เคล็ดลับสยบ ฝ้า กระ ความหมองคล้ำ

49 5
#ความหมองคล้ำ #ฝ้า #กระ
ความหมองคล้ำ ฝ้า กระ ปัญหาผิวที่ไม่มีใครอยากให้เกิด
แต่ประเทศไทยแสงแดดก็แร๊งแรง อากาศก็ร้อนอบอ้าว ♨️♨️
ทำให้คนไทยมีปัญหา รอยหมองคล้ำ รอยด่างดำ ไปจนถึงรอยโรคอย่างฝ้า กระ ได้อย่างง่ายดาย
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ต้องสัมผัสแสงแดด หรือความร้อนสูง
ปัญหาก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก
เพื่อให้สาวๆหนุ่มๆที่น่ารักของรักป้องกันปัญหานี้ได้ดีขึ้น
รักจะมาเล่าที่มาของการเกิดความหมองคล้ำ
ตั้งแต่ระดับเซลล์ไปไกลถึงดวงอาทิตย์เลยค่า
เพราะเรามาในคอนเซปต์ #รู้เขารู้เรารบ100ครั้งชนะ100ครั้ง

ยิ่งเข้าใจยิ่งดูแลผิวได้ดียิ่งขึ้น
ความหมองคล้ำ ฝ้า กระ ก็จะไม่ใช่ปัญหากวนใจอีกต่อไป
เริ่มจากรู้จักต้นเหตุของความหมองคล้ำ ฝ้า กระ กันก่อน ?

จุดเริ่มต้นทั้งหมดมาจาก
เจ้าเซลล์ผิวหนังที่ชื่อเมลาโนไซต์ (Melanocyte)
ซึ่งอาศัยอยู่ชั้นล่างสุดของหนังกำพร้า
จะคอยผลิตถุงบรรจุเม็ดสี ตัวถุงชื่อว่าเมลาโนโซม (Melanosome)
ส่วนตัวเม็ดสีข้างในชื่อเมลานิน (Melanin)
ซึ่งเม็ดสีก็จะถูกส่งขึ้นด้านนบนสุดของหนังกำพร้า
ผ่านการสร้างผิวหนังเบียดๆขึ้นมานั่นเอง
ทำให้ผิวหนังของเรามีสีสันตามที่เห็นกันทั่วไป

เจ้าเม็ดสีเมลานินแบ่งได้ เป็น 2 แบบ คือ
1. ยูเมลานิน (Eumelanin) เป็นเม็ดสีที่มีสีดำ หรือสีน้ำตาล ซึ่งคนผิวสีเข้มจะมีเม็ดสีนี้ปริมาณมากกว่าคนผิวขาว
2. ฟีโอเมลานิน (Pheomelanin) เป็นเม็ดสีโทนส้มแดง หรือสีเหลือง ซึ่งจะพบในคนผิวขาวปริมาณมากกว่าคนผิวเข้ม

?️?️ นอกจากหน้าที่การให้สีสันบนผิวหนังซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน
เม็ดสียังมีหน้าที่ปกป้องผิวจากรังสี UV, มลภาวะ, การระคายเคือง
ซึ่งการปกป้องนี้เองที่ทำให้เกิดความหมองคล้ำขึ้น
เมื่อผิวหนังของสัมผัสกับแสงแดดช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ร่างกายจะรีบปกป้องตัวเองโดยใช้กลไกธรรมชาติ
ผลิตเม็ดสีดำหรือ ยูเมลานิน ขึ้นมาเพื่อปกป้องรังสีจากดวงอาทิตย์
ซึ่งความสามารถเทียบท่ากับกันแดดที่มีค่า SPF10-15 เลยทีเดียว
การปกป้องนี้เองจึงเป็สาเหตุของความหมองคล้ำ
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีว่ามหมองคล้ำเกิดขึ้นแค่เพียงชั่วคราวและหายไปได้

แต่ถ้ามีการสัมผัสแดดจัดๆเป็นเวลานาน สะสมเป็นปีๆ จากความหมองคล้ำ
ร่างกายก็จะปกป้องตัวเอง โดยการสร้างเม็ดสีเมลานินจำนวนมากๆขึ้นมาสะสมบนผิว เพื่อมาปกป้องผิวของเรา
ถ้าเห็นเป็นปื้นๆแผ่น ก็เรียกว่า ฝ้า ถ้าเห็นเป็นจุดๆ ก็เรียกว่า กระ

