ช้อปย่านชิบูย่า ห้างเซบุชิบูย่า ซื้อเสื้อกอมรูปหัวใจสุดฮิต

47 10
GIVEN BY BRAND / แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์จ้า ^^

เรื่องช้อปปิ้งกับผู้หญิงมันเป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะไปไหนเราก็ช้อปได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ตลาดนัดยันห้างหรู ของมือสอง ของถูก ของแพง ไม่เคยติดสักอย่าง เสื้อผ้า ของใช้ ของกิน ของจุกจิก ชอบหมด


เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าตอนนี้ญี่ปุ่นเริ่มเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว อากาศเริ่มเย็น ได้เวลาขุดเสื้อผ้าแขนยาวออกมาใช้ แต่เสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่มีนั้นก็จะค่อนข้างเก่า เป็นขนบ้าง ขาดบ้าง และผลพวงจากการอยู่บ้านนานทำให้เสื้อผ้านั้นหดลง (จริงๆคืออ้วนขึ้นแหละ เสื้อผ้าไม่ได้หดหรอก T__T) ก็เลยได้เวลาต้องซื้อใหม่แล้ว 


เนื่องจากเราเป็นคนที่ใส่เสื้อผ้าตัวหนึ่งค่อนข้างนาน ถ้าไม่เก่าจริงๆ หรือไม่เสียหายก็จะไม่ค่อยซื้อ เลยชอบที่จะซื้อเสื้อผ้าที่มันมีคุณภาพดี อาจจะมียี่ห้อบ้าง เพื่อทั้งความเก๋และความทน เลยเลือกที่จะไปที่ห้างเซบุ ห้างที่มีสารพัดแบรนด์ ทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย

จากห้าแยกชิบูย่าด้านหลังสตาร์บัคส์ ก็จะพบกับห้างเซบุ ชิบูย่า ตั้งตระหง่านอยู่ตรงนี้ มีทางเข้าเป็นเสาสีรุ้งสดใส เนื่องจากที่เซบุชิบูย่า มีทั้งหมด 4 ตึก คือ ตึก A, ตึก B, ตึก Loft และตึก Movida (มูจิ) หากจะช้อปอะไรแนะนำให้ดู floor guide ที่นี่ก่อนจะได้ไม่หลง แล้วก็แต่งตัวสบายๆ ใส่รองเท้าผ้าใบที่ไม่เมื่อย จะได้ช้อปแบบไม่ต้องกังวล


แม้ว่าวันนี้เราตั้งใจที่จะมาซื้อเสื้อ แต่ขอแอบดูอย่างอื่นนิดๆหน่อยๆก่อน

เริ่มที่ตึก A ชั้น 2 เป็นแผนกรองเท้าสตรีและบรรดาของจุกจิกอย่างหมวก ผ้าพันคอ ร่ม ผ้าเช็ดหน้า ถุงเท้า แต่เนื่องจากเราไม่สามารถใส่รองเท้าในแผนกนี้ได้จึงขอข้ามไป (เราใส่รองเท้าเบอร์ใหญ่ดูไปก็เจ็บใจ ใส่ไม่ได้สักคู่ T__T) ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องหมวกอยู่แล้ว จึงมีหมวกหลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกกัน ไม่ว่าจะเป็นหมวกไหมพรม หมวกแก๊ป หมวกปีกกว้าง หรือรูปทรงแปลกตา 


และโซนที่เราชอบมากที่สุดโซนหนึ่งเลยก็คือ ผ้าเช็ดหน้า เพราะที่เซบุเค้ามีผ้าเช็ดหน้าลายน่ารักๆเยอะมากๆๆ และหลายแบรนด์มากๆเช่นกัน ทั้ง Vivien Westwood, Lanvin, Anna Sui, Laduree ฯลฯ ราคาจะเริ่มต้นที่ 500 เยนขึ้นไป ใจจริงนั้นอยากได้ผ้าเช็ดหน้ามากๆ เพราะสีสันมันล่อตาล่อใจ แต่ต้องตัดใจเพราะช่วงนี้ไม่ค่อยได้ใช้และที่บ้านก็ยังมีอีกหลายผืนที่ยังไม่ได้แกะใช้ และเดินต่อไปแบบอาลัยอาวรณ์นิดๆ 

