คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสุด strong แห่ง Hollywood

66 7
Denise Richards

หากถามว่าเธอต้องเผชิญหน้ากับอะไรมาบ้าง  คงต้องเริ่มจากจุดเริ่มต้นที่ Charlie Sheen  อดีตสามีผู้ฉาวโฉ่นั่นเอง
แม้สถานะปัจจุบันของอดีตนางเอกสาวผู้ร้อนแรงแห่งยุค 2000s จะไม่ใช่แม่เลี้ยงเดี่ยวอีกต่อไป  หลังจากได้เข้าพิธีวิวาห์กับสามีคนที่สองเมื่อสามปีที่แล้ว   แต่ชีวิตหลังการหย่ากับ Charlie Sheen ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาก็ทำให้หลายคนยกให้  Denise  เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวสุด strong


สาเหตุมาจากอะไร ?

ความรักระหว่างสาวที่ขึ้นชื่อว่าร้อนแรงที่สุดในวงการกับพระเอกเพลย์บอยอายุถือเป็นเรื่องราวสุด classic ใน Hollywood     Denise และ Charlie กลายมาเป็นคู่รักเซเลบทรงอิทธิพลที่ผู้คนให้ความสนใจล้นหลาม    แต่พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงแปลงไปของฝ่ายสามี ทำให้นางเอกคนงามต้องยื่นฟ้องหย่าทั้งๆที่กำลังอุ้มท้องลูกคนที่สองอยู่  และมันเป็นการหย่าที่อื้อฉาวสนั่นวงการ  เพราะมันมาพร้อมกับคำร้องต่อศาลไม่ให้ Charlie เข้าใกล้เธอและลูก เพราะความขัดแย้งนั้นรุนแรงไปถึงถึงขั้นถูกขู่ฆ่า!
Denise เปิดเผยว่า  ตอนที่เธอตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กับ Charlie    เขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องสิ่งเสพติดและพฤติกรรมสำส่อน   แต่ทุกอย่างเริ่มเลวร้ายลงมากจนเกินรับเมื่อเธอกำลังตั้งท้องลูกคนที่สอง       แม้ว่าจะสามารถตกลงหย่าร้างรวมถึงค่าเลี้ยงดูที่สมเหตุสมผลได้     พฤติกรรมของ Charlie ก็ยังตามหลอกหลอนเธอต่อเนื่องอีกหลายปี    นั่นเป็นเพราะว่า  แม้ เธอสามารถหย่าขาดจากอดีตสามีได้  แต่ไม่สามารถตัดขาดความความเป็นพ่อลูกออกจากจากกันได้นั่นเอง

หลายคนอาจจะรู้จัก Charlie Sheen หลังจากที่ถูกบีบให้ออกมาเปิดเผยว่าติดเชื้อ HIV  แต่ข่าวคราวการใช้ชีวิตเหลวแหลกนั้นเริ่มขึ้นยาวนานต่อเนื่องก่อนที่เขาจะแต่งงานกับ Deniseซะอีก    เขาใช้เงินมากมายไปกับการใช้บริการโสเภณี รวมไปถึงการเป็นพ่อบุญทุ่มให้กับนางแบบและดาราหนังโป๊   และก็เป็นหนึ่งในหญิงขายบริการเหล่านั้นที่ถ่ายภาพเขาในขณะที่กำลังกินยาต้านเชื้อเพื่อนำมา blackmail ในภายหลังจนต้องออกมายอมรับกับสาธารณชนว่าเป็นผู้ป่วย HIV  


การใช้ยาเสพติดและดื่มเหล้าทำให้ชีวิตแต่งงานครั้งต่อมาพังทลายพร้อมกับข่าวฉาวอีกครั้ง แม้ว่าจะมีลูกชายแฝดที่แสนน่ารักกับภรรยาใหม่ แต่การทะเลาะเบาะแว้งนำไปสู่การใช้ความรุนแรงจนตำรวจต้องเข้ามาจัดการเพื่อสวัสดิภาพของเด็กๆ เรื่องราวย่ำแย่นักไปกันใหญ่ เมื่อแม่เด็กมีปัญหาการติดยาเช่นเดียวกัน เมื่อเจ้าหน้าที่ประเมินแล้วได้พบว่า หากยังให้เด็กๆอยู่กับแม่ต่อไปอาจจะไม่ปลอดภัย ลองเดาสิว่า เมื่อทั้งพ่อและแม่เสียสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกไปชั่วคราว ใครคือผู้ที่เข้ามาอาสาช่วยเหลือดูแลลูกแฝดของ Charlie


Denise นั่นเอง ไม่ใช่คนอื่นไกล !



