Le Serum 🔑 กุญแจสำคัญสู่ผิวสวยดูกระจ่างใสจากเคลย์ เดอโป โบเต้  

ถ้าพูดสกินแคร์ทางฝั่งของญี่ปุ่น ก็จะมีอยู่มากมาย แต่ที่เป็นไลน์ลักชัวรี่ ก็จะนึกถึง Cle de Peau Beaute อ่านออกเสียงว่า เคลย์ เดอ โป โบเต้ แบรนด์นี้จัดว่าเป็น Luxury แบรนด์อันดับต้นๆ จากบ้าน Shiseido นะ แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นนะครับไม่ใช่แบรนด์จากฝรั่งเศส ถึงแม้ว่าชื่อจะดูเป็นฝรั่งเศสก็เถอะ โดยส่วนตัวผมเองก็ใช้และชอบหลายๆอย่างของเค้าอยู่แล้ว ผลิตภัณฑ์แรกที่ผมได้รู้จักและทดลองใช้เป็นครั้งแรกก็มาจากตัวกันแดดของเคลย์ เดอ โป โบเต้  ที่หลายคนพูดถึงกันเยอะมากว่าใช้ดี และเป็นไอเท็มที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน ตอนนี้ตัวผมเองก็อยากจะขยับไปลองใช้ตัวอื่นๆ ดูบ้าง เพราะโดยส่วนตัวชื่นชอบในนวัตกรรมของการทำสกินแคร์ทางฝั่งญี่ปุ่นอยู่แล้ว และเชื่อมั่นว่าจะต้องคัดสรรสิ่งดีๆใส่ลงมาในสกินแคร์แน่นอน เพราะคนญี่ปุ่นจะใส่ใจในคุณภาพสินค้าเป็นอย่างมาก เลยเป็นที่มาของการมาเริ่มลองใช้ตัว Le Serum ขวดนี้ครับ อ่านว่า “เลอ เซรั่ม” นะครับ

Le Serum

• หลักๆตัวนี้เป็นเซรั่มที่จะช่วยในการฟื้นบำรุงผิวทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นและปกป้องผิวจากหลายปัจจัยทั้งมลภาวะ รังสียูวี รวมถึงความเหนื่อยล้าและความเครียดต่างๆ ซึ่งเป็นผลทำให้เกิดริ้วรอยตามมานั่นเองครับ

✐ ส่วนผสมหลักที่สำคัญ:

•ทีนี่เรามาดูส่วนผสมกันบ้าง โดย 5 ส่วนผสมหลักๆที่อยู่ในเซรั่มขวดนี้( ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์จะมี 5 ส่วนผสมหลักนี้อยู่แล้ว ) เริ่มจาก

~รังไหมสายพันธุ์พิเศษ Platinum Golden Silk Essence

:ส่วนผสมนี้จะให้ความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากรังสียูวี รวมถึงความแห้งกร้านได้ดี

~สารสกัดจากไข่มุกญี่ปุ่น

:สารสกัดที่ได้จะเป็นกรดอะมิโน 20ชนิด ที่จะเน้นในเรื่องของการให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี และไม่ทำให้ผิวระคายเคือง

 
~ธีอะนีน สารสกัดจากใบชาเขียว

:เป็นตัวช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว

~สารสกัดจากใบชิโสะแดง

:จะช่วยเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันของผิวให้มีความแข็งแรงขึ้น รวมถึงชะลอความชราของผิวได้อีกด้วย ซึ่งจะมอบประสิทธิภาพได้เข้มข้นกว่าใบชิโสะสีเขียว

~สารสกัดจากโสมตังกุย

:ซึ่งสกัดจากส่วนของรากแก้ว ที่มีสารบำรุงมากมาย ที่จะช่วยในเรื่อยการต่อต้านริ้วรอย

•นอกจากส่วนผสมหลักทั้ง5 แล้ว ก็ยังมีส่วนผสมเฉพาะที่อยู่ใน Le Serum ก็จะเป็นสารสกัดสาหร่ายทะเลน้ำลึก 3สายพันธุ์ ก็คือสาหร่ายสีแดง, สีเหลือง และสีเขียว ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ในชั้นบนนั่นเองครับ

✐ วิธีใช้และผลลัพธ์:

•ทราบถึงส่วนผสมทั้งหมดกันแล้วทีนี่เรามาดูวิธีการใช้และผลกันบ้างครับ วิธีใช้ก็ลงเซรั่มตัวนี้ก่อนตัวแรกเป็นเฟิร์สสเต็ปหลังการล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว ตัวคีย์หลักสำคัญของเซรั่มตัวนี้จะมีความพิเศษก็คือการทำงานของเค้าจะสามารถซึมลงได้ทั้งผิวชั้นบน (Edidermis)และชั้นลึงลงไป (Dermis) ทำให้ผิวของเรามีความชุ่มชื้นมากกว่าปกติ เมื่อผิวมีความพร้อมจะทำให้ผิวของเราสามารถรับสารอาหารหรือครีมตัวอื่นๆในลำดับถัดไปได้ดียิ่งขึ้นครับ

•กดหัวปั๊มสามครั้งลงบนฝ่ามือแล้วลูบเบาๆลงบนผิวหน้าและลำคอได้เลย สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและก่อนนอนเลยครับ ตอนเช้าผมลงเซรั่มแล้วตามด้วยกันแดดคือจบเลยง่ายดีครับ

•เซรั่มตอนกดออกมาจะเป็นเนื้อใสคล้ายน้ำแต่มีความเข้มข้นยืดหยุ่นเกาะที่ผิว ครั้งแรกที่ใช้เห็นใสๆแบบนี้คิดว่าน่าจะไม่เข้มข้น แต่พอลูบลงผิวเท่านั้น สัมผัสแรกจะรู้สึกได้เลยว่าเข้มข้นชุ่มชื้นอิ่มน้ำมาก แต่ทิ้งไว้สักพักไม่นานเนื้อเซรั่มก็ซึมลงผิว เก็บความชุ่มชื้นบนผิวได้ดี และไม่ทิ้งความเหนอะหนะบนผิวเลย สมแล้วที่เป็นเฟิร์สเซรั่มตัวแรกที่ใช้ปูผิวก่อน หลังจากใช้มาได้หลายวันสิ่งที่รู้สึกขึ้นได้เลยก็คือผิวมีความชุ่มชื้น ผิวนุ่มกระจ่างใสและผิวละเอียดขึ้นจนเพื่อนๆทักว่าทำไมช่วงนี้ผิวดีจัง ส่วนในเรื่องของกลิ่นนั้นก็ให้ความหอมอ่อนๆละมุนละไมใช้ง่าย ยิ่งเวลาวันไหนเหนื่อยหรือเครียดจากงานมา พอได้ใช้เซรั่มตัวนี้ความหอมของกลิ่นคือช่วยรีแล็กซ์ได้ดีมากให้รู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งเวลาใช้ครับ

✍️ สรุป:

•เคลย์ เดอ โป โบเต้ ถือกำเนิดมาในปี 1982 ที่นับรวมๆแล้วเกือบจะ40ปี มาถึงปัจจุบันนี้ก็ได้ถูกพัฒนาเทคโนโลยี ปรับปรุงสูตรและใช้ส่วนผสมหายากดีๆมาใส่ในสกินแคร์ แม้ว่าราคาจะสูงแต่ส่วนผสมดีๆกับงานวิจัยและนวัตกรรมก็ต้องให้เค้า ณ จุดนี้ครับ ใน Le Serum นี้เค้าทำออกมาให้เลือก2 ไซด์ ทำให้จับต้องได้ง่ายขึ้น และในเรื่องของแพคเกจจิ้ง เนื้อเซรั่มถูกบรรจุอยู่ในขวดแก้วสีขาวเหลือบไข่มุกพร้อมฝาสีทอง ที่ทำออกมาได้ดูสวยหรูหราสมกับเป็นลักชัวรี่จริงๆ ความสวยงามของแพคเกจจิ้ง มีผลต่อความรู้สึกในการหยิบใช้ แถมวางบนโต๊ะสกินแคร์ก็สวยสะดุดตาอีกด้วย ส่วนตัวแล้วชื่นชอบ Le Serum ตัวนี้เพราะตอบโจทย์ในความบางเบาสบายผิวถึงแม้จะเป็นเนื้อเซรั่มก็ตาม ผมเองก็คงจะใช้ต่อไปเรื่อยๆ และก็แอบเล็งตัวอื่นๆอีกหลายตัวของเค้า เอาเป็นว่าถ้าได้ใช้ตัวอื่นตัวไหนของ เคลย์ เดอ โป โบเต้ แล้วชอบอีกรอบหน้าผมจะแวะมารีวิวอีกครับ