คัดสรรแล้ว 4 สุดยอดมอยเจอร์ไรเซอร์ ที่ใช้ดีจนต้องซื้อซ้ำและบอกต่อ

64 9
สวัสดีครับ วันนี้เวฟกลับมารีวิวสกินแคร์กันอีกครั้ง รอบนี้มาแบบรวมชุดมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวโปรด ที่เวฟใช้มาสักพักแล้วชอบ คิดว่าสมควรที่จะนำมารีวิวและป้ายยาเพื่อนๆกันครับ

สำหรับรีวิวครั้งนี้ เวฟขอมาเน้นเล่าประสบการณ์ บรรยายความรู้สึกและผลลัพธ์จากการใช้ในฐานะของตัวแทนผู้รีวิวที่มีปัญหาผิว เพราะอยากมีผิวสวยที่ดูดีกว่า จึงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผิวครับ


มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) นั้นสำคัญไฉน?

เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นหรือกักเก็บน้ำในผิวไม่ให้ระเหยออกไป หากผิวขาดความชุ่มชื้น จะส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน แพ้ ระคายเคืองได้ง่าย และก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยด้วยครับ

ด้วยเหตุนี้ สกินแคร์กลุ่มมอยเจอร์ไรเซอร์จึงเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่มีความสำคัญมากในการบำรุงผิวครับ


สำหรับสภาพผิวของเวฟ ณ ปัจจุบัน :

เนื่องจากช่วงนี้มีความเครียดจากงาน รวมทั้งสภาพอากาศที่ไม่ค่อยดีในบริเวณที่พักอาศัย ฝุ่นจากงานก่อสร้าง ส่งผลให้ผิวหน้ามีการอุดตัน มีสิวอักเสบบ้างประปราย อากาศที่แห้งจากการเปลี่ยนฤดูกาลและความแปรปรวนทางสภาพอากาศก็มีผลต่อความอ่อนแอของผิวหน้า ปัญหานี้ทำให้เวฟต้องปรับพฤติกรรมการดูแลผิว โดยเน้นการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวให้เพียงพอ ในครั้งนี้ เวฟได้เลือกสกินแคร์บำรุงผิวที่เน้นให้ความชุ่มชื้นและเสริมผิวแข็งแรงมา 4 ตัว มีดังนี้


1. Argentum la potion infinie  

ครีมเนื้อบางเบากึ่งเหลว ให้สัมผัสที่นุ่มละมุนผิว ซึมซาบสู่ผิว ไม่ทิ้งความมันวาว หากแต่เพิ่มความชุ่มชื้นบนผิวได้ดี สกินแคร์ตัวนี้มาในกระปุกสีดำสนิท มีความโดดเด่นในกลิ่นที่เฉพาะตัวด้วยพืชพรรณ มีกลิ่นส้ม มะกรูด กลิ่นไม้หอม เจอเรเนียม สรุปง่ายๆว่า เป็นกลิ่นหอม ผ่อนคลายและสะอาดแบบผู้ดีครับ สำหรับครีมบำรุงผิวตัวนี้เหมาะกับทุกสภาพผิว คนผิวมัน มีปัญหาสิวก็ใช้ได้ครับ 

จุดเด่นที่สำคัญที่ทำให้ Argentum เป็นสกินแคร์ที่เวฟรักก็คือ การใช้ Silver Hydrosol อันเป็นรูปแบบหนึ่งของ colloidal silver เป็นแร่เงินซึ่งเชื่อว่ามีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดภาวะการติดเชื้อ โดยทำหน้าที่เสมือนตัวเร่งปฏิกิริยา (Catalytic Oxidation) ที่ไปหยุดกระบวนการเมแทบอลิซึมแบบอาศัยออกซิเจนของเอนไซม์ ที่มีในแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส ส่งผลให้เชื้อโรคต่างๆนั้นถูกทำลายได้ ซึ่งเมื่อนำมาผสมใน Argentum สารตัวนี้จึงเหมาะกับผู้มีปัญหาสิวแบบเวฟนั่นเองครับ เวฟพูดมาขนาดนี้แล้ว ไม่ลองไม่ได้นะครับ 


ข้อดี

  • ส่วนผสมอ่อนโยน ใช้ได้กับทุกสภาพผิว

  • กลิ่นดี เนื้อสัมผัสดี

  • ลดการเกิดสิวได้ ไม่ทำให้ผิวแห้ง

ข้อเสีย

  • ราคาค่อนข้างสูง

  • ภาชนะที่เป็นแบบกระปุก ทำให้มีโอกาสปนเปื้อนได้ง่าย

ทำไมเวฟเลือกใช้ : เริ่มต้นที่กระแสครับ แต่พอได้ใช้กับตัวเอง ก็พบว่ามันดีจริงๆ ใช้แล้วผิวดีขึ้น สิวและผดลดลงได้จริงครับ กราบงามๆที่ช่วยเรื่องสิวได้


