Review Contest : เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิต กับความฝันที่เป็นจริง ณ กรุงโตเกียว🇯🇵🍁

56 19

สวัสดีค่ะ ตอนนี้ยังไม่สามารถบินเที่ยวออกนอกประเทศมาปีที่ 2 แล้ว ได้แต่ดูรูปเก่าๆ บอกกับตัวเองว่า "เมื่อไรจะได้เที่ยวอีกสักที อยากเที่ยวอีกแล้ว" ตอนนี้ก็กลับมาเที่ยวทิพย์อีกตามเคย ติดตรงที่ค่าใช้จ่ายแหละ5555 เพราะกระทู้นี้ส้มจะมารีวิวเล่าเรื่องตอนไปญี่ปุ่นกัน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของส้มเลยนะ ไปมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และเที่ยวเองไม่ได้ไปกับทัวร์ เป็นของขวัญที่ส้มเรียนจบมาปีนึงในตอนนั้นด้วย เดี๋ยวจะพาทุกคนไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเถอะ Let's Go...

Day 1 อิ่มบุญ อิ่มใจ ณ ย่าน Asakusa

นั่งเครื่องบินสายการบิน Nok Scoot จากดอนเมืองตั้งแต่เวลาตี1 จนมาถึงสนามบินนาริตะตอนประมาณ 10 โมงเช้า (8 โมงเช้าของไทย) 

หลังจากที่เช็คอิน ผ่าน ตม. แล้ว ประเดิมมื้อแรกที่นี่ ด้วยการซื้อของกินในเซเว่น จะบอกว่าเซเว่นสาขาญี่ปุ่นไม่มีแอร์เหมือนบ้านเราน้า

พูดเลยในญี่ปุ่นมีตู้กาชาปองเยอะมากๆๆ เดินผ่านที่ไหนก็เจอน้องๆ หลายตู้เลย

เดี๋ยวเราจะนั่งรถไฟ Airport Link ของญี่ปุ่นไปที่พักกันๆๆๆ

วันแรกมาในเสื้อแจ๊กเก็ตสีแดง กางเกงยีนส์มีลวดลาย ผ้าพันคอสีแดง และหมวกไหมพรม ถ่ายกับวิวบรรยากาศซอยเล็กๆ เต็มไปด้วยตึกอพาร์ตเม้นท์และที่พักต่างๆ จะบอกว่าถนนในประเทศญี่ปุ่นเขาสะอาดมาก ดูเป็นระเบียบด้วย เห็นแล้วอยากย้ายกลับไปอยู่ที่นั่นจริงๆ

ตอนนี้ได้มาถึงที่พักกันแล้ว ส้มพักที่ Oak Hotel ติดกับสถานีรถไฟใต้ดิน Shinjuku สายสีเขียวอ่อน ให้ลงสถานี S11 ถึงชื่อจะบอกว่าเป็น Hotel แต่ว่าเป็น Hostel เล็กๆ เหมือนหอพัก ที่เลือกที่พักทีนี่ เพราะราคาถูก ถึงห้องที่อยู่มันไม่ได้กว้าง แต่พอออกไประเบียงได้เห็นวิวสวยๆ ตึกเรียงเป็นระเบียบด้วย

หลังจากที่เก็บของในที่พักเสร็จเรียบร้อย เรามาประเดิมที่แรกด้วยการไปทำบุญที่วัดอาซากุสะ พร้อมช็อปปิ้งของที่ระลึก ของสะสม วัตถุโบราณไปในตัว มีทั้งอิ่มบุญ และ อิ่มใจด้วย จะบอกว่าตอนที่ออกมาก็ 4โมงครึ่งแล้ว ที่นั่นเขาก็มืดเร็วกว่าบ้านเราตั้งเยอะ (ตัดมาที่บ้านเราคือบ่ายสองครึ่ง ฟ้ายังสว่างแดดจ้าอยู่เลยจ้า)

รองท้องกันซักหน่อย กับของเด็ดในย่านอาซากุสะ อย่างซาลาเปาทอดสอดไส้เลยจ้าา จะบอกว่าร้านนี้คนต่อคิวเยอะมาก อร่อย แถมมีไส้ให้เลือกเยอะด้วย

