เที่ยวภูเก็ตคนเดียว ไม่ยากอย่างที่คิด!!

      เกิดฟิลว่าอยากไปเที่ยวทะเลคนเดียว  และภาพแรกที่ผุดมาในหัวคือ ต้องเป็นทะเลใต้เท่านั้น!!!!
โดยส่วนตัวเราเป็นคนที่ชอบเที่ยวทะเลมากกก

 ชอบฟังเสียงคลื่น ชอบสีท้องฟ้าเวลาตัดกับสีน้ำทะเล สายลม แสงแดด มันเป็นอะไรที่อิ่มเอมใจทุกครั้งที่ได้ไปสัมผัส ครั้งนี้เราเลือกไปเที่ยวที่ภูเก็ต เพราะทะเลใต้ เขาขึ้นชื่อเรื่องความน้ำใส ทะเลสวยอยู่แล้ว 

จะไปคนเดียวทั้งทีก็ขอเลือกที่ๆมันดีๆหน่อย ยิ่งเป็นช่วงนี้ราคาแพ็กเกจท่องเที่ยวก็คือปังจนน่าใจหาย

เนื่องจากเป็นทริปที่เกิดฟิลอยากเอาร่างกายมาสัมผัสกับน้ำทะเลมากๆ ครั้งนี้ก็จะมีความพุ่งไปหาทะเลเป็นพิเศษ  วันแรกก็ขึ้นเรือไปดำน้ำกันเลยจ้า ไม่รีรออะไรทั้งนั้น

นั่งเรือมาถึงเกาะไข่ซึ่งเป็นจุดดำน้ำของเรา บอกเลยว่าฟ้าสวย ทะเลใส หาดทรายขาวมากก      

แวะถ่ายรูปหนึ่งช็อตระหว่างพักดำน้ำดูประการังโดยเพื่อนใหม่ร่วมเรือเดียวกัน

เสร็จจากเกาะแรกก็ขึ้นเรือไปดูปลาดูประการังที่เกาะอื่นกันต่อ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเราชอบบรรยากาศระหว่างเดินทางมาก น้ำทะเลมันใสมากกกก มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อเลยจริงๆ มองเพลินจนลืมความเหงาไปเลย

กลับเข้าฝั่งมาเดินเล่นย่านเมืองเก่าหรือที่เรียกว่า ชิโนโปรตุกิส อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดภูเก็ต แล้วอย่าลืมกินขนมอาโป๊ง เป็นขนมพื้นเมืองของที่นี รสชาติหวานมัน กลิ่นหอมยั่วใจมาก นี่ไปต่อคิวประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้มา แต่ก็ยอมรอเพราะกลัวจะมาไม่ถึงภูเก็ต 55  

หาจุดชมวิวถ่ายรูปเพลินๆ

อีกหนึ่งจุดที่ถ้าไม่มาก็คือมาถึงภูเก็ต!!! นั่นก็คือแหลมพรหมเทพนั่นเอง ตรงนี้แอบดึงฟิลเศร้าเหมือนกันนะ ถ้าได้มานั่งดูพระอาทิตย์ด้วยกันกับใครซักคนมันต้องดีมากๆเลยอ่ะ

เบรกความเศร้าไว้ก่อน แล้วไปสนุกกันต่อกับฝูงปลาใต้ทะเลดีกว่า

 รอบแรกเราดำผิวน้ำไปแล้ว รอบนี้ขอจัดเต็มแบบ Scuba diving จะรอดหรือจะร่วงก็มารู้กันวันนี่แหละ

งืออออ มันเป็นน่ารัก โลกใต้น้ำมันเหมือนเป็นอีกโลกนึงที่มหัศจรรย์จริงๆนะ เราสามารถดูปลานู่นนี่ไปได้เรื่อยๆโดยที่ไม่เบื่อและไม่อยากขึ้นมาเหนือผิวน้ำเลย อยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้นานๆๆ  

ดำน้ำจนเหนื่อยต้องขึ้นมาเติมพลังกันหน่อย บนเรือเค้าก็จะมีอาหารต่างๆให้เลือกรับประทาน แต่เหนืออาหาร นั่นคือวิวในการทานข้าวเที่ยงวันนี้ วิวเวอร์มาก!! ให้ร้อยเต็มสิบ ไม่หักซักคะแนนเดียว    

ปิดท้ายรูปทริปนี้ด้วยของหวานพื้นเมืองอย่าง โอ๋วเอ๋วน้ำผึ้งมะนาว ให้ความสดชื่นได้ดีมาก พร้อมกลับไปเผชิญโลกกว้างอีกครั้ง
ถือว่าเป็นทริปพักใจที่ได้พักและชาร์จแบตตัวเองไปในตัว  

    การเดินทางไปภูเก็ตคนเดียวของเราในครั้งนี้ ถือเป็นความโชคดีมากที่เพื่อนแนะนำแอพนึงมาให้ ชื่อว่า KLOOK
ถ้าลองกดเข้าไปใน App store รูปร่างหน้าตาแอพก็จะเป็นประมาณนี้ โลโก้พื้นสีส้ม และมีตัว K อยู่ตรงกลางแบบนี้
 

พอกดเข้ามาในแอป ก็จะมีเมนูต่างๆให้เลือก เพราะเอาจริงว่าเวลาจะเดินทางไปไหนแต่ละครั้งเป็นอะไรที่น่าปวดหัวมาก 

ไหนจะจัดตารางเวลาสำหรับที่ที่จะไปในแต่ละวัน จองโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน นู่นนี่นี่นั่น บอกเลยว่าวุ่นวายไปหมด

 แต่มีแอปนี้แอปเดียวก็คือจบ ช่วยเราได้อย่างตรงจุดมากๆ ราคาแพ็กเกจท่องเที่ยวก็คือปังจนน่าใจหาย 

หลังจากกดเลือกจังหวัดหรือเมืองที่จะไปเรียบร้อยแล้ว เค้าก็จะมีแพ็กเกจต่างๆราคาประหยัดมากมายมาให้ได้เลือกสรร จะจิ้มแพ็กไหนก็คุ้มไปหมด และถ้าเราสนใจอันไหน ก็สามารถกดจองได้เลยทันที ไม่ต้องเช็คอีเมลให้วุ่นวาย 

เพราะแค่กดจองทริปของเราก็จะได้รับการยืนยันในทันที

 อย่างแพคเกจที่เราเลือกมา จะเป็นแพคเกจ พีพี พาราไดซ์  ที่จะได้พักผ่อนทั้งเกาะพีพี อ่าวมาหยา เกาะไผ่ และเกาะไข่ จากปกติ 5390 บาท ตอนกดจองเหลือแค่ 3599 บาทเอง คุ้มมากแม่ ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขอบคุณเพื่อนรักที่แนะนำแอพพลิเคชั่นดีๆอย่าง Klook มาให้ ทำให้การเที่ยวภูเก็ตคนเดียวครั้งนี้เป็นเรื่องที่สะดวกสบายมาก

 คอยติดตามโปรโมชั่นจาก Klook ไว้ให้ดีๆ เพราะแอพนี้เขามีดีลเด็ดๆ มาบริการเพียบ ประหยัดทั้งเงินและเวลาเมื่อจองทริปผ่าน KLOOK แค่เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางแล้วแสดงวอชเชอร์จากแอพฯ ก็รับส่วนลดไปเลยเต็ม ๆ ไม่ต้องต่อคิวหรือปริ้นอะไรให้ยุ่งยากเลย และถ้าเราได้ไปเที่ยวในสถานที่สวยๆ หรือเจออะไรดีๆ แบบนี้อีก ไว้จะเก็บมาเล่าให้ฟังใหม่นะคะ บ๊ายบาย