มาแชร์ประสบการณ์ทำ Lasik ค่ะ

⭐️ คนรอบตัวถามข้อมูลกันมาเยอะมาก  

เลยแชร์ไว้เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนอยากทำเลสิกนะคะ

1. ทำไมถึงเลือกที่นี่ ?

- ก่อนทำเดียลองศึกษาดูเยอะมาก หลักๆในการตัดสินใจของเดียเลยคือเลือกจากคุณหมอที่ศึกษาแล้วเรารู้สึกมั่นใจและอยากทำกับเค้า ต่อมาก็คือเรื่องของราคาและสถานที่ในการรักษาค่ะ ซึ่งเดียเลือกทำกับคุณหมออัมพร  ที่ ศูนย์เลสิคสมิติเวชไชน่าทาวน์ มีคนรีวิวให้คุณหมอเยอะมาก บวกกับที่สมิติเวชไชน่าทาวน์ เค้ามีบริการตรวจตาและรับคำปรึกษาฟรี และถ้าสมมติว่าเราเข้าตรวจตอนเช้าแล้วตาเราไม่มีปัญหาอะไร สามารถเข้าทำเลสิกช่วงบ่ายต่อได้เลย และที่สำคัญตอนนี้ทาง รพ มีโปรพักที่ รพ ฟรี 1 คืน ( ยกเว้นวันศุกร์และเสาร์ ) หลังจากทำก็ขึ้นไปนอนพักสวยๆได้เลย เช้าวันรุ่งขึ้นก็ให้คุณหมอตรวจเช็คอีกรอบถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็กลับบ้านได้เลยค่ะ 

2. ก่อนไปทำเลสิก ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ?

​

• อันดับแรกเตรียมเงินค่ะ  

• เดียเป็นคนที่ใส่ Soft lens ทุกวันคุณหมอแนะนำให้หยุดใส่ 4-5 วันก่อนไปทำเลสิกนะคะ 

• เตรียมหยุดงาน 

• สระผมมาให้เรียบร้อย 

• เตรียมตัวเตรียมใจบอกตรงๆว่ากลัวมากจนนอนไม่หลับ

• ใส่เสื้อคอกว้างหรือเสื้อมีกระดุมหน้า

• พกแว่นกันแดด

• ไม่ควรขับรถไปเอง

•   ****สำคัญมากพกคนดูแลไปด้วยนะคะ ป้อนข้าว ป้อนน้ำ พาไปเข้าห้องน้ำ

3. ตอนทำเจ็บไหม ?

• ตอนทำหยอดยาชาตลอด จะบอกว่าไม่เจ็บเลยจริงๆ หน้าที่เราคือมองไฟ ทำตาโตๆ อย่าขยับ ส่ายหัว หรือ บีบตา เพราะเครื่องมือจะหลุดค่ะ ตอนเปิดกระจกตารู้สึกเหมือนมีอะไรมาครอบและดูดลูกตาเรา ภาพจะมืดไป 1-2 วินาทีแล้วค่อยๆกลับมา ต่อนั้นจากนั้นก็จะเลเซอร์ต่อเลย ของเดียสายตาสั้นเยอะ ( ข้างละ 650 ) ใช้เวลายิงเลเซอร์ข้างละ 45 วินาที ตอนยิงเราจะได้กลิ่นไหม้และเสียงยิงเบาๆ ทำเสร็จก็ปิดกระจกตากลับที่เดิมเป็นอันเรียบร้อย ใช้เวลาทั้งหมดไม่น่าเกิน 15 นาที แต่เป็น 15 นาทีที่เรานอนเกร็งมาก กลัวมากจนเหมือนสติหลุดออกจากร่างไป พอรู้สึกตัวอีกทีก็พยายามลืมตาให้กว้างและนิ่งที่สุด ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก จนงงว่าเสร็จแล้วหรอ …

4. หลังจากออกจากห้องผ่าตัด เป็นยังไงบ้าง ?

• ปล * จากที่อ่านรีวิวของแต่ละคนมา อาการก็แตกต่างกันไปนะคะ อันนี้เดียจะเล่าที่เดียเจอนะคะ

• ชมแรกยังมองเห็นลางๆ ไม่แสบไม่ปวดอะไร ซึ่งใน 1 ชมแรกแนะนำให้ทายยาแก้ปวดและยานอนหลับ ใส่ชุดที่นอนสบายๆ ไปเลยค่ะ เพราะหนังชีวิตจะเริ่มขึ้นหลังจากนี้ 

•  ชั่วโมงที่สองเริ่มแสบตา น้ำตาไหลเบาๆ
  

•  ชั่วโมงที่ 3-6 คือแสบตามาก ลืมตาไม่ได้เลย น้ำตาไหลแบบเทกระจาด รู้สึกเหมือนมีเม็ดทรายในตาตลอดเวลา ถ้าใครนอนหลับได้จะดีมาก แต่เดียกินยานอนหลับแล้วแต่ก็ไม่หลับเลย เหมือนนอนร้องให้ตลอดเวลา น้ำมูกไหล จมูกตัน ร่างกายต้องการยาดม แต่ตอนนั้นคือเหมือนคนตาบอดควรนอนเฉยๆ  

• ชั่วโมงที่ 6 ประมาณ 2 ทุ่มต้องขออัดยานอนหลับและแก้ปวดเพิ่มโชคดีที่ครั้งนี้หลับ เลยได้สักพักสักหน่อย

• 6 โมงเช้าพยาบาลมาเช็คความดัน ก็เลยตื่นและพยายามลืมตาแต่เปลือกตาติดกันแน่นมาก ต้องค่อยๆพยายามลืมตาให้ได้ ความรู้สึกคือเริ่มมองเห็นแต่ยังไม่ชัดมาก และแสบตาเล็กน้อย น้ำตายังไหลอยู่ 

• 8 โมงตื่นมาแกะที่ครอบตา , ทำความสะอาด หยอดยาต่างๆ ภาพชัดขึ้นแสบตาน้อยลง
  

• 10 โมงไม่แสบตาแล้วค่ะ น้ำตาก็หยุดไหลแล้ว

จะบอกว่าตอนนี้มองเห็นชัดมาก ไม่ปวดหัว ไม่เวียนหัวเลย ชีวิตดีขึ้นเยอะ อดทนแสบตาแค่ 1 คืนแต่แลกกับการมองเห็นโลกแบบ Full HD มันคุ้มค่ามากๆ และที่สำคัญขอบคุณคุณแม่ที่เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการรักษาครั้งนี้ค่ะ

* การรักษาสายตามีหลายวิธีและราคาต่างกันไปนะคะ มีทั้ง relex smile , Femto , PRK , Lasik แนะนำว่าให้ไปตรวจกับคุณหมอก่อน เค้าจะบอกว่าเราทำแบบไหนได้บ้าง แล้วเราค่อยตัดสินใจอีกทีได้ค่ะ

*หวังว่าข้อมูลนี้จะพอเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังตัดสินใจทำเลสิกนะคะ ทำเหอะ มันดี !!!!!!