อิ่มรองท้องแล้ว เรามาอิ่มบุญกันต่อ เที่ยวทั้งที วัดก็ต้องเข้าด้วย

อิ่มบุญแล้ว ไปช็อปปิ้ง หาอะไรกินต่อในย่านนี้กันเถอะ

มื้อแรกของทริป กับเมนูที่หากินยากในไทย เป็นปูย่าง เนื้อนุ่ม ละลายในปาก ลองแล้วเลิฟเลยค่ะ

อิ่มแล้วก็มาเดินเที่ยวในซอยหลืบๆ กันก่อนที่จะไปต่อที่อื่น

เสร็จภารกิจที่ย่าน Asakusa แล้วมาต่อที่ย่าน Tokyo Skytree กันต่อ

เข้าไปในห้างกันเถอะ เดินผ่านๆ แล้วเจอ Super Junior อัลบั้ม One More Time ในขณะนั้น 

ตอนแรกเหมือนจะอิ่มแล้ว ตอนนี้ขอเบิ้ลอีก ทั้งอุด้งและทาโกะยากิอย่างจัดเต็ม เวลาสั่งก็เหมือนกับสั่ง KFC, McDonalds ตรงที่สั่งกับเคาน์เตอร์ จ่ายเงิน และรอรับอาหาร

แค่วันแรกก็จัดเต็มแล้ว ก่อนกลับที่พักเราก็จะแวะ Family Mart แถวๆ หอพักกันก่อน แต่พิเศษสุด คือ ที่นี่มีบริการถ่ายเอกสารในร้านด้วย เซเว่นในไทยน่าจะมีบ้างน้าา

Day 2 สัมผัสบรรยากาศสุดฟิน ณ Tokyo Station และ Ueno Park

เราจะไปที่ Tokyo Station กันก่อน มาถึงสถานีจะพบเพดานลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณ์

ออกไป Outdoor นอกสถานี มาสัมผัสบรรยากาศหนาวเย็นสุดฟิน สถานที่สวยงาม ทั้งสถาปัตยกรรมอย่างมหาวิทยาลัยโตเกียว และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง

สัมผัสบรรยากาศสุดฟินกันไปแล้ว ตอนนี้ก็มื้อเที่ยงแล้ว ไปกินบุฟเฟ่ต์ในโรงแรมหรู Shinagawa Prince Hotel กันเถอะ บรรยากาศในร้านใหญ่หรูหรา คนมากินเยอะมากด้วย

อาหารที่นั่นเลือกได้หลากหลายไม่อั้น มีทั้งของคาวและหวาน ไม่ใช่แค่อาหารญี่ปุ่น แต่ยังมีอาหารอิตาลี อาหารอเมริกันด้วย ร้านเดียวคือคุ้ม ครบทุกเมนู แต่มีเมนูที่เราแนะนำ คือ ปูอัดอลาสก้ากล้ามยาวๆ รสชาติเหมือนปูอัดเลยอ่ะ 

กินบุฟเฟ่ต์เสร็จแล้ว จะบอกว่าอิ่มจุใจอย่างมากๆๆๆ เราจะไปฟินกันต่อที่ Ueno Park กันเลยดีกว่าค่ะ

มาสัมผัสใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม ของจริงคือสวยมากๆๆๆๆ

ที่นี่คือ Tokyo National Museum เหมือนกับพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเรานี่แหละค่ะ เป็นสถานที่รวบรวมข้อมูล โบราณคดี วัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ของโตเกียวโดยเฉพาะ

กะจะมา Ueno Zoo แต่ว่ามันเย็นมากแล้ว สวนสัตว์ปิดก่อนที่เราจะมาซะอีก เสียดายมาก ถ้ามีโอกาสอีกจะมาเที่ยวสวนสัตว์ให้ได้นะ คุณแม่เราขอแจมหน่อยๆๆๆ

ในเมื่อสวนสัตว์ปิดแล้วเลยอดเขา เราก็เลยพุ่งตัวไปพลาซ่าในย่านนี้เลยค่าา ที่นี่เน้นขายของมือสองเป็นหลักน้าา คล้ายๆ สำเพ็งบ้านเราด้วย

ในย่านมีร้านอาหารไทยด้วย

หิวแล้วใช่มะ มารองท้องกันหน่อย กับคอร์นด็อกชีสยืดๆๆๆ ราดซอสเยิ้มๆ ที่กินกันในซีรีย์เกาหลีหลายเรื่อง แต่ในญี่ปุ่นก็มีด้วย นี่ขนาดพิมพ์ไปหิวไปด้วยเลยน้า555