เมื่อลูกๆเริ่มโต  ความกดดันที่หนักหน่วงจึงเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน เมื่อพ่อไม่หยุดทำตัวบ้าระห่ำ
แม้การหย่าร้างของ Denise และ Charlie จบลงด้วยความขัดแย้งในระดับ UGLY    Denise ยืนยันว่าเธอถูกขู่ฆ่าและไม่สามารถทำใจรับพฤติกรรมทางเพศของอดีตสามีผู้โด่งดังได้   แต่เมื่ออีกฝ่ายคือพ่อของลูก  เธอจึงค่อยๆปรับตัวและก้าวผ่านอดีตอันเจ็บปวด  เธอเปิดใจให้เขาเข้ามาทำหน้าที่พ่อที่ดี คอยเติมเต็มความโหยหาของลูกๆ   แต่มันเป็นเรื่องยากเย็นขึ้นมา  เมื่อเด็กๆเริ่มโตเป็นสาว และรับรู้ถึงพฤติกรรมที่แหลกเหลวของพ่อโดยที่ไม่สามารถปิดบังไว้ได้อีกต่อไป
แม้ว่าจะถูกแบลคเมลจนต้องออกมาเปิดเผยเรื่องติดโรค HIV  แต่ Charlie ยังใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงกับเหล่าหญิงบริการและดาราหนังโป๊  ถึงขนาดถูกผู้หญิงฟ้องว่าถูกหลอกให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยโดยไม่บอกความจริงว่ามีเชื้อนี้      ในขณะที่เขาทุ่มเงินเป็นล้านเพื่อปรนเปรอตัวเองด้วยผู้หญิง     Denise ก็เปิดเผยความจริงที่น่าตกใจว่า ในระยะหลัง  Charlie ไม่ได้จ่ายค่าเลี้ยงดูลูกมานานเป็นปี  และเขาควรจะรู้สึกโชคดีที่เธอไม่ได้ใช้กฎหมายมาจัดการ     เขาเคยร้องต่อศาลเพื่อลดค่าเลี้ยงดูลูกๆ ด้วยเหตุผลว่า ถูกแบนจากวงการบันเทิงจนไม่สามารถหาเงินเป็นกอบเป็นกำได้เหมือนเดิม  (  Charlie ถูกไล่ออกจากซีรีส์ Two and A Half Men  จากพฤติกรรมเจ้าปัญหาทั้งการควบคุมอารมณ์และการใช้สิ่งเสพติดจนทีมงานไม่สามารถทนทำงานด้วยได้) จากที่เคยเป็นพระเอกค่าตัวสูงเจ้าของทรัพย์สินกว่า 150 ล้านเหรียญ  เงินมากมายที่มีถูกผลาญไปความฟุ่มเฟือยและเริ่มมีหนี้สิน  ทรัพย์สินอยู่ประมาณสิบล้านเหรียญก็มีทีท่าจะว่าหมดไปหากไม่ปฏิวัติตัวใหม่





Britney Spears


Superstar ที่ทนทุกข์เมื่อถูกคนรอบข้างฉกฉวยผลประโยชน์จนเจ็บป่วยทางจิตใจ เป็นผลให้ต้องสูญเสียสิทธิ์การเลี้ยงดูลูกๆ ไป



Kevin Federline อดีตสามีที่รับหน้าที่ดูแลลูกชายทั้งสองเป็นฝ่ายเรียกค่าเลี้ยงดูเป็นจำนวนสองหมื่นดอลลาร์ต่อเดือน (คิดเป็นเงินบาทประมาณ630,000 เศษ) โดยที่เธอสามารถเยี่ยมและใช้เวลากับลูกๆในช่วง Holidays และออกค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ รวมไปถึงค่าเทอมในโรงเรียนดีๆและเสื้อผ้าข้าวของในรูปแบบของทายาทเศรษฐี และดูเหมือนว่าทุกอย่างจะดูลงตัว พวกเค้าดูจะไม่ขัดแย้งในเรื่องสิทธิ์การเลี้ยงดูและพยายามปรองดองกันมาตลอดหลายปีนี้ Britney หวนคืนสู่วงการและประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเฉพาะสัญญาการแสดงที่เวกัสที่ทำเงินให้เธออีกมากมาย



แต่ความขัดแย้งเริ่มขึ้นหลังจากที่ Kevin ผู้ที่ไม่สามารถหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวขนาดใหญ่ได้ร้องต่อศาลให้ Britney จ่ายค่าเลี้ยงดูให้เขาเพิ่มเป็น 60,000ดอลลาร์ต่อเดือน!   (เกือบๆ 1,900,000 บาท)

