เรื่องที่จะเล่าของกระทู้นี้ก็คือ “การใช้ออยล์ล้างหน้า” ประเด็นเรื่องการใช้สกินแคร์ที่มีออยล์เป็นส่วนผสม ไม่ว่าจะกี่เปอร์เซ็นต์ นี่เป็นอะไรที่ท้ายเรามากเลยค่ะ ด้วยเพราะผิวพื้นฐานเราคือคนผิวมัน คือยอมรับเลยว่าเมื่อก่อนไม่ชอบความมันใดๆ หรือแม้กระทั่งให้หน้าชุ่มๆก็ไม่ชอบเลย ชอบให้ผิวดูแมตต์มากกว่า เพราะมันสบายผิวดี 

 ออยล์ จึงถูกตัดออกไปจากรูทีนสกินแคร์ของเราแบบไม่ต้องคิดมาก แต่พอโตขึ้น โลกของสกินแคร์ ก็ได้เปิดกว้างมากขึ้น ความรู้เดิมๆก็ได้ถูกพิสูจน์เพิ่มมากขึ้น ออยล์ หรือ น้ำมัน สิ่งที่เรากลัวมาโดยตลอด อย่างที่บอกว่าไม่เอาอ่ะ ไม่ชอบความมัน แต่พอได้ลองเปิดโอกาสในการเลือกใช้ออยล์ ก็ค่อยๆเปลี่ยนมุมมองของเราใหม่ค่ะ ซึ่งเป็นไปในทางที่ดี :) ขอเล่าในพาร์ทของการล้างหน้าแล้วกัน สเต็ปแรกของการดูแลผิว ที่เบสิคที่สุด แต่หลายคนอาจจะมองข้ามไป

          FYNE          

Gentle Synthetic Cleansing Oil

นี่คือ 1 ในสิ่งที่เปลี่ยนมุมมองของการใช้ออยล์ล้างหน้า กับผิวมันแบบเรา ตลอด 1 เดือน ที่ผ่านมา ที่ได้ลองแบบเต็มที่ Fyne ได้ออกแบบมาเพื่อคนที่กลัวการอุดตัน ผิวที่ระคายเคืองง่าย เขาเป็น Synthetic Oil (ออยล์สังเคราะห์) ที่บอกว่ามาจากการสังเคราะห์คือ เพื่อลดโอกาสการแพ้ ค่าการอุดตันเป็นของ ingredient คือ 0 ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้อย่าง  

• Essential Oil

• Mineral Oil

• SLS

• SLES

• Silicone

• Alcohol

• Fragrance

• Colorant

• Paraben

การใช้คลีนซิ่งออยล์ไม่ได้จำกัดแค่ใช้ตอนแต่งหน้าเท่านั้น หากแต่เป็นการใช้ได้ทุกวันแม้ไม่แต่งหน้า เพราะเราอยู่บ้าน ก็ต้องทาสกินแคร์ แน่นอน สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ กันแดด ไม่ว่าจะเนื้อเบา เนื้อหนัก ก็ต้องทาไว้ค่ะ เพราะแสงแดดทะลุเข้ามาหาเราได้ทุกเวลา

เราจะเน้นย้ำกับคนรอบข้างด้วยความหวังดีว่า แม้จะทาแค่กันแดด ก็ต้องทำความสะอาดด้วย “คลีนซิ่ง” เพราะการทำความสะอาดแบบหมดจด ช่วยลดการก่อตัวของสิวได้ มันคือวิธีที่ง่ายมาก ถ้าเราใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนแรก

ปัจจุบันทางเลือกของการใช้คลีนซิ่งในการทำความสะอาดผิว มีหลายตัวเลือกให้ได้ลองกันเยอะมาก คลีนซิ่งออยล์ ก็เป็นอีกรูปแบบนึงที่ได้รับความสนใจ ในการช่วยคลีนผิว ด้วยเพราะไม่ต้องใช้สำลี ในการทำความสะอาด เป็นการลดการระคายเคืองสำหรับคนที่ผิวค่อนข้างบอบบาง นิ้วมือของเรานี่ล่ะที่จะช่วยให้ถนอมผิวได้ดี แม้วันที่มีปัญหาผิวอย่างสิวบุก ผิวลอก แสบหรือคัน สำหรับเราสำลีจึงไม่ใช่คำตอบที่ช่วยให้ผิวสะอาดเกลี้ยงเกลาเสมอไป