2. La Mer the moisturizing cool gel cream

เหมือนตัวเองเป็น Ambassador สานสัมพันธไมตรีให้แก่แบรนด์ลาแมร์ เวฟพูดถึงครีมกระปุกราคาหมื่นตัวนี้บ่อยมาก กับเจ้าครีมสาหร่ายระดับตำนานอย่างลาแมร์ ใครจะว่าสิ้นเปลือง มีตัวอื่นที่ดีกว่า โอเค เชิญจร้า... แต่สำหรับเวฟ รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง และยังคงยืนยันประโยคเดิมที่ว่า “วงการลาแมร์เข้าแล้วออกยาก” สำหรับครั้งนี้เวฟเลือกสูตร Cool gel cream ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในใจ ชอบมากกว่าสูตรดั้งเดิมไปเสียอีก เนื่องจากความสะดวกในการใช้ ไม่ต้องวอร์มครีมนานเหมือนตัวดั้งเดิม อีกทั้งเนื้อสัมผัสสบายผิวมากกว่าสูตรอื่นๆที่เวฟได้ลองมาครับ ลาแมร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีมาก ช่วงไหนอากาศร้อนมีผด หรือจะเย็นจนผิวแห้งตึง ลาแมร์ก็ช่วยเยียวยาปัญหาผิวได้ สำหรับเวฟลาแมร์คือการลงทุน เหมือนการใส่ปุ๋ยให้พืชผักเจริญเติบโตระยะยาว เวฟใช้มาก็หลายปีแล้ว ใช้แล้วก็ไม่ได้ว่าจะดีอะไรมากมาย แต่พอหยุดใช้กลับพบว่าหน้าดูไม่สดชื่น ดูไม่สดใส เมื่อเทียบกับช่วงที่ใช้ครีมลาแมร์ครับ ส่วนผสมอันโด่ดเด่นคงไม่พ้น Miracle Broth ซึ่งได้มาจากสารสกัดของสาหร่ายทะเลน้ำลึก ซึ่งช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว ช่วยซ่อมแซมปรับสมดุลให้กับผิวครับ ครีมลาแมร์มีน้ำหอมและส่วนผสมของน้ำมันค่อนข้างมาก ผิวที่อุดตัน มีสิวได้ง่ายจึงต้องระวังกันหน่อยครับ แต่ใครใช้แล้วชอบแล้วโดน ก็เตรียมเก็บเงินก้อนสำรองไว้ซื้อใช้ในครั้งต่อไป

**คำเตือน มีครีม 1 กระปุก จะมีตัวน้ำตบ เซรั่ม และอื่นๆ ค่อยๆทยอยตามกันมาครับ ฮ่าๆ 


ข้อดี

  • ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีมาก

  • ช่วยสมานแผลจากการกดสิว บีบสิวได้ดี (ไม่ควรมือซนนะ)

  • สูตร Cool Gel ให้สัมผัสที่เบาสบายผิว ความเย็นจากเนื้อสัมผัสช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น

ข้อเสีย

  • มีสารระคายเคือง เช่นน้ำหอมสังเคราะห์และกลุ่มน้ำมันที่อาจก่อให้เกิดการอุดตันของผิว

  • ราคาแรง แพงมาก

  • ภาชนะที่เป็นแบบกระปุก ทำให้มีโอกาสปนเปื้อนได้ง่าย

ทำไมเวฟเลือกใช้ : ครีมไม่แพงไม่มีแรงทา ขอยืมวลีนี้เลยครับ ขำๆ จริงๆรู้จักมานานแล้วกับลาแมร์ แต่เพิ่งจะมีโอกาสได้ใช้จริงๆเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ใช้ต่อเนื่องแล้วรู้สึกว่าผิวดีขึ้น ไม่ค่อยระคายเคืองหรือมีสิวมากเหมือนแต่ก่อน อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านจากการใช้ยากลุ่มรักษาสิวได้ครับ แต่ใครที่ระคายเคืองน้ำหอม น้ำมัน ก็ให้เลี่ยงครับ

