ดึงสติก่อนไปห้าง เช็คลิสต์ป้องกันตัวเองกันก่อน

หลังจากล็อคดาวน์กันมาหลายเดือน (และหลายรอบ) ในที่สุดก็คลายล็อกดาวน์กันอีกครั้ง เชื่อว่าหลายคนน่าจะตื่นเต้นและคิดถึงการออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน หรือเดินห้างกันกรุบกริบ และถึงแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเริ่มลดลง (นิดนึง) แต่ก็ยังอยู่ในหลักหมื่นอยู่น้าา มากกว่าตอนก่อนล็อกดาวน์ซะอีก! เข้าใจมากๆ ว่าอยู่แต่บ้านมานานก็แสนจะเหี่ยวเฉา จะไปไหนก็ต้องระวังและป้องกันตัวเองและคนรอบข้างให้ดีนะ!

มาดูกันดีกว่า ว่าจะออกไปในแต่ละที่เราจะเซฟตัวเองได้ยังไงบ้าง นอกจากการใส่แมสก์และพกเจลแอลกอฮอล์แล้ว ควรคำนึงถึง Touch Point ไหนอีกบ้าง?

1. ช้อปเครื่องสำอางโดนใจ

ความห้างเปิดอะเนาะ ซื้อเครื่องสำอางที่ไหนก็ไม่สนุกเท่าที่เคาน์เตอร์ การได้เห็นสีจริง เนื้อสัมผัสชัดๆ ก่อนซื้อนี่แหละฟินนที่สุดแล้ว แต่อย่าลืมว่าทุกคนก็อยากลองเนื้อสัมผัส จับชิ้นนู้น ชิ้นนี้กันทั้งนั้น อาจเป็นแหล่งเสี่ยงเชื้อโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะ บางแบรนด์ก็งดให้ลองสินค้ากับผิว และเปลี่ยนเป็นรองกับแผ่นใส แล้วเอามาเทียบผิวเราแทน แบบนั้นก็ช่วยเซฟไปได้อีกเยอะเลย และยังมีอีกหลายจุดที่ควรระวัง ตามนี้

• ใส่ถุงมือทุกครั้งที่หยิบจับของ
• ถ้าไม่ได้ใส่ถุงมือก็ไม่หยิบของเอง สนใจชิ้นไหนก็ให้บีเอหยิบให้ 
• ไม่ลองเครื่องสำอางเทสเตอร์ลงบนผิว หักห้ามใจการสวอชสีลิปไปก่อนน้าา
• จ่ายเงินด้วยการสแกน QR Code 

2. ทำผมหรือทำเล็บเปลี่ยนลุค

หลังจากที่ต้องตัดผม ทำเล็บเองกันมาหลายเดือน หรือปล่อยให้ผมยาวจนไม่เป็นทรง ก็ได้เวลามาเสริมสวยเปลี่ยนลุคใหม่ที่ร้านกันแล้ว ด้วยความทำผมหรือทำเล็บเนี่ยก็ต้องมีการเม้าท์มอยกับช่างบ้าง ใส่แมสก์ชั้นเดียวอาจจะไม่พอก็ได้น้าา ไหนจะผ้าเช็ดผมที่เราก็อาจไม่มั่นใจว่าฆ่าเชื้อมาดีแล้วรึเปล่า เก้าอี้นั่ง เตียงสระผมอีกล่ะ คิดละกลุ้มม กลุ่ม! ทางที่ดีเซฟตัวเองไว้ตามนี้ดีกว่าค่า

• เลือกแบบที่อยากได้มาจากบ้าน
• จอวคิวล่วงหน้า เลือกเวลาที่คนน้อยๆ
• พกผ้าคลุมผมไปเอง เพื่อความมั่นใจ
• จ่ายเงินด้วยการสแกน QR Code
• ถ้าช่างคุยเก่งมาก หรือเป็นช่างประจำ ก็แอบบอกว่าอุ๊ย วันนี้เจ็บคอนิดหน่อยพูดเยอะไม่ได้ อุแง

