8 สกินแคร์ตัวเด็ด พิชิตจุดด่างดำ เพื่อผิวหน้ากระจ่างใส

61 12
ใครๆก็อยากมีผิวที่กระจ่างใส ในรีวิวนี้ คำว่า “กระจ่างใส” ไม่ได้หมายถึง การมีผิวขาว หากแต่เป็นการมีผิวที่แลดูเรียบเนียน ไร้จุดด่างดำและมีสีผิวที่แลดูสม่ำเสมอครับ
เวฟเป็นหนึ่งคนที่มีปัญหาเม็ดสีผิว อันเกิดจากการผลิตเม็ดสีค่อนข้างมาก บ่อยครั้งที่เวลาเป็นสิว หรือ แม้แต่ยุงกัด ก็มักจะจบลงด้วยการทิ้งรอยดำบนใบหน้า กว่าจะหายเองได้ก็ใช้เวลาเป็นเดือน เวลาส่องกระจกเป็นต้องหงุดหงิดทุกที อีกทั้งเป็นคนที่มีผิวไวต่อแสงแดด วันไหนที่ไม่ได้ทาครีมกันแดดก่อนออกนอกบ้าน ผิวจะไหม้แดด ดำๆด่างๆ ไม่สม่ำเสมอ ต้องกลับมาฟื้นฟูให้ช้ำใจกันอีกหลายวันครับ

รีวิวนี้เวฟจะพูดถึงสกินแคร์ที่เวฟใช้เพื่อเป็นตัวช่วยในการดูแลปัญหาผิวข้างต้นครับ ทั้งนี้สกินแคร์ทั้งหมดที่นำมารีวิว เวฟได้ใช้เองกับผิวหน้ามาช่วงระยะหนึ่งแล้ว เพื่อให้ได้ความมั่นใจในประสิทธิภาพก่อนจะนำมาเขียนเป็นรีวิวแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้ครับ

รีวิวนี้อาจจะมีสกินแคร์ที่ถูกใจหรือไม่ถูกใจเพื่อนๆในกลุ่มอยู่บ้าง แต่เวฟก็ตั้งใจเขียนไว้ในรูปของการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะครับ... “ดีเค้า ดีเรา มันไม่เหมือนกันครับ” เพราะ แต่ละคนมีสภาพผิวที่ต่างกันไป

⭐️ สกินแคร์ตัวที่ 1 Susanne Kaufmann Glow Mask 
มาส์กผิวหน้าที่จะช่วยให้เลือดลมหมุนเวียนดี เพิ่มความสดใสให้กับผิว ไปพร้อมๆกับการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน จึงช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส และยังคงความอ่อนเยาว์ของผิวด้วยสารสกัดธรรมชาติ โดยมาส์กสูตรนี้เป็นแบบทาแล้วล้างออก เวฟจะทาทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ระหว่างที่เนื้อมาส์กอยู่บนผิวจะผ่อนคลายไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆแนว Cirtus อีกทั้งความเย็นสดชื่นที่ได้จากสารสกัดของขิง (Zingiber Officanale Root Extract) ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนัง อีกทั้งลดรอยจุดด่างดำ อีกส่วนผสมที่ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส ก็คือ สารเอมไซม์มะละกอ (Papain) ที่พบในยางมะละกอ โดยมีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จึงช่วยลดรอยดำ และลดการอุดตันของรูขุมขน อันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวอีกด้วย เวฟแนะนำให้ใช้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ครับ

⭐️ สกินแคร์ตัวที่ 2 Lancome Clarifique Refining Enzymatic Dual Essence 
เอสเซ้นส์ตัวล่าสุดจากลังโคมที่ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ปราศจากสารระคายเคืองผิว (น้ำหอมสังเคราะห์ สี น้ำมันแร่ และซิลิโคน) โดยเอสเซ้นขวดนี้มีส่วนผสมหลักแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ น้ำ 97% ที่ได้จาก หน่ออ่อนต้นบีชฝรั่งเศส (French Beech But Extract) และ น้ำมัน 3% ที่ได้จากสารสกัดของน้ำมันเมล็ดองุ่น (Grape Seed Oil) รวมไปถึงส่วนผสมอื่นๆที่ช่วยให้ผิวนั้นกระจ่างใส และชุ่มชื้น สำหรับตัวนี้เวฟจะใช้เป็นขั้นตอนแรกหลังทำความสะอาด เพื่อปรับสมดุลผิวก่อนการลงสกินแคร์ตัวอื่นๆ โดยมีสารสำคัญที่ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสและคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว อาทิ วิตามินซี (Ascorbyl Glucoside) และ Arginine นอจจากนี้ก็ยังมีส่วนผสมของเอมไซม์ยางมะละกอ (Papain) ที่ออกฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว เมื่อใช้เอสเซ้นส์สูตรนี้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จะสัมผัสได้ถึงผิวที่อ่อนนุ่ม จุดด่างดำ รอยดำบนผิวหน้าแลดูจางลงครับ ผลลัพธ์ไม่หวือหวา แต่เมื่อใช้ต่อเนื่องแล้วจะติดใจครับ แม้จะปราศจากสารระคายเคืองผิวตามที่ได้กล่าวไป แต่ก็ยังมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ (Alcohol Denat) ที่อาจก่อความระคายเคืองต่อผู้แพ่กลุ่มส่วนผสมแอลกอฮอล์ได้ครับ ดังนั้นเวฟแนะนำให้ทดสอบกันดูก่อนนะครับ

