รวบตึงโป๊ะ! Skincare routine ทำยังไงถึงหน้าใส หาซื้อง่ายๆ ได้ในเซเว่น

40 15

สวัสดีจ้าเพื่อนๆทุกคนนนน หลังจากที่เราWFHมานานอ่ะเนอะ เราก็มีเวลาได้นั่งทบทวน คิดนู่นนี่ต่างๆมากมาย ได้ทำอะไรหลายๆอย่าง 

ได้ลองใช้อะไรหลายๆอย่างที่อยากลองใช้แล้วยังไม่ได้ใช้ ก็แฮปปี้ดีนะ ใต้ความเลวร้ายของสภาพแวดล้อมภายนอก ก็ยังแอบมีความหวังเล็กๆของเราว่ามันจะผ่านไปได้ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข


ก็นั่นละ ด้วยความที่อยู่กับตัวเองมากขึ้นได้คิดอะไร ได้ทำอะไรต่างๆกับตัวเองมากขึ้น เลยทำให้ตัวเราเองก็นึกขึ้นได้ว่า เห้ย!!! ก็เขียนบล็อคให้คนอื่นอ่านมาก็ตั้งนานแล้วรีวิวนู่นนี่เยอะแยะเลย แต่ก็ไม่เคยได้มาอัพเดตให้ได้อ่านกันแล้วว่า routine จริงๆของเรามันมีอะไรบ้าง เพราะก่อนหน้านี้รีวิวก็รีวิวเป็นรายตัวไป เพราะฉะนั้นวันนี้แหละ ขอถือโอกาสอันดีนี้ มาเล่าและถือเป็นการอัพเดตสกินแคร์รูทีน 2021 ของเราเลยก็ว่าได้ 
ถ้าพร้อมแล้วก็ไปรับชมกันเลยฮ๊าฟฟ

มาที่ขั้นตอนแรกหลังจากการล้างหน้าเลย ขั้นตอนแรกที่เราจำทำการบำรุงหน้าของเรา นั่นคือการเช็ดโทนเนอร์ก่อนเป็นอันดับแรก เช็ดโทนเนอร์เพื่ออะไร ก็เพื่อการปรับสมดุลผิวจากความด่างของคลีนเซอร์ต่างๆที่เราทำความสะอาดหน้าไปก่อนหน้านี้ และเพื่อเป็นการรีเช็คความสะอาดก่อนการบำรุงหน้าอีกทีหนี่งนั้นเองจ้า โทนเนอร์ตัวปัจจุบันที่เราเลือกใช้ แล้วรู้สึกว่าเออ มันดีนะ อ่อนโยนต่อผิวดี แต่ก็สัมผัสได้ว่าเค้าช่วยผลัดเซลล์ผิวออกไปด้วย กระตุ้นการสร้างผิวใหม่ และปรับสมดุลได้ค่อนข้างดีก็จะเป็นตัวนี้เลย Claire Triple C skin Booster Treatment Pad  เป็นโทนเนอร์ที่มาในรูปแบบแผนสำลีกลมๆ ที่ชุ่มมากกกก เราว่าค่อนข้างเหมาะเลยกับคนผิวอ่อนโยนนะ เราเริ่มลองจากไปซื้อแบบซองในเซเว่นมาลองก่อน จำราคาไม่ได้นะ น่าจะประมาณ 69 บาท ใน 1 ซอง จะบรรจุประมาณ 4-6 ชิ้น อันนี้จำไม่ค่อยได้ แต่ใช้แล้วรู้สึกว่า เออก็บำรุงหน้าได้ค่อนข้างดีเลย เลยไปซื้อแบบกระปุกมาใช้ซะ บวกด้วยกับโทนเนอร์พี่จุนสุดที่รักหมดไปด้วย ก็เลยตัดสินใจมาลองน้อง อย่างที่เค้าเคลมมา เค้าสามารถบำรุงหน้าเราได้ 4 ประการ นั่นก็คือ