ในเมื่อเราเลือกร้านข้าวไม่ถูกใน Ueno Plaza เราเลยต้องหาอะไรกินตามห้างหรูๆ แต่ร้านส่วนใหญ่ราคาสูงมากด้วย

สุดท้ายมาลงเอยที่คาเฟ่ร้านอาหารฟาสฟู้ดและเบียร์สด ตอนที่มากินคือดึกมากแล้ว ปกติส้มไม่ทานอาหารพวกนี้เป็นมื้อเย็นหรือมื้อดึก เพราะมีทั้งแป้งและไขมันสูงมาก แต่พอมากินร้านนี้คือแบบกินไม่หมดชุดเลย แค่กินฮอตดอทก็อิ่มแล้ว สุดท้ายเลยก็แพคกลับไปกินที่หอต่อ

Day 3 ทำบุญขอพรอีกที่ ณ ศาลเจ้าเมย์จิ ต่อด้วยช็อปปิ้งแบบจัดเต็มที่ Shinjuku และ Harajuku

เช้าวันที่ 3 ของทริป เรากำลังจะเดินทางไปยังศาลเจ้าเมย์จิกัน

เรามาถึงปากทางของสถานที่แล้ว มีต้นดอกคาเมลเลียสวยๆ ด้วย

เราเข้าไปในตัวสถานที่กันเถอะ จะพบทางเดินกว้างๆ ฟีลลิ่งเหมือนพุทธมณฑลใกล้บ้านด้วย

มาเที่ยวรอบนี้แล้วบังเอิญเจอคู่แต่งงานเขาน่าจะมาถ่ายพรีเวดดิ้งนะ ถ้าจำไม่ผิด

มาถึงที่ทั้งที่มันต้องทำบุญชำระล้างกันหน่อย

แวะถ่ายรูปคู่กำแพงป๋องเบียร์กันหน่อย ไม่งั้นมาไม่ถึง

ทำบุญชะล้างกันเสร็จแล้ว เดี๋ยวเราออกไปหาอะไรกินในย่าน Shinjuku ต่อกันค่ะ

ไปต่อกันที่ย่าน Shinjuku ไปหาอะไรกิน พร้อมนัดพบเพื่อนคนญี่ปุ่นด้วยค่ะ

พอเราได้พบเพื่อนที่นั่นแล้ว เราได้มาทานเซ็ตโซบะน้ำใสและข้าวหน้าต่างๆ เลือกได้ตามใจชอบว่าจะเอาเซ็ตไหน อิ่มจุใจพร้อมมีแรงช็อปปิ้งอย่างเต็มที่เลย

ขอบคุณมากน้าา ดีใจที่พบกัน เสร็จภารกิจแล้วไปช็อปปิ้งกันต่อในย่านกัน

เสร็จภารกิจที่ Shinjuku แล้ว ต่อไปเราไปช็อปปิ้งกันต่อที่ย่าน Harajuku ย่านสุดฮิตที่วัยรุ่นญี่ปุ่นชอบมากัน 

ตอนนี้คือฟ้ามืดแล้วจ้าา นี่ขนาดยังไม่ 6 โมงนะเนี่ย

ตอนนี้เข้ามาถึงที่แล้ว ตอนที่ไปคือวันเสาร์ จะบอกว่าตอนนั้นคนเยอะมากๆๆๆๆๆ และเรากำลังแวะเข้าไปซื้อของจุกจิกกันก่อน

หลังจากที่แวะซื้อของเสร็จ บังเอิญเราเจอไอดอลชายแนว J-POP ชื่อว่าวง TOONBOYZ น้องน่ารักทุกคนเลย

ซื้อของเสร็จแล้ว ต่อไปเดี๋ยวเราไปหากินกันต่อค่ะ

ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจมาร้านนี้ ก่อนหน้าเราจะไปทานอีกร้านนึงในย่าน ปรากฏว่าคนต่อคิวยาวมากๆๆๆ และนานด้วย หามาหลายร้านสุดท้ายก็มาลงเอยที่ร้านนี้ เป็นร้านเกี๊ยวซ่าฟิวชั่นนานาชาติ ชื่อร้านว่า ROCCOMAN และมีเมนูที่อยากจะแนะนำร้านนี้ คือ "เกี๊ยวซ่าราดน้ำมันพริกเผา" เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นญี่ปุ่นและไทย พอลองทานแล้วรสชาติเหมือนทานผัดกะเพราบ้านเราเลย อร่อยมากๆๆ เอาไปเลย 10/10 นี่ขนาดกินไปด้วย ชมวิวนอกร้านไปด้วยจ้าา

