Robert De Niro หนึ่งใน"ปูชนียบุคคล" แห่งวงการบันเทิงHollywood

44 7
สวัสดีค่ะ ป่านเองค่ะ
บทความนี้ มีไว้เพื่อทำความรู้จักบุคคลท่านหนึ่งซึ่งตัวเราไม่ค่อยได้ติดตามผลงานของท่านซักเท่าไหร่นัก เมื่อเขียนบทความนี้จบ จะทำให้เราอยากดูผลงานของท่านผู้นี้ทันที
เรากำลังพูดถึงลุงRobert De Niroค่ะ ซึ่งเป็นนักแสดงHollywood ที่เรียกได้เต็มปากว่าเป็น"ปูชนียบุคคล"ก็ว่าได้ นอกจากจะมีฝีมือการแสดงที่ตีบทแตกแล้ว ยังมีอิทธิพลในด้านวงการบันเทิงและการเมืองอีกด้วย
ชีวิตก่อนเข้าวงการ
ลุงDe Niro มีชื่อจริงว่า"Robert Anthony De Niro Jr." เกิดเมื่อวันที่17 สิงหาคม 1943 ที่Manhattan นครNew York สหรัฐอเมริกา เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวที่มีอาชีพเป็นจิตรกร มีเชื้อสายไอริชและอิตาเลียน
พ่อแม่ของลุงDe Niro ได้แยกทางกันตั้งแต่เจ้าตัวอายุได้2ขวบเนื่องจากผู้เป็นพ่อประกาศตัวว่าเป็นเกย์ จึงอาศัยกับผู้เป็นแม่ตั้งแต่นั้นมา
ลุงDe Niro สนใจในด้านการแสดง จึงได้มาเรียนวิชาด้านการแสดงช่วงที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนประถมPS 41 จนได้แสดงละครเวทีของโรงเรียนเมื่ออายุ10ขวบ หลังจากนั้นเจ้าตัวก็เข้าเรียนโรงเรียนชั้นนำ ได้แก่
  • โรงเรียนElizabeth Irwin High School(เกรด7และ8)
  • โรงเรียนสำหรับดนตรีและศิลปะ(เกรด9)
  • โรงเรียนไฮสคูลIS 71(เกรด9)
ต่อมาลุงDe Niro จำใจดรอปเรียนชั้นไฮสคูลที่เพื่อทำความฝันการเป็นนักแสดง
ผลงานการแสดงช่วงแรก
ลุงDe Niro เข้าวงการตั้งแต่ปี1963(ตอนนั้นอายุประมาณ19-20ปี) โดยเริ่มจากการรับบทเล็กๆให้กับภาพยนตร์เรื่องThree Room in Manhattan
ต่อมาเมื่อปี1968 ลุงDe Niro ได้รับบทนำให้กับภาพยนตร์เรื่องGreetings ผลงานการกำกับโดยลุงBrian De Palma ซึ่งใช้ทุนสร้างแค่หลักหมื่นดอลลาร์เท่านั้น
หลังจากนั้นลุงDe Niro ก็ร่วมงานกับลุงDe Palma กับภาพยนตร์เรื่องThe Wedding Party(1969) และเรื่องHi, Mom!(1970) ก่อนกลับมาร่วมงานอีกครั้งในอีก17ปีต่อมากับภาพยนตร์เรื่องThe Untouchables(1987)
นักแสดงขาประจำของลุงMartin Scorsese
ลุงMartin Scorsese เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่สร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์มากมาย โดยผลงานภาพยนตร์ส่วนมากที่ลุงScorsese เป็นผู้กุมบังเหียน จะลงลึกถึงด้านมืดของจิตใจมนุษย์ เหล่านักแสดงHollywood หลายคนต่างก็อยากเป็นส่วนหนึ่งของผลงานของท่าน
ลุงDe Niro ได้ร่วมงานในภาพยนตร์ของลุงScorsese เรื่องแรกก็คือ ภาพยนตร์เรื่องMean Streets ที่เข้าฉายเมื่อปี1973 ซึ่งเป็นภาพยนตร์อาชญากรรมที่ขึ้นหิ้งไปแล้ว เพราะความโดดเด่นด้านเนื้อหา,การแสดง และสิ่งที่ต้องการจะสื่อ
