Dr.Rath Perfect Skin Serum All in One Facial Treatment เสริมชั้นผิวให้แข็งแรง พร้อมรับมือทุกสถานการณ์

45 13
GIVEN BY BRAND / แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์จ้า ^^
ในยุคที่เราต้องรับมือกับสารพัดปัญหาไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ มลภาวะ ฝุ่นควัน ความเครียดและปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่พร้อมจะทำร้ายผิวเราได้ทุกเมื่อ ดังนั้นสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดคือการปกป้องผิวของเรา และเสริมความแข็งแรงของผิว ให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์อยู่เสมอ วันนี้เราเลยหยิบ Dr.Rath Perfect Skin Serum All in One Facial Treatment ที่เราได้ลองใช้มาซักระยะแล้วเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวในทางที่ดีขึ้น เลยนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลยฮะ...

Dr.Rath Perfect Skin Serum All in One Facial Treatment (35ml./1,990.-)

ปรนนิบัติผิวล้ำลึกระดับโมเลกุลด้วย Astaxanthin, Hyaluronic Acid โมเลกุลเล็กและ Phospholipids ย้อนวัยผิว ลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย ภายใน 2 สัปดาห์

Texture / Scent / Packaging

  • Texture : เซรั่มขวดนี้มาในสีส้มที่จัดจ้านน่าใช้ทีเดียว เนื้อสัมผัสค่อนข้างเข้มข้น แต่เมื่อเบลนด์เข้าผิวแล้วกลับบางเบา เหมาะกับผิวคนไทยและสภาพอากาศที่ร้อนของบ้านเราแบบสุดๆ
  • Scent : กลิ่นหอมอ่อนๆ โทน Citrus ซึ่งจากที่เราลองใช้มาก็ไม่พบอาการระคายเคืองน้ำหอมแต่อย่างใด
  • Packaging : บรรจุภัณฑ์เป็นขวดแก้วสีชาพร้อมหัวดรอปเปอร์ ต้องยอมรับว่าเป็น Design ที่ค่อนข้างถูกจริตสำหรับเรา เป็นอะไรที่เรียบๆ ดูดี แต่หากเป็นไปได้เรามองว่าปรับเป็นแบบ Airless Pump จะใช้ง่ายได้สะดวก และรักษาความสะอาดได้ดียิ่งขึ้นครับ

Key Ingredients

Let's Try...

เราได้ลอง Dr.Rath Perfect Skin Serum All in One Facial Treatment ในช่วงที่กำลังผิวกำลังพังๆ และมีสิวอักเสบขึ้นพอดี เรียกว่าเป็นการลองให้รู้เลยว่าเซรั่มขวดนี้สามารถทำให้ผิวเราแข็งแรงขึ้นได้จริงไหม ซึ่งจากที่ลองใช้มาประมาณเกือบ 2 สัปดาห์พบว่า...

Conclusion

เอาหละเพื่อนๆ ก็น่าจะได้เห็นเนื้อสัมผัส ส่วนผสม และผลลัพธ์ของ Dr.Rath Perfect Skin Serum All in One Facial Treatment บนผิวของบูมมาพอสมควรแล้ว ซึ่งหากให้เราสรุปเรามองว่านี่เป็นเซรั่มอีกขวดที่อัดแน่นไปด้วยสาร Antioxidant ที่ดีช่วยในแง่ของการชะลอการเกิดริ้วรอย และช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้ดี

แถมยังมีส่วนผสมอย่าง o-HA และ Phospholipids ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยให้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในจุดนี้เรามองว่าก็ต้องใช้เวลาพอสมควร โดยเฉพาะในคนที่โครงสร้างผิวมีปัญหามากเป็นพิเศษ ก็ต้องให้เวลาเค้าอย่างน้อย 2-3 เดือนในการฟื้นฟูสภาพให้กลับมาแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขอรับ

อ๋อ! ในระหว่างที่เราเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่าทางแบรนด์มีผลิตภัณฑ์อีก 2 ตัวที่น่าสนใจอย่าง Dr. RATH Radiance Essence Ex และ Dr. RATH Supercharged Whitening Concentrate ซึ่งเราเองยังไม่มีโอกาสได้ลอง แต่คิดว่า Concept และส่วนผสมที่เห็นค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวแหละฮะ

แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ Based-on สภาพผิว ไลฟ์สไตล์ การดูแลตัวเอง และผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ร่วมกันเป็นหลัก ดังนั้นผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ส่วนสำถามที่ว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม จะอุดตันไหม สิวจะขึ้นหรือไม่นั้น เราไม่สามารถให้คำตอบได้เนื่องจากปัจจัยที่ก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง และก่อให้เกิดสิวของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นเราแนะนำว่าก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม ควรทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขน และลำคอก่อใช้ลงบนใบหน้านะขอรับ


Wanviset

Wanviset

✨ สวัสดีฮะ ชื่อบูม นะครับ ✨
สกินแคร์คือหนึ่งในความสุขเล็กๆ ของเราและด้วยความอยากรู้อยากลอง ชอบแชร์ทำให้เราลองเขียนบล็อกเล็กๆ ขึ้นมาฝากเพื่อนๆ ติดตามผลงานของเราด้วยน้า

FULL PROFILE