เจาะ Beauty &Fashion สุดอลังการแห่งศตวรรษที่ 17

60 15
ค่านิยมความงามแห่งศตวรรษที่ 17  ( ค.ศ. 1601 ถึง ค.ศ. 1700) จะมีสิ่งใดที่ทำให้พวกเราตื่นเต้นกันบ้าง   มาติดตามกันได้เลยค่ะ

หญิงสาวหลายคนที่เราหยิบยกมาเป็น reference ในนี้ถือเป็น trendsetter ของประเทศมหาอำนาจในยุโรป และไม่ต้องประหลาดใจไปหากได้รู้ว่า สาวงามเหล่านี้เป็นชู้รักของกษัตริย์ แม้จะไม่ใช่ระบบของการรับพระสนมเข้าวังต้องห้ามเพื่อให้กำเนิดรัชทายาทเหมือนกับจีนโบราณ แต่สาวงามที่ได้ชื่อว่าเป็น"อนุ"ของบุรุษผู้สูงศักดิ์และทรงอิทธิพลที่สุดในแผ่นดิน ก็จะได้สิ่งตอบแทนในรูปแบบ sponsorship ที่จะได้รับทั้งเงินทองและเกียรติยศ บรรดาศักดิ์ที่ได้อาจจะไม่ใช่พระสนมหรือโอกาสในการกลายเป็นราชินี แต่หากเป็นที่โปรดปราน ก็จะได้รับการแต่งตั้งด้วยยศที่เชิดหน้าเชิดตาวงศ์ตระกูล ทายาทหน่อเนื้อเจ้าแผ่นดินที่เกิดกับชู้รักจะไม่มีสิทธิ์ในการครองบัลลังก์ แต่หากพระบิดายอมรับว่าเป็นลูกนอกสมรส ก็อาจจะได้รับการแต่งตั้งยศสูงถึงระดับดยุคหรือเลดี้ และแต่งงานกับชนชั้นสูงด้วยกันเพื่อก่อตั้งตระกูลผู้ดีสืบทอดอีกหลายชั่วคน

หญิงสาวหลายคนที่ได้รับการยกย่องถึงความงามจนชื่อเสียงขจรขจายมักจะเปิดตัวในสังคมชั้นสูงด้วยความคาดหวังอย่างแน่วแน่ในการได้รับการ "เลี้ยงดู" จากบุรุษผู้ทรงอิทธิพล  แน่นอนว่าผู้กุมอำนาจสูงสุดย่อมมีมาตรฐานระดับสูงส่งเช่นเดียวกัน   สาวงามในที่นี้จึงดูเริ่ดๆเชิดๆมาพร้อมกับคำว่าเมียน้อย  นั่นมาจากค่านิยมที่แตกต่างจากโลกยุค modern นั่นเองค่ะ


คางอวบอูมไม่ใช่ปัญหาที่ต้องอำพราง แต่เป็นความงามทรงเสน่ห์
ผู้หญิงมากมายในยุคนี้รู้จักมุมหน้าเรียว หากมีเหนียงน้อยๆ ก็หาองศาที่สามารถอำพรางไม่โผล่ใน selfie  แต่เมื่อหลายร้อยปีก่อน  ผู้หญิงเค้าเชิดหน้าโชว์คางอุยๆ ที่ดูนุ่มนิ่ม



มุมการโพสที่คุณต้องได้เห็นจากสตรีช้นสูงในยุคนี้คือการเชิดหน้าน้อยๆ จิกตามอง และโชว์เหนียง


ในยุค digital ทั้งๆที่เรายก smartphone ถ่ายภาพในมุมที่มั่นใจแล้วว่าหน้าจะต้องออกมาดูเรียวกระชับ ลำคอยาวระหง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสวยโดนใจตั้งแต่กดแชะแรก เมือย้อนกลับไปราวๆ สามศตวรรษก่อน  สาวผู้ดีทั้งหลายต้องนั่งเอียงคอเป็นแบบให้จิตรกรวาดภาพเหมือนหลายชั่วโมงโดยใส่ใจกับรายละเอียดคางสองชั้นไม่แพ้ส่วนอื่นบนใบหน้า!


