มาเช็คตัวเองสักนิด ก่อนคิดใช้ Oil บำรุงผิว

41 13
สวัสดีค่าทุกคน กระทู้นี้เจาะลึกเฉพาะคนที่รักออยล์ (Oil) เท่านั้นเลยค่ะ  วันนี้เรามีงานวิเคราะห์ส่วนผสม Skincare ประเภทออยล์มาฝากกันค่ะ
เคยได้ยินไหมคะว่า ออยล์ทำให้ผิวอุดตั้น คนหน้ามันห้ามใช้ออยล์
อีกหลายความเข้าใจผิดเกี่ยวกับออยล์  

เดี๋ยววันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักออยล์เพิ่มขึ้นกันค่ะ

มาเริ่มกันด้วยการทำความรู้จักกับสภาพผิวกันก่อนนะคะ ลองเช็คลิสต์ดูว่าผิวแบบไหนที่ใช่เรา
ผิวธรรมดา (Normal Skin) ถือว่าเป็นผิวที่มีความสมดุลที่สุด ไม่มันและไม่แห้งจนเกินไป เพราะผิวมีการผลิตน้ำมันได้สมดุล ผิวเนียนเรียบ อ่อนนุ่ม รูขุมขนเล็ก เรียกง่าย ๆ ว่าผิวสุขภาพดีนั้นเอง ซึ่งก็น้อยคนมีผิวแบบนี้ ถือว่าโชคดีมากๆค่ะ
ผิวแห้ง (Dry Skin) เป็นผิวที่ละเอียดบอบบางและเกิดริ้วรอยได้ง่าย เนื่องจากมีการผลิตน้ำมันที่น้อยกว่าผิวธรรมดา เพราะผิวขาดกรดไขมันที่จำเป็นในการรักษาความชุ่มชื้น ทำให้ความรู้สึกหยาบกร้านและดูหมองคล้ำได้ง่าย ซึ่งเมื่อเราอายุมากขึ้น เราจะยิ่งผิวแห้งขึ้นค่ะ
ผิวมัน (Oily Skin) ผิวมีลักษณะ เงา มันวาว มีการผลิตน้ำมันในปริมานที่มาก คนผิวมันจะมีผิวที่ค่อนข้างหยาบ รูขุมขนใหญ่ และมองเห็นรูขุมขนได้ชัดเจน มีแนวโน้มที่เป็นสิวร่วมด้วย ซึ่งในช่วงวัยรุ่นหลายคนจะมีผิวมันแบบชัดเจนเลยค่ะ
ผิวผสม (Combination Skin) ผิวผสม ระหว่างผิวธรรมดาหรือผิวแห้งกับผิวมัน มีการผลิตน้ำมันมากบริเวณ T-Zone (หน้าผากคางและจมูก) ส่วนบริเวณที่ผิวแห้งเกิดจากการขาดน้ำมัน ช่วงบริเวณโหนกแก้มและข้างแก้ม คนที่มีผิวชนิดนี้มักจะมีสิวหัวดำ บริเวณจมูก และมีสิวขึ้นบริเวณหน้าผากและคาง
ผิวแพ้ง่าย (Sensitive skin) ผิวที่ระคายเคืองง่ายและบอบบางมากๆ กับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น อากาศ ฝุ่น กระดาษทิชชู่ หรือแม้แต่มือตัวเอง เรียกว่า มีปัญหาแพ้ง่าย แดง ระคายเคืองง่ายต่อผลิตภัณฑ์ทั่วไป มักเกิดอาการ แห้งลอก บวมแดง เป็นผื่นแพ้ แสบรวมถึงคันลักษณะของผิวแพ้ง่าย

ที่นี้มาเข้าเรื่องกันค่ะ ว่าทำไมเราควรใช้ออยล์ในการบำรุงผิวหน้า

เรารู้กันอยู่แล้วว่า น้ำเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นของผิว ถ้าผิวมีน้ำในระดับที่เหมาะสม ผิวเราก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในแต่ละวันเราต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆ อยู่ในห้องแอร์ เจอแดด เจอลม ดื่มน้ำน้อย ทำให้น้ำในผิวเราระเหยออกไปเรื่อยๆ ซึ่งก็จะเกิดกระบวนการสร้างน้ำมันขึ้นมาเคลือบผิว ที่นี้แหละค่ะปัญหาผิวก็จะตามมาอย่างแน่นอน

