สวัสดีค่ะ 

Merry Christmas everyone...

ใกล้ละ ใกล้จะสิ้นปี และโควิดก็มาใกล้ตัวอีกละ เครียดงานไม่พอ จิตตกไปอีก เฮ้อ!!!

หลังจากเครียด ซึมเศร้า จิตตก ยังไงก็ไม่อยากแก่ ไม่อยากผิวพัง 

วันนี้มิวขอมาแชร์ไอเท็มที่มิวใช้ดีท็อกซ์ผิว บำบัดอารมณ์ให้ผ่อนคลายในช่วงนี้ซักหน่อยค่ะ ไอเท็มที่ใช้บางชิ้นมิวก็เคยรีวิวสรรพคุณความดีงามแบบฉายเดียวมาบ้างแล้ว วันนี้ก็มาสรุปพอกรุบกริบและทำฮาวทูทีละขั้นตอนกันค่ะ

มาถ่ายรูปหมู่ ก่อนทำพิธีกรรม เอ้ย!! บำบัดผิวกันค่ะ  

เริ่มจาก ขั้นตอนแรก….. 

“ทำความสะอาดผิวด้วย คลีนเซอร์”

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ : Faith in face Truly Watery Cleansing Water

คลีนซิ่งแบบน้ำ ที่หยิบใช้บ่อยในช่วงนี้ ใช้ไปก็เยอะแล้วด้วย เพราะเช็ดทำความสะอาดได้หมดจดและไม่ระคายเคืองรอบดวงตาด้วย ไม่ทิ้งความเหนอะหนะผิว และมิวก็ยังแบ่งคลีนซิ่งเอามาไว้ทำความสะอาดแปรงแต่งหน้า ได้แปรงสะอาดกริบแถมขนแปรงก็ไม่หยาบแข็ง ไม่ทำลายขนแปรง บอกแล้วว่าเขาอเนกประสงค์จริงๆค่ะ ใช้เป็นโทนเนอร์ก็ได้นะ แต่มิวชอบเอาทาเช็ดก่อนล้างหน้ามากกว่า

ขั้นตอนนี้สำคัญ ถึงแม้จะไม่แต่งหน้าก็สามารถใช้ได้ เพราะเราต้องออกไปเผชิญมลภาวะ ฝุ่นควันภายนอกอาคาร มิวแนะนำว่าเช็ดออกก่อนล้างด้วยโฟมอีกครั้งค่ะ จะได้สะอาดหมดจด เวลาเราบำรุงอะไรจะได้เข้าผิวได้ดีค่ะ 

ขั้นตอน Double Cleansing มิวจะทำแค่ช่วงตอนเย็นก่อนนอนค่ะ ช่วงเช้าล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าแล้วเช็ดโทนเนอร์ปรับสภาพผิวก่อนทาสกินแคร์สำหรับกลางวัน 

ขั้นตอนต่อไป…. 

“ดีท็อกซ์ผิว ด้วยการพอกโคลน”

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ : MACCHA NATURAL DETOXIFYING CLAY MASK 

หลังจากที่ทำความสะอาดผิวเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงขั้นตอนสำคัญที่สุดของความสะอาดล้ำลึก พร้อมดูดซับสิ่งสกปรกและสารพิษออกจากผิวและรูขุมขนด้วยโคลน เพราะฝุ่นควัน มลพิษในอากาศในปัจจุบันหนาแน่นซะเหลือเกิน ทำให้บางทีขั้นตอนทำความสะอาดทั่วไปอาจจะไม่ได้ดูดซับสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในรูขุมขุนออกมาได้ เราจึงต้องมีการเพิ่มขั้นตอนนี้เข้ามาช่วย เพื่อผิวสะอาดล้ำลึกหมดจดถึงรูขุมขุน หลังมาร์กเสร็จทำให้รูขุมขนกระชับ และปรับสมดุลผิวให้ผิวดูสุขภาพดี มิวใช้แค่อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ทั้งที่จริงควรใช้ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ (แอบขี้เกียจ)

  ตอนสิวขึ้น รูขุมขุนเบิกบาน หน้าเหมือนคนโดนของผิวไม่สดใส สามารถหยิบมาพอกทั้งหน้าหรือจะพอกเฉพาะจุดที่มีปัญหาก็ได้ค่ะ ทิ้งไว้ซักพัก พอแห้งสนิทแล้วก็ล้างออก และ และ และ ช่วยเรื่องสิวเสี้ยน สิวอุดตันของมิวให้ดีขึ้นด้วยนะ 

