🎈 พาไปทำความรู้จักกับบูสเตอร์ของ /skin regimen/ ในงาน Boosters Beyond Serum 🎈

65 14
JEBAN GIVEAWAY / ได้รางวัลจากจีบันนี่แหละ!
เมื่อวานนี้ปรางได้ไปร่วมงานเเละมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์หลายๆตัวจากจากเเบรนด์ /skin regimen/ นะคะซึ่งขอบอกเลยว่าลองเเล้วฟีลกู๊ด น่าใช้ทุกตัวเเต่ตัวที่อยากหวีดเป็นพิเศษเลยคือบูสเตอร์ค่ะ 
 
วันนี้เลยขออนุญาตเเชร์ภาพบรรยากาศในงานเเละเเนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จักกับบูสเตอร์เเต่ละสูตรเเบบคร่าวๆไปพร้อมๆกันนะคะ 
เกริ่นก่อนว่าทางเเบรนด์ใส่ใจกับผลิตภัณฑ์ของเค้าตั้งเเต่ขั้นตอนการผลิต User Experience ทั้งรูป(เเพคเกจจิ้ง) กลิ่น เเละเนื้อสัมผัส ไปจนถึงสิ่งเเวดล้อม เพื่อนๆอาจจะสงสัยว่าทำไมผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของเค้าเป็นขวดสีดำทั้งหมด นั่นก็เป็นเพราะว่าทางเเบรนด์อยากให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้หญิงใช้ได้ เเละผู้ชายก็ใช้ดีโดยที่ไม่ต้องรู้สึกเคอะเขิน เเค่วางไว้เฉยๆก็สวยมากเเล้ว เเพคเกจจิ้งสามารถย่อยสลายได้ง่าย ลด Carbon Footprint เเละยังใช้พลังงานทดเเทนในการผลิตอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งเเบรนด์ที่ไม่เพียงเเต่คำนึงถึงผู้ใช้เเต่ยังคำนึงถึงโลกของเราด้วยค่ะ ? 
Boosters Beyond Serum
มาถึงนางเอกของงาน เพื่อนๆอาจจะมีคำถามว่าเราใช้เซรั่มกันในรูทีนอยู่เเล้ว การใช้บูสเตอร์ยังจำเป็นอีกเหรอ? ต้องบอกว่าบูสเตอร์ของ /skin regimen/ เค้าถูกคิดค้นมาเพื่อเเก้ปัญหาอย่างตรงจุด เเม่นยำในเวลาสั้นๆนะคะ โดยที่บูสเตอร์ทั้ง 5 สูตรจะยืนพื้นด้วย Longevity Complex ™ ซึ่งถูกคิดค้นเเละมีเฉพาะที่ /skin regimen/ เท่านั้น อุดมไปด้วย 4 สารที่น่าสนใจดังนี้
  • Maqui Berry เบอร์รี่ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเข้มข้นที่สุด
  • Wild Indigo ลดการตอบสนองของ Cortisol เเละลดการอักเสบของผิว
  • Spinach หรือผักโขมช่วยลดการอักเสบของผิวเเละมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
  • Carnosine คงความยืดหยุ่นของผิวเเละลดการทำร้ายผิวอันเกิดจากการบริโภคน้ำตาลเเละอาหารเเปรรูป

ซึ่งถ้าให้สรุปเเบบเข้าใจง่ายๆคือ บูสเตอร์นั้นเจาะจง ตรงจุด เข้มข้น เห็นผลลัพธ์ได้ไวกว่า ทางเเบรนด์เค้าฝากมาบอกเลยว่า 28 วันรู้เรื่อง! 
เเต่ปัญหาผิวของเเต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน เเละเเม้เเต่เราคือคนๆเดียวกันเเต่ความต้องการของผิวเรายังเเตกต่างกันออกไปในเเต่ละวันเเต่ละโอกาส ดังนั้นเราจึงต้องเลือกบูสเตอร์ที่จะช่วยเเก้ปัญหาผิวเราได้อย่างตรงจุดซึ่ง /skin regimen/ เค้าช่วยคิดมาให้ครอบคลุมเเล้วถึง 5 สูตร ไม่ว่าจะเป็น 
ปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น ขาดน้ำ 
ปัญหาผิวหมองคล้ำ
ปัญหาผิวที่เป็นสิว 
ปัญหาผิวที่ถูกทำร้ายเเละเเห้งกร้าน 
เเละปัญหาเรื่องริ้วรอย