ความว้าวของคลีนซิ่งออยล์ของ Fyne ตั้งแต่กดออกมานี่บอกเลยว่า นี่แทบจะไม่ใช่ออยล์ล้างหน้าแล้ว แทบจะเป็นน้ำเปล่าแล้ว 55555 คืองี้นะคะ ที่บอกว่าเหมือนน้ำเปล่าเนี่ย ก็เพราะเนื้อสัมผัสคือเบามากกก เหลวมากก ใสกริ๊งเหมือนน้ำเปล่าเลยค่ะ ลบภาพจำของออยล์เนื้อหนักและหนืดไปได้เลย 

ออยล์ที่ไม่มีกลิ่นปรุงแต่ง มวลเบา เมื่อสัมผัสที่ผิวแล้วไหลลื่นมากๆ ด้วยความที่เนื้อเขาไม่หนัก เราวางใจตรงนี้ได้ว่าวันที่มีสิว เราจะใช้เขาได้อย่างไร้ข้อกังวล อย่างที่บอกไปว่าแม้วันที่ไม่แต่งหน้า ทางเราก็ใช้ออยล์ล้างหน้าด้วยฮะ ลองแม้กระทั่งใช้ล้างผิวตอนเช้าได้เลย

วิธีใช้

เราจะกดออยล์ 1-2 ปั๊ม นี่คือปริมาณที่ใช้ตลอด ถ้าวันไหนแต่งหน้ารีวิวแบบจัดเต็ม ก็ค่อยกดเพิ่มได้ค่ะ มีทริคเล็กน้อยสำหรับการใช้ออยล์ ใน 1 ขวดเนี่ยใช้ได้ครบทุกส่วนของใบหน้าได้ คือถ้าแต่งตาหนักๆ ลองใช้กับสำลีก็รอดอยู่ 

กดออยล์ให้ชุ่มแผ่นสำลี แล้วแปะลงที่ตาเบาๆทิ้งไว้สัก 30 วิ แล้วค่อยๆเลื่อนสำลีออก ออยล์จะไปละลายเมคอัพที่เราแต่งไว้นั่นเอง จากนั้นพรมน้ำเบาๆ ออยล์จะเปลี่ยนน้ำนมเนื้อเบา แล้วนวดวนๆให้ทั่วใบหน้า จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเปล่า แล้วเริ่มการ Double Cleansing อีกรอบด้วยโฟมหรือเจลล้างหน้าที่ใช้ประจำ 

ความรู้สึกหลังใช้ผลิตภัณฑ์

                        

ไม่น่าเชื่อว่าออยล์จากแบรนด์ของไทยจะมีคุณภาพที่เกินคาด  ครอบคลุมปัญหาของผิวที่แพ้ง่าย อุดตันง่าย อย่างน้อยคนที่กลัวออยล์แบบเรานี่มีเปลี่ยนใจอ่ะ คิดดู! 55555 จะมีข้อเพิ่มเติมคือ ถ้าแต่งหน้าแล้วเมคอัพงานตาแน่น Waterproof มากๆ ยังเอาออกไม่หมดนะคะ จะยังมีคงเหลืออยู่บ้าง แต่ทริคที่แนะนำไปข้างต้นในวิธีใช้ มันคือทริคที่เผื่อว่าเมคอัพรีมูฟเวอร์ของเราหมดกระทันหัน หรือไม่มีสต็อคไว้ คลีนซิ่งออยล์ช่วยได้ค่ะ 

เราใช้ออยล์ล้างหน้าในวันที่สิวบุกด้วย บอกเลยว่าอ่อนโยนจริงๆ ไม่แสบ แต่ด้วยเพราะบริเวณที่เจ็บสิวมากๆ เราก็จะเบามือตอนล้างมากๆเช่นกันค่ะ ตั้งแต่ใช้มายังไม่มีการอุดตันใดๆ สัมผัสได้ถึงความสะอาด แต่ไม่เอี๊ยด ผิวจะมีความนุ่ม ชุ่มชื้นอยู่ เวลา Double Cleansing ผิวก็จะไม่แห้งด้วยค่ะ

ในปริมาณ 150 g. ราคา 1,090 บาท 

คือความคุ้มในขวดเดียวจริงๆ 

รู้ตัวอีกทีแปปๆจะเกินครึ่งขวดแล้วค่ะ ^^