หลังจากได้ลองแล้ว 1 ครั้ง ก็ทำให้ชอบจนต้องซื้อซ้ำวนไปอีกแน่นอน เพราะทั้งแพคเกจทำให้ใช้ง่าย พกพาง่าย เนื้อสัมผัสที่เกลี่ยง่าย ล้างออกง่าย และกลิ่นหอมชวนให้ผ่อนคลาย ผลลัพธ์ก็ทันทีหลังใช้ ไม่ให้ใช้อีกได้ยังไง ไอเลิฟไปแล้ว  

ขั้นตอนต่อไป…

“รีเฟรชและปลอบโยนผิว ด้วยน้ำแร่บริสุทธิ์” 

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ : VICHY Mineralizing Thermal Water

น้ำแร่จากแหล่งภูเขาไฟ ที่ช่วยปลอบโยนผิวและเติมแร่ธาตุให้ผิวแข็งแรง แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่มิวแนะนำเพื่อนหลายคนให้ใช้ เพราะสิวผดมิวดีขึ้น ผิวแข็งแรงขึ้นก็เพราะกระป๋องนี้แหละ ใช้หมดเป็นโหลๆแล้ว ถ้าเอากระป๋องมาจุดไฟรวมกันคงสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้ (อันนี้ก็เวอร์ไป ขำๆนะ) ใช้บ่อย ใช้เยอะ และก็ชอบฉีดเปลืองด้วย ก็ฉีดแล้วสบายผิว เย็นฉ่ำดีจริงๆ   ใครที่ชอบแพ้น้ำต่างถิ่น อยากให้ลองพกไปเช็ดหรือฉีดหลังหลังหน้า ช่วยได้นะ ใครที่ผิวอักเสบแสบแดง ก็ฉีดเพื่อปลอบประโลมผิวได้ดีโดยไม่ระคายเคืองและลดอาการอักเสบลงได้ค่ะ  

ขั้นตอนต่อไป…

“มาร์กหน้า เติมความชุ่มชื้นให้ผิวเด้งอิ่มน้ำแบบล้ำลึก”

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ : IT’S SKIN The Fresh Mask Sheet Rose 

การเลือกมาร์กชีทของมิวนั้น ส่วนใหญ่จะดูส่วนประกอบหลังซองมีส่วนผสมที่เคยใช้แล้วไม่แพ้ หรือเป็นแบรนด์ที่เคยใช้สกินแคร์ของเขาแล้ว และที่สำคัญคือโปรโมชั่น ตุนได้ตุน ตอนนี้ก็เลยมีชีทมาร์กเยอะมาก แต่ไม่ค่อยขยันมาร์กเท่าตอนซื้อเลย

  วันนี้เลือกหยิบสุ่มมาจากของที่มีในคลังมาร์ก ก็อินกับกุหลาบก็หยิบกุหลาบมา ถามว่าเคยลองอันนี้มาก่อนรีวิวครั้งนี้มั้ย ???? ตอบเลยว่า “ไม่” 555 (ขำตัวเอง) ก็ถือว่ามารีวิวด้วยเลยละกัน

ผลลัพธ์ที่ได้คือ กลิ่นหอมอ่อนๆละมุน ได้กลิ่นแล้วพร้อมเอาหน้าเข้าไปซุกในมาร์กและให้อารมณ์ด่ำดิ่งลงไปในใยผ้า (ตื่นเถอะ แม่เอ้ย!!! เขียนงานอยู่แม่) มาต่อๆ เนื้อชีทบางแบบพอดีไม่ได้บางเฉียบแนบสนิทผิวเท่าไหร่ ส่วนความชุ่มชื้นให้ความชุ่มชื้นยาวนาน ผิวอิ่มน้ำ จับหน้าแล้วผิวนุ่ม และไม่ทำให้ผิวมันเพิ่ม ไม่หนึบหนับ ไม่อึดอัดผิวให้ชวนรำคาญ ดีย์!! ไว้ไปตำเพิ่มอีก แหะๆ ส่วนน้ำในซองชีทเขาให้มาพอดีไม่ได้เยอะมากแบบที่เหลือมาทาผิวต่อได้นะ  