⭐️ สกินแคร์ตัวที่ 3 Biologique Recherche Placenta Serum
เซรั่มที่เวฟชอบผลลัพธ์ แต่ไม่ชอบกลิ่นเสียเลย เหม็นและคาวมากๆ สำหรับเซรั่มขวดนี้เป็นเซรั่มที่ช่วยลดปัญหาสิวและรอยแผลจากสิวได้ดีมากครับ ช่วยให้จุดด่างดำจากสิวจางลงได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยตื้นๆได้อีกด้วยครับ โดยมีส่วนผสมหลักอย่าง Placental Biostimulin Proteins Extracts ที่ช่วยในการซ่อมแซมและเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ สำหรับเซรั่มตัวนี้ เวฟใช้เป็นเซรั่มตัวแรก ซึมลงสู่ผิวได้ดีครับ และกลิ่นก็เหม็นติดผิวมากด้วย วิธีลดความเหม็น เวฟจะลงเซรั่มที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆลงตามทันที ไม่อย่างนั้นแอบมึนหัวครับ อีกทริคของการใช้ เวฟจะซื้อในปริมาณขวดเล็กขนาด 8ml มาใช้ จ่ายแพงหน่อย แต่ก็ไม่ต้องทนกับเรื่องกลิ่นคาวมากนัก เพราะกลิ่นจะเปลี่ยนไปตามช่วงการใช้งาน ใช้ให้หมดทีละขวดเล็ก จะดีกว่ามากครับ ขวดใหญ่กว่าจะหมดก็อีกนาน แถมกลิ่นก็แย่ยิ่งขึ้นทุกช่วงเวลาหลังการเปิดใช้ด้วยครับ สรุปเลยละกันว่า สำหรับผลลัพธ์นี่ คือ สุดยอดมาก เห็นผลจริง ส่วนเรื่องกลิ่นนี่ ก็ที่สุดแล้ว แย่ที่สุดนะครับ

⭐️ สกินแคร์ตัวที่ 4 Kiehl’s Clearly Corrective Dark Spot Solution
เมื่อพูดถึงเซรั่มลดเลือนจุดด่างดำ คงไม่สามารถปฎิเสธ Kiehl’s Clearly Corrective Dark Spot Solution ตัวนี้ได้ โดยทำหน้าที่ลดเลือนจุดด่างดำและปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอขึ้น สำหรับเนื้อผลิตภัณฑ์ตัวนี้ จะเป็นเนื้อใส ไม่เหนียวเหนอะหนะ บางเบาและสบายผิวครับ ใช้เพียง 2-3 หยดเท่านั้น โดยมีส่วนผสมหลัก ได้แก่ วิตามินซี (Ascorbic Acid) ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส อีกทั้งยังต่อต้านอนุมูลอิสระจากมลภาวะ รวมทั้งสารผลัดเซลล์ผิว (Salicylic Acid) ที่ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน ลดจุดด่างดำและปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอครับ ส่วนตัวเวฟชอบเซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซีตัวนี้มากกว่าสูตร Powerful- Strength Line- Reducing Concentrate เนื่องจากวิตามินซีมีความเสถียรกว่าและมีส่วนผสมที่ระคายเคืองน้อยกว่า รวมทั้งเนื้อสัมผัสเป็นแบบสูตรน้ำใสๆ ปราศจากสารซิลิโคน อันเป็นสาเหตุของการอุดตันของผิวได้ครับ 