3. Lancome Absolue Soft Cream

ราชินีดอกไม้อย่างดอกกุหลาบ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในสกินแคร์ที่ได้ถูกรังสรรค์อย่างพิถีพิถัน หากจะมองหาความหรูหรา ความงามวิจิตรทั้งในและนอกของสกินแคร์ในกลุ่มมอยเจอร์ไรเซอร์ Lancome Absolue Soft Cream ตัวนี้ยืนหนึ่งครับ ด้วยกระปุกสีทองเจิดจรัส เนื้อครีมสีชมพูอ่อนให้สัมผัสที่เนียนนุ่ม ให้ความบางเบา ควบคู่ไปกับกลิ่นหอมอ่อนๆจากดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบที่ใช้ในการสกัดยังเป็นสายพันธุ์ที่ถูกคัดสรรเฉพาะโดยให้ชื่อว่า “กุหลาบลังโคม” โดยกุหลาบลังโคมจะได้รับการดูแลอย่างดี ในช่วงเก็บเกี่ยวจะเก็บเกี่ยวด้วยมือในตอนเช้นก่อนแสงตะวันจะสาดส่องในช่วงเดือนพฤษภาคม- มิถุนายน เพื่อนำมาสกัดเป็น Grand Rose Extract หรือส่วนผสมหลักของครีมบำรุงตัวนี้ครับ ความเป็นมามีความหวือหวาเลยทีเดียวครับ สำหรับ Absolue Soft Cream ถือว่าเป็นน้องใหม่สำหรับเวฟ แม้จะได้ใช้ไม่นานนัก แต่ก็กล้าที่จะพูดว่าตกหลุมรักไปอีกแล้ว นั้นหมายถึง การเสียเงินจะตามมาอีกครับ สิ่งที่ชอบมากที่สุดคงหนีไม่ผลเนื้อสัมผัสที่ตรงตามชื่อผลิตภัณฑ์ครับ เนื้อสัมผัสแรกจะแบบเข้มข้นหนึบๆ แต่พอทาลงบนผิวกลับรู้สึกบางเบา แต่ให้ความชุ่มฉ่ำแบบเข้มข้นด้วยสารบำรุงที่เต็มเปี่ยม ซึ่งครีมตัวนี้เวฟคิดว่าใช้ได้กับทุกสภาพผิวนะครับ ถ้าใครที่กำลังมองหาครีมดีๆสักตัว เพื่อป้องกันริ้วรอย อยากให้ผิวกระชับ ดูสุขภาพดี พร้อมปรับสมดุลสภาพผิว เวฟว่าตัวนี้น่าลงทุนอยู่ครับ นอกจากจะมีบรรจุภัณฑ์ที่ดูหรูหรา หมาเห่าแล้ว คุณสมบัติก็ไม่น้อยหน้า ถือว่าตอบโจทย์การมีสุขภาพผิวดีแบบ Absolue จริงๆครับ


ข้อดี

  • สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว

  • ไม่เพิ่มความมันระหว่างวัน ใช้ช่วงเช้าได้ ไม่หนัก ไม่เหนอะหนะ

  • ผิวอิ่ม นุ่ม และรูขุมขนแลดูกระชับมากขึ้น

  • กลิ่นหอมสดชื่น

  • ใครชอบความเบาสบายของเนื้อสัมผัส ตัวนี้ตอบโจทย์

ข้อเสีย

  • ราคาแรงใช้ได้ แต่มีโปรโมชั่นดีๆให้ได้กักตุนกันเรื่อยๆ

  • ภาชนะที่เป็นแบบกระปุก ทำให้มีโอกาสปนเปื้อนได้ง่าย

ทำไมเวฟเลือกใช้ : ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เวฟได้ยืนชื่อเสียงเรียงนาม พร้อมกับตามติดรีวิวของท่านอื่นๆมาหลายครั้งแล้ว จนได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมของทางลังโคม ซึ่ง Absolue Soft Cream ตัวนี้ก็ได้มาเป็นของขวัญ เพื่อเปิดโอกาสให้เวฟได้ทดลองใช้ และหลังจากที่เวฟทดลองใช้ต่อเนื่อง เวฟสัมผัสได้ถึงความนุ่มของผิวที่มีความแน่นกระชับ รูขุมขนดูเล็กลงด้วยครับ แต่เรื่องผิวขาวขึ้นหรือลดริ้วรอยลงไหม ขออนุญาตใช้ต่อเนื่องไปอีกนะครับ สำหรับเนื้อสัมผัส กลิ่น และความรู้สึกทั้งก่อนและหลังใช้ เวฟแฮปปี้มากครับ 

ตัว Absolue Soft Cream ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่คิดว่าน่าจะโดนใจเพื่อนๆกันครับ