1.Exfoliation ผลัดเซลล์ผิว

2.Skin soothing ให้ความชุ่มชื้นกับผิว

3.Sebum control ควบคุมความมัน

4.Smooth clear skin ให้ผิวเนียนนุ่ม กระจ่างใส


ซึ่งก็บอกได้ว่าค่อนข้างโอเคเลยกับสิ่งที่น้องคนนี้ทำได้ เราใช้เป็นขั้นตอนแรกเช้าเย็น ทริคคือเช็ดตอนที่หน้าเปียกๆเลย หลังอาบน้ำเสร็จไม่ต้องเช็ดหน้าให้แห้ง เอา Toner pad นี่แหละเช็ดเลย เราว่ามันซึมเข้าสู่ผิวได้ดี และรูขุมก็กระชับจริง ใครอยากลองก็ลองหาซื้อดูนะ ราคาจำไม่ผิดเราได้มาประมาณ 690 บาทจ้า

เสต็ปการบำรุงหน้าถัดมาก็จะเป็นน้ำตบ หรือเอสเซ้นต์ ซึ่งหลักๆแล้วในขั้นตอนนี้เราคาดหวังเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นหลัก แต่ตัวนี้ที่เราหยิบมาพูดเรามองว่าค่อนข้างน่าสนใจเพราะเค้าเคลมว่าทำได้หลายอย่างมาก นั่นก็คือ SoS Fullerene & phytoplacenta treatment essence โดยbenefitที่เค้าเน้นย้ำมาคือเรื่องการลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน ผิวแข็งแรง และกระจ่างใสขึ้น โดยสารที่เค้าขูเด่นมาเลยก็คือ ฟลูเลอรีน 
ที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่า Vit C ถึง 125 เท่าเลยทีเดียว
ผลโดยรวมบอกตรงๆเลยว่ายังไม่สามารถบอกได้ เพราะเพิ่งลองได้ประมาณ 3 สัปดาห์ เลยขอวัดผลที่แน่ชัดกว่านี้ก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้จริงจากการใช้มา 3 สัปดาห์คือประทับใจเรื่อง texture และการลดรอยแดงนะ เพราะเราเป็นคนมีรอยแดงง่าย ตัวนี่ช่วยบำรุงหน้าเราให้รอยแดงมันจางลง และผิวดูแข็งแรงขึ้นจริง หาซื้อได้ที่วัตสันเลย จำไม่ผิดราคาอยู่ที่ 590 บาท แต่นี่ซื้อมาช่วงลดราคาแค่ 300 เองมั้ง ใครอยากลองก็ลองได้เลย แนะนำนะ

มาที่สเต็ปถัดไป นั่นก็คือเซรั่ม จะขอเล่าก่อนว่าด้วยความที่ตอนนี้ฉันมีเวลามากพอที่จะลองเซรั่มต่างๆอย่างมากมายเพราะฉันอยู่บ้าน แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัด ฉันเลยถามตัวเองว่าต้องการเซรั่มแบบไหนที่จะมาบำรุงหน้าเรา เราคอนเซิร์นเรื่องอะไร เนื่องจากงบประมาณที่จำกัด ฉันเลยคิดว่าเอาวะ! ฉันจะลองหาเซรั่มกลุ่มที่เป็นทั้งเซรั่มหน้าใสและเซรั่มลดรอยสิวในซองเดียวที่อยู่ในเซเว่นดู


ซึ่งก็มาพบน้องคนนี้ ถ้าบอกว่าขึ้นแท่นลูกรักก็จะดูพูดเท็จมากเกินไป แต่ปัจจุบันคือหลอดที่ 7 แล้ว มูฟออนจากน้องไม่ได้ มูฟเป็นวงกลม อ่ะ! คงอยากรู้แล้วว่าอะไร ก็คือเซรั่มหน้าใสตัวนี้เลย BK Acne Brightening Serum Anti-pollution เซรั่มหน้าใสตัวดังจากแบรนด์ไทย ที่ใครก็รู้ว่าเด่นมากเรื่องสกินแคร์เพื่อคนเป็นสิว กับน้องมาส์กสิวในตำนาน 
อันนั้นก็คือชื่อเสียงเลื่องลือ

น้องเซรั่มหน้าใสBKคนนี้ดียังไง เรามองว่าเค้าเป็นเซรั่มหน้าใสที่ 

1.บางเบาสบายผิวมากเลยทาตอนไหนก็ซึมง่าย ไม่หนักผิว

2.เป็นเซรั่มหน้าใสที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้าได้ดี

3.เป็นเซรั่มหน้าใสที่ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นจริง

4.เป็นเซรั่มหน้าใสที่หวังผลได้จริงเรื่องการลดเลือนรอยดำรอยแดงต่างๆ และผิวกระจ่างใสขึ้นเรื่อยๆเมื่อใช้เป็นประจำ

