CC Cream ผิวเนียนใสทันใจ!

49 19
WITH <strong>Cathy Doll</strong> / ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ในเนื้อหาบางส่วน ;)

แม้จะ Work form home แต่ผิวก็ต้องสวยไว้ก่อนเมื่อต้องประชุม Zoom

ซึ่งแน่นอนว่าถ้าต้องโบกรองพื้นหนาเตอะทุกวันก็คงไม่ไหว มีหวังอุดตันชัวร์!


ดังนั้นสิ่งที่ช่วยให้ผิวดูไบร์ท เนียนสวย เป็นธรรมชาติ ที่นอกเหนือจากรองพื้นแล้วก็ต้องยกให้ซีซีครีมเลย เพราะถึงแม้ประสิทธิภาพในการปกปิดจะไม่ได้เทียบเท่ารองพื้นหรือบีบีครีมก็ตาม แต่ก็ช่วยในเรื่องปรับสีผิวให้กระจ่างใส ดูสม่ำเสมอ แถมเนื้อบางเบากว่า ถือว่าตอบโจทย์ยุคนี้ได้ดีเลยนะเออ!


ข้อดีของ CC Cream คือ

เน้นการปรับสีผิวให้สว่างใส สีผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ ไม่หนามาก ปกปิดในระดับผิวยังดูเป็นผิวธรรมชาติอยู่ แต่ก็อำพรางริ้วรอยด่างดำ หมองคล่ำได้อย่างเป็นธรรมชาติ   ในวันไม่ต้องการแต่งหน้าแน่นมาก เจ้าซีซีครีมถือว่าช่วยลดขั้นตอนการแต่งหน้าไปได้พอสมควร แถมเนื้อครีมบางเบาไม่หนักเหมือนรองพื้น ซึ่งถ้าเน้นแต่งหน้าลุคเบาๆ เน้นโชว์ผิว CC Cream ตอบโจทย์เลยล่ะ

ซึ่งพลอยเองก็มี CC ตัวโปรดอยู่ 2แบรนด์ ที่หยิบมาใช้บ่อยๆคือของ Cathy Doll แต่ก็จะมีเพื่อนชอบมาเป่าหูว่า แก! ลองใช้ซีซีครีม Sekkisei ตัวนี้ดูสิ! ใช้ดีนะ…และแน่นอนพลอยเองก็ทนแรงกดดันไม่ไหวแหละ เลยสอยมาลองซะเลย!


และในวันนี้พลอยจึงได้หยิบซีซีครีมทั้ง 2 ตัวมาประชันกันสักหน่อย มาดูว่าใครจะเริศที่สุด? ใช้แล้วเป็นอย่างไร? มาดูคำตอบของพลอยในกระทู้นี้ได้เลยจ้า…

เริ่มต้นเปรียบเทียบเนื้อครีมกันก่อนเลย…


Cathy Doll - เนื้อครีมบางเบา มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ทั้งยั้งเนียนนุ่ม ลื่น เกลี่ยง่าย มีความแตกตัวเป็นน้ำเมื่อทาลงบนผิว และมีเฉดสีให้เลือกถึง 4 เฉด ซึ่งสีที่พลอยเลือกใช้คือ #03 Medium Beige จะเป็นโทนสีเนื้อ อมเหลือง เหมาะกับผิวธรรมชาติ ผิวสองสี


Sekkisei - เนื้อครีมมีความหนืดนิดๆ ใช้เวลาเกลี่ยบนผิวพอสมควรเมื่อเทียบกับ Cathy Doll และมีเฉดสีให้เลือกน้อย ที่พลอยใช้อยู่คือ #02 Ochre เป็นเฉดสีที่มีความเหลืองอมชมพู เหมาะสำหรับผิวโทนขาวอมชมพู ผิวธรรมชาติ

มาดูคุณสมบัติของ CC Cream ทั้ง 2 ตัว กันต่อเลยดีกว่า


Cathy Doll Speed White CC Cream SPF 50 PA+++

ขนาด 50 ml. | ราคา 275 บาท


ตัวนี้เป็นซีซีครีมที่พลอยใช้มาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายตั้งแต่แพ็คเกจยังเป็นลายเสือ จนตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นแพ็คเกจสีชมพูสุดหวานแหวว นับว่าเป็นซีซีครีมแบรนด์ที่พลอยเลือกใช้มานานพอสมควรเลยล่ะ แต่ตอนนี้ก็มีการปรับสูตรใหม่มาแล้ว ซึ่งเป็นสูตรที่เพิ่ม เรื่องบำรุงช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง เพราะมีการเพิ่มส่วนประกอบของ Chroma bright ที่เป็นไวท์เทนนิ่งที่มีประสิทธิภาพสูงที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำได้ดีกว่าวิตามินซีและกรดโคจิก และยังมีส่วนประกอบของไฮยาลูรอน อาร์บูติน สารสกัดโรสแมรี่ คาโมมายล์ และชะเอมเทศ ที่ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม กระจ่างใส อาการระคายเคืองลดลง อีกทั้งช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด รังสี UVA, UVB ได้ถึง SPF 50 PA+++ ได้อีกด้วย ถือว่าเป็นซีซีครีมที่รวมคุณสมบัติของการบำรุง+ปรับสีผิว+กันแดด CC Cream หลอดเดียวจบ เหมาะกับผู้ไม่มีเวลา และไม่ต้องการลงรองพื้นหลายขั้นตอนเลยก็ว่าได้ แล้วอีกอย่างคือไม่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ กับพาราเบน ดังนั้นคนผิวแพ้ง่ายใช้ได้ ไม่อุดตันจ้า

สำหรับเฉดสีของซีซีครีม Cathy Doll มีให้เลือกใช้ทั้งหมด 4 เฉดสี


#01 Light Beige ผิวโทนขาว

#02 Green ผิวโทนขาว เน้นปกปิดรอยแดง

#03 Medium Beige ผิวธรรมชาติ ผิวสองสี

#04 Hooney Beige ผิวสีน้ำผึ้ง


และเฉดที่พลอยใช้ คือ #03 Medium Beige นั่นเองค่ะ ซึ่งเนื้อซีซีครีมตัวนี้จะมีความพิเศษตรงที่แตกตัวเป็นน้ำแร่ทันทีเมื่อทาลงบนผิว! และเนื้อ CC มีความบางเบาสบาย ไม่อุดตัน ไม่เลอะแมสก์ง่าย แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆแบบหอมหวานละมุนด้วยนะ


แล้วพอทาลงบนผิวแล้วเนื้อจะเกลี่ยได้ง่ายมาก และยังแห้งไว ไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะผิว จะรู้สึกว่าผิวมีความชุ่มชื้นขึ้นซะมากกว่า ซึ่งผิวหลังทาจะดูมีความชุ่มชื่นเงาๆเด้งๆ แต่ไม่ได้เหนอะหรือมันนะค่ะ ผิวดูเรียบเนียนขึ้น คือ เปลี่ยนผิวโทรมให้เป็นผิวใสได้ทันทีเลยล่ะ ส่วนการปกปิดอำพรางรอยสิว รอยดำนั้นก็ได้ในระดับปานกลาง (อาจจะไม่ได้เนียนกริบเทียบเท่ารองพื้น ซึ่งใครที่มีรอยสิวเยอะๆ หรือมีรอยแผลอาจจะต้องใช้คอนซีลเลอร์เพิ่มเติม) แต่ก็มีประสิทธิภาพการคุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อในระดับที่ดีเลยล่ะ แถมการตกร่องก็ค่อนข้างน้อย ใช้กระดาษ หรือ พัฟแตะๆออกหน่อยผิวก็กลับมาสวยเหมือนเดิมค่ะ

ประสิทธิภาพเรื่องคุมมัน


ส่วนตัวพลอยแล้วถือว่าทำได้ดีเลย แต่ผิวอาจจะไม่ได้ดูแมตต์ตลอดทั้งวันนะ จะมีความฉ่ำวาวขึ้นเล็กน้อยเมื่อผ่านไป 6 ชั่วโมง แล้วก็เกิดคราบ การตกร่องค่อนข้างน้อยค่ะ