พักชมโฆษณาแปป...ระหว่างรอมาร์กแห้ง

ขั้นตอนต่อไป… 

“เติมสารอาหารและเกราะปกป้องให้ผิว ด้วยเซรั่ม”

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ : LANCOME ADVANCED GENIFIQUE 

ถ้าได้ลองคบน้องแล้วบอกได้เลยว่า เลิกยาก เหมือนที่เขาบอกว่าถ้าเมื่อลิ้นเราได้สัมผัสอาหารเลิศรสแล้วจะกินอาหารที่ปรุงแบบธรรมดาก็ไม่อร่อยแล้ว นั่นแหละ!! ผิวฉันมันก็เป็นอย่างนั้น ตอนนี้ถ้าใช้อะไรที่แบบไม่บริสุทธิ์ไม่เข้มข้น มันเฉยชาไปเลย เพราะด้วยวัยที่เขยิบใกล้เลขสาม ผิวหนังก็เริ่มถอยหลัง วันไหนนอนไม่พอหรอ กินอาหารไม่ดีหรอ ออกกำลังกายน้อยไปหรอ เครียดหรอ คืนเดียวเท่านั้น แม่เอ้ย!!! เห็นชัดมาก ทั้งเส้น ทั้งตีน(กา) เอย แสดงตัวกันชัดเชียว  

มาเกริ่นซะขนาดนี้ จัดรีวิวชุดใหญ่เลยมั้ยแม่ เนี่ยใช้ตั้งแต่รุ่นแม่ยันรุ่นลูกละ เป็นเซรั่มที่หนึ่งในใจของแม่(ของมิว) และตัวมิวเอง ก็เพิ่งเริ่มมาเป็นสาวกไม่นานเช่นกัน

  เป็นเซรั่มที่เหมือนเกราะปกป้องผิวและช่วยเติมสารอาหารให้ผิวใช้เพียงน้อยๆแต่ใช้นานๆ ผลลัพธ์ก็จะบังเกิดเอง ดีย์มาก!!! ขอกล่าวไว้เลย  

ขั้นตอนต่อไป…

“ปิดล็อคความชุ่มชื้น และเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้ผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์” 

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้วันนี้ : ALTEYA Bio Damascena Rose Otto Night Moisturizer

มอยเจอร์ไรเซอร์ ที่เลิฟที่สุดตอนนี้ ด้วยพลังธรรมชาติสารสกัดจากส่วนผสมออร์แกนิก ที่ใช้เพียงนิดเดียวก็ได้สารอาหารผิวที่เข้มข้นและดีต่อสุขภาพผิวในระยะยาว ส่วนประกอบหลักของเขาก็คือกุหลาบอีกแล้ว ผิวฉันถูกจริตกับกุหลาบแบบไม่มีเงื่อนไข

​

มิวใช้ต่อเนื่องมา 2 เดือนผลลัพธ์ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ผิวดูมีชีวิตชีวา ดูสดใสสุขภาพดี และปิดล็อคความชุ่มชื้นผิวได้ยาวนาน พอลองสลับไปใช้อันอื่นก็หวนกลับมาใช้น้องคนนี้อีกอยู่ดี เยิฟยูว์!!! และสุดท้ายก็ตามด้วยอายครีมของแบรนด์นี้ด้วยน้า

ขั้นตอนการบำบัดผิวของมิวในวันที่อ่อนล้า 

และเรามาก็มาดูภาพความแตกต่างของผิวก่อนและหลังการบำรุงกันค่ะ  

 สรุปผลลัพธ์หลังการที่เราได้บำบัด บำรุงผิว ผิวที่ได้จะมีความสดใสอิ่มน้ำ และที่ปลื้มที่สุดคือ รูขุมขนมันสะอาดและกระชับมากขึ้นเยอะเลย ถ้าทำแบบสม่ำเสมอผิวเราก็จะสุขภาพดีอยู่กับเราไปนานๆเลยนะ  

วันนี้ขอตัวลาไปก่อนนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกการอ่านและพื้นที่แชร์ประสบการณ์ความงามบ้านจีบัน ขอบคุณและขอให้ทุกท่านมีความสุขมากมายในทุกช่วงเวลา ทุกเทศกาลนะคะ

M a d e W i t h L o v e
Mumake90