5.เป็นเซรั่มหน้าใสที่ทาตอนเช้า ระหว่างวันค่อนข้างช่วยควบคุมความมันได้ดี ส่วนตัวใช้แล้ววัดได้จริงว่าวันที่ใช้เซรั่มหน้าใสตัวนี้ 

หน้าผลิตน้ำมันน้อยกว่าวันที่ไม่ใช้

6.เป็นเซรั่มหน้าใสที่อ่อนโยนกับผิวมากๆ

เพราะไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบนแต่อย่างใด

7.ข้อนี้พีคมาก หาไม่ค่อยได้ในสกินแคร์บำรุงหน้าทั่วไป นั่นก็คือเทคโนโลยี Pollu-Shield ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะอย่าง PM 2.5 ช่วงนี้คนอาจจะลืมไปเพราะมีปัญหาที่ใหญ่กว่าคือนังพระโควิดตัวร้าย ที่ก็ไม่เลือกกินสักทีว่าจะกินวัคซีนตัวไหนแล้วตายไป เพราะฉะนั้นมันดีมากที่เซรั่มหน้าใสตัวนี้สามารถเสริม skin barrier ให้ได้ทั้งภายนอก

และภายในชั้นผิว 


ตัวเราเองก็เริ่มจากลองเซรั่มหน้าใสตัวนี้จากแบบซอง พอขึ้นซอง2เลยรู้สึกว่าไม่ได้การ ถ้าอยากใช้คุ้มต้องซื้อแบบหลอดมาใช้ เพราะแอบเห็นว่าใน Tiktok เค้าเอาเซรั่มหน้าใสตัวนี้ มาบีบใส่สำลีโทนเนอร์แล้วมาแปะบำรุงหน้าเป็น DIY Mask ก็เลยลองบ้างในวันที่รู้สึกว่าหน้ามันยงมมากกก ปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ได้คือเกินคาด ความแดง ความเอือดบนผิวที่เหมือนว่ากำลังจะอักเสบ มีผื่นแพ้ขึ้นหายไปเลย และดูดีขึ้นได้แบบสังเกตได้ เราคาดว่าน่าจะเป็นเพราะส่วนประกอบตัว Vitamin B3 ที่เค้าใส่มาเข้มข้นมาก ถ้าพลิกดูที่ส่วนผสมจะเห็นได้เลยว่าจะอยู่ลำดับที่ 2 ถัดต่อจากน้ำที่เป็นส่วนประกอบที่เยอะที่สุด ถ้าอยากลองใช้ก็ 49 บาทในเซเว่นเลย ส่วนแบบหลอดก็ 389 บาท เราสอยเซรั่มหน้าใสตัวนี้มาจากวัตสันช่วงลดราคาเหลือแค่ 299 แต่ถ้าใครไม่ทันแต่อยากคุ้มรอดูโปรที่ Konvy.comให้ดี จัดโปรบ่อยเหมือนกัน

ลำดับถัดมาก็คือ moisturizer ซึ่งน้องคนนี้เราก็ขอบอกตรงๆว่าค้นพบจากการที่ติดตามบล็อคเกอร์ท่านหนึ่งที่เค้าชอบพกไปใช้มากเวลาที่ไปเล่นฟิตเนสตอนเช้าหลังจากอาบน้ำเค้าจะพกน้องคนนี้ไปทาเป็น Dairy moisturizer เลย แถมพรรณนาความดีงามของน้องไว้อย่างมากมาย มีเหรอทาสการโดนป้ายยาแบบฉันจะพลาด ฉันเลยพุ่งตัวไปเซเว่นโดยเร็วเลยจ้ะ แล้วก็หยิบน้องคนนี้พร้อมกับทำให้ฉับได้ พบเจอน้องเซรั่มลดรอยสิวที่เค้าก็มาจากแบรนด์เดียวกัน นั่นก็คือ ครีมลดรอยสิว BK Acne Expert Bright Plus น้องคนนี้เป็นครีมลดรอยสิวสูตรใหม่ที่ BK เค้าปรับมาให้เนื้อมันบางเบาลงจนบางเบาจะเป็นเนื้อเซรั่มหน้าใสอยู่แล้ว แต่ให้เรื่องความชุ่มชื้นกับเนื้อเข้มข้นขึ้นกว่าตัวเซรั่มหน้าใสนะ งั้นเราขออนุญาตเรียกน้องคนนี้ว่า เซรั่มลดรอยสิวแล้วกัน เพราะเท่าที่อ่านจากรีวิวต่างๆมามีหลายอยู่นะที่เข้าใจผิดว่าทั้ง 2 เป็นเซรั่มลดรอยสิวเหมือนกัน แต่จริงๆน้องหลอดเขียวคนนี้เป็นครีมบำรุงนะทุกคน

ต้องบอกว่าเราใช้น้องเซรั่มลดรอยสิวตัวนี้มาตั้งแต่เค้าเป็นสูตรเดิม บอกเลยว่าเลิฟมาก เหมาะมากที่จะเป็นครีมบำรุงสำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่ายและชอบมีรอยสิวอยู่บนหน้า เพราะเซรั่มลดรอยสิวตัวนี้เค้าช่วยให้ผิวของเราดูดีได้ดังนี้

1.ลดรอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิว

2.ลดรอยสิว

3.ทำให้ผิวกระจ่างใส ด้วยอนุพันธ์ Vit C

5.ลดการอักเสบของสิว

6.รักษาสิวอุดตัน และรอยแผลจากสิวได้

ที่สำคัญที่อยากจะพรีเซ้นต์มากคือ เซรั่มลดรอยสิวตัวนี้อ่อนโยนมาก แม้คนท้องก็ยังใช้ได้ด้วยซ้ำไปเพราะว่าไม่มีอนุพันธุ์ Vitamin A จึงไม่เป็นอันตรายเลยล่ะ แถมยังไม่มี น้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบนที่อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองขึ้นกับผิวได้ด้วย บอกเลยว่าเป็นเซรั่มลดรอยสิวที่ราคาถูกและดีในเซเว่นที่เราแนะนำเลย เพราะเราเองก็เริ่มจากแบบซอง จนใช้เยอะเข้าทนไม่ไหวอ่ะเธอ คนมันคันอยากใช้เงินก็ต้องจัดน้องเซรั่มลดรอยสิวคนนี้แบบหลอดมาจากวัตสันเลยจ่ะ แบบของดี ปริมาณคุ้ม ฉันไม่ซื้อมันแล้วแบบซอง แบบหลอดคุ้มกว่า แต่เมื่อไหร่ที่เดินทางไปตจว.หรือต่างที่ที่ต้องค้าง เราก็ยังคงเดินเข้าเซเว่นไปหยิบน้องเซรั่มหน้าใสกับตัวเซรั่มลดสิวแบบซอง 2 ตัวนี้มาใช้อยู่ดี

เรามาต่อที่ลำดับถัดไปกันเลย อันนี้เป็นขั้นตอนพิเศษ ไม่มีก็ได้ แต่วันไหนที่รู้สึกว่าอยากได้ผิวที่ชุ่มชื้นมากๆอยากเติมน้ำเราจะใช้ตัวนี้ HADA Labo Perfect Gel น้องเป็น Sleeping mask เนื้อเข้มข้นมาก 