ใบหน้ากลมมน หรือเป็นรูปไข่ เปิดหน้าผากขาวเนียน
เคยมีความสงสัยมาก่อนเหมือนกันนะว่า ภาพวาดเหมือนของหญิงสาวในยุคประวัติศาสตร์นั้น จึงดูผมบางหน้าผากสูงตีวงโค้งโดดเด่น     เส้นไรผมนั้นอยู่สูงมากเกือบจะติดกลางศีรษะ

นั่นเป็นเพราะในยุคนั้น หน้าผากคือสิ่งที่ทำให้ความงามของผู้หญิงดูสมบูรณ์แบบนั่นเอง  หากผู้หญิงคนใดที่มีใบหน้าสวยสะคราญแต่หน้าผากแคบหรือเส้นไรผมอยู่ต่ำ ก็อาจจะทำให้ถูกหักคะแนนก็เป็นได้

ความชื่นชมหน้าผากสูงนี้เป็นค่านิยมต่อเรื่องมาจากยุคกลางและ Renaissance ที่ทำให้ผู้หญิงต้องถอนไรผมออกจนดูหัวเถิกกันไปตามๆกัน   ส่วนในศตวรรษที่ 17 จะโชว์หน้าผากด้วยการหวีครึ่งศรีษะแล้วตรึงให้แน่นด้านหลัง    ที่ขาดไม่ได้คือการม้วนลูกผมขดกลมระกรอบหน้า แต่ห้ามเยอะจนแย่งซีนหน้าผาก



เราแทบจะไม่ได้เห็นภาพรูปหน้าที่มีเหลี่ยมมีมุมของหญิงสาวในยุคนี้เลย  จิตรกรจะถ่ายทอดความงามของรูปหล้ามโค้งมน และทำให้ภาพวาดเหมือนของหลายคนดูคล้ายคลึงกันไปหมด      ดังภ


ภาพ   Young woman with side curls จาก Wenceslas Hollar  แสดงถึงทรงผมเปิดหน้าผากยอดฮิตในยุคนั้น     อาจจะกล่าวได้ว่า ควรจะลืมผมม้าไปได้เลย


มีส่วนเว้าส่วนโค้ง สะโพกกลมและผายกว้าง พุงเล็กๆไม่ถือว่าเสียหาย

แม้ในยุคนี้  ผู้หญิงจะใส่ corset กันแล้ว  แต่อาจจะไม่ได้หมกมุ่นฝนเรื่องเอวบางจนแทบจะหักได้เหมือนยุค  Victoria   ชุดกระโปรงหลายแบบไม่ได้เน้นช่วงเอว   ภาพ nude ของหญิงสาวที่ตรงกับนิยามว่าสวยเลิศเลอนั้นยังดูใกล้เคียงกับคนมากมายในโลกนี้ทรวดทรงที่ดูเต็มไม้เต็มมือ  มีส่วนเกินนิดๆหน่อยๆ และห่างไกลกับภาพของ supermodel ในปัจจุบัน
จากภาพบน จิตรกรได้จำลองภาพของเทพี Venus และเทพ Cupid   ส่วนนางแบบในภาพนั้น มีการคาดคะเนว่า   หากไม่ใช่  Barbara Villiers ก็ต้องเป็น Nell Gwynne   ทั้งคู่ต่างก็เป็นชู้รักของพระเจ้า Charles ที่ 2 แห่งอังกฤษ  และมีชื่อเสียงเรื่องความงามอันลือลั่นไม่แพ้กัน
หญิงสาวที่มีทรวดทรงกลมกลึงในภาพบนคือมาดาม de Montespan  ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น maîtresse-en-titre ในรัชสมัยของพระเจ้า Louis ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส  ซึ่งมีความแตกต่างจากราชสำนักอังกฤษ  เพราะอนุที่ได้รับความโปรดปรานจากกษัตริย์จะได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งอย่างเป็นทางการ  มาดามผู้นี้เองที่ได้รับฉายาว่าเป็นพระราชินีตัวจริง    เพราะถึงจะไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์ที่ได้รับการอภิเษกถูกต้องตามหลักกฎหมายและศาสนาก็สามารถสร้างอิทธิพลในราชสำนักและวงสังคมชั้นสูงได้ยาวนานจนเลยวัยกลางคน    ว่ากันว่า พระเจ้า Louis ที่ 14  ไม่ปลาบปลื้มผู้หญิงรูปร่างผอมบางนัก  แน่นอนว่า ยอดรักผู้กำหัวใจราชาแห่งสุริยะมาได้เนิ่นนานหลายปีจะมีชื่อเสียงเรื่องส่วนเว้าส่วนโค้งอวบอิ่มที่ถือเป็นความงามในอุดมคติในช่วงนั้น