น่าสนใจทั้งนั้นเลยใช่มั้ยคะ มาค่ะ! เรามาทำความรู้จักกันทีละสูตรนะคะ
1.85 HA Booster บูสเตอร์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับทุกสภาพผิวอย่างเข้มข้น
อุดมด้วย Hyaluronic Acid ถึง 3 โมเลกุล (Macro, Micro, Cross-Linked) บอกเลยว่าสามารถให้ความชุ่มชื้นได้ครอบคลุมทุกชั้นผิว โดยที่ Cross-Linked HA สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้นานกว่าขนาด Macro เเละ Micro ทำให้ผิวชุ่มชื้นเเละเเลดูอิ่มน้ำได้นานกว่าเพราะสามารถทนต่อการย่อยสลายของเอ็นไซม์ที่ย่อย HA ได้ดี นอกจากบำรุงผิวเเล้วเค้ายังสามารถเป็นเมคอัพเบสได้อีกด้วยค่ะ น้องทำได้หลายอย่างมาก~!

กระซิบนิดนึงนะคะ เลขที่อยู่ก่อนชื่อสาร Active ต่างๆคือจำนวนเปอร์เซ็นของสารนั้นๆในผลิตภัณฑ์นะคะ เช่น 1.85 HA เเปลว่าในขวดนี้มี HA 1.85% ค่ะ  
เนื้อสัมผัสเค้าดีมากค่ะ หัวดรอปเปอร์ทำให้ใช้งานง่ายมากๆเหมาะกับผลิตภัณฑ์เนื้อน้ำๆเเบบนี้ (ทางเเบรนด์เค้าคิดมาให้เเล้วล่ะ ^^) เกลี่ยง่าย ซึมลงผิวไว เบาสบายเหมือนน้ำเลย สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว จะใช้ยืนพื้นเพื่อให้ความชุ่มชื้นทั้งเช้าเเละเย็นก็ไม่ผิด
ต่อมาคือ 15.0 Vit C Booster บูสเตอร์เพื่อผิวกระจ่างใสเเละสีผิวเนียบสม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำ ปกป้องความเยาว์วัยเเละกระชุบรูขุมขนให้ดูเล็กลง
โดยที่สูตรนี้จะเเยกเป็น 2 ชิ้นคือตัวน้ำบูสเตอร์เเละตัว Vit C ผงในซองที่เราต้องมาผสมเองก่อนใช้ ถือว่าได้ใช้วิตซีที่ผสมเองสดๆเลย อุดมไปด้วยวิตซีเข้มข้นสูงถึง 15% ด้วย Active Sodium Ascorbate เเละ Ascorbic Acid นะคะ หลังจากเปิดใช้เเล้วควรใช้ให้หมดภายใน 30 วันเเละควรทาครีมกันเเดดในตอนกลางวันด้วย It’s a must! 
เนื้อสัมผัสเค้าดีมาก เหลวมากๆ ซึมลงผิวได้ไวเหมือนกัน มีความปลาบปลื้ม?  ทางเราเลือกสูตรนี้กลับมาลองเพราะเรามีรอยดำจากสิว ยังไงเดี๋ยวจะลองใช้เเล้วมารายงานผลให้เพื่อนๆฟังกันนะคะ
ต่อมาคือ 1.0 Tree Tea Booster บูสเตอร์ลดปัญหาสิว ผด กระชับรูขุมขน เพื่อผิวใส เรียบเนียน
ส่วนตัวเราชอบกลิ่นของตัวนี้ที่สุดเลย หอมมากๆ หอมทรีทีเเบบไม่เเต่งกลิ่น สบายจมูกมากค่ะ ใครที่ชอบกลิ่นทรีทีจะต้องเลิ๊ฟมากเเน่ๆ นอกจากกลิ่นจะดีเเล้วเนี่ยเจ้าทรีทียังเป็นที่รู้จักกันดีว่าช่วยลดการสะสมของเเบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวด้วย ยังไม่หมด! เค้ามี Mandelic Acid ซึ่งเป็นกรดที่ช่วยผลัดเซลส์ผิว ป้องกันการเกิดสิวใหม่เเละให้ผิวเรียบเนียน เหมาะมากสำหรับผิวที่เป็นสิวง่ายเพราะนอกจากเค้าจะรักษาเเล้วยังสามารถยับยั้งการเกิดสิวด้วยนะคะ

เนื้อสัมผัสตัวนี้ก็ดีอีกเเล้ว ทาลงไปเเล้วซึมเเต่ก็มีความชุ่มชื้นเหลือเคลือบผิวไว้เบาๆ ให้ความรู้สึกเย็นๆสบายผิวมากๆเป็นอีกหนึ่งสูตรที่เราอยากจะลองรองลงมาจากตัว Vit C เลยค่ะ ถ้ามีโอกาสอยากจะกลับไปสอยตัวนี้เพิ่มมากๆ >< 
มาที่ 10.0 Tulsi Booster บูสเตอร์เพื่อฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้าย เเห้งกร้าน ขาดสมดุลความชุ่มชื้น ช่วยต้านอนุมูลอิสระ  
หลายๆคนอาจจะไม่คุ้นว่า Tulsi คืออะไร? อีกชื่อนึงของน้องเค้าคือ Holy Basil หรือใบกะเพรานั่นเองค่ะ ช่วยฟื้นฟูผิวปกป้องผิวจากปัจจัยต่างๆ คงความอ่อนเยาว์เเละความกระจ่างใส
เนื้อเค้าเป็นออยล์ที่เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิวเลย กลิ่นเค้าหอมเป็นเอกลักษณ์มาก ดมเเล้วรู้สึกผ่อนคลาย เรารู้สึกว่าเหมาะกับการทาก่อนนอนในห้องเเอร์เย็นๆเพื่อรับการบำรุงที่ล้ำลึกข้ามคืนมากๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างชาวเราสุดๆ
สุดท้าย 1.5 Retinol Booster บูสเตอร์ลดริ้วรอยเเห่งวัย เเละเพิ่มความเต่งตึงยืดหยุ่นให้ผิว
ในขวดนี้จะมี Retinol เเละ Sylibin อย่างเข้มข้นเเต่เป็นสูตรที่อ่อนโยนเเละเสถียรทำให้สามารถใช้ได้ทั้งตอนกลางวันเเละก่อนนอน โดยมีข้อเเนะนำว่าควรทาครีมกันเเดดเสริมด้วยในตอนกลางวันนะคะ 
เนื้อสัมผัสเค้าจะเป็นเจลครีมสีขาวเนื้อบางเบา เหมาะกับผิวที่ต้องการการป้องกันการเกิดริ้วรอยเเละมีความกังวลเรื่องริ้วรอยเเห่งวัยมากๆค่ะ  
บูสเตอร์ทุกสูตรปราศจาก Silicones, Parabens, Mineral Oils, Artificial Colours, Animals Derivatives เเละ Synthetic Fragrance นะคะ ดังนั้นสูตรที่หอมคือหอมด้วยตัว Active ของเค้าเลยปราศจากการเเต่งกลิ่นสังเคราะห์นะคะ เพื่อนๆที่เเพ้น้ำหอมน่าจะสบายใจขึ้น

เพื่อนๆที่อยากลองไปสัมผัสผลิตภัณฑ์ของ /skin regimen/ ด้วยตัวเองสามารถไปลองทำ Facial Spa ที่โรงเเรม SO Sofitel Bangkok ได้นะคะ น่าจะช่วยผ่อนคลายจากชีวิตในเมืองได้ดีเลย :)

? สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ Jeban เเละ /skin regimen/ สำหรับกิจกรรมเเละโอกาสดีเเบบนี้นะคะ รู้สึกเป็นเกียรติมากๆที่ได้ไปร่วมงานเเละได้ทำความรู้จักกับพี่ๆจีบันนิสต้าทุกคนค่ะ