เมื่อมิสเงินเหลือ โดนป้ายยา...

51 17

สวัสดีค่ะทุกคน ช่วงนี้เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย? หวังว่าทุกคนจะยังสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจกันอยู่นะคะ


สองสามเดือนมานี้จ๋าแทบไม่ได้ออกไปไหนเลยค่ะ หมกตัวอยู่บ้านทั้งวัน ทำงานก็ Work from home วนไป กลายเป็นว่าช่วงนี้ค่าใช้จ่ายของจ๋าลดลง.. เพราะแทบไม่ได้เสียเงินในส่วนของค่าเดินทางเลย สำหรับคนที่เก็บเงินเก่ง ๆ จ๋าว่าเราสามารถช้โอกาสนี้ในการออมเงินได้เลยนะคะ


แต่ๆๆๆ ไม่ใช่สำหรับจ๋าค่ะ!! ช่วงที่ผ่านมานอกเหนือจากทำงาน กิจวัตรอีกอย่างของจ๋าก็คือ การไถ Feed ใน Social Media ไปเรื่อย จ๋าก็ไปเจอรีวิวของเหล่าพี่น้องชาวเน็ตกล่าวขานถึงเจ้า Skincare ที่จ๋าก็โดนป้ายยามาเรียบร้อย จนท้ายที่สุดก็ลองสอยตามเค้ามา แล้วก็รู้สึกว่าไม่ได้การละ ฉันขอมาป้ายยาคนอื่นต่อบ้าง เราจะไม่เสียทรัพย์คนเดียว ฮ่า ๆๆๆ


เอาล่ะค่ะ! มายลโฉมหน้าตัวการในการเสียทรัพย์ครั้งใหญ่ในรอบหลายเดือนของจ๋า นั่นก็คือน้อง ๆ Aesop 2 กระปุกนี้ค่ะ


ก่อนจะอวยยศ ต้องบอกก่อนว่า Aesop เป็นแบรนด์ที่ผ่านตาจ๋ามาตลอด ผลิตภัณฑ์ของเค้าก็มีหลากหลายมากกก ซึ่งจ๋าก็ไม่เคยศึกษาอะไรเพิ่มเติม จนกระทั่ง... นั่นแหละค่ะ ความเป็นมิสเงินเหลือ + เสียงลือเสียงเล่าอ้างของชาวเน็ตทำให้เราได้เจอกัน ฮี่ ๆๆๆ

สภาพผิวของจ๋า


  • เป็นคนผิวแห้ง มีลอกเป็นขุยบ้างตามสภาพอากาศและการพักผ่อน

  • ความกระชับของรูขุมขน ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและการผักผ่อนอีกเช่นกัน

  • จุดด่างดำ+รอยสิว ช่วงนี้มีน้อยมาก มีแต่ใต้ตาดำ ๆ ที่น่าจะรักเรามาก และดูเหมือนเค้าจะอยากอยู่กับเราตลอดไป T__T

น้องคนแรก Aesop B & C Facial Balancing Gel (60ml.)

เค้าเป็น Moisturizer สูตรเจลใส ๆ แต่เนื้อสัมผัสมีความหนืดคล้ายน้ำผึ้งค่ะ ส่วนตัวจ๋าชอบกลิ่นของเค้า เปิดมาดมก็คือฟินน

(แพกเกจของเค้าเป็นกระปุกแก้ว อาจจะพกพายากไปนิด แต่ความแข็งแรง ทนทาน ถือว่าเยี่ยม!)


คุณสมบัติของเค้า


หลักๆคือช่วยบำรุงให้ผิวกระจ่างใส มีวิตามินแบบจุก ๆ ทั้ง B, C มีส่วนช่วยให้รอยสิวต่าง ๆ จางลง และที่สำคัญ (อันนี้จ๋าชอบสุด) เค้าทำให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำค่ะ มิสผิวแห้งแบบจ๋าเลิฟมากกก 


ใช้แล้วรู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้น ไม่แห้ง ไม่มัน เป็นผิวค่ากลางมีสมดุลที่ดีย์!! และน้องคนนี้ก็ใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลยนะคะ ถ้าใครสนใจลองศึกษาเพิ่มเติมและไปตำมาลองกัน!!

อย่างที่จ๋าบอกไปว่าเนื้อสัมผัสของเค้าค่อนข้างหนืด (ถ้าจะให้นึกภาพง่ายๆ ก็คือ หนืดแบบน้ำผึ้งค่ะ) ถ้าเราแตะขึ้นมาแล้วทาไปบนหน้าเลย โอ้โหทุกคน หยุดค่ะ อย่าพลาดแบบจ๋า เพราะจ๋าแตะปุ๊บปาดบนหน้าปั๊บมาแล้ว บอกได้คำเดียวว่า หนืดซะ! และนั่นเป็นวิธีที่ผิดค่ะ 


วิธีใช้คุณเค้า เราจะต้องทำการปลุกน้องเค้าก่อน ด้วยการวอร์มด้วยมือเรานี่แหละค่ะ วน ๆๆ สักประมาณหนึ่ง จนเนื้อเจลหนืด ๆ ที่ว่านี้ กลายสภาพเหลวขึ้นประหนึ่งเนื้อ Essence แล้วก็ค่อย ๆ แตะ ๆ แปะ ๆ ไปบนผิวหน้าเรา เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ

และน้องอีกคนนึง ก็คือ Aesop Sublime Replenishing Night Masque (60ml.)

เค้าเป็นมาส์กวิตามินเข้มข้น มีคุณสมบัติฟื้นบำรุงผิวแบบจัดเต็ม! ชนิดที่ว่าผิวดีข้ามคืน โดยเราสามารถใช้เป็น Overnight Mask ทาแล้วนอนยาว หรือใครที่อยากให้การบำรุงจบลงตอนที่เรายังมีสติ ก็สามารถนำมาทาพอกหน้าไว้แปบ ๆ อย่างน้อย 15 นาทีก็ได้นะคะ ส่วนตัวจ๋าชอบแบบแรกค่ะ โบกไปแล้วหลับยิงยาว ตอนเช้าค่อยว่ากัน 55555

ความดีงามของน้องคนนี้ หลังจากได้ใช้มาสักพักใหญ่ ๆ จ๋าสังเกตว่า พอตื่นมาตอนเช้า มาส์กที่เราทาไว้ตอนก่อนนอน ยังอยู่บนหน้าค่ะทุกคน น้องเค้ายังเคลือบผิวเราไว้ได้ตลอดคืน ทำให้จ๋ารู้สึกอุ่นใจว่าน้องเค้าได้บำรุงหน้าเราจริง ๆ ไม่ได้ไปจบอยู่ที่ปลอกหมอน T__T


และก็มาถึงช่วงของการอวยยศ ทุกคนคะ.. จ๋าค่อนข้างประทับใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผิวเราหลังผ่านการบำรุงจากน้องสองคนนี้มาก

  • ผิวจ๋าแข็งแรงขึ้น ช่วงก่อนประจำเดือนไม่มีสิวขึ้นมากวนใจเลย

  • ผิวไม่แห้งไม่ลอกเป็นขุย ซึ่งก็น่าจะมาจากปัจจัยหลายอย่าง โดยที่น้องสองคนนี้ก็อาจจะมีส่วนช่วยคงความชุมชื้นในผิวด้วย

  • รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวบริเวณช่วงหน้าแก้มเรียบเนียนขึ้น (แม้จะยังคงพักผ่อนน้อยอยู่เรื่อย ๆ)

  • รอยต่าง ๆ บนหน้าจางลงประมาณนึง กระจ่างใสขึ้น (แต่รอยใต้ตายังคงเดิม T____T 55555)

  • กลิ่นดีทั้ง 2 ตัว เปิดใช้ทีไรก็ผ่อนคลาย ถือเป็นการจบวันที่ดีมาก จ๋าเลิฟมากกก ๆ จริง ๆ

เอาเป็นว่าข้างประทับใจทีเดียว จ๋าจึงขออวยยศ 99 พุ่มทองค่ะ


ก่อนจะจากไป จ๋าอยากบอกว่านี่เป็นประสบการณ์ที่จ๋าได้รับและนำมาบอกเล่า หลังจากได้ใช้กับสภาพผิวของจ๋าเอง ซึ่งประสบการณ์ที่แต่ละคนได้เจอก็อาจจะแตกต่างไปตามสภาพผิวรวมถึงปัจจัยต่าง ๆ


ทั้งนี้ในยุคเศรษฐกิจที่หลาย ๆ คนอาจจะต้องรัดเข็มขัดทางการเงิน (มากน้อยต่างกันไป) และด้วยความที่ค่าตัวน้อง ๆ เค้าก็ไม่เบาเท่าไหร่.. (ในมุมมองของจ๋า 5555) หลายคนอาจจะอยากใคร่ครวญก่อนตัดสินใจ จ๋าก็หวังว่ารีวิวของจ๋าจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ สำหรับใครที่กำลังอยากเสียทรัพย์ไม่มากก็น้อยนะคะ


สำหรับใครที่เป็นมิสเงินเหลือและอยากลองตำน้อง ๆ เค้าบ้าง เอาจริง ๆ เค้ามีเคาน์เตอร์ตามห้างใหญ่ ๆ หลายที่เลยนะคะ แต่ในช่วงนี้ออกนอกบ้านน้อยครั้งที่สุดอาจจะเป็นอะไรที่ปลอดภัยกับเรามากกว่าเนอะ.. ทุกคนสามารถช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Central Online เลยนะคะ (ซุ่มดูดี ๆ อาจจะเจอโปรปัง ๆ ก็ได้น้า)

ขอบคุณทุก ๆ คนมากเลยนะคะที่อ่านกันมาจนถึงตรงนี้ กระทู้หน้าจ๋าจะมาบอกเล่าประสบการณ์กับน้อง ๆ คนไหนอีก ฝากติดตามด้วยนะคะ


แล้วเจอกันค่าาา บ๊ายบาย

Xoxo


jahyonla

jahyonla

Makeup empowers women.

สวัสดีค่ะ Jahyonla (จ๋ายลล่า) นะคะ หรือจะเรียกกันว่า "จ๋า" ก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ

จ๋าอายุ 26ปี เป็นสาวผิวแห้ง ไม่ขาดน้ำ แค่ไม่มีความมันบนผิว เลยทำให้ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสิวมากังวลใจ อาจจะมีประปรายบ้างช่วงวันนั้นของเดือน

จ๋าก็เป็นคนนึงที่ชอบเรื่องความสวยความงาม จ๋าสนใจการแต่งหน้ามาตั้งแต่อายุประมาณ 15-16ปีค่ะ นับมาจนปัจจุบันก็ร่วม10ปีแล้ว สมัยเรียนและหลังเรียนจบจ๋าเคยรับงานแต่งหน้าอยู่ช่วงนึงด้วยนะคะแต่ปัจจุบันผันตัวมาเหลือแค่แต่งหน้าตัวเองอย่างเดียวแล้ว ฮี่ๆ

การแต่งหน้าเป็นสิ่งนึงที่จ๋าไม่เคยรู้สึกเบื่อ และสามารถใช้เวลากับมันได้นานแสนนาน จนลืมหิวลืมเหนื่อย จ๋าดีใจมากค่ะ ที่ได้เจอในสิ่งที่ตัวเองทำแล้วมีความสุข

ชาวจีบันคนไหนยังตามหาสิ่งที่ทำแล้วมีความสุขไม่เจอ อย่าเพิ่งท้อนะคะ จ๋าเป็นกำลังใจให้อยู่ตรงนี้ค่ะ

FULL PROFILE