หลังจากนั้น ลุงDe Niro ได้กลายเป็นนักแสดงคู่บุญของลุงScorsese เพราะร่วมแสดงภาพยนตร์ของลุงScorseseมากถึง9เรื่อง(รวมถึงภาพยนตร์เรื่องMean Streets) โดยแต่ละเรื่องลุงDe Niro ได้แสดงบทบาทที่แทบไม่ซ้ำกันเลย ดังนี้
  • รับบทเป็นTravis Bickle ทหารผ่านศึกที่มาทำงานเป็นคนขับรถแท็กซี่กะกลางคืนในภาพยนตร์เรื่องTaxi Driver(1976) ภาพยนตร์ดราม่า-ระทึกขวัญที่ตีแผ่มุมมืดของมหานครNew York
  • รับบทเป็นJimmy Doyle นักดนดรีแจ๊ซ ในภาพยนตร์เรื่องNew York,New York(1977) ภาพยนตร์มิวสิคัลกลิ่นอายเรโทร ที่นอกจากลุงRobert De Niro พลิกบทบาทเป็นนักดนตรีมาดอบอุ่นแล้ว ยังมีป้าLiza Minnelli นักแสดงรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่องCabaret(1972) มาร่วมแสดงด้วย
  • รับบทเป็นJake LaMotta นักมวยสากลรุ่นMiddleweight ระดับตำนาน ในภาพยนตร์เรื่องRaging Bull(1980) ภาพยนตร์ชีวประวัติที่ถ่ายทำเป็นภาพขาว-ดำทั้งเรื่อง และเป็นผลงานแจ้งเกิดให้กับลุงJoe Persi
  • รับบทเป็นRupert Pupkin นักเดี่ยวไมโครโฟนสายตลกผู้มีปัญหาทางจิต ในภาพยนตร์เรื่องThe King of Comedy(1983) ภาพยนตร์ดราม่า-ตลกร้ายที่ฉีกแนวจากภาพยนตร์เรื่องก่อนๆของลุงScorsese จนทำรายได้น้อยอย่างน่าใจหาย
  • รับบทเป็นJimmy Conway มาเฟียที่มีตัวตนอยู่จริงในภาพยนตร์เรื่องGoodfellas(1990) ภาพยนตร์อาชญากรรมอิงจากเรื่องจริงของกลุ่มผู้มีอิทธิพล ตีแผ่เส้นทางของมาเฟียที่เต็มไปด้วยความฉ้อฉลและอันตราย
  • รับบทเป็นMax Cady อดีตนักโทษผู้มีความแค้นกับอดีตทนายความที่ปล่อยให้เขาติดคุก14ปี ในภาพยนตร์เรื่องCape Fear(1990) ภาพยนตร์จิตวิทยา-ระทึกขวัญที่รีเมคมาจากฉบับภาพยนตร์ปี1962 ที่นำเสนอความเสื่อมทรามของศีลธรรมและจริยธรรม
  • รับบทเป็นSam"Ace" Rothstein มาเฟียเจ้าของบ่อนคาสิโนที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ในภาพยนตร์เรื่องCasino(1995) ภาพยนตร์มหากาพย์อาชญากรรมอิงจากเรื่องจริงที่ใช้ช่วงเวลายุค70s เป็นตัวเดินเรื่อง และเป็นภาพยนตร์ที่ทำให้ป้าSharon Stone ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งแรก
  • รับบทเป็นFrank Sheeran มาเฟียไอริชที่มีตัวตนจริง ในภาพยนตร์เรื่องThe Irishman(2019) ภาพยนตร์อาชญากรรมทางNetflix ที่จะเล่าถึงเส้นทางการเป็นมาเฟียของFrank Sheeran ตลอด50ปี  นอกจากนี้ ลุงAl Pacino และลุงJoe Persi ก็ร่วมแสดงให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้
โดยภาพยนตร์เรื่องRaging Bull ที่ได้รับคำวิจารณ์ไปในทางกลางๆ ทำรายได้ไม่มากนัก แต่ก็ส่งผลให้ลุงDe Niro คว้ารางวัลออสการ์ตัวที่2 ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่53 ซึ่งในงานออสการ์ครั้งนั้นลุงDe Niro ขึ้นมารับรางวัลด้วยตัวเอง
ได้รับรางวัลออสการ์ครั้งแรกจากตัวละครสุดIconic แห่งโลกภาพยนตร์
Vito Corleone เป็นตัวละครในภาพยนตร์ชุดThe Godfather ที่กลายเป็นตัวละครสุดIconic แห่งโลกภาพยนตร์ไปแล้ว
โดยภาพยนตร์เรื่องThe Godfather(1972)นั้น บทVito Corleone จะรับบทโดยคุณปู่Marlon Brando(1924-2004) โดยช่วงที่รับบทนี้ คุณปู่Brandoอายุเพียง47ปี แต่แสดงเป็นหัวหน้ามาเฟียสูงวัยได้ดี
จากความสำเร็จของภาคแรก ทำให้มีการสร้างภาพยนตร์เรื่องThe Godfather Part II(1974) โดยเนื้อหาจะมีการเล่าถึงVito Corleone ในวัยหนุ่ม ซึ่งลุงRobert De Niro เป็นผู้รับบทนี้ จนทำให้ได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม โดยคุณตาFrancis Ford Coppola เป็นตัวแทนรับรางวัลนี้เนื่องจากลุงDe Niro ติดงานถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง จึงไม่สะดวกมารับรางวัลด้วยตนเองได้
ร่วมงานกับลุงDavid O. Russell
ลุงDavid O. Russell เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่สร้างภาพยนตร์แทรกอารมณ์ขันได้ดี และยังได้สร้างภาพยนตร์ชีวประวัติที่เล่าเรื่องได้ดีที่สุดถึง2เรื่อง
ลุงDe Niro ถือว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงขาประจำของผู้กำกับฝีมือท่านนี้ โดยผลงานเรื่องแรกก็คือ ภาพยนตร์เรื่องSilver Linings Playbook(2012) ซึ่งรับบทเป็นPat Solitano Sr. พ่อของPat Jr.(รับบทโดยคุณBradley Cooper) ที่มีนิสัยชอบเล่นพนันบอลจนสร้างความปวดหัวให้กับคนรอบข้าง
จากบทบาทนี้ ทำให้ลุงDe Niro ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่2
เรื่องที่2 เป็นภาพยนตร์เรื่องJoy(2015) ซึ่งเป็นภาพยนตร์อิงจากเรื่องจริงของJoy Mangano นักธุรกิจและผู้คิดค้นอุปกรณ์งานบ้าน ที่กว่าจะประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ ลุงRobert De Niro รับบทเป็นRudy Mangano พ่อของJoy Mangano(รับบทโดยพี่Jennifer Lawrence)
ภาพยนตร์ล่าสุดที่ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการนั้น ลุงDe Niro ได้ร่วมงานกับลุงDavid O. Russell เป็นครั้งที่3 โดยมีคุณChristian Bale,น้องAnya Taylor-Joy,พี่Margot Robbie,พี่John David Washington และคุณMichael Shannon ร่วมแสดง ซึ่งมีคิวเข้าฉายภายในปลายปี2021นี้
ใครว่าลุงDe Niro มาสายตลกไม่ได้
หลังจากภาพยนตร์เรื่องThe King of Comedy(1983) เข้าฉาย ลุงDe Niro ก็กลับมาแสดงภาพยนตร์แนวตลกร้ายอีกครั้งกับภาพยนตร์เรื่องWag the Dog(1997) โดยเป็นการร่วมงานครั้งที่2 ระหว่างเจ้าตัวกับลุงBarry Levinson ผู้กำกับมากฝีมือ และยังได้ร่วมงานกับคุณตาDustin Hoffmanอีกด้วย
ปี2000 ลุงDe Niro ร่วมแสดงภาพยนตร์ตลกเต็มรูปแบบครั้งแรกกับภาพยนตร์เรื่องMeet the Parents ในบทพ่อตาสุดโหด นอกจากจะได้ประชันบทบาทกับคุณBen Stillerแล้ว เจ้าตัวยังมีตำแหน่งเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย
จากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งรายได้และคำวิจารณ์ ทำให้ได้สร้างภาคต่อถึง2ภาค ได้แก่ เรื่องMeet the Fockers(2004) และเรื่องLittle Fockers(2010)
อีกภาพยนตร์แนวตลกที่ลุงDe Niro ร่วมแสดงและได้รับการตอบรับค่อนข้างดี คือ ภาพยนตร์เรื่องThe Intern(2015)
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของชายวัย70 ที่เบื่อหน่ายกับชีวิตหลังเกษียน จึงมาสมัครเป็นพนักงานที่สำนักงานด้านแฟชั่น โดยลุงDe Niro ได้ร่วมงานกับพี่Anne Hathaway เป็นครั้งแรก
ลุงDe Niro ยังได้ร่วมแสดงภาพยนตร์หลากหลายแนว ดังนี้
  • The Deer Hunter(1978) ภาพยนตร์สงครามขึ้งหิ้ง กับฉากเสี่ยงดวงแบบRussian Roulette อันน่าจดจำ นอกจากลุงRobert De Niro แสดงนำแล้ว ยังได้คุณตาChristopher Walken กับป้าMeryl Steep มาร่วมแสดง
  • The Untouchables(1988) ภาพยนตร์เรื่องที่4 ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างลุงRobert De Niro กับลุงBrian De Palma โดยลุงDe Niro รับบทเป็นAl Capone มาเฟียแห่งNew York ซึ่งมีตัวตนอยู่จริง นอกจากนี้ ลุงKevin Costner,ลุงAndy Gracía,ลุงCharles Martin Smith และคุณตาSean Connery(1930-2020) มาร่วมแสดงให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้
  • Backdraft(1991) ภาพยนตร์เพื่อยกย่องนักผจญเพลิง กำกับโดยลุงRon Howard นำแสดงโดยลุงKurt Russell,คุณWilliam Baldwin,คุณปู่Donald Sutherland,ป้าJennifer Jason Leigh และลุงRobert De Niro
  • Heat(1995) ภาพยนตร์แอคชั่น-อาชญากรรมสุดมันส์ของผู้กำกับMichael Mann นำแสดงโดยลุงRobert De Niro,ลุงAl Pacino,คุณTom Sizemore,คุณAshley Judd,คุณตาJon Voight และลุงVal Klimer
  • Sleepers(1996) ภาพยนตร์ดราม่า-กฎหมาย เรื่องราวของชายหนุ่มที่ได้นำเรื่องที่ถูกเจ้าหน้าที่สถานพินิจทำร้ายร่างการเมื่อตอนเด็กมาให้การในชั้นศาล นำแสดงโดยลุงKevin Bacon,คุณBrad Pitt,คุณJason Patric,ลุงRobert De Niro และคุณตาDustin Hoffman
  • Jackie Brown(1997) ภาพยนตร์เรื่องที่3 ของคุณQuentin Tarantino ที่รับประกันความบ้า,ระห่ำ และโหดจัด นำแสดงโดยป้าPam Grier,ลุงSamuel L. Jackson,คุณBridget Fonda,ลุงMichael Keaton และลุงRobert De Niro
  • Stardust(2007) ภาพยนตร์แฟนตาซี-โรแมนติก(มีความฮาแซมด้วย) ที่กำกับโดยคุณMatthew Vaughn นำแสดงโดยคุณClaire Danes,พี่Charlie Cox,พี่Sienna Miller,ลุงRupert Everett,ป้าMichell Pfeiffer และลุงRobert De Niro
  • Limitless(2011) การร่วมงานกันครั้งแรกระหว่างคุณBradley Cooper กับลุงRobert De Niro กับภาพยนตร์ไซไฟ-ระทึกขวัญ ที่ยาแค่เม็ดเดียว ทำให้คนที่ได้กินดึงศักยาภาพสมองได้ถึงขีดสุด
  • Joker(2019) ภาพยนตร์ดราม่า-จิตวิทยาดัดแปลงแบบหลวมๆจากตัวร้ายของฝั่งDC Comic ที่จะพาผู้ชมดำดิ่งสู่อาการทางจิตที่ทำให้คนหนึ่งคนกลายเป็นฆาตกร เป็นภาพยนตร์ที่ส่งผลให้คุณJoaquin Phoenix คว้ารางวัลออสการ์ตัวแรก
ความสนิกซี้ปึ๊กระหว่างลุงRobert De Niro กับลุงAl Pacino
ลุงRobert De Niro กับลุงAl Pacino ร่วมงานกันครั้งแรกคือ ภาพยนตร์เรื่องThe Godfather Part II(1974) แล้วก็สนิกสนมกันตั้งแต่นั้นมา ทั้งๆที่ไม่เคยเข้าฉากด้วยกันเลย
จนกระทั่งทั้งคู่ได้ร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่องHeat(1995) นับว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทั้งคู่เข้าฉากร่วมกัน จนถึงภาพยนตร์เรื่องล่าสุดก็คือเรื่องThe Irishman(2019)
ชีวิตครอบครัว,ทายาท และปัญหาสุขภาพ
ลุงDe Niro เคยแต่งงานมาแล้วถึง2ครั้ง ได้แก่
  • ครั้งแรก แต่งงานกับป้าDiahnne Abbott นักแสดงหญิง เมื่อปี1976 และหย่ากันเมื่อปี1988
  • ครั้งที่2 แต่งงานกับป้าGrace Hightower นักแสดงหญิง เมื่อปี1997 แต่ช่วงที่สร้างครอบครัวนั้น ทั้งคู่ต่างมีปัญหาเนื่องจากต่างคนต่างทำงานในวงการบันเทิง จนกระทั่งได้แยกทางเมื่อปี2018
ลุงDe Niro มีทายาททั้งหมด6คน ได้แก่
  • คุณRaphael(เกิดเมื่อปี1976)
  • คุณDrena(เกิดเมื่อปี1971 ลุงDe Niro เป็นคนรับเลี้ยง)
  • น้องJulian และน้องAaron(เกิดเมื่อปี1995 จากการอุ้มบุญ)
  • น้องElliot(เกิดเมื่อปี1998)
  • ลูกสาวไม่ทราบชื่อ(เกิดเมื่อปี2011 จากการอุ้มบุญ)
ลุงDe Niro เคยป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เมื่อปี2003 จึงได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
เราขอไม่เขียนเรื่องการเมืองดีกว่า เดี๋ยวผิดกฎ
บทความยาวมากๆๆๆๆๆ แต่ก็อยากให้ชาวJeban อ่านหนังสือเกิน8บรรทัดเพื่อความรู้ แล้วพบกันใหม่ค่ะ Bye.
ขอขอบคุณข้อมูลจากWikipedia


Panchud Thammachat

Panchud Thammachat

ป่านค่ะ ผู้ประสบปัญหาหน้ามันเป็นสิวซ้ำซากค่ะ ใครมีเคล็คลับอะไรดีๆ ช่วยแชร์ให้เราด้วยนะคะ
และยังมีบทความของดาราจากทั่วโลก แต่ไม่เน้นพวกบทความGossip ไม่มีการเหยียดสีผิว ไม่มีการเหยียดเชื้อชาติใดๆทั้งสิ้น

FULL PROFILE