คอเสื้อเว้าต่ำโชว์เนินถัน
เมื่อเปรียบเทียบกับความนิยมในชุดที่ดูอนุรักษ์นิยมปกปิดเนื้อหนังในยุคVictorian  (ค.ศ. 1837—1901 )   เทรนด์ในหมู่สตรีชั้นสูงจากศตวรรษที่ 17ก็ทำให้พวกเธอดูร้อนแรงขึ้นมาทันที  



ส่วนใหญ่  สตรีชั้นสูงจะจับคู่ชุดเว้าคอต่ำกับสร้อยไข่มุกสั้น  ส่วนพวกเพชรพลอยที่ดูหรูหรากว่าจะถูกเลือกมาสวมใส่ในงานเป็นทางการ  ลองกวาดตาชมก็จะได้พบว่า สาวงามที่เราคักภาพมาให้ชมนั้นใส่สร้อยมุกกันทั้งนั้น


แขนเสื้อพองมาก

เวลาดูภาพสาวงามจากยุคนี้ หลายคนก็อาจจะเห็นตรงกันว่า  พวกเธอดูอวบอั๋นและกลมกลึงไปหมด  ซึ่งเราเชื่อว่า   volume ของชุดมีส่วนสำคัญที่ทำให้ดูตัวใหญ่ขึ้นมาค่ะ   เมื่อเปรียบเทียบกับเทรนด์แขนเสื้อพองในยุคปัจจุบันที่คนดังหันมาใส่กันให้พรึ่บอยู่ระยะหนึ่ง     สำหรับเราแล้ว  นี่เป็นเทรนด์ที่ใส่ให่ดูเพรียวยากมาก    หากไม่ใช่สาวผอมอยู่แล้ว   volumeแบบอลังการที่แขนจะเน้นให้โครงสร้างด้านบนดูใหญ่ขึ้น   และเมื่อเป็น fashion  ยุคประวัติศาสตร์ที่พองทั้งท่อนบนและท่อนล่าง   ทำให้ศีรษะดูเล็กมากเมื่อเทียบกับช่วงตัว


มีการบันทึกไว้ว่า พระราชินี Henrietta Maria แห่งอังกฤษมีรูปร่างสูงเพรียว แขนเรียยาว สอดคล้องกับที่จิตรกรได้ถ่ายทอดมาภาพวาด     แต่ชุดที่trendyสุดๆในยุคนั้นดูพองและใช้เนื้อผ้าเยอะมาก  ทั้งๆfitting ก็ไม่ได้เป็นแบบหลวมๆ  แต่ดูเผินๆแล้วเหมือนชุด oversized


ลองเปรียบเทียบstyle ระหว่างศตวรรษที่ 17  และยุค Victorian   แตกต่างกันอย่างลิบลับเชียว


ผมหยิกเป็นลอนเด้งคือที่สุด

น้อยครั้งที่จะเห็นสตรีชั้นสูงปล่อยผมยาวเหยียดโพสท่าในภาพเหมือน พวกเธอใช้คีมที่ใช้ไฟจากเตาม้วนผมเป็นลอนหมุนเกลียวเล็กแล้วจัดเป็นทรงตามความนิยมในช่วงนั้นแล้วประดับประดาผมด้วยไอเท็มต่างๆเช่น ริบบิ้น ดอกไม้ ไข่มุก เป็นต้น
ทรงผมที่เรียกว่า  hurluberlu อินอย่างแรงตั้งแต่ปี 1670s  ซึ่งเป็นการจัดลอนผมที่สั้นเหนือติ่งหูแล้วปล่อยปอยผมเล็กๆยาวลงมาทั้งสองข้าง   รูปทรงที่ดูสะดุดตานี้ทำให้มีคนเปรียบเทียบว่าเหมือนกับหัวกะหล่ำปลี แต่เพราะความแปลกนี่เองที่ทำให้ผู้คนฮือฮาจนกลายเป็นเทรนด์ดังของฝรั่งเศส  และเมื่อคนฝรั่งเศสอินอะไร  สาวๆในละแยกยุโรปก็ต้องตื่นเต้นตามไปด้วย



เทรนด์นี่ม่ได้ hotในฝรั่งเศสเท่านั้น จากภาพล่างคือ พระราชินีMaria Casimira แห่งโปแลนด์และพระธิดา รายล้อมด้วยนางกำนัล  ทุกคนเซ็ทลอนผมหยิกเป็นก้อน   ทำให้คิดถึงทรงผมอาจุมม่าที่ได้ดูจากซีรีส์ Reply 1988  เลยล่ะ


The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE