รู้หรือไม่ "ความมัน" กับ "ความเหนอะ" ไม่เหมือนกัน
Amata Chaikriangkrai444รู้หรือไม่ "ความมัน" กับ "ความเหนอะ" ไม่เหมือนกัน
เมื่อพูดถึงฟีลลิ่งหรือเนื้อสัมผัสของสกินแคร์นั้น คำว่า "มัน" กับ "เหนอะ" เป็นสองคำที่มักใช้กันผิด ใช้สลับกันบ่อยครับ
"มัน" นิยามของคำนี้คือ เมื่อเราไถลนิ้วหรือมือไปใน แนวราบ กับผิว จะรู้สึกลื่นไปลื่นมา ไม่รู้สึกถึงแรงต้าน ยิ่ง"มัน"มากก็จะยิ่ง"ลื่น"มากครับ
ส่วนคำว่า "เหนอะ" คือ ให้นึกถึงคราบกาวสติกเกอร์เหนียวๆ ซึ่งเวลาเราพยายามจะยกนิ้วหรือมือที่แนบติดอยู่กับผิวออกใน แนวดิ่ง จะมีแรง (ความเหนียวเหนอะ) ดึงไม่ให้เรายกนิ้วหรือมือออกจากผิวได้ง่ายๆ นั่นเองครับ
ความมันที่หลงเหลือมากเกินไป จะผสมกับเหงื่อ ฝุ่นละออง รวมถึงเมคอัพ จนกลายเป็นของเหลวข้นหนืด มีความเหนียวเหนอะหนะเกิดขึ้น หากล้างทำความสะอาดไม่ถูกวิธี อาจก่อให้เกิดสิวอุดตันตามมาได้ครับ
แต่ความมันที่พอเหมาะพอดี จะไม่เหนียวเหนอะหนะ ผิวจะนุ่ม เฟิร์ม เด้ง ยืดหยุ่น วาว แลดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติครับ
Skincare ประเภท Emulsion หรือบางแบรนด์เรียกว่า Moisturizer
มีหน้าที่หลักคือให้น้ำมันแก่ผิว และมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบในสูตร
ดังนั้นเนื้อสัมผัสเวลาทาลงไปที่ผิว "ในตอนต้น" นั้น จะรู้สึกถึงความมัน ลื่นไปลื่นมาอยู่บนผิว อย่างแน่นอนครับ
แต่เมื่อเกลี่ยนวดจนน้ำมันส่วนที่เป็น inner oil ซึมเข้าสู่ผิวสิ้นสุดแล้ว โดยจะสังเกตได้จากความรู้สึกมันลื่นจะหายไป นิ้วมือที่ลากไปบนผิวหน้าจะเริ่มมีแรงต้านเอาไว้ ถ้าเป็นที่แก้ม แก้มจะโย้ไปตามแรงทาครับผิวจะรู้สึกนุ่มแน่น และจะรู้สึกว่าผิวเฟิร์มขึ้นครับ
ส่วน surface oil ซึ่งจะเหลืออยู่บนผิวนั้น จะมีปริมาณต่างกันขึ้นกับสูตรและขึ้นกับแบรนด์ครับ
- โดยบางสูตร จะเหลือ Surface oil น้อยกว่า เหมาะกับผิวมัน ผิวปกติ ผิวผสม ที่ไม่ต้องการความมันหลงเหลือที่ผิวนอกมากนัก
- ส่วนบางสูตร จะเหลือ Surface oil มากกว่า เหมาะกับผิวแห้ง ซึ่งต้องการความมันที่ผิวนอกมากกว่า เพื่อช่วยกักเก็บน้ำไว้ในผิว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ปริมาณที่ทาในแต่ละครั้งก็สำคัญเช่นกันครับ ทาน้อยไปก็จะทาได้ไม่ทั่วหน้า ทามากไปก็จะเหลือความมันและจะกลายเป็นความเหนอะตามมา
ผมแนะนำให้ใช้ตามที่ผู้ผลิตกำหนดครับ
แต่ บางทีข้างกล่องก็เขียนว่า ใช้ครั้งละประมาณเท่าที่ต้องการ !!!
กรณีนี้ผมแนะนำให้ใช้ทีละน้อย ทาโดยนวดเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า โดยนวดเกลี่ยจน ความลื่นหายไป เริ่มรู้สึกมีแรงต้านระหว่างมือที่ทา กับ ผิวหน้า
ลองทาดู 1 รอบแล้วทิ้งไว้สัก 5 นาที และคอยสังเกตว่าผิวหน้ามีการตอบสนองอย่างไร หากต้องการความมันที่ผิวนอกเพิ่มขึ้น
ให้ทาทับสองชั้น ซึ่งก็สามารถเลือกทาเฉพาะบริเวณแก้มอย่างเดียวก็ได้ครับ สามารถปรับใช้ได้ตามที่ต้องการเลยครับ
ขอบคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ
เมื่อพูดถึงฟีลลิ่งหรือเนื้อสัมผัสของสกินแคร์นั้น คำว่า "มัน" กับ "เหนอะ" เป็นสองคำที่มักใช้กันผิด ใช้สลับกันบ่อยครับ
"มัน" นิยามของคำนี้คือ เมื่อเราไถลนิ้วหรือมือไปใน แนวราบ กับผิว จะรู้สึกลื่นไปลื่นมา ไม่รู้สึกถึงแรงต้าน ยิ่ง"มัน"มากก็จะยิ่ง"ลื่น"มากครับ
ส่วนคำว่า "เหนอะ" คือ ให้นึกถึงคราบกาวสติกเกอร์เหนียวๆ ซึ่งเวลาเราพยายามจะยกนิ้วหรือมือที่แนบติดอยู่กับผิวออกใน แนวดิ่ง จะมีแรง (ความเหนียวเหนอะ) ดึงไม่ให้เรายกนิ้วหรือมือออกจากผิวได้ง่ายๆ นั่นเองครับ
ความมันที่หลงเหลือมากเกินไป จะผสมกับเหงื่อ ฝุ่นละออง รวมถึงเมคอัพ จนกลายเป็นของเหลวข้นหนืด มีความเหนียวเหนอะหนะเกิดขึ้น หากล้างทำความสะอาดไม่ถูกวิธี อาจก่อให้เกิดสิวอุดตันตามมาได้ครับ
แต่ความมันที่พอเหมาะพอดี จะไม่เหนียวเหนอะหนะ ผิวจะนุ่ม เฟิร์ม เด้ง ยืดหยุ่น วาว แลดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติครับ
Skincare ประเภท Emulsion หรือบางแบรนด์เรียกว่า Moisturizer
มีหน้าที่หลักคือให้น้ำมันแก่ผิว และมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบในสูตร
ดังนั้นเนื้อสัมผัสเวลาทาลงไปที่ผิว "ในตอนต้น" นั้น จะรู้สึกถึงความมัน ลื่นไปลื่นมาอยู่บนผิว อย่างแน่นอนครับ
แต่เมื่อเกลี่ยนวดจนน้ำมันส่วนที่เป็น inner oil ซึมเข้าสู่ผิวสิ้นสุดแล้ว โดยจะสังเกตได้จากความรู้สึกมันลื่นจะหายไป นิ้วมือที่ลากไปบนผิวหน้าจะเริ่มมีแรงต้านเอาไว้ ถ้าเป็นที่แก้ม แก้มจะโย้ไปตามแรงทาครับผิวจะรู้สึกนุ่มแน่น และจะรู้สึกว่าผิวเฟิร์มขึ้นครับ
ส่วน surface oil ซึ่งจะเหลืออยู่บนผิวนั้น จะมีปริมาณต่างกันขึ้นกับสูตรและขึ้นกับแบรนด์ครับ
- โดยบางสูตร จะเหลือ Surface oil น้อยกว่า เหมาะกับผิวมัน ผิวปกติ ผิวผสม ที่ไม่ต้องการความมันหลงเหลือที่ผิวนอกมากนัก
- ส่วนบางสูตร จะเหลือ Surface oil มากกว่า เหมาะกับผิวแห้ง ซึ่งต้องการความมันที่ผิวนอกมากกว่า เพื่อช่วยกักเก็บน้ำไว้ในผิว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ปริมาณที่ทาในแต่ละครั้งก็สำคัญเช่นกันครับ ทาน้อยไปก็จะทาได้ไม่ทั่วหน้า ทามากไปก็จะเหลือความมันและจะกลายเป็นความเหนอะตามมา
ผมแนะนำให้ใช้ตามที่ผู้ผลิตกำหนดครับ
แต่ บางทีข้างกล่องก็เขียนว่า ใช้ครั้งละประมาณเท่าที่ต้องการ !!!
กรณีนี้ผมแนะนำให้ใช้ทีละน้อย ทาโดยนวดเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า โดยนวดเกลี่ยจน ความลื่นหายไป เริ่มรู้สึกมีแรงต้านระหว่างมือที่ทา กับ ผิวหน้า
ลองทาดู 1 รอบแล้วทิ้งไว้สัก 5 นาที และคอยสังเกตว่าผิวหน้ามีการตอบสนองอย่างไร หากต้องการความมันที่ผิวนอกเพิ่มขึ้น
ให้ทาทับสองชั้น ซึ่งก็สามารถเลือกทาเฉพาะบริเวณแก้มอย่างเดียวก็ได้ครับ สามารถปรับใช้ได้ตามที่ต้องการเลยครับ
ขอบคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ
Discussion (4)