⭐️ สกินแคร์ตัวที่ 5 Mesoestetic Aox Ferulic
เซรั่มวิตามินซีเข้มข้นด้วยส่วนผสมของ Ascorbic Acid 15% จึงหวังผลเรื่องความกระจ่างใสและการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชั้นผิวหนังได้ นอกจากนี้ยังมีการเติมสาร Ferulic Acid เข้ามา 0.5% ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากสารอนุมูลอิสระอันเกิดจากแสงอาทิตย์ จึงช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินซีบนผิวเป็นไปได้ยาวนานมากขึ้น สำหรับสาร Protect-cell complex 1.5% นั้น ประกอบไปด้วยวิตามินอีและเปปไทด์ ที่มีส่วนในการปกป้องผิวให้แข็งแรงและมอบความกระชับแก่ผิว เนื่องด้วยเซรั่มตัวนี้เป็นวิตามินซีเข้มข้น เมื่อเปิดใช้แล้ว สีของเนื้อผลิตภัณฑ์สามารถเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และเหลืองขุ่นได้ โดยสีที่เข้มขึ้นจะบ่งชี้ว่าประสิทธิภาพของวิตามินซีนั้นกำลังลดลง สำหรับ Aox Serum ขวดนี้มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา กลิ่นฉุน ซึมลงสู่ผิวได้ดี เหมาะกับทุกสภาพผิว แต่ผิวระคายเคืองกลุ่มไวทเทนนิ่งและวิตามินซีควรหลีกเลี่ยง ทั้งนี้แนะนำสำหรับคนที่นอนน้อย ทำงานกับหน้าจอคอม มีโอกาสที่ผิวจะรับแสง UV ต่างๆในชีวิตประจำวันได้ง่าย รวมทั้งความเครียดที่มีผลต่ออนุมูลอิสระในร่างกาย โดยเซรั่มตัวนี้จะเข้ามาช่วยฟื้นฟูผิวและลดกระบวนการเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวกลับมาดูกระจ่างใสและมีชีวิตชีวาครับ ส่วนตัวเวฟจะใช้แค่ช่วงเวลากลางคืนในขั้นตอนการลงเซรั่มครับ เมื่อใช้ติดต่อกันประมาณ 2-3 สัปดาห์จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิว โดยเฉพาะปัญหาจุดด่างดำครับ

⭐️ สกินแคร์ตัวที่ 6 SkinCeuticals C E Ferulic
แฝดคนละฝาที่มักจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับวิตามินซีเซรั่ม Mesoestetic Aox Ferulic โดยที่ส่วนผสมหลักของเซรั่ม SkinCenticals  C E Ferulic ได้แก่ L-Ascorbic Acid15%, Alpha Tocopherol 1% (วิตามินอี) และ Ferulic Acid 0.5% สำหรับเซรั่มตัวนี้จะให้คุณสมบัติที่คล้ายคลึงกับ Mesoestetic Aox Ferulic Serum แต่จะมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวเพิ่มเข้ามา (Sodium Hyaluronate) ลักษณะเนื้อสัมผัสจะมีเนื้อเหลวสีใส บางเบาและซึมลงสู่ผิวได้ดี ขณะใช้อาจสัมผัสได้ถึงความคันยุบยิบเล็กน้อย เกิดจากปฎิกิริยาของสารบนชั้นผิว ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆหรือช่วงแรกของการใช้เซรั่มเท่านั้น หลังจากการเปิดใช้ จำเป็นต้องเก็บขวดผลิตภัณฑ์ ให้พ้นแสงแดดและความร้อน เพื่อป้องกันการเปลี่ยนสีของสารและประสิทธิภาพที่อาจจะลดลงตามมา สำหรับตัวนี้เวฟใช้แล้ว ได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจเช่นเดียวกับ Mesoestetic Aox Ferulic แต่ทว่าความเสถียรของวิตามินซีนั้นไม่ค่อยดีนัก กล่าวคือหลังเปิดการใช้งาน สีของวิตามินซีจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลืองในไม่กี่วันหลังเปิดใช้ เมื่อเทียบกับ Mesoestetic Aox Ferulic ที่มีความเสถียรทางส่วนผสมมากกว่าครับ

⭐️ สกินแคร์ตัวที่ 7 Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter
เมื่อมีปัญหาเรื่องจุดด่างดำบนผิวหน้า หลายคนก็ต้องนึกถึงแบรนด์ Clinique สำหรับเซรั่มขายดีเพื่อแก้ปัญหาจุดด่างดำและสีผิวสม่ำเสมอตัวนี้ เคยทำให้ใครหลายคนประทับใจในผลลัพธ์กันมาแล้ว เวฟเองก็เช่นกัน ดีจนกล้าท้าให้ทำ Before-After ผ่านการถ่ายรูปเปรียบเทียบผลลัพธ์จากการใช้ได้เลยครับ ส่วนผสมและนวัตกรรมที่น่าสนใจของเซรั่มนี้ ก็คือ CL302Equalizer Technology ที่ใช้การทำงานผ่าน 2 องค์ประกอบ เพื่อผลลัพธ์และประสิทธิภาพขั้นสุด ประกอบด้วย องค์ประกอบที่ 1) CL302 Complex อันมีส่วนผสมสำคัญอย่างสารสกัดหญ้าหนูต้น (Dianella Ensifolia), วิตามินซี (Ascorbyl Glucoside), Yeast Extract และ Salicylic Acid โดยกลุ่มสารเหล่านี้ จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำและปรับสีผิวให้แลดูสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น ในส่วนขององค์ประกอบที่ 2) Interupter Complex หรือ ตัวยับยั้งการเกิดใหม่ของจุดด่างดำ มีสารสำคัญ ได้แก่ สารสกัดยอดใบชาเขียว, สารสกัดรากหม่อน, สารสกัดรำข้าว และสารสกัดรากชะเอม โดยสารกลุ่มนี้จะทำหน้าที่ปกป้องผิวจากมลภาวะ ต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมไปถึงลดการสร้างเม็ดสีผิวอันเป็นปัจจัยสำคัญของจุดด่างดำบนผิว เมื่อผนวก 2 องค์ประกอบนี้เข้าด้วยกัน จึงทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดรอยดำซ้ำซากในอนาคตอีกครับ โดยรวมแล้ว เวฟชอบมาก ติดแค่ที่เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นกึ่งซิลิโคนครับ

⭐️ สกินแคร์ตัวที่ 8 Eucerin Hyaluron-Filler + Elastical 3D Serum
จุดเด่นของเซรั่มขวดทองตัวนี้ก็ คือ นวัตกรรมการบำรุงผิวระดับล้ำลึกที่ได้ถึง 3 มิติครับ ซึ่งหนึ่งในมิติที่น่าสนใจก็คือ การลดเลือนจุดด่างดำด้วยสาร Thiamidol อันเป็นสารทรงประสิทธิภาพในการลดจุดด่างดำและลดโอกาสการกลับมาเกิดซ้ำ ด้วยความที่เป็น 3D serum จึงให้ผลลัพธ์ได้มากกว่าการลดจุดด่างดำ แต่หากยังมีคุณสมบัติในการเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวด้วยสาร Arctiin ที่เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ทำงานได้ดีกับ Hyaluronic Acid ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นแก่ผิว อันส่งผลให้ปัญหาเรื่องริ้วรอยดีขึ้นตามมา สำหรับ Eucerin Hyaluron-Filler + Elastical 3D Serum ขวดนี้ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวครับ ใครมีผิวมันมาก แนะนำให้ใช้แค่ช่วงก่อนนอนครับ เพราะเนื้อสัมผัสค่อนข้างหนัก อาจจะเพิ่มความมันระหว่างวันได้ 

จบแล้วครับสำหรับการรีวิวสกินแคร์ทั้ง 8 ตัว ที่เวฟใช้แล้วเห็นผลลัพธ์ เพื่อแก้ปัญหาจุดด่างดำและเพิ่มความกระจ่างใสบนใบหน้า อย่างไรก็ตามทุกตัวไม่ได้เห็นผลลัพธ์แบบปุ๊บปั๊บ ต้องให้เวลาในการใช้ด้วยนะครับ อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน รวมถึงปัจจัยในการใช้ชีวิตประจำวัน หากอยากมีผิวสวยกระจ่างใส นอกจากการบำรุงด้วยสกินแคร์แก้ปัญหาเฉพาะจุดแล้ว ก็อย่าลืมปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด เพราะตัวการหลักของปัญหาจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอนั้น ก็มีแสงแดดนี่แหละที่เป็นปัจจัยสำคัญครับ 

ขอบคุณที่ติดตามชมรีวิวกันนะครับ ??


Wave1992

Wave1992

สวัสดีครับ ชื่อ เวฟ ครับ เวฟชอบสกินแคร์ มีความสุขกับการดูแลตัวเอง เวฟเชื่อมาตลอดว่า เราทุกคนมีความสวยหล่อในแบบของเรา สามารถดูแลและพัฒนาความงามกันได้ แค่เราใส่ใจ เข้าใจการดูแล การมีใบหน้าและผิวพรรณที่สุขภาพดีจึงไม่ไกลเกินเอื้อมครับ การดูแลผิวคือจริตที่ทุกคนพึงมี ปัญญาจะเกิดเมื่อเราหมั่นศึกษา ความงามจะมาเมื่อเรารักสกินแคร์ ????

FULL PROFILE