Kevin บรรยายว่า งาน DJ ตามคลับของเขา ทำรายได้เพียง 3000 ดอลลาร์ต่อเดือน เนื่องจากราบได้ลดฮวบฮาบจากเมื่อปี 2008 (ช่วงที่ตกลงตัวเลขค่าเลี้ยงดูตอนระหว่างดำเนินการหย่า) อาชีพในวงการดนตรีก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะอายุอานามที่มากขึ้นก็ไม่สามารถเต้นได้และไม่ได้ "ขายออก" เหมือนแต่ก่อน เงินที่ได้รับจาก Britney ที่สามารถรักษาสถานะซุปตาร์ค้างฟ้าจึงไม่เพียพอต่อ lifestyle ของลูกชายอีกต่อไป


แน่นอนว่า แฟนๆของ Britneyได้ยินแล้วก็โกรธเกรี้ยวอย่างหนัก หลายคนไล่ให้ Kevin ไปหางานทำให้เป็นหลักแหล่ง แม้เขาจะอ้างว่าต้องใช้จ่ายมากขึ้นเพื่อดูแลลูกชายที่เข้าสู่วัยรุ่น แต่ยังมีคนอีกมากที่มองเขาด้วยอคติว่า ไม่ได้ใช้เงินค่าเลี้ยงดูจาก Britney เพื่อลูกชายของเธออย่างเต็มที่ แต่นำมาใช้จ่ายกับสมาชิกครอบครัวอย่างภรรยาใหม่และลูกๆอีกสี่คน   

เนื่องจาก Britney ยังอยู่ในสภาพที่ต้องมีผู้พิทักษ์   ทีมของเธอจึงออกโรงต่อรองข้อเรียกร้องของ Kevin มาที่ตัวเลข 35,000 เหรียญต่อเดือน  แต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับ   การเจรจายืดเยื้อมาเรื่อยๆ ศาลสั่งให้ Brit จ่ายเงินค่าทนายและค่าธรรมเนียมทางกฎหมายต่างๆให้ Kevin ถึง 110,000 ดอลลาร์    ถึงปัจจุบันนี้ พวกเค้าสามารถตกลงตัวเลขค่าเลี้ยงดูกันได้แล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นจำนวนเท่าใด รวมไปถึงเงื่อนไขต่างๆ   คาดกันว่า Britney จะต้องจ่ายให้ Kevin เพิ่มอีกมาก


ตราบถึงทุกวันนี้ Britney ก็ยังต้องรักษาตัวจากอาการเจ็บป่วยทางจิตเวช และยังถูกบีบคั้นจากคนใกล้ตัว และเรื่องราวซับซ้อนถึงขั้นที่เธอต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงผู้พิทักษ์สิทธิ์ ซึ่งคนผู้นั้นคือพ่อแท้ๆ ที่สังคมเคยมองว่า เขาเป็นเหมือนอัศวินเข้ามาคุ้มครองปกป้องลูกสาวคนดังจากวิกฤติสุขภาพจิตตลอดหลายปีมานี้ แต่กลับมีข่าวหนาหูว่า Brit ถูกควบคุมและฝืนใจให้ทำงานโดยที่เธอไม่ต้องการ บวกกับเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างพ่อของเธอและลูกชายวัยรุ่น แฟนๆจึงสนับสนุนให้เธอเรียกร้องอิสระในการปกครองตัวเองกลับคืนมา หรืออย่างน้อยก็สรรหาผู้พิทักษ์ที่คำนึงถึงตัวเธอและครอบครัวเป็นอันดับแรก มิใช่ผลประโยชน์

แม้จะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายแรงในชีวิต และทุกข์ทรมานจากอาการป่วยตนไม่สามารถทำธุรกรรมทางกฎหมายด้วยตัวเองได้    แต่สิ่งที่ลูกๆของเธอยืนยันคือความผูกพันของแม่ลูก   ภาพที่คนภายนอกเห็นนั้น  Brit ไม่ได้เป็นเพียงผู้ส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้กับลูกชายทั้งสอง ( และเจือจานไปถึงครอบครัวใหม่ของอดีตสามี)   เธอมุ่งมั่นในทำหน้าที่แม่อย่างเต็มที่  แม้จะเคยสูญเสียสิทธิ์การเลี้ยงดู  และปัจจุบัน ก็ได้รับสิทธิ์ใช้เวลากับลูกๆเพียง 30 %   จนแฟนๆวิตกกังวลว่า นี่เป็นเหตุผลที่เด็กชายทั้งคู่รักใคร่สนิทสนมกับพ่อมากกว่าก็ตาม     แต่ Brit ก็ยืนยันเสมอว่า  ลูกๆคือ ทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ



The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE