คำแนะนำอยากจะช่วยสาวๆให้ผอมลงค่ะ^^

อ่านกระทู้มาเยอะเลยค่ะ มีทั้งสาวๆที่อยากผอมลงและอยากอ้วนขึ้น แต่ ณ ตอนนี้ขอให้คำแนะนำสำหรับสาวๆที่อยากผอมลงค่ะ

มีหลายคนเลยล่ะค่ะที่ถามว่าจะทำยังไงให้ผอมลง/น้ำหนักลดซักที หรือ ถามว่าเดือนนึงอยากลงซัก 5 กก. 10 กก. ได้มั้ย และจะใช้วิธีอดข้าวเย็น ข้าวเช้าและข้าวกลางวันก็กินน้อย(ซะเหลือเกิ๊นนนน) อย่างนี้จะลดได้มั้ยคะ ดิฉัน(ในฐานะผู้ที่เคยมีประสบการณ์การลดน้ำหนักมาเหมือนกัน)ขอตอบว่า......

ไม่มีทางหรอกค่ะ(ยกเว้นว่าคุณจะผ่าตัดดูดไขมัน) การลดน้ำหนักด้วยธรรมชาตินั้น อย่างมากลดได้เดือนละ 10% ของน้ำหนักตัวก็แทบจะทำได้ยากมากเลยค่ะ

ไม่เชื่อลองไปดูรายการ the biggest loser หรือรายการ TV Champion ที่แข่งกันเป็นสุดยอดเทรนเนอร์ลดน้ำหนักดูอ่ะค่ะ รายการทั้ง 2 รายการนี้เนี่ย คนเราลดน้ำหนักได้มากๆแค่ในช่วงสัปดาห์หรือ 2 สัปดาห์แรก แล้วน้ำหนักจะลดได้น้อยลงแต่ค่อนข้างลดลงอย่างสม่ำเสมอค่ะ และยิ่งถ้าคุณมีน้ำหนักน้อยอยู่แล้ว(ประมาณไม่เกิน 55- 60 กิโลกรัม ทั้งนี้คุณควรมีความสูงประมาณ 165 ซม. แต่ถ้าเตี้ยกว่าหรือสูงกว่านี้ก็ลองบวกลบดูเอานะคะ) ก็จะยิ่งน้ำหนักลดลงได้ยากกว่าคนที่มีน้ำหนัก 70 - 80 กิโลขึ้นไปอีกค่ะ

และการเผาผลาญไขมันให้ได้ 0.45กก.นั้น คุณจะต้องลดน้ำหนักให้ได้อาทิตย์ละ 3500 กิโลแคลลอรี่ เฉลี่ยแล้ววันละ 500 กิโลแคลลอรี่

แล้วลองคิดดูสิคะว่า 500กิโลแคลลอรี่นี้หายไปได้อย่างไรในหนึ่งวัน มันยากมากนะคะ เพราะคนเราต้องพลังงานวันประมาณ1200(สำหรับสาวออฟฟิซที่นั่งทำงานนานๆไม่ได้ขยับแข้งขานะคะ ซึ่งตามปกติทั่วไปควรได้รับพลังงานประมาณ1400-1500กล.แคลฯ และถ้าเป็นผู้ชายจะมากกว่านี้นะคะ)

บางคนอาจเกิดคำถามว่า...แล้วไงล่ะ? คิดดูสิว่าชั้นกินไปตั้ง 1200 กล.แคลฯต่อวันแล้วกะอีแค่กินให้น้อยลงไปซัก 500 กล.แคลฯแค่นี้จะไปยากอะไร งั้นเรามาลองคำนวนดูง่ายๆนะคะว่า ถ้าวันๆนึงเรากินเฉพาะอาหารครบ 3 มื้อ และไม่กินของจุบจิบใดๆทั้งสิ้นไม่ว่าขนม หรือน้ำหวาน ชา กาแฟ เราจะต้องทานเฉลี่ยแล้ว 400 กล.แคลฯต่อมื้อ

