สวัสดีค่ะทุกคน ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปไหนกันเลยเพราะสถานการณ์ไม่เป็นใจ หันไปทางไหนก็ระแวง > < ถึงแม้ว่าช่วงนี้เราจะอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหนก็อย่าลืมบำรุงผิวกันด้วยนะคะ เพราะอากาศร้อนๆ แดดแรงๆ แบบนี้ หรือแม้แต่สาวๆ ที่อยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานานๆ ผิวของเราจะสูญเสียความชุ่มชื้นแบบไม่รู้ตัวกันเลย

อากาศร้อนๆ ก็ต้องหาอะไรที่ชุ่มฉ่ำๆ แต่บางเบาไม่เหนอะหนะมาบำรุงผิวกันหน่อย 

Sui-ka Facial Essence Treatment หรือน้ำตบแตงโมที่ในนาทีนี้ใครๆ ก็พูดถึง เราว่าน้องเค้าเป็นน้ำตบที่มีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากๆนะคะ  เพราะเค้าสามารถให้ความชุ่มชื้นยาวนานถึง 72 ชั่วโมง และยังช่วยให้ผิวแข็งแรงมากขึ้นด้วย

Sui-ka Softening & Hydration Facial Essence Treatment

สูตรนี้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและล็อคความชุ่มชื่นยาวนาน 72 ชั่วโมง เหมาะกับคนที่มีสภาพผิวแห้ง ช่วยปรับสภาพผิวให้กลับมานุ่มเด้งมีชีวิตชีวา และทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวจากแสงแดดและมลภาวะ

ส่วนประกอบที่สำคัญ

• WATERMELON EXTRACT (สารสกัดแตงโมจากทะเลทรายคาราฮารี) :  ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และอนุมูลอิสระ

• PENTAVITIN : ช่วยล็อคความชุ่มชื้นให้ผิว โดยดูดซับความชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงตามธรรมชาติ

• MOSSCELL (สารสกัดจากมอสส์) : ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เรียบเนียน ลดความหยาบกร้าน และช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ

เนื้อเอสเซนส์บางเบา ใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เกลี่ยง่าย ซึมเข้าสู่ผิวไว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวในทันทีที่ใช้ เหมาะที่จะนำมาใช้ในการเตรียมผิวเพื่อการบำรุงในขั้นตอนต่อไป

Sui-ka Brightening & Aging Facial Essence Treatment  

สูตรนี้เหมาะกับคนที่ต้องการให้ผิวกระจ่างใสและลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวนะคะ ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวจากแสงแดดและมลภาวะ ลดการอักเสบ การระคายเคือง และไม่ทำให้ผิวบางลง

ส่วนประกอบที่สำคัญ

• WATERMELON EXTRACT (สารสกัดแตงโมจากทะเลทรายคาราฮารี) :  ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และอนุมูลอิสระ

• ALPHA ARBUTIN : ช่วยยับยั้งกระบวนการทำงานของการผลิตเม็ดสีเมลานิน ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ เรียบเนียน กระจ่างใส

• CAPRYLYL 2-GLYCERYLASCORBATE : ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

เนื้อเอสเซนส์บางเบา ใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เกลี่ยง่าย ซึมเข้าสู่ผิวไว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวในทันทีที่ใช้ เหมาะที่จะนำมาใช้ในการเตรียมผิวเพื่อการบำรุงในขั้นตอนต่อไปอีกเช่นกัน

ผลลัพธ์ที่ได้

เราใช้ทั้ง 2 ตัว สลับกันทั้งเช้าและเย็นเลยนะคะ โดยสูตร Softening & Hydration เราจะใช้ในช่วงกลางวันเพราะผิวต้องเจอกับสภาพอากาศที่ทำให้สูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ส่วนสูตร Brightening & Aging เราจะใช้ในช่วงกลางคืนเพื่อให้เค้าช่วยฟื้นฟูผิวและกระตุ้นการสร้างคลอลาเจนในช่วงที่นอนหลับ เราชอบที่ทั้ง 2 ตัวช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น สบายผิว เตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไปได้มากขึ้น เพราะผิวที่ชุ่มชื้นจะบำรุงอะไรเข้าไปก็ได้ผลดี

สาวๆ ลองใช้แล้วได้ผลลัพธ์ยังไงกันบ้าง เอามาเม้าท์ๆ กันนะคะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม 

แล้วพบกันใหม่ค่ะ