ต่อมากันที่ชั้น 3 มีทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับ สำหรับชั้นนี้เราค่อนข้างชอบแบรนด์ Agnes b เพราะว่าเห็นสาวญี่ปุ่นชอบใช้ กระเป๋าก็ดูทนทาน ไม่แฟชั่นจ๋า ใส่ได้เรื่อยๆ มิกซ์แอนด์แมชง่าย บริเวณชั้น 3 ของตึก A มีทางเชื่อมไปตึก B ด้วยนะ
ส่วนภาพด้านบนนี้เราจำไม่ได้ว่าเป็นชั้น 3 หรือชั้น 4 แต่จะเป็นโซนตรงกลางที่รวมดีไซน์เนอร์หลายๆแบรนด์ ดีไซน์เก๋ โดยช่วงนี้จะเป็นเสื้อแขนยาว แจ๊กเก็ต เสื้อคลุม และเสื้อโค้ทเยอะหน่อย ถ้าเกิดมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูหนาว แต่ไม่รู้จะแต่งตัวยังไง แนะนำให้มาโซนนี้เลย เพราะสาวญี่ปุ่นเค้าแต่งตัวกันจัดเต็มแบบนี้จริงๆ

เมื่อช้อปครบแล้วอย่าลืมแวะไปที่ชั้น 7 ตึก A มีบริการ TAX REFUND และตู้แลกเงินให้บริการ

ข้ามมายังตึก B กันบ้าง คราวนี้ขอไล่จากชั้นบนลงชั้นล่าง เริ่มที่ชั้น 6 จะเป็นโซนของเสื้อผ้าผู้ชาย Brooks Brothers, Polo Ralph Lauren, กระเป๋าเดินทาง Rimowa และ Samsonite ก็หาซื้อได้ที่นี่

ชั้น 5 ก็จะเป็นพวกรองเท้า ถุงเท้า กางเกงชั้นใน เข็มขัด และบรรดาเสื้อผ้าสไตล์แคชชวล สำหรับชั้นนี้เราสนใจถุงเท้าสีสันสดใสของ Happy Socks เป็นพิเศษเพราะเค้ามีการ collaboration กับ Disney เพิ่มความน่ารักให้กับถุงเท้า 


ตั้งแต่ชั้น 4 ลงมาก็จะเริ่มเป็นแบรนด์ไฮเอนด์ ทั้ง Gucci, Issey Miyake, Giorgio Armani, Bottega Veneta, Y-3, Comme des Garcons, Yohji Yamamoto, KENZO, Balenciaga, Chloe, MIU MIU, Prada, Moncler, Hermes, Cartier, Tiffany&Co., Van Cleef & Arpels ฯลฯ สามารถเช็ครายชื่อแบรนด์ทั้งหมดได้ที่นี่ https://www.sogo-seibu.jp/shibuya/floor_guide/ 

เดินครบทั้ง 2 ตึก แวะแทบจะทุกร้าน เราก็ไปสะดุดตากับเสื้อแขนยาวตัวหนึ่ง จาก Comme des Garcons POCKET ที่อยู่ชั้น 2 ของตึก B (ถ้าเข้าจากหน้าห้าง ร้านจะอยู่ด้านหลัง ในซอย) แผนที่ ( https://goo.gl/maps/Bt7QaS34K51BzSXg9  ) แม้จะเป็นร้านเล็กๆแต่ก็หาไม่ยากค่ะ เพราะกระจกที่ตกแต่งด้วยลายจุดนั้น ทำให้ร้านเด่นทีเดียวค่ะ 

เสื้อยืดรูปหัวใจสีแดง เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้เลย ไม่ว่าจะใส่กับอะไรก็มิกซ์แอนด์แมชง่าย แถมยังมีการ collaboration กับแบรนด์ดังๆอยู่เรื่อยๆ หลายคนบอกว่าต้องไปเช้าๆจะได้มีของเยอะ แต่เราไปทีไรก็ได้ซื้อทุกที มีไซส์มีสีตลอด อาจจะขึ้นอยู่กับดวงด้วยค่ะ


เราเลือกมาเป็นเสื้อแขนยาวสีดำ ใส่ตอนอากาศเย็นๆในฤดูใบไม้ร่วงกำลังดี ไม่ร้อนไป ไม่หนาวไป ถูกใจค่ะ


พิกัด: Seibu Shibuya https://goo.gl/maps/Bt7QaS34K51BzSXg9 

จุดสังเกต: หลังสตาร์บัคส์ตรง 5 แยกชิบูย่า, ตึกที่มีทางเข้าเป็นไฟสายรุ้ง

สถานีรถไฟ Shibuya

เว็บไซต์ https://www.sogo-seibu.jp/shibuya/


ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบด้วยนะค้า :))


Pin Chan

Pin Chan

พินจังค่ะ
อาศัยอยู่ญี่ปุ่น
ชอบทดลองใช้เครื่องสำอางและสกินแคร์ญี่ปุ่นไปเรื่อยๆ
เพราะคิดว่าเป็นผิวคนเอเชียเหมือนกันน่าจะเหมาะกับผิวเรามากกว่าทางฝั่งยุโรปและอเมริกาค่ะ

FULL PROFILE