4. Yves Saint Laurent Or Rouge Soin Global D’Exception Fluid  

เมื่อนึกถึงไลน์ Or Rouge ก็ต้องนึกถึง “สารสกัดจากเกสรตัวเมียของดอกแซฟฟรอน” ซึ่งปลูกในสวน Ourika บนเทือกเขา Atlas ในประเทศโมร็อกโก โดยที่จะต้องใช้แรงงานฝีมือมนุษย์ในการเลือกสรรเกสรตัวเมียที่สมบูรณ์ก่อนนำมาสกัดเป็นสารประกอบของสกินแคร์ตัวนี้ ซึ่งทางแบรนด์เล่าเป็น Story ว่า จะต้องใช้ดอกแซฟฟรอนจำนวน 150 ดอก เพื่อมาสกัดให้ได้สารสกัด 1 กรัม โดยดอกไม้จะถูกเก็บเกี่ยวก่อนเวลารุ่งเช้าในฤดูใบไม่ร่วงเท่านั้น ทั้งนี้เกสรตัวเมียของดอกแซฟฟรอนมีสาร Crocin ที่ช่วยในการฟื้นฟูผิวจากมลภาวะ การสูญเสียคอลาเจน ความยืดหยุ่นของชั้นผิว รวมทั้งการเสื่อมของเกราะป้องกันผิวหนัง (Skin Barrier) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของริ้วรอย ความชราของผิวหนังครับ สำหรับเจ้าครีมบำรุงตัวนี้มีให้เลือกหลายเนื้อสัมผัส แต่สูตร Fluid ที่เวฟใช้นี้จะมีความบางเบาสบายผิวเป็นที่สุดครับ อีกทั้งยังมีกลิ่นหอม ทำให้ผ่อนคลายทุกครั้งที่ใช้ครับ ขวดบรรจุก็สวยงามเลอค่า ด้วยเหตุนี้มอยเจอร์ไรเซอร์ตัวนี้จึงเข้ารอบเป็น 1 ในตัวโปรดของเวฟครับ


ข้อดี

  • ขวดบรรจุภัณฑ์แบบปั๊มทำให้ลดการปนเปื้อนจากปัจจัยภายนอกได้ดี

  • สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะ ผิวมัน

  • ช่วยสร้ามความแข็งแรงให้ชั้นเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะรอบๆตัว

ข้อเสีย

  • มีน้ำหอมและแอลกอฮอลในปริมาณหนึ่ง ผู้แพ้สารกลุ่มนี้พึงต้องระวัง

  • ราคาสูง แต่ก็คุ้มค่ากับผลลัพธ์

ทำไมเวฟเลือกใช้ : เวฟได้ทดลองครีมตัวนี้ครั้งแรกจาก Tester ของแถมที่ได้จากการซื้อครีมรองพื้น All Hours หลังจากที่บรรจงประหยัดใช้มาเกือบ 7 วัน เวฟพบว่าผิวเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนก็กระชับ ด้วยเหตุนี้จึงยอมจ่ายเต็มเพื่อไซด์จริง สำหรับสภาพผิวตนเอง เวฟเลือกสูตร Fluid เนื่องจากเป็นคนผิวมันมีสิวง่าย ซึ่งครีมบำรุงตัวนี้ ไม่ได้ทำให้หน้ามันกว่าเดิม ใช้ระหว่างวันได้สบายมากครับ นอกจากนี้เวฟก็ชอบกลิ่นของเนื้อผลิตภัณฑ์มากด้วยครับ

จบแล้วครับสำหรับรีวิวครั้งนี้ มีตัวไหนที่เพื่อนๆรู้สึกคันไม้คันมืออยากจะซื้อมาลองกันบ้างครับ หรือเพื่อนคนไหนมีครีมบำรุงที่อยากจะแชร์ อยากจะมาแนะนำกัน เวฟขอเรียนเชิญป้ายยากันต่อได้เลยในช่องคอมเม้นนะครับ


ขอบคุณที่ติดตามครับ


Wave1992

Wave1992

สวัสดีครับ ชื่อ เวฟ ครับ เวฟชอบสกินแคร์ มีความสุขกับการดูแลตัวเอง เวฟเชื่อมาตลอดว่า เราทุกคนมีความสวยหล่อในแบบของเรา สามารถดูแลและพัฒนาความงามกันได้ แค่เราใส่ใจ เข้าใจการดูแล การมีใบหน้าและผิวพรรณที่สุขภาพดีจึงไม่ไกลเกินเอื้อมครับ การดูแลผิวคือจริตที่ทุกคนพึงมี ปัญญาจะเกิดเมื่อเราหมั่นศึกษา ความงามจะมาเมื่อเรารักสกินแคร์ ????

FULL PROFILE