​Day 4 ตื่นเช้าสัมผัสอากาศหนาวเย็นเกือบติดลบ ณ Fujisan และต่อด้วยศูนย์รวมของเล่นและเกมส์ ณ Akihabara

วันนี้ตื่นเช้าที่สุดของทริปเลย ประมาณตี4-ตี5 ได้นะ เพื่อมาต่อรถไปยัง Fujisan เพื่อจะไปขึ้นเขาไปดูภูเขาไฟฟูจิของจริงว่าจะสวยเหมือนในภาพถ่ายแค่ไหน

เรามาถึงที่แล้ว จะบอกว่าที่นั่นหนาวมากด้วย น่าจะประมาณ 0-2 องศาเลย  ตอนนี้เรากำลังจะขึ้นกระเช้าลอยฟ้าเพื่อขึ้นไปดูความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิกันเถอะ

ในที่สุดก็ได้เห็นของจริงสักที สวยมากๆๆๆ เหมือนในภาพถ่ายเลย

ต้องมีรูปถ่ายคู่กับภูเขาไฟฟูจิกันหน่อย ไม่งั้นมาไม่ถึงน้าา

ชมความงดงามของภูเขาไฟฟูจิเสร็จแล้ว ถึงเวลาต้องลงกลับไปที่เดิมจ้าา

เสร็จภารกิจดูภูเขาไฟฟูจิแล้ว เดี๋ยวเราไปหาอะไรกินในย่านนี้กันเถอะ ระหว่างทางอากาศแทบจะติดลบแล้วจ้าา

หาร้านหลบหนาวได้สักที หนาวขนาดนี้ต้องกินราเมนอุ่นๆ หน่อย ตบท้ายด้วยของหวานอย่างไอศกรีมซอฟเสิร์ฟ รสมัทฉะลาเต้ ส้มชอบกินมากๆๆๆ 

ตอนนี้เรากำลังนั่งรถบัสกลับแล้วจ้า เราเลยต้องถ่ายวิวข้างนอก ที่นี่คือสวนสนุก Fuji-Q ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในญี่ปุ่น อย่างรถไฟเหาะที่มีความสูงและโหดมาก ใครที่จะมาต้องใจถึงจริงๆ นะ จะบอกว่าระหว่างทางยาวนานมาก กว่าจะถึงตั้งประมาณ 2 ชั่วโมง เราก็หลับระหว่างทางเลยจ้าา

กว่าจะถึงจุดหมายก็ประมาณบ่าย 3 กว่าๆ แล้ว ตอนนี้มาอยู่ที่ Akihabara แล้วค่ะ เริ่มที่แวะห้่างในย่านกันก่อน ก็จะพบแผนกของเล่นที่ใหญ่ที่สุด เห็นแล้วฟินเวอร์ มีทั้งตุ๊กตา ฟิกเกอร์ โมเดลรถจิ๋วแบรนด์ TOMY และอีกมากมายจนเก็บรูปไม่หมดเลยจ้าา

ย่าน Akihabara ศูนย์รวมของเล่นและเกมส์ที่ใหญ่ที่สุด เหมือนกับย่านสะพานเหล็กบ้านเรานี่แหละ

แวะหาอะไรกินในย่านก่อน มีทั้งไก่คาราเกะทอดกรอบ เบนโตะจัดเต็ม ข้าวราดหน้าผัดผงกะหรี่ที่คล้ายๆ บ้านเรานี่แหละ รสชาติโอเคใช้ได้

อิ่มแล้วเราไปช็อปปิ้งกันต่อที่ห้างดองกิโฮเต้กันเถอะ ที่นี่มีเธียเตอร์ของไอดอลชื่อดังอย่าง AKB48 เสียดายที่ไม่ได้เข้าไปเก็บรูปเธียเตอร์มาให้ดูกันเลย

ช็อปจนมึน ง่วงไม่ไหว ซื้อของที่เราหยิบดันตกบิล ตอนนี้ก็ 4 ทุ่มแล้วขอตัวไปนอนก่อน

Day 5 ตะลุยโลกแห่งความฝัน ณ Disneyland และไปย่านคนรวย ณ Ginza

เมื่อวันก่อนคือเหนื่อยมาก เพลียมาก กะจะนอนเร็วตื่นเร็ว แต่วันนั้นดันตื่น 10 โมงแล้ว กว่าจะไปถึงที่ก็เที่ยงเลยจ้าา  รู้สึกเสียดายมาก ถ้าตื่นเช้ากว่านี้ได้เล่นเครื่องเล่นทุกชิ้น คุ้มแน่!!