3. นวดหรือสปาคลายเมื่อย

WFH ติดต่อกันหลายเดือนมากก ไหนจะอาการปวดหลัง ปวดเมื่อยต่างๆ จากออฟฟิศซินโดรม ร้านนวดเปิดนี่แหละคือสวรรค์คนรักงานของจริงจริ๊งงง แต่การไปนวดเนี่ย เราต้องสัมผัสกับเบาะรองนวดนานหลายนาทีหรือเป็นชั่วโมง ถ้านอนนวดด้วยก็คือแนบชิดทั้งลำตัว ก็ต้องระวังตามนี้

• มั่นใจก่อนว่าที่ร้านเขาได้มีการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ ให้ลูกค้าที่มาใช้บริการอยู่ตลอด
• จองเวลาไว้ก่อน เลือกช่วงที่คนมาใช้บริการน้อย
• ใส่แมสก์สองชั้น การนวดผ่อนคลายอาจทำให้มีลมหายใจเข้าออกที่มากขึ้น
• เป็นไปได้เลือกร้านที่อากาศถ่ายเท ไม่ติดแอร์

• จ่ายเงินด้วยการสแกน QR Code

4. กินข้าวที่ร้านอาหาร

ในที่สุดก็สามารถกลับไปกินข้าวนอกบ้านกันได้แล้ววว นัดกินข้าวกับเพื่อน กิ๊ก หรือคนรู้ใจได้สักที แต่ก็ต้องระมัดระวังกันมากๆ อยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือต้องเซฟตัวเองเป็นพิเศษได้ตามนี้ 

• ใส่แมสก์คุยกัน ถอดออกเฉพาะตอนที่กืนข้าวก็พอน้า
• งดเติมลิปที่ร้าน นอกจากจะกันลิปเลอะเศษอาหารแล้ว อาจจะมีสารคัดหลั่งหรือเชื้อมาโดนได้
• ถูแอลกอฮอล์ที่มือก่อนกิน หรือหลังจากสัมผัสเมนูอาหาร เครื่องปรุงต่างๆ
• จ่ายเงินด้วยการสแกน QR Code 

ฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังต้องระวังน้าา!

เคยเป็นโควิดแต่หายแล้ว > วัคซีนสองเข็ม > วัคซีนหนึ่งเข็ม > ยังไม่ได้รับวัคซีน

ใครที่รับวัคซีนสองเข็มแล้ว Fully Vaccinated ก็อาจจะสบายใจ หมดห่วงกว่าใคร แต่ความจริงแล้ว คนที่เคยติดแล้วหายแล้วต่างหากล่ะ จะมีภูมิตามธรรมชาติมากที่สุด การฉีดวัคซีนไม่ได้หมายถึงว่าเราจะไม่เป็นโควิด วัคซีนหนึ่งเข็มหรือสองเข็มก็ยังเสี่ยงติดและแพร่เชื้อได้อยู่ดีนะ ช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยไม่ให้รุนแรง (ถ้าวัคซีนมีคุณภาพอะน้าา)

ส่วนใครที่ยังไม่ได้ฉีด หรือรอพรีออเดอร์ที่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ อย่างน้อยโมเดอร์น่า ก็คงต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากกว่าใคร งดออกไปพบปะหรือไปในที่เสี่ยงก่อน และอย่าลืมเซฟคนข้างๆ ไปด้วยนะ ไม่ว่าจะครอบครัว หรือลูกเล็ก ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายเหมือนกัน และบางวัยยังใส่หน้ากากอนามัยไม่ได้ด้วยซ้ำ เอาเป็นว่าถึงรัฐจะผ่อนคลาย เราก็ใจเย็นๆ อดใจไว้ก่อนดีมั้ยน้า เพราะคนติดเชื้อยังสูงอยู่มากๆ ระมัดระวังและรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