เราจึงจำเป็นต้องรักษาสมดุลให้ผิวด้วยการใช้ออยล์ เพื่อเติมความชุ่มชื้นและรักษาน้ำในผิว เพื่อให้ผิวเราทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการผลัดเซลล์ ซ่อมแซมตัวเอง สร้างเนื้อเยื่อต่างๆ เห็นไหมคะ ว่าออยล์มีความจำเป็น ไม่ว่าสภาพผิวแบบไหนก็สามารถใช้ออยล์ได้อย่างแน่นอนค่ะ

สำหรับส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวมีอยู่หลายตัวเลย แต่เราจะเน้นไปที่สารสกัดที่นอกจะชุ่มชื้นแล้ว ยังสามารถช่วยเคลือบผิวไม่ให้น้ำระเหยไปในอากาศด้วย
ซึ่งสารสำคัญที่ออยด์จำเป็นต้องมีคือ ลิโนเลอิก (Linoleic) และโอเลอิก (Oleic) ที่เป็นไขมันที่ได้จากธรรมชาติ ซึ่งเหมาะกับการรักษาสมดุลบนผิวเราอย่างมากที่สุด แต่ต้องบอกก่อนว่าสารทั้งสองตัวเนี่ย ไม่ได้เหมาะกับทุกสภาพผิวนะคะ  
ลิโนเลอิก (Linoleic) เป็นสารสำคัญพวกกรดไขมันที่มีคุณสมบัติในการช่วยควบคุมการผลิต Sebum ในผิว ช่วยลดความมัน ความหนืดในรูขุมขนได้ และยังช่วยยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ที่มีผลต่อการสร้างเมลานิน และช่วยทำลายเม็ดสีด้วย ช่วยลดการอักเสบ ช่วงหลังๆมีการนำสารตัวนี้ไปอยู่ในกลุ่มไวเทนนิ่ง รักษาฝ้า กระ สิวเพิ่มมากขึ้นด้วย น้ำมันที่มีเปอร์เซนต์ของ Linoleic acid สูง จะมีเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมเร็วจึงเหมาะกับคนผิวมัน เป็นสิว
ส่วนโอเลอิก (Oleic) เป็นอีกสารสำคัญ ที่พบได้ในน้ำมันธรรมชาติเช่นกัน ด้วยคุณสมบัติความมันจากน้ำมันธรรมชาติทำให้กักเก็บความชุ่มชื้นได้สูง ซึมซับได้ดีเข้ากับผิว ดังนั้น จึงไม่อุดตัน ไม่ก่อให้เกิดสิว นอกจากคุณสมบัติช่วยเติมน้ำให้ผิวแล้ว ยังช่วยลดอาการอักเสบต่างๆในผิวอีกด้วย จะเหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง แพ้ง่าย 
 
ซึ่งวันนี้เราคัดออยล์ตัวที่มีสารสกัดเด่นอย่างลิโนเลอิก (Linoleic) และโอเลอิก (Oleic) มาวิเคราะห์ให้เพื่อนๆกัน ซึ่งตัวที่เราคัดมาอาจจะนอกกระแส หรือคนเอามาพูดถึงน้อย แต่คุณภาพแน่น เพื่อจะได้ให้ทุกคนมีข้อมูลที่เป็นทางเลือกใหม่ๆกันค่ะ
Virgin Marula Luxury Facial Oil จาก Drunk Elephant (ราคา 1,540 บาท)

สารสกัดหลักเป็นน้ำมันสกัดจากเมล็ดมารูล่า (Marula) มี Oleic Acid สูง 70-78% ซึ่งสูงกว่า Linoleicค่อนข้างมาก และใช้วิธีการสกัดเย็นซึ่งรักษาคุณภาพจากสารสกัดไว้ได้ดี และมีสารโพลิฟีนอล (POLYPHENOLS) ซึ่งทำให้เนื้อสัมผัสค่อนข้างหนัก ควรใช้ช่วงกลางคืนเพื่อฟื้นฟูผิว โดยจุดเด่น คือ ต่อต้านอนุมูลอิสระ เน้นช่วยในเรื่องลดริ้วรอย เหมาะกับผิวที่เริ่มมีริ้วรอย และแห้งกร้าน เหมาะสำหรับสภาพผิว: ผิวแห้งมาก / ผิวมีริ้วรอย
VineActiv Overnight Detox Oil จาก Caudalie (ราคา 2,030 บาท)