400 กล.แคลฯนี่ไม่มากอย่างที่สาวๆคิดนะคะ เพราะ (สมมติว่าเราอยู่ในช่วงลดความอ้วนอยู่นะ) เรากินแค่ส้มตำปลาร้า(ไม่กินตัวปลานะ กินแต่เส้นอย่างเดียว)อย่างเดียวเท่านั้น ก็ปาไปแล้ว 250 กิโลแคลฯ แค่นี้หนึ่งมื้อไม่อิ่มแน่ อ่ะ ซัดข้าวเหนียวอีกซักหนึ่งปั้น(ครึ่งห่อที่มีแม่ค้าใส่ถุงขายทั่วไป)ก็น่าจะซักอีก 150 กล.แคลฯ สรุปว่ามื้อนี้ครบ 400 กิโลแคลฯพอดิบพอดีเลย ไม่เป็นไร เพื่อความง่าย เรากินอย่างนี้มัน 3 มื้อแหละง่ายดี ไม่มีไขมันอีก

แต่ทว่าความจริงแล้ว
- ร่างกายเราต้องการอาหารครบ 5 หมู่ค่ะ แล้วคิดดูสิคะว่า ส้มตำปลาร้านี่ให้โปรตีนเราหรือไม่ ไขมันซักนิด(ที่ติดมากับโปรตีนก็ยังดี)ก็ไม่มีอีกค่ะ แล้วร่างกายเราจะเอาอะไรซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เนื้อสัตว์นอกจากให้โปรตีนแล้วยังมีวิตามินแทบทุกชนิด(ตั้งแต่บี1ถึงบี12 ไปลองนับดูค่ะว่าเนื้อสัตว์ให้อะไรได้บ้าง) ไข่แดง มีโฟเลต ธาตุเหล็ก ฯลฯอีกมากมายอเนกอนันต์ ซึ่งถ้าคุณคิดว่าจะไปหาซื้อวิตามินรวมกินซะเลย ธาตุเหล็กต้องการมากใช่มั้ยชั้นก็จะกินเสริมเข้าไป แล้วกินแต่อาหารเสริมเนี่ย จะมีความสุขได้หรือคะ เราอ้วน ก็อ้วนเพราะเรามีความสุขจากการกินไม่ใช่เหรอ เพราะฉะนั้น เราอย่าให้การลดน้ำหนักทำลายความสุขของเราสิคะ แต่ให้เรากินให้น้อยลง เลือกกินไม่ใช่กินไม่เลือก อีกอย่างอาหารเสริมมีราคาแพง ถ้าไม่มีเงินถุงเงินถังเหลือกินเหลือใช้ก็อย่าเพิ่งทำตัวเป็นสาวน้อยอวกาศทานแต่อาหารแคปซูลเลยค่ะ

- ลองคิดดูว่า วันๆหนึ่งเราทานเพียงแค่นั้นเหรอ กินส้มตำเราก็ต้องกินหมูปิ้งด้วย หรือไก่ย่าง หรือปลาดุกย่าง ฯลฯ ซึ่งเพิ่มแคลลอรี่เข้าไปทั้งนั้น ยังไงซะมื้อนี้เกิน 400 กล.แคลฯชัวร์ อีกอย่าง สาวๆอย่างเรามีต่อมรับรสที่เอียดกว่าและดีเลิศกว่าเพศชาย ดังนั้นเราจึงชื่นชอบทานของจุ๊บจิบเป็นประจำ ตั้งแต่น้ำหวาน ชา กาแฟ โกโก้ ฯลฯ พวกนี้เนี่ยของมันก็มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบทั้งนั้น น้ำตาลเป็นสารโมเลกุลเดี่ยวที่ร่างสามารถนำไปใช้ได้ทันที/รวดเร็วมากกว่าแป้งซึ่งจะดีมากถ้าเราหิวข้าวจนจวนเจียนจะเป็นลมแล้วการดื่มน้ำหวานจะช่วยให้ดีขึ้นค่ะ แต่ถ้าหากการทานของหวานๆนั้นเกินความจำเป็นร่างกายไม่จำเป็นต้องใช้ มันจะเก็บสะสม พอกพูนอย่างรวดเร็วเช่นกัน

รายละเอียดยังมีอีกพรึบค่ะ ขอจบการเขียนเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ แล้วจะมาเขียนต่อวันหลังค่ะ (คราวหน้าจะพยายามเขียนให้ถึงส่วนที่เป็นวิธีการลดอย่างถูกต้องนะคะ)

เนื้อหาที่พิมพ์มาทั้งหมดนี้ท่านสามารถนำไปศึกษาได้และต่อยอดเองได้และข้อมูลที่ท่านได้รับไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นในการอ่าน หวังว่าคำแนะนำที่กล่าวมาทั้งหมดพอจะช่วยให้สาวๆเพรียวงามได้ดั่งใจ ในวิถีทางที่ถูกต้องนะคะ