สวัสดีค่ะ ชาวจีบันนิสต้าทุกคน เชื่อว่า ถ้าพูดถึงแป้งผสมรองพื้นในตำนาน จะต้องมีชื่อ แป้ง BISOUS BISOUS หรือ แป้งดอกไม้ แน่นอน เพราะขนาดเรายังเคยใช้รุ่นแรกตั้งแต่ยังเรียนมหาลัยเลยแหะ ซึ่งสูตรเก่านี่ว่า ดีงามแล้ว แต่ตอนนี้นางปรับสูตรใหม่ให้เลิศกว่าเดิมไปอีก แต่จะปรับที่ตรงไหน + ใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง มาดูกัน กับ 

  BISOUS BISOUS Miracle Blooming 

Anti-Aging Powder Pact SPF30 PA+++

New Formula

 BISOUS BISOUS 

 Miracle Blooming Anti-Aging Powder Pact SPF30 PA+++ 

(995.-)

แป้งดอกไม้สีม่วงในตำนานของ BISOUS BISOUS จริงๆ แป้งดอกไม้เขามีให้เลือก 4 สูตรเด้อ ตอบโจทย์งานผิวแตกต่างกันไป เช่น สีส้มแป้งงานผิว, สีขาวหน้าผ่อง, สีชมพูผิวบริ๊งค์(ไม่ผสมรองพื้น) ฯลฯ และสีม่วงตัวนี้ตอบโจทย์เรื่อง หน้าเด็กปกปิดริ้วรอย ใครที่อยาก เน้นเรื่องการปกปิด + คุมมัน + บำรุง ป้องกันและอำพรางริ้วรอย ตัวนี้ค่อนข้างตอบโจทย์มากกกเลยค่ะ

 แพคเกจ 

น่ารักมากกก ตลับเป็นรูปดอกไม้สีม่วงพาสเทล มีชาร์มเป็นรูปมงกุฎ
ด้านในมีชั้นแยกระหว่างแป้งและพัฟ  + มีกระจกในตัว พกง่าย พกแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองน่ารัก 555 

โดยในเรื่องของการบำรุง 

เขาใส่เจ้าตัว Vitamin C มาปรับให้ผิวกระจ่างใส + Palmitoyl Oligopeptide โปรตีนที่ช่วยปรับให้ผิวยืดหยุ่น ริ้วรอยแลดูจางลง + Moringa Seed Extract ช่วยปรับสภาพผิวหลังเผชิญกับมลภาวะ รวมถึงควบคุมความมัน และปกป้องผิวด้วย นอกจากนี้คือ สูตรใหม่มีการเพิ่มตัวช่วยกันแดดเข้ามา spf 30PA+++ ช่วยปกป้องผิวจากยูวีได้อีกระดับ (แต่ยังไงก็ควรทาครีมกันแดดก่อนแต่งหน้าอยู่ดีเด้อ) 

 ในส่วนของเนื้อแป้งและเฉดสี 

มีการปรับและพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ Ultra-fine + Velvety Soft Powder Texture ทำให้ เนื้อแป้งมีความเนียนละเอียดมากยิ่งขึ้น ติดทนมากขึ้น พร้อมคุมความมันยาวนานกว่าเดิมถึง 12 ชั่วโมง 

- - - - - - 

ส่วนเฉดสี ยังคงมี 4 สีเหมือนเดิม จากที่เราลองปาดแล้วเนื้อเนียนละเอียดมากค่ะ ใช้นิ้วปาดก็ไม่เป็นก้อน พอใช้พัฟเนื้อนุ่มของเขาปาดลงบนผิวแล้วเนียนละเอียด กลืนไปกับผิว ไม่หนา และไม่คราบ ส่วนเฉดสี เราใช้ 02 IVORY สำหรับผิวขาวเหลืองค่อนมากลางๆ ไม่ขาวมาก ยังอยู่ในระดับโซนเอเชียอย่างสาวไทยทั่วไปแบบเราได้พอดี

- - - - - -

 เรื่องของการปกปิดและฟินิชลุค 

สำหรับเรา เราว่าการปกปิดตัวนี้อยู่ในระดับ Light to Medium (ถ้าใช้พัฟของเขาจะปกปิดเบาๆ ไม่หนามาก) อาจจะไม่ได้ตบปุ๊บปิดทุกรอยปั๊บ โปะย้ำซ้ำได้ หยิบมาทัชอัพระหว่างวันก็ไม่ดูหนาโบ๊ะค่ะ ใครที่ผิวไม่เนียนไม่ใส มีปัญหารอยบ้างแต่ไม่หนัก สามารถลงงานผิวตัวนี้ตัวเดียวจบได้ ตอบโจทย์งานไว อย่างเราวันเบาๆ ก็ลงตัวนี้ตัวเดียว แต่ถ้าใครมีรอยหนักทาแป้งตัวเดียวไม่มั่นใจ อาจจะทาคอนซีลเลอร์ซักเล็กน้อยก่อนลงตัวนี้ก็ได้ค่ะ

-

ส่วน ฟินิชลุค เราว่า ออกแนวแมตต์ แต่ไม่แมตต์ด้าน ไม่แห้งกรัง ผิวยังคงดูสวยมีมิติ ตอบโจทย์ผิวผสม – ผิวมัน 

 ลองเทสต์ในแต่ละแสง 

สำหรับใครที่เคยเจองานผิวบางตัวสาดแฟลชแล้วเกิดอาการผิวหน้าเหมือนแบงค์พัน หรือที่เรียกกันว่าหน้าเทา ตัวนี้ เราลองเทสต์แล้วรอดอยู่เด้อ ปล. แต่ต้องเลือกเบอร์ให้เข้ากับสีผิวของตัวเองด้วยนะคะ ไม่งั้นจะเทาตั้งแต่ยังไม่สาดแฟลชเด้อ ทั้งหมดนี้คือวันเดียวกันลุคเดียวกัน ใช้แค่แป้งตัวนี้ + ลิปกุชชี่ 1 แท่งนะคะ

 

 เรื่องความติดทน-คุมมัน 

เราลองทดสอบทา 8 ชั่วโมงนะคะ ค่อนข้างติดทนดี ระหว่างวันมีหลุดติดแมสก์มาบ้าง โดยเฉพาะปลายจมูกและบริเวณที่โดนขอบแมสตามปกติเลยค่ะ ไม่ว่าจะรองพื้นหรือแป้งตัวไหนในกรุเรามีหลุดบ้างอยู่แล้ว ยังไม่เคยเจอตัวไหนไม่ติดแมสก์เลย แต่ตัวนี้ถือว่า ยังอยู่ในระดับที่โอเค และถ้าหลุดก็สามารถเติมได้เนียนๆ ไม่เป็นคราบ มีความสม่ำเสมอสวยๆ ส่วนเรื่องการคุมมัน เราเป็นคนผิวผสม อาจจะมีความมันโผล่มาบ้าง แต่โดยรวมถือว่า ทำได้ค่อนข้างดีค่ะ 

.

เรื่องการกันน้ำ เท่าที่เคยลอง ถ้าผิวที่ทาแป้งผ่านน้ำเฉยๆ แทบจะไม่มีแป้งหลุด แต่ถ้าถูๆ บ้าง ก็จะมีหลุดออกมาบ้างตามปกติค่ะ 

 สรุปความรู้สึกหลังใช้ 

โดยรวม เป็นแป้งผสมรองพื้นที่เนื้อเนียนละเอียดมากกก พัฟนุ่มปาดง่าย ไม่คราบ สีกลืนเข้ากับผิวสาวเอเชียแบบเรา ปกปิดในระดับนึง คุมมันดี ให้ลุคแมตต์ตอบโจทย์ผิวผสม-ผิวมัน สามารถใช้เป็นงานผิวตัวเดียวจบได้ (แต่ถ้ามีรอยหนักแนะนำทาคอนซีลเลอร์เพิ่มอีกตัว) มีกันแดดในตัว เหมาะกับคนที่รีบๆ หยิบมาแต่งได้หลายโอกาส ส่วนที่ปรับมาใหม่คือ เรื่อง เนื้อเนียนละเอียดมากขึ้น + มีกันแดด spf30PA+++ และเขาว่าติดทนนานถึง 12 ชั่วโมง

สำหรับใครที่สนใจอาจจะลองหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือแวะไปเทสต์ดูเนื้อดูสีก่อนสอยที่ Eveandboy/Beautrium/KIS/Cosmache ก็ได้เด้อ จะได้เลือกสี + รุ่นของแป้งดอกไม้ได้ตรงใจ ยังไงก็ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าน้า สวัสดีค่ะ รักรักรัก <3