สารสกัดหลัก คือ น้ำมันเมล็ดองุ่น (Grape Seed) เปอร์เซนต์ของกรด Linoleic (63-72%) สูงกว่ากรด Oleic (21%) เรียกว่าเป็น Dry oil คือ ซึมไว ไม่ทิ้งความมันบนผิว คุณสมบัติหลักช่วยป้องกันแบคทีเรียและทำความสะอาดรูขุมขน ขึ้นชื่อว่าเหมาะกับคนที่เป็นสิว ช่วยให้สิวแห้งเร็ว และลดการอักเสบของผิว แต่จากคุณสมบัติก็ยังไม่สามารถเสริมให้ผิวแข็งแรงขึ้นได้ เหมาะสำหรับผิว: ผิวมัน / ผิวเป็นสิว
Noni Glow Face Oil จาก Kora Organics (ราคา 2,390 บาท)

สารสกัดหลักของตัวนี้ คือ น้ำมันจากเมล็ดของดอกทานตะวัน (Sunflower) มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว โดยเฉพาะกรดลิโนเลอิก (Linoleic Acid) สูงกว่ากรด Oleic เช่นกัน แต่จะมีความพิเศษที่มีวิตามินอีเพิ่มเข้ามา ซึ่งถ้าอยู่ในออยล์จะช่วยในการทำความสะอาด ละลายเครื่องสำอางค์หรือสิ่งสกปรกได้ดี ซึ่งเหมาะกับใช้เป็นออยด์เพื่อการล้างหน้ามากกว่าบำรุง เพราะ จะช่วยกักเก็บน้ำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เหมาะสำหรับผิว: ผิวธรรมดา / ผิวมัน
Noni Glow Face Oil จาก Kora Organics (ราคา 2,390 บาท)

สารสกัดหลักของตัวนี้ คือ น้ำมันจากเมล็ดของดอกทานตะวัน (Sunflower) มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว โดยเฉพาะกรดลิโนเลอิก (Linoleic Acid) สูงกว่ากรด Oleic เช่นกัน แต่จะมีความพิเศษที่มีวิตามินอีเพิ่มเข้ามา ซึ่งถ้าอยู่ในออยล์จะช่วยในการทำความสะอาด ละลายเครื่องสำอางค์หรือสิ่งสกปรกได้ดี ซึ่งเหมาะกับใช้เป็นออยด์เพื่อการล้างหน้ามากกว่าบำรุง เพราะ จะช่วยกักเก็บน้ำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เหมาะสำหรับผิว: ผิวธรรมดา / ผิวมัน
Emerald Hemp Seed Deep Moisture Glow Oil จาก Herbivore (ราคา 2,000 บาท)

สารสกัดตัวนี้ ได้จากน้ำมันเฮมพ์ (Hemp Seed ) ได้มาจากการสกัดน้ำมันที่อยู่ในเมล็ดกัญชง เปอร์เซนต์ของ Linoleic (22%) และ Oleic (54%) ถือว่าสูง แต่ในส่วนของวิตามินอื่นๆจะค่อนข้างน้อย ซึ่งจะช่วยในเรื่องให้ความชุ่มชื่นเพียงอย่างเดียว ปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน ลดความมันส่วนเกินใต้ผิว ทำให้ผิวผ่อนคลายและลดอาการระคายเคือง เหมาะกับผิวแห้ง-ผิวผสม
ใครที่เคยคิดว่าผิวแบบตัวเองไม่น่าใช้ออยล์ได้ และคนทุกคนที่เล็งไว้ว่าอยากเริ่มต้นใช้ออยล์ แต่ไม่รู้จะเลือกยังไง หวังว่าข้อมูลนี้น่าจะช่วยให้ทุกคนมีแนวทางในการตัดสินใจชื้อได้มากขึ้นนะคะ แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้าค่ะ  


Foongreview999

Foongreview999

สวัสดีค่าา เราคือ "วาว และ ขนุน" นะคะ
-----------------------------------------------------------------------------------
ฝากติดตามรีวิวของพวกเราด้วยนะคะ ทุกอย่างผ่านการทดลองมาแล้ว รีวิวตามการใช้งานจากพวกเราค่ะ ^^
-----------------------------------------------------------------------------------
วาวสภาพผิวหน้า : ผิวมัน+แพ้ง่าย มีสิวผดเฉพาะหน้าผาก
ผิวกาย : ผิวแห้ง
ผม : ผมหนา ทำสี ผมเส้นใหญ่
ปาก : ปากแห้ง
-----------------------------------------------------------------------------------
ขนุนสภาพผิวหน้า : ผิวแห้ง + แพ้ง่าย รูขุมขนกว้าง มีสิว-หลุมสิว-รอยสิว
ผิวกาย : ผิวแห้งง่าย
ผม : ผมแห้ง บาง และร่วงง่าย
ปาก : ปากแห้งง่ายมาก

FULL PROFILE