Dior Capture Totale เซรั่มหยุดเวลาผิวในตำนาน

46 7
JEBAN GIVEAWAY / ได้รางวัลจากจีบันนี่แหละ!
สวัสดีครับ รอบนี้เวฟกลับมารีวิวสกินแคร์กันอีกแล้ว โดยจะขอหยิบชิ้นที่ได้เป็นรางวัลจากการร่วมสนุกกับทางจีบันในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเวฟเองก็เป็น 1 ใน 10 ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลครับ ก่อนอื่นเวฟขอขอบพระคุณทีมงานจีบัน ที่ได้สร้างสรรกิจกรรมดีๆเรื่อยมา รวมถึง Dior ที่เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนของกิจกรรมครั้งนี้ครับ
สกินแคร์ที่เวฟจะรีวิว คือ Dior Capture Totale Super Potent Serum ซึ่งได้ถูกขนานนามว่า “เซรั่มหยุดเวลาผิวในตำนาน ที่พัฒนามายาวนานกว่า 30ปี” ทำไมจึงเป็นตำนาน? ดีจริงไหม? มีอะไรน่าสนใจบ้าง? ตามมาดูกันครับ
เวฟข้อเกริ่นที่มาที่ไปของการสร้างสรรสกินแคร์ตัวนี้ก่อนครับ เจ้าเซรั่มในไลน์ Capture Totale ตัวนี้ได้ถูกคิดค้นมายาวนานกว่า 30 ปีแล้ว ด้วยความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์และวงการแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ในช่วงแรกทาง Dior เริ่มมีการวิจัยเกี่ยวกับไลโปโซม ต่อมาได้พัฒนาการวิจัยไปยังเรื่องการเติมพลังงานสู่เซลล์ผิว โดยทีมวิจัยค้นพบว่า แท้จริงแล้วปัญหาผิวหนังเหวี่ยวโทรม มีริ้วรอย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอายุและเพศเท่านั้น หากแต่ยังมีอีกปัจจัยที่สำคัญ นั้นคือ เซลล์แม่ หรือ เซลล์ต้นกำเนิดเนื้อเยื่อในร่างกายที่ขาดพลังงานในการขับเคลื่อน ส่งผลทำให้ผิวไม่สามารถฟื้นฟูและซ่อมแซมได้ดีเหมือนเดิม ด้วยเหตุนี้ทีมวิจัยจึงพยายามอย่างหนัก เพื่อให้ได้มาซึ่งการกอบกู้สภาพผิวให้กลับมาดีขึ้นอีกครั้ง นำไปสู่ผลงานการวิจัยภายใต้ชื่อ Dior Capture Totale C.E.L.L.ENERGY จากที่เวฟได้กล่าวมา จะเห็นได้ว่า Dior ไม่เคยหยุดนิ่งในการค้นคว้าและนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆมาพัฒนาสกินแคร์ครับ
สำหรับ Dior Capture Totale ในรุ่นปัจจุบัน มีการใช้เทคโนโลยี Bio-Cellular Technology ร่วมกับการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมากกว่า 91% โดยยังถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมหลักของ Dior Capture Totale Super Potent Serum ซึ่งเป็นเซรั่มสูตรใหม่ล่าสุดของทางแบรนด์ โดยมีส่วนผสมสำคัญที่ได้จากพืชอยู่ 4 ชนิด ได้แก่
  1. Longoza (ลองโกซา) ที่ได้สมญานามว่าเป็น “ไม้ยืนต้นอมตะ” ถูกพบในดินแดน Madagascar ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นพลังงานให้กับเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูสดใส รวมถึงป้องกันริ้วรอยแห่งวัย
  2. Peony (โบตั๋น) มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยปกป้องผิวจากแสง UV
  3. White Lily (ลิลลี่ขาว) มีสาร Glycolic Acid ที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และยังเพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว ทำให้ผิวฟูกระชับ
  4. Chinese Jasmin (ดอกมะลิจีน) ช่วยปรับระดับความชุ่มชื่นของผิว รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นของชั้นผิวได้ดี  **ซึ่งสารประกอบหลักทั้ง 4 ถูกเรียกรวมว่า Floral Complex
นอกจากนี้ยังมีกลไล Lipo-3X เป็นตัวสำคัญ ซึ่งทำหน้าที่เสมือนตัวช่วยในการลำเลียงสารบำรุงต่างๆให้ลงสู่ชั้นผิวได้อย่างล้ำลึกถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับสกินแคร์โดยทั่วไป