ความรู้สึกหลังใช้​​​​


เรื่องความเบาสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ คือทำได้ดีเลย! ทั้งยังช่วยให้ผิวดูสวยเป็นธรรมชาติยาวนาน การปกปิด คุมมันก็ทำได้ดีในระดับปานกลาง ไม่หนักผิวเลย และยังมีเฉดสีที่เข้ากับสีผิว ไม่โดด วอกลอยไปกว่าผิวจริง และที่ชอบสุดเลยคือเนื้อครีมที่แตกตัวเป็นน้ำแร่ เพราะเมื่อทาแล้วจะเกลี่ยง่ายมาก นุ่มลื่น แห้งไวสุดๆ แถมยังมีราคาที่ถูกเพียง 275 บาท หาซื้อได้ง่ายที่ Karmart Online, Wastons, Top และยังมีขนาดทดลองแบบซองจำหน่ายที่ 7 - 11 อีกด้วย ดังนั้นคะแนนความประทับใจคงหนีไม่พ้น 5/5 คะแนนจ้า

Kose Sekkisei White CC Cream SPF50+ PA++++

ขนาด 26 ml. | ราคา 765 บาท


ซีซีครีมแบรนด์ดัง สูตรอำพรางจุดบกพร้องของผิวให้ดูเรียบเนียน ชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี โดยรวมคุณสมบัติของเซรั่ม อิมัลชั่น ครีมกันแดด เมคอัพเบส และครีมรองพื้นไว้ในหลอดเดียว! พร้อมทั้งอุดมไปด้วยสารความงามที่ช่วยบำรุงผิวจากสมุนไพรตะวันออกกับสารบำรุงอื่นๆ เช่น Snow Hydration Essence, Snow Crytal Powder, Amino Acid Coat Powder ที่ทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่ทำให้แห้งกร้าน แล้วยังช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน เปล่งปลั่ง แถมยังติดทนทานตลอดทั้งวัน ที่สำคัญมีสารกันแดดสูงถึง SPF50+ PA++++ ที่ช่วยป้องกันผิวจากการโดนทำร้ายจากแสงแดด UVA, UVB และยังปราศจากส่วนประกอบของน้ำมัน จึงไม่ก่อให้เกิดการอุดตันได้ง่าย


เฉดสีจะมีให้เลือกเพียง 2 เฉด คือ

01 Light Ochre โทนผิวธรรมชาติ (โทนเหลือง)

02 Ochre โทนผิวธรรมชาติ (โทนชมพู)


สีที่พลอยใช้นั้นเป็นเฉดเบอร์ 02 Ochre ซึ่งจริงๆแล้วเป็นโทนที่เหมาะกับคนที่มีผิวโทนชมพูซะมากกว่า แต่ที่เลือกเฉดนี้ เพราะส่วนตัวพลอยคิดว่าเฉด 01 Light Ochre ถึงแม้จะเหมาะกับผิวโทนเหลือง แต่สีเนื้อค่อนข้างขาวกว่าผิวพลอยไปนิด เลยเลือกหยิบเฉดเบอร์ 02 Ochre ที่มีสีดรอปลงกว่ามาใช้ค่ะ

ด้านสัมผัสเนื้อของซีซีครีม Sekkisei นั้นจะมีความหนืดเล็กน้อย แต่เกลี่ยง่าย และมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ (กลิ่นไปทางสมุนไพร) โดยส่วนตัวแล้วพลอยไม่ค่อยชอบกลิ่นแบบนี้เท่าไหร่ค่ะ


ซึ่งเมื่อทาลงบนผิวแล้วจะรู้สึกหนึบๆผิวในช่วงแรก พอปล่อยทิ้งไว้สักพักผิวจะเริ่มมีความแมตต์ขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้แมตต์จนแห้งเกินไป ยังคงให้ผิวดูมีความเป็นงานผิว ออกแนวฉ่ำโกล์วๆอยู่ ไม่รู้สึกว่าหนักผิวมากนัก ส่วนเรื่องการปกปิดนั้นก็กลบรอยสิว รอยแดงได้ปานกลาง ถ้าเป็นรอยดำจะกลบได้ไม่ค่อยกริบนัก แล้วสัมผัสผิวหลังทาจะรู้สึกว่าผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้นขึ้นทันที ช่วยให้ความมันลดลงในระดับหนึ่ง และถึงแม้ว่าจะเลือกใช้ซีซีครีมโทนที่มีความอมชมพู แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผิวดูดรอปหมอง หรือ ดูวอกเกินไป

ประสิทธิภาพเรื่องคุมมัน


ถือว่าก็ไม่แย่นัก สามารถคุมมันได้ดีในช่วง 2 - 3 ชั่วโมงแรกหลังทา และเมื่อผ่านไปมากกว่า 4 ชั่วโมง ผิวบริเวณจะมีความมันขึ้นมาชัดเจน และมีตกร่องบ้างช่วงสันจมูก (เพราะพลอยใส่แว่นตาทำงานทั้งวัน) กับร่องใต้ตาค่ะ


ความรู้สึกหลังใช้


เป็นซีซีครีมเนื้อหนืดเล็กน้อย แต่ก็บางเบา เกลี่ยได้ง่ายอยู่นะ ให้ความปกปิดผิว รอยสิวในระดับกลางๆ ไม่ได้ทำให้รู้สึกหนา หรือ หนักผิวจนเกินไป ทาแล้วผิวมีความเนียนเป็นธรรมชาติ เหมาะแก่การทาในวันที่ไม่อยากใช้รองพื้น อยากรู้สึกสบายผิว ส่วนเรื่องความติดทน คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อนั้นก็ทำได้ดีพอสมควร จึงให้คะแนนความประทับใจอยู่ที่ประมาณ ⅘ คะแนน ขอหักตรงที่มีเฉดสีให้เลือกน้อย และไม่ชอบกลิ่นแนวสมุนไพรเท่าไหร่ค่ะ

ทดสอบการคุมมัน


โดยการนำซีซีครีมทั้ง 2 แบรนด์ ทาลงบนกระดาษซับมัน และสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ซึ่งจะได้ผลรับที่ว่าทั้ง 2 แบรนด์จะคุมมันได้ใกล้เคียงกันในชั่วโมงที่ 3 แต่พอผ่านไปชั่วโมงที่ 5 เมื่อสังเกตชัดๆจะเห็นว่าแบรนด์ Sekkisei ความมันจะออกเยอะกว่า Cathy Doll เล็กน้อย

เปรียบเทียบผลลัพธ์เมื่อได้ใช้ซีซีครีมทั้ง แบรนด์

โดยให้คะแนนแยกได้ตามนี้

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าซีซีครีมที่ใช้แล้วดี ชอบสุด! สำหรับพลอยต้องยกให้ Cathy Doll เลยจ้า สุดท้ายก็นอกใจไม่ได้ กลับมาซบไหล่เหมือนเดิม :) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า Sekkisei ไม่ดีนะ คือ ใช้ดีเหมือนกัน แต่ราคาจะแอบแรงกว่า แถมมีเฉดสีให้เลือกน้อยค่ะ


และนี่ก็คือข้อมูลจากการใช้งานจริงของพลอยค่ะ ซึ่งผลลัพธ์การใช้งานมันขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย เพราะฉะนั้นจึงอยากให้ทุกคนได้ลองใช้ และเปรียบเทียบดูด้วยตนเองด้วยนะคะ หากข้อมูลไม่ครบถ้วนอย่างไรต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านรีวิวของพลอยจ้า


Ploy Thatsani

Ploy Thatsani

สวัสดีค่ะ ชื่อ พลอย นะคะ ปัจจุบันอายุ 28 ปี ทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยที่ราบสูงแดนอีสาน ณ โคราช และมีลูกๆที่น่ารัก 2 คน แถมมีน้องเหมียวฮีลใจด้วยอีก 1 ตัว ❤️

ส่วนตัวชื่นชอบการรีวิวเรื่องความสวยความงาม สกินแคร์ เมคอัพต่างๆ และ ชอบถ่ายรูปสินค้า สิ่งของ หรืออื่นๆที่ไม่ใช่ตัวเอง 555 ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัว และ ฝากติดตามผลงานกันด้วยนะคะ :)
-----------------------------------------------------
ติดต่องาน
Facebook: Thatsani Yaemmanat
Line: ploy7638
Twitter: ploy_thatsani
IG: ploy_thatsani

FULL PROFILE