เข้ามาถึงที่แล้ว จะเห็นทางเดินที่มีคนเยอะๆ นี่ขนาดมาวันธรรมดาคนยังเยอะเลย

มาถึงก็ขอแวะหาอะไรกินก่อน เนื่องจากมาสายตอนเที่ยง เราเลยควบทั้งมื้อเช้าและมื้อกลางวันไปเลย ฮอทดอกใหญ่มากๆๆ กัดจนไส้ทะลักเลยจ้าา

มีรูปคู่กับคูมหม่ามี๊หน่อย รู้ว่าหนูชอบดิสนีย์มากๆๆ เคยซื้อม้วนวิดีโอให้หนูดูตั้งแต่เด็ก แม่เคยมาแล้วครั้งนึง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของส้ม ที่มาตอนฉลอง 35 ปีในสาขาโตเกียว

ปราสาทเทพนิยายสวยมากๆๆ เหมือนในหนังเลย ตัดมาที่ตอนนี้เที่ยวทิพย์ใน Disney+ Hotstar ไปก่อนน้า

เดี๋ยวเรานั่งเรือข้ามฟากไปบ้านหมีพูห์กัน เหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่ในหนังแล้ว

ฉันอยู่ในป่าร้อยเอเคอร์แล้ว

ตอนนี้เรามาที่โซน Fantasyland และ TOONTOWN นะคะ พูดเลยว่าเป็นโซนที่ส้มชอบมว๊าก และเป็นจุดพักคอยหลักที่เราไปนั่งคอยกันด้วย

เราไปเล่นเครื่องเล่นกันเถอะ นึกถึงสมัยเด็กๆ ที่มาสวนสนุกทีไรต้องนั่งม้าหมุนทุกครั้งเลย

โซนสุดท้าย Tomorrowland ตะลุยตามรอยภาพยนตร์ Star Wars

ปิดท้ายก่อนออกจากที่ ด้วยการชมโชว์การแสดงบนปราสาทเจ้าหญิง ตอนกลางคืนคือสวยมากๆๆๆ

เสร็จภารกิจจาก Disneyland แล้ว เราขอแวะซื้อของปลอดภาษี ณ ย่านไฮโซอย่าง Ginza

Day 6 ชิมเมนูเด็ดแสนอร่อยจากตลาดปลาสดซึกิจิ และชมความเลอค่าของ Imperial Palace

เริ่มแรก สังเกตว่ามีป้ายสัญลักษณ์รูปปลา ว่าเรามาถึงที่แล้ว แต่อากาศยังคงหนาวเย็นอยู่ต่อเนื่อง

มีเห็ดยักษ์ด้วย อยากบินไปเก็บเห็ดกลับมาจัง อิอิ

เราไปหาอะไรกินในย่านนี้กันเถอะ อยากกินซูชิมากๆๆๆ ถ้าทริปนี้ไม่ได้กิน ถือว่ามาไม่ถึงญี่ปุ่น

ระหว่างที่เดินทางหาร้านกิน เราขอแวะรองท้องไปพลางๆ ด้วยไข่หวานยักษ์เจ้าเด็ดของตลาด วันนั้นส้มน่าจะกินไป 2 ชิ้นเลยนะ

ในที่สุดก็หาร้านเจอสักที ร้านซูชิเยอะไปหมดเลือกไม่ถูกเลย สุดท้ายเลยมาลงที่ร้านนี้ รูปแบบร้านมีการตกแต่งด้วยไม้ แนวๆ ชายหาด ซูชิและซาซิมิที่นี่คือสด สะอาด และอร่อยกว่าที่ทำขายในไทยด้วย แต่ในญี่ปุ่นไม่มีซูชิปูอัดนะจ้าา พูดแบบนี้ไม่ได้กินซาชิมินานแล้ว อยากกินอีกจังเลย

อิ่มซูชิแล้ว เดี๋ยวเราเดินย่อยชมร้านค้าในตลาดกันหน่อย ร้านค้าเยอะมากๆๆๆ น่าซื้อหมด

เสร็จภารกิจเดินเที่ยวในตลาดปลาแล้ว เดี๋ยวเราไปตะลุยความเลอค่าที่พระราชวังอิมพีเรียลกันๆๆๆ

ที่นี่เป็นวัด Tsukiji Hongwanji เป็นวัดที่เก่าแก่และสวยงามเลอค่ามาก

เรากำลังจะเดินไปยัง Imperial Palace มันก็จะเดินไกลหน่อย ระหว่างทางชมวิวธรรมชาติตรงมือซ้ายของทางเดิน ส่วนทางขวาก็เป็นถนนและตึกสวยงาม

เดี๋ยวเราเดินทะลุถนนปูพื้นซีเมนต์แล้วข้ามถนนไปน้าา

ตอนนี้มาถึงที่แล้ว ได้ชมสะพานและพระราชวังอันเลอค่า รวมถึงป่าชายเลนธรรมชาติที่อยู่แล้วสดชื่นและสบายตา

มาถึงที่แล้วต้องมาถ่ายรูปหน่อย จะบอกว่ามุมถ่ายรูปเยอะมากๆๆๆๆ

นี่คืออนุสาวรีย์คูซูโนกิ มาซาชิเงะ อยู่ตรงข้ามพระราชวังอิมพีเรียลนี่เองค่ะ

มีตึกสวยงามสไตล์ยุโรปด้วย

ก่อนกลับที่พัก เราขอแวะซื้อของซื้อเครื่องสำอางที่สถานีขนส่งโตเกียวกันหน่อย

Day 7 เตรียมตัวกลับไทย

ก่อนเช็คเอาท์ออกจากที่พัก กับมื้อสุดท้ายของทริป ร้านใกล้ๆ หอพักนี่เอง

ตอนนี้ได้เช็คเอาท์ออกจากที่พักแล้ว กำลังจะนั่งรถไฟ Airport Link ไปยังสนามบินนาริตะ เราได้เก็บภาพสถานที่ไว้เป็นความทรงจำ รู้สึกใจหายมาก อยากเที่ยวต่ออีกอาทิตย์นึงจัง

เราได้มาถึงสนามบินนาริตะแล้ว แงๆๆๆ ไม่อยากกลับเลย ก่อนขึ้นเครื่องก็มีแวะซื้อของในสนามบิน รู้ป่ะ! คือเราเกือบตกเครื่องแล้วด้วย ขึ้นเครื่องตอนเที่ยงๆ ไปถึงไทยตอนทุ่มนึง

ทริปเที่ยวจบนานแล้ว แต่ความทรงจำยังไม่จบเลย รู้สึกอยากเที่ยวอีกมากๆๆๆ หมดโควิดเมื่อไรเราจะเตรียมจองตั๋วเที่ยวอีกได้เลย ตอนนี้ได้แต่เที่ยวทิพย์ด้วยการดูหนังหรือสารคดีไปก่อนน้าา หวังว่าจะมีเที่ยวทริปจริงๆ ในอนาคตอีกแน่นอน ไม่ใกล้หรือไกลก็ตาม 

วันนี้ลาไปก่อน บ๊าย บายจ้าา


iamsomsom

iamsomsom

สวัสดีค่ะ เราชื่อส้ม หรือ ส้มส้ม
เกิดปี 2537/1994 (อายุให้ไปคำนวณเอาเอง)
สีผิวขาวเหลือง-สองสี
สภาพผิวผสม-มัน-ขาดน้ำ
ปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ บ้างก็มีสิวขึ้น รอยดำจากสิวหายช้า
เส้นผมหยักศก
ฝากกดติดตามช่องทางของส้มให้ด้วยน้าาา
YouTube: iamsomsom
Fanpage: Iamsomsom
Twitter: @iamsomsom94
IG: @iamsomsom94 และ​ @iamsomsom​_review

ติดต่องาน
FB: Som​ Nopparat​
line: zomnewline
e-mail: som.nopparat@gmail.com
nongsom.np@gmail.com
099-016-8640

FULL PROFILE