ครีมกันแดดทาหน้ายี่ห้อไหนดีที่สุด?!

48 19

ในท้องตลาดทุกวันนี้เรามีครีมกันแดดสำหรับผิวหน้ามากมายหลายยี่ห้อให้เลือกสรรกัน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าแบบไหนดีที่สุด วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมให้กับคุณ


ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจถึงความสำคัญและประโยชน์ของครีมกันแดดกันเสียก่อน แม้ว่าสถานการณ์โรคระบาดจะยังไม่คลี่คลาย บางคนอาจจะถอดใจจากการเดินทางไปพักผ่อนช่วงฤดูร้อนนี้ แต่อย่าชะล่าใจไป เพราะแม้ว่าเราจะไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งหนักๆ หรือเปลี่ยนวิธีการทำงานมาเป็นแบบ work from home ครีมกันแดดก็ยังเป็นหนึ่งในสิ่งของจำเป็นประจำบ้าน ที่ต้องทาทุกวันแม้จะไม่ได้ออกไปข้างนอก เพื่อปกป้องผิวเราจากทั้งแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาในบ้าน แสงจากหลอดไฟในบ้าน รวมไปถึงแสงจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ

ต่อไปเราจะมาพูดถึงปัจจัยในการเลือกซื้อครีมกันแดด เพื่อให้ได้ครีมกันแดดที่ดีที่สุดกัน


  1. พิจารณาประสิทธิภาพในการกันแดด 

รังสี UV A เป็นตัวการทำให้เกิดริ้วรอย และรังสี UV B เป็นตัวการทำให้ผิวหนังเกิดอาการไหม้แดง ดังนั้นเราต้องมองหาสิ่งที่ปกป้องผิวหน้าจากทั้งรังสี UV A และ UV B นั่นก็คือ ค่า SPF และ PA โดยค่า SPF ย่อมาจาก Sun Protecting Factor เป็นค่าป้องกันรังสี UV B และค่า PA ย่อมาจาก Protection grade of UV A เป็นค่ารายงานผลการป้องกันรังสี UV A 


ยกตัวอย่างเช่น ค่า SPF 50 จะมีความสามารถในการดูดซับ UV B ได้ถึง 98% และ ค่า PA+++ หมายถึงประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV A ระดับสูงสุด


นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีรังสีอื่นๆที่เราต้องให้ความสำคัญ เช่น High Energy Visible Light  หรือ แสงสีฟ้า ที่มาจากหน้าจอต่างๆ โดยครีมกันแดดบางตัวให้ความสนใจและพัฒนานวัตกรรมเพื่อปกป้องรังสีเหล่านี้ 


  1. หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจจะก่อให้เกิดการแพ้หรือการอุดตัน

สำหรับคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย ส่วนผสมเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง จะต้องปราศจากน้ำหอม สี และพาราเบน​ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ นอกจากนี้ส่วนผสมจำพวกน้ำมันและซิลิโคนซึ่งจะทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน ก็เป็นอีกกลุ่มส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยง 


ในปัจจุบันมีการผสมคาร์นิทีนในครีมกันแดดบางยี่ห้อเพื่อช่วยลดน้ำมันในรูขุมขน ลดการอุดตัน และควบคุมความมันของผิวได้ยาวนานยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีผิวผสมและผิวมัน


  1. เลือกลักษณะของเนื้อและสีของครีมกันแดด

สำหรับคนที่กังวลเรื่องความมันและการอุดตัน ลักษณะเนื้อของครีมกันแดดก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าส่วนผสม แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มีลักษณะบางเบาก็จะช่วยลดความมันบนใบหน้าได้เช่นกัน 


ส่วนสีของครีมกันแดดเป็นเรื่องของจุดประสงค์และความชื่นชอบส่วนตัว ถ้าหากต้องการใช้เพื่อปกป้องแสงแดดเพียงอย่างเดียว ให้เลือกเนื้อครีมกันแดดที่ไม่ผสมสี เมื่อทาลงไปแล้วไม่ทำให้ผิวเปลี่ยนสี แต่ถ้าหากต้องการให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น ก็มีบางยี่ห้อที่ผสมสีเบจเพื่อปรับสีผิวให้กระจ่างใสยิ่งขึ้น



ตัวอย่างครีมกันแดดที่แนะนำ


1. Eucerin Sun CC Acne oil SPF50+ PA++++

ครีมกันแดดซีซีครีม ช่วยปกป้องผิวจาก UV A และ UV B ด้วย SPF 50 PA++++ อีกทั้งผสมลิโคไรซา ช่วยลดแบคทีเรียสะสม ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาสิว 


จุดเด่น

- เนื้อเจลครีมสีเบจ ช่วยปรับสีผิว แต่มีความบางเบา ไม่ทำให้หน้ามันระหว่างวัน

- ไม่มีซิลิโคนอุดตัน เหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย

2. Provamed Sun Face White SPF 50+ PA+++

ครีมกันแดดเนื้อบางเบา สูตรกันน้ำ ช่วยปกป้องผิวจาก UV A และ UV B ด้วย SPF 50 PA+++ เหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย


จุดเด่น

- มีสองสีให้เลือก (ขาว, เบจ)

- ปราศจากสารเคมี

3. Preme Nobu Sunscreen SPF 50+ PA+++

ครีมกันแดดเนื้อครีมเนื้อละเอียด สูตรกันน้ำ ช่วยปกป้องผิวจาก UV A และ UV B ด้วย SPF 50 PA+++ เนื้อครีมกลมกลืนกับสีผิวอย่างเป็นธรรมชาติ


จุดเด่น

- มีส่วนผสมของสารสกัดจากข้าวและคอลลาเจน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดความแสบร้อนเมื่อเจอแดด

โดยทั้ง 3 ยี่ห้อนี้ สามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องสำอางทั่วไป แต่ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดแบบนี้ ขออนุญาตชี้เป้าให้สั่งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของ mmshop.app ฟรีค่าส่งทันทีเมื่อสั่งขั้นต่ำ 299 บาท เท่านั้น


Ant Jitbunjerdkul

Ant Jitbunjerdkul

FULL PROFILE