ทาได้กลางคืนเท่านั้นนะสำหรับเรา

เค้าเป็นเนื้อเจลก็จริงแต่มันเข้มขข้นมาก แบบเคลือบผิวเลย คือตื่นเช้ามาก็ยังชุ่มชื้นอยู่ ใครสนใจก็ลองไปหามาใช้กันดูได้เลยครับ ที่วัตสันก็มี
ลำดับถัดมาในตอนเช้าหลังจากทาสกินแคร์ทุกอย่างเราก็จะตามด้วยกันแดดครับ ช่วงนี้มันร้อยมากจริงๆเราเลยจะชอบกันแดดที่เนื้อบางเบาแต่อ่อนโยนหน่อย ตัวแรกจะเป็นกันแดดจาก Sun Play Tone up Sunscreen 
เราใช้สูตรสีเขียว เพราะเรารู้สึกว่าเค้าช่วยอำพรางความแดงบนหน้าเราได้เป็นอย่างดี ในวันที่อยากเบาหน้า แต่คือเค้าใส่มาทั้งแอลกอฮอล์ และน้ำหอมเลยนะ แต่เราใช้ได้ไม่ระคายเคืองอะไร สบายผิวดี
ส่วนวันไหนที่เราอยากได้การปกปิดรอยสิวหรือผิวที่แดงมากๆเราจะใช้กันแดดเนื้อบีบีของ D Program เค้าบอกมาเลยว่าเป็น Physical Sun Screen ที่ช่วยปกปิดระดับนึงเลยนะแต่ก็แบบบางๆงานผิวๆเลย ผิวที่ได้จะแบบแมทๆเลย เบาดีแต่ก็ยังรู้สึกได้ว่าทาอะไรบนผิวเหมือนเราทารองพื้นเลย เนื้อจะต่างกับตัวซันเพลย์โดยสิ้นเชิงเลย เพื่อนๆคนไหนที่อยากได้ผิวแบบไหนเราก็แนะนำว่าลองดูนะ 2 ตัวนี้ หาซื้อได้ตาม Drug Store ทั่วไปเหมือนกันจ้า ราคาร้อยกลางๆถึงร้อยปลายๆจับต้องง่ายจ้า
และสุดท้ายตบท้ายที่การบำรุงปาก เราลองไอเท็มใหม่ทั้ง 2 ตัวอยู่เลยช่วงนี้ ตัวแรกคือ Tone up Lip จาก Mentholatum เป็นลิปมันเนื้อบางเบาดีนะ ทาได้ทั้งเช้าและเย็นเลย ก็คือทาได้ทั้งวัน น้องบอกน้องเป็นโทนอัพลิปแต่เราไม่ได้รู้สึกว่าเค้ามีสีขนาดนั้น แบบเค้าช่วยให้อมชมพูขึ้นมานิดนึงนั่นแหละ พองามพอดี ไม่โป๊ะ
ส่วนอีกตัวเป็นลิปเนื้อบาล์มจาก Labocare Panteno Lips Healbalm ที่เค้าเคลมว่าจะช่วยปรับสีปากเราให้ดูชมพูขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่ใช้ไปต่อเนื่อง ซึ่งส่วนตัวลองแล้วตอนแรกจะรู้สึกเหมือนเราเอาครีมทาหน้ามาทาปากเลย5555 แต่สักพักน้องจะแตกตัวเป็นน้ำ
และซึมเข้าปากทำให้ปากชุ่มชื่นดี 
เอาล่ะถึงเวลามาสรุปความคุ้มค่ากัน เราจะทำเป็นตารางเปรียบเทียบมาให้ดูกันจะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น
เอาล่ะ หลังจากที่ได้เห็นตารางนี้ก็คงจะพอนึกออกแล้วใช่ไหมล่ะว่าอะไรควรตำอะไรควรพัก วันนี้ถือว่าเป็นการป้ายยาสินค้าในเซเว่น และสินค้าใน Drug store แบบเบาๆ เพราะตอนนี้เพื่อนๆก็คงมีหลายคนที่ยังทำงานอยู่บ้านหรือบางคนก็อาจจะต้องออกไปผจญโลกกันมากมาย ก็ขอถือโอกาสนี้ให้กำลังใจเพื่อนๆให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และอย่าหยุดสวยเพื่อที่จะมีผิวที่ดี ผิวที่แข็งแรงควบคู่ไปกับสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงนะครับทุกคน ในวันนี้ก็ต้องขอลาไปก่อน สวัสดีค้าบบบบบ


Natchanonbj

Natchanonbj

Nice to meet you guys :)
กราบสวัสดีนะครับเพื่อนๆทุกคน ผมณัฐนะครับ อยากจะมาขอเขียนบล็อคเพื่อแชร์ประสบการณ์สำหรับผู้ชายที่อยากดูแลตัวเอง แบบฉบับผู้ชายปอนปอน
ในที่นี้อาจจะหมายถึง 100 ปอนด์มั้ง อ่ะไม่ใช่ครับ ฮ่าๆๆๆ
ยังไงก็ขอฝากผลงานรีวิวบ้านๆของผมด้วยนะครับ ผู้ชายอ่านได้ ผู้หญิงอ่านดี
แต่ถ้าแฟนไม่มี ลองอินบ็อกซ์มาหาผมได้นะครับ อ่ะล้อเล่งงงง~
ขอให้ทุกคนสปาคจอยกับการอ่านบล็อคของผมนะครับ ขอบพระคุณคร้าบโผมมมมม

FULL PROFILE