นวัตกรรมความล้ำหน้าทางการบำรุงผิวที่เวฟได้กล่าวมาข้างต้น ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญของ Dior Capture Totale Super Potent Serum โดยทางแบรนด์เคลมว่า หากใช้เป็นประจำ จะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ หมดกังวลเรื่อง ริ้วรอยแห่งวัย ความหย่อนคล้อย ความแห้งกร้าน ไม่ชุ่มชื้น และ ผิวขาดความสดใส โดยเซรั่มตัวนี้จะทำหน้าที่เป็นเครื่งมือในการซ่อมแซมและปกป้องผิวถึงระดับเซลล์ผิว
ความพิเศษที่นอกเหนือจากส่วนผสมหลักอย่าง Floral Complex และกลไก Lipo-X3 เซรั่มตัวนี้ยังใช้ Sodium Acetylated Hyaluronic Acid ที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำกว่า Hyaluronic Acid ทั่วไป จึงทำให้ผิวสามารถดูดซับสารบำรุงได้รวดเร็วและล้ำลึกมากถึง 13 เท่า
ส่วนประกอบอื่นๆที่น่าสนใจ มีดังนี้
  1. Niacinamide หรือ วิตามิน B3 : ทำหน้าที่ปลอบประโลมผิว มอบความชุ่มชื้นและลดจุดด่างดำ
  2. Squalane : ทำหน้าที่เสริมเกราะป้องกันชั้นผิว (Skin Barrier) ช่วยให้ผิวแข็งแรงและสุขภาพดี
  3. Ascorbly Glucoside : เป็นวิตามิน C ที่ค่อนข้างเสถียร ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว
เนื้อสัมผัสและกลิ่น : เป็นเซรั่มเนื้อเหลวแต่เข้มข้น เกลี่ยง่าย ซึมไว ให้ความรู้สึกชุ่มชื่น สามารถใช้ระหว่างวันโดยไม่เพิ่มความมัน มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตามฉบับ Dior
วิธีการใช้ : ใช้ทาลงบนผิวหน้าที่ทำความสะอาดแล้ว หรือหลังการเช็ดด้วยโทนเนอร์ แล้วจึงลง Dior Capture Totale Super Potent Serum สามารถทาได้ทั้งเช้า-ก่อนนอนครับ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ : สิ่งที่เวฟสัมผัสได้หลังจากการทดลองใช้ Dior Capture Totale Super Potent Serum ประมาณ 14 วัน เวฟพบว่าจุดด่างดำบนผิวหน้าลดน้อยลง ผิวดูกระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย ช่วงที่ใช้ 1-3 วันแรก ต้องพูดกันตรงๆว่า มีสิวขึ้น เวฟตกใจมากเพราะกลัวจะแพ้ แต่ตัดสินใจใช้ต่อไปอีกสักระยะ พบว่าปัญหาสิวหายไป สิวที่ขึ้นยุบตัวลง ไม่มีสิวเพิ่มขึ้นใหม่ เหมือนกับว่าผิวได้ปรับสภาพและตอบรับกับสารบำรุงในเซรั่มนี้ได้ นอกจากนี้เซรั่มตัวนี้ยังมอบความชุ่มชื่นแก่ผิวได้ดี โดยทำหน้าที่โอบอุ้มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ทำให้ผิวดูสุขภาพดี มีความโกลว์อย่างเป็นธรรมชาติครับ
ข้อควรระวัง : มีสารประกอบของแอลกอฮอล์และน้ำหอม หากใครแพ้สารผสม 2 ตัวนี้ เวฟขอให้หลีกเลี่ยง ส่วนตัวรู้สึกได้ว่ามีปริมาณสารระคายเคืองอยู่พอสมควรครับ แต่ถ้าใครไม่มีปัญหาดังกล่าว เวฟก็อยากให้ได้ลองกัน
ถ้าถามเวฟว่าน่าลงทุนไหม เมื่อเทียบในไลน์เดียวกันของ Dior Capture Totale เวฟว่าซื้อใช้แค่เจ้าตัวเซรั่มนี้ก็ได้ครับ เพราะสารอาหารผิวแน่นและดีจริง อีกทั้งยังสามารถนำมาเสริมเป็นกองหนุนให้กับสกินแคร์ที่ใช้ประจำอยู่แล้วก็ได้ จะได้เพิ่มการบำรุงผิวขั้นกว่าด้วยครับ
Dior Capture Totale Super Potent Serum ถือเป็นอีกหนึ่งในเซรั่มที่ควรลอง ใครที่อยากมีผิวสุขภาพดี ไกลปัญหาริ้วรอยและความหมองคล้ำ ลองมาเปิดประสบการณ์กับเซรั่มตัวนี้กันครับ เวฟเชื่อว่า เซรั่มขวดนี้จะทำให้ผิวดูดีขึ้นมากกว่าที่เป็นครับ

ขอบคุณที่ติดตามรีวิวกันนะครับ


Wave1992

Wave1992

สวัสดีครับ ชื่อ เวฟ ครับ เวฟชอบสกินแคร์ มีความสุขกับการดูแลตัวเอง เวฟเชื่อมาตลอดว่า เราทุกคนมีความสวยหล่อในแบบของเรา สามารถดูแลและพัฒนาความงามกันได้ แค่เราใส่ใจ เข้าใจการดูแล การมีใบหน้าและผิวพรรณที่สุขภาพดีจึงไม่ไกลเกินเอื้อมครับ การดูแลผิวคือจริตที่ทุกคนพึงมี ปัญญาจะเกิดเมื่อเราหมั่นศึกษา ความงามจะมาเมื่อเรารักสกินแคร์ ????

FULL PROFILE