📍รอยสิว ทำยังไงก็ไม่หาย ใช้ตัวช่วยอะไรไปดูกัน

สวัสดีค่ะก็วันนี้นะคะเปิ้ลมาแนะนำให้รู้จักกับตัวนี้เลย B3  ACNE SOLUTION นั่นเอง
ตัวนี้เป็นเซรั่มช่วยป้องกันสิวนั่นเองนะคะ สำหรับในช่วงที่แอปเปิ้ลประสบปัญหาสิว ก็ได้ใช้ตัวนี้ค่ะ
คือดีงามมาก ชอบมาก เพราะว่าทำให้รอยสิวหายไปได้เร็วมากเลย ซึ่งปกติแล้วนะคะเวลาเป็นสิว ก็จะทิ้งรอยสิวไว้กว่าจะหายก็นานนะคะหลายอาทิตย์เลย พอได้ใช้ตัวนี้สิวหายได้เร็วแล้วก็รอยสิวจางหายไปเลยค่ะ หน้าใสