ในช่วงเดือนที่ผ่านมาเราเจอปัญหาสิวที่ค่อนข้างหนักหน่วงอยู่พอสมควร และใช้เวลาในการรักษาสิวร่วม 1 เดือนเลยทีเดียวกว่าสิวทั้งหมดจะยุบตัวลง แต่แน่นอนว่าที่แห้งมันไม่ได้มีแค่สิวแต่กลายเป็นผิวโดยรวมของเรากลับแห้งขึ้นมากจนผิดปกติ ทำให้เราต้องหาไอเทมมากู้ผิวที่แห้งกร้านนี้อย่างเร่งด่วน จนสุดท้ายก็ได้มาเจอกับ Vichy Liftactiv Supreme H.A. Epidermic Filler ที่สร้างความน่าสนใจตั้งแต่ได้เห็น Packaging และคำเคลมในเรื่องความเข้มข้นของไฮยาถึง 15 เท่าทำให้เราโดนตกอย่างง่ายดาย เอาเป็นว่าเราไปลองทำความรู้จักกับเซรั่มขวดนี้กันดีกว่าฮะ....

The Claim

Vichy Liftactiv Supreme H.A. Epidermic Filler(30ml./1,700.-) : เซรั่มขวดนี้ทางแบรนด์เคลมว่ามี Hyaluronic acid เข้มข้นสูงถึง 15เท่า* ช่วยให้ดูเด้งอิ่มฟูตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ มอบผิวดูอ่อนเยาว์หลังใช้ติดต่อกัน 4 สัปดาห์** พร้อมช่วยป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระและปรับผิวให้ดูกระจ่างใส ริ้วรอยแลดูลดเลือน ด้วยการผสานของวิตามินซีจี เปปไทด์ และ น้ำแร่วิชี่

นอกจากนี้ยังปราศจากน้ำหอม ซิลิโคน และแอลกอฮอล์ ผ่านการทดสอบภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังและจักษุแพทย์แล้วว่าอ่อนโยนสามารถใช้ได้แม้ผู้ที่มีผิวบอบบางมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย รวมถึงการใช้บริเวณผิวรอบดวงตา
*ความเข้มข้น 15เท่ามาจากการเปรียบเทียบความเข้มข้นของไฮยาลูโรนิค แอซิดกับวิชี่ อควอลเลีย เธอมอล รีไฮเดรติ้ง ครีม-เจล
**ผลการทดสอบจากอาสาสมัคร 57 คน หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ โดยสถาบัน วิจัยลอรีอัล ประเทศฝรั่งเศส เมื่อมกราคม 2020

Texture / Scent / Packaging

Texture : เนื้อสัมผัสอยู่ในรูปแบบเจลใส ค่อนข้างเหลวและซึมไวทีเดียว เมื่อซึมลงสู่ผิวแล้วไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะให้รำคาญใจ

Scent : อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าเค้าไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ดังนั้นมนุษย์ที่ไม่ชอบสกินแคร์ที่มีน้ำหอมอย่างเราเป็นปลื้มแบบสุดๆ แถมยังลดโอกาสการแพ้/ระคายเคืองไปได้เยอะเลยหละ

Packaging : บรรจุภัณฑ์สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น ยอมรับว่าทางแบรนด์ดีไซน์มาดีจริงๆ ทั้งในแง่ของความสวยงาม ความสะดวกในการใช้ และ ความสะอาดของเซรั่ม

Active Ingredients 

ในแง่ส่วนผสมจากที่เราเข้าใจเซรั่มขวดนี้มี Active Ingredients อยู่ 3 กลุ่มใหญ่ๆ ซึ่งได้แก่ :

Let's Try...

จากที่เราได้นำ Vichy Liftactiv Supreme H.A. Epidermic Filler มาใส่ใน Skincare Routine ในช่วงที่ผ่านมาเราสังเกตุเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวเราได้อย่างชัดเจนในแง่...

ความชุ่มชื้นบนผิวที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าช่วงที่เราหยิบมาใช้คือช่วงเวลาที่เราเพิ่งจบศึกจากการใช้ยารักษาสิวที่ทำให้ผิวเราแห้งแบบสุดๆ แต่ภายในระยะเวลาเพียง 2-3 สัปดาห์กลับงัดผิวเราให้กลับมาเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นได้อีกครั้ง

นอกจากเรื่องความชุ่มชื้น และผิวที่ดูอิ่มฟูขึ้นแล้วเราพบว่าผิวดูกระจ่างใสขึ้น ซึ่งเราคาดว่าเกิดจากการได้รับความชุ่มชื้นที่เพียงพอทำให้เวลาแสงตกกระทบลงบนใบหน้า เกิดการสะท้อนออกไปอย่างสม่ำเสมอ เป็นที่มาของความกระจ่างใสของผิวที่เห็นได้ในภาพเนี่ยแหละฮะ

Conclusion

โดยรวมเรามองว่า Vichy Liftactiv Supreme H.A. Epidermic Filler เป็น Hyaluronic acid serum ที่เข้ามาเสริม Skincare Routine ในช่วงที่ผิวเราแห้งกร้านจากการรักษาสิวได้อย่างลงตัว ทั้งในแง่เนื้อสัมผัสที่บางเบา สบายผิว การมอบความชุ่มชื้นได้ดีพอที่จะกู้ผิวที่แห้งกร้านของเราให้กลับมาเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ผิวดูเด้งอิ่มฟูได้จริง ส่วนเรื่องริ้วรอยถ้าใช้สกินแคร์ อาจจะต้องใช้เวลาซักพักให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครับ

นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังคำนึงเรื่องการถูกทำลายของ H.A. จึงใส่ Vitamin CG (Ascorbyl Glusocoside) เข้ามาเพื่อจัดการอนุมูลอิสระที่มาทำลายปริมาณ H.A. ในผิวได้อย่างลงตัว และที่ขาดไม่ได้คงเป็น Vichy Volcanic Water ที่อัดแน่นไปด้วยแร่ธาตุมากมาย เข้ามาเสริมปราการผิวของเราให้แข็งแรง และสมบูรณ์มากขึ้น

เอาเป็นว่าถ้าใครกำลังมองหา Hyarulonic acid serum ที่เข้มข้นแต่เนื้อบางเบา อ่อนโยนแม้ผิวที่บอบบางมีโอกาสระคายเคืองง่ายแล้วหละก็ Vichy Liftactiv Supreme H.A. Epidermic Filler น่าจะเป็นคำตอบให้เพื่อนๆ ได้ฮะ

แต่แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น Based-on สภาพผิว ไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเอง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ส่วนคำถามที่ว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม จะอุดตันไหม สิวจะขึ้นหรือไม่นั้น เราไม่สามารถให้คำตอบได้เนื่องจากปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแพ้/ระคายเคือง และก่อให้เกิดสิวของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขน และลำคอก่อใช้ลงบนใบหน้านะขอรับ