามารถดูแลได้เองที่บ้าน อ้างอิงจาก สมาคมผิวหนังแห่งประเทศอมริกา American  Academy of Dermatology ได้ใช้หลักเกณฑ์ง่ายๆดังนี้

• ปริมาณของแผลสิวที่เกิดขึ้นบริเวณหลังมีปริมาณไม่มาก และไม่รุนแรง
• สิวที่เกิดขึ้นเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน
• ระดับความรุนแรงของสิวอยู่ในระดับน้อยคือเป็นสิวหัวดำ หรือสิวหัวขาว หรือ ถ้าเป็นสิวอักเสบต้องไม่เจ็บ หรือลงลึกไปใต้ผิว

7 วิธีการดูแลสิวให้ดีขึ้นภายใน 7วัน ได้เองที่บ้าน

เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกที่ถูกขับออกมา รวมทั้งควรเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากอาบน้ำให้เป็นเสื้อผ้าใหม่แห้ง ทุกครั้งอารมณ์ดีแนะนำ: อาบน้ำด้วยสบู่เหลวอาบน้ำสูตรฆ่าเชื้อแบคทีเรียสูตรเพื่อผิวขาวกระจ่างใส so glow anti-bacteria body wash ทุกครั้งหลังการออกกำลังกาย นอกจากประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียกว่า 99.99% จากน้ำมันทีทรี น้ำมันยูคาลิปตัส Chloroxylenol แล้วยังช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนด้วย AHA และวิตามิน C เพื่อลดรอยดำที่เกิดจากสิว และยังลดปัญหากลิ่นกาย โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึงเพราะบำรุงด้วย วิตามิน E สารต้านอนุมูลอิสระจาก ลูกหม่อนสีดำและใบฝรั่ง

บำรุงผิวทุกครั้งโดยเน้นปกป้องผิวให้สะอาดยาวนานมากขึ้น ในระหว่างวันเราอาจจะไม่สามารถอาบน้ำได้ทุกครั้ง แต่เราสามารถรักษาผิวให้สะอาดนานมากขึ้น หากเราใช้หลังอาบน้ำทันทีจะเป็นการช่วยปรับสมดุลย์ของค่า PH ของผิวได้อย่างอ่อนโยน เพื่อผิวขาวกระจ่างใสอารมณ์ดีแนะนำ: ชโลมผิวกายด้วย เซรั่มบำรุงผิวกายสูตรเพื่อผิวขาวกระจ่างใส so glow brighthening serum ให้ทั่วตัวโดยเฉพาะบริเวณหลัง แนะนำให้ชโลมตอนผิวยังเปียกหมาดๆเพราะจะทำให้สารบำรุงลงใต้ชั้นผิวได้ดีขึ้น ด้วยกลีเซอรีน วิตามิน E รวมทั้งสารสกัดจากดอกคาโมไมล์ โรสฮิป และโรสแมรี่ แล้วยังช่วยลดสิวด้วยกรด Salycylic acid ที่อยู่ในสารสกัดเปลือกต้นวิลโ่ลว์

เสื้อผ้าที่มาจากเส้นใยธรรมชาติระบายอากาศได้ดี แห้งสะอาด อารมณ์ดีแนะนำ: ใช้สเปรย์ฉีดผ้าอโรมาเธอราปีกลิ่นทีทรีลดการสะสมเชื้อโรคบนผ้าก่อนสวม

ใช้น้ำมันทีทรีช่วยลดสิวบนจุดที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ อารมณ์ดีแนะนำ: หยดน้ำมันหอมระเหยทีทรี 1หยด บนเซรั่มบำรุงผิวกายเพื่อผิวขาวกระจ่างใสบนฝ่ามือแล้วทาลงบริเวณที่ต้องการเน้น ข้อควรระวังคือไม่ควนหยดน้ำมันหอมระเหยทีทรีลงบนผิวโดยตรง เพราะอาจจะมีความรุนแรงมากเกินไป และอาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองได้

เลี่ยงการปล่อยผม หรือไว้ผมยาว โดยเฉพาะช่วงเวลาสระผม เพราะสารเคมีที่อยู่บนแชมพู หรือ ครีมนวดผมสามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองบนผิวและเกิดการอุดตันได้

ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน ไม่มีสารที่อาจจะก่อให้เกิดรูขุมขนอุดตัน non-comedogenic ingredientsอารมณ์ดีแนะนำ: ระหว่างวัน ใช้สเปรย์น้ำแร่ลาเวนเดอร์ออแกนิค สูตรเย็นซ่า so fresh body mist ฉีดลงบนตัว หรือผ่านเสื้อผ้าโดยไม่ทิ้งคราบ นอกจากน้ำแร่ และน้ำดอกลาเวนเดอร์ออแกนิคแล้ว ยังมีสารสกัดจากฟ้าทะลายโจร ว่านหางจรเข้ สารสกัดจากแตงกวา เห็ดหลินจือ และ ชิตาเกะ ที่ช่วยลดการอักเสบบนผิว แล้วยังให้ความสดชื่นระหว่างวัน

ที่นอนคือพื้นที่ที่เราใช้เวลาประมาณ 1 ใน 3 ของแต่ละวันในการพักผ่อน สิ่งสำคัญคือความสะอาดบนเตียงควรเปลี่ยนผ้าปูที่นอน อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง รวมทั้งผ้าที่ใช้กับร่างกายเช่นผ้าเช็ดตัว เป็นต้นอารมณ์ดีแนะนำ: เพิ่มความผ่อนคลายเพื่อให้พักผ่อนได้เต็มที่ด้วยสเปรย์ฉีดผ้าอโรมาเธอราปี กลิ่นผ่อนคลายก่อนนอน sleep tight pillow mist

ข้อมูลอ้างอิง
Canavan TN, et al. (2016). Optimizing non-antibiotic treatments for patients with acne: A review. DOI:
doi.org/10.1007/s13555-016-0138-1
Acne. (2018).
womenshealth.gov/a-z-topics/acne?from=AtoZ
Acne. (n.d.).
aad.org/public/diseases/acne-and-rosacea/acne