? สาเหตุอื่นๆของฝ้ากระ (แถม) นอกจากแสงแดดแล้วก็ยังมีดังนี้

1. พันธุกรรม ?? ขึ้นอยู่กับเชื้อชาติและสีผิว ชนชาติผิวขาว เช่น คนยุโรป ไม่ค่อยเป็นฝ้าส่วนคนผิวคล้ำ เช่น คนนิโกร คนอินเดีย ไม่พบปัญหา เรื่องฝ้า ถึงเป็นก็คงมองไม่เห็นเพราะผิวสีคล้ำอยู่แล้ว

2. ฮอร์โมน ??
?‍♂️ จากอายุ - ส่วนใหญ่มักเกิดกับวัยกลางคน ยิ่งอายุมากขึ้นมีโอกาสที่เป็นมากขึ้น
? จากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย เช่น การตั้งครรภ์, วัยหมดประจำเดือน

3. จากการรับประทานยาบางชนิด ?? เช่น รับประทานยาคุมกำเนิด คุมการตั้งครรภ์ หรือ ยารักษาโรคเรื้อรังบางอย่าง

4. การใช้เครื่องสำอาง ?? เครื่องสำอางบางชนิดมีสารที่ทำให้ผิวดำเมื่อถูกแสงเป็นต้น

เมื่อรู้กลไกและสาเหตุของการเกิดความหมองคล้ำ ฝ้า กระ แล้ว เรามาดูกันดีกว่ากลไกของ Whitening ที่จะช่วยแก้ปัญหามีอะไรบ้าง
โดยหลักๆคือยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสี และ ผลัดเซลล์ผิวออก

การผลัดเซลล์ผิว ถือเป็นหลักการที่ง่ายที่สุด
ก็คือเร่งการผลัดเซลล์ผิวตายแล้วที่มีความหมองคล้ำออก
เพื่อเผยผิวกระจ่างใสให้ไวขึ้น
จากปกติที่ร่างกายจะสามารถผลัดเซลล์ผิวได้เองในช่วง 21- 42 วัน (เฉลี่ย28วัน)
แต่การใช้สารบำรุงที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว
ก็จะช่วยให้ผิวเผยความกระจ่างใสได้เร็วยิ่งขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น Vitamin C , Retinoid , กรดผลไม้ AHA และ BHA

การยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสี
ลดการสร้างเม็ดสี โดยไปยับยั้งเอนไซม์ (Tyrosinase)
ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเม็ดสีเมลานิน
เมื่อเอนไซม์ไม่ทำงาน การสร้างเม็ดสีก็ลดน้อยลง
สีผิวจะคืนสู่สภาพเริ่มต้นตามกำเนิดได้ง่ายขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น Vitamin C , Arbutin และ Licorice

ลดการสร้างเม็ดสียูเมลานิน(สีเข้ม)
อันนี้จะมีกระบวนการสร้างเมลานินตามปกติ
จนกระทั่งได้สาร Tyrosine
ซึ่งจะถูกเปลี่ยนไปเป็นเม็ดสียูเมลานินและฟีโอเมลานิน
ในขั้นตอนนี้เอง
ก็จะเอาสารไปกระตุ้นการสร้างเอนไซม์ที่ช่วยผลิตฟีโอเมลานินให้มากขึ้น
เพื่อที่ให้เหลือ Tyrosine ไปผลิตเม็ดสีเข้มๆอย่างยูเมลานินลดลง

นึกง่ายๆสารตั้งต้นมีแค่ตัวเดียวแต่ทำของได้สองอย่าง
ถ้าเอาไปทำอย่างใดอย่างหนึ่งมากๆอีกอันนึงก็ต้องลดลงไงหละ
ยกตัวอย่างเช่น Glutathione
จะยับยั้งการขนส่งเม็ดสีเมลานินขึ้นสู่ชั้นผิวหนังกำพร้า
ขั้นนี้คือจะปล่อยให้มีการผลิตเม็ดสีออกมาจนเสร็จเรียบร้อย
แต่ถึงเวลาจะบังคับไม่ให้ส่งของจ้า
พอเม็ดสีไม่ถูกส่งขึ้นด้านบนสีผิวก็จะไม่หมองไม่คล้ำ
ยกตัวอย่างสารเช่น Niacinamide หรือ Vitamin B3

หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด
เมืองไทย อากาศร้อน แดดแรง
ไม่ว่าเราจะบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ Whitening ขนาดไหน
แต่สิ่งที่เราจำเป็นต้องทำอย่างยิ่ง คือ
การหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด
และหมั่นทาครีมกันแดดปกป้องผิวให้เหมาะสมอยู่เสมอ
เพราะในแสงแดดมีรังสี UVA UVB และความร้อน ทำให้เกิดฝ้า กระ ผิวหมองคล้ำ รวมทั้งยังกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดสีเมลานินมากขึ้น

ดังนั้น สาวๆหนุ่มๆที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ
ถ้าหากจะเลือกผลิตภัณฑ์กลุ่ม Whitening
ก็ขอให้เลือกให้ครบทั้งสองกลไก
ทั้งยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสี และ ผลัดเซลล์ผิวออกนะคะ
ซึ่งต้องเลือกให้สมดุล
โดยเฉพาะกลไกการผลัดเซลล์ผิว ความเข้มข้นต้องไม่มากจนเกินไป
เพื่อทีการผลัดเซลล์ผิวเป็นไปด้วยความพอเหมาะ ไม่มากเกินไปจนระคายเคือง

โดยที่ สาร Niacinamide และ VitaminC
สามารถทำได้เกือบครบทุกกลไกเลย
และนอกจากจะใช้ skin care ที่ช่วยให้กระจ่างใสแล้ว
ก็อย่าลืมหลีกเลี่ยงแดดและทากันแดดทั้งหน้าและตัวด้วยนะคะ
เพราะถ้าไม่หยุดสิ่งกระตุ้นให้เกิดความหมอง ฝ้า กระ ครีมที่ทาไปก็จะไม่เห็นผลค่ะ

และขอฝากไว้เป็นอย่างสุดท้าย
พยายามอย่าเชื่อผลิตภัณฑ์ที่เคลมว่าขาวไว
หรือซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือนะคะ
เพราะอาจจะมีสารอันตราย สารห้ามใช้
ซึ่งมันจะขาวทันใจ แต่อันตรายมากๆๆๆ
จากผิวขาวก็จะได้ปัญหาผิวที่แก้ยากมากๆๆ อย่างด่างขาว
ซึ่งถ้าไปถึงขั้นนั้นจะแก้ไขได้ยากค่า

#เภสัชกรรัก


RukCosmeticsPharmacist

RukCosmeticsPharmacist

สวัสดีค่ะทุกคนๆๆ ภญ.อิศรีญา เพชรผ่องใส อายุ 30ปี >////<เรียกง่ายๆว่า "รัก"ได้เลยค่ะ
อาชีพของรัก คือ เภสัชกรเครื่องสำอางค่า ขอเล่าที่มาคร่าวๆตัวรักเองจบเฉพาะทางสาขาเครื่องสำอางมาจากรั้วจุฬาเป็นเด็กเภสัช 6 ปีรุ่นแรก ซึ่งก็มีความรู้เรื่องยาตามปกติ ต่อมารักทำงานเป็น R&D Pharmacist คิดสูตรเวชสำอางและนวัตกรรม ทำ skincare ส่งในประเทศและให้ต่างประเทศหลายๆแบรนด์ เช่น THE BODY SHOP, SOAP&GLORY etc.
จากประสบการณ์ทั้งหมดที่มีทั้งสองด้าน รักเลยอยากมาแชร์ความรู้ประสบการณ์เครื่องสำอาง ปัญหาผิวและยา ให้ทุกคนๆได้รู้แบบที่รักรู้เพื่อให้เกิดความตระหนักและใช้เครื่องสำอางอย่างสมเหตุสมผล นำไปสู่ความเชื่อว่าทุกคนดูดีในแบบที่ตัวเองเป็น และสนับสนุนความเชื่อที่ว่าเครื่องสำอางไม่มีเพศ เป็นสิ่งที่ทั้งชายทั้งหญิงรวมถึงเพศทางเลือกอื่นๆสามารถใช้ได้ และไม่ควรมีใครถูกบูลลี่จากการใช้เครื่องสำอาง
สุดท้ายนี้ รักก็ขอฝากคอนเทนต์ความรู้ที่รักตั้งใจเขียนมากๆจริงๆและฝากทุกๆคนช่วยกันผลักดันความเชื่อดีๆเกี่ยวกับเครื่องสำอาง และการใช้อย่างสมเหตุสมผลให้ออกไปสู่สังคมกว้างๆด้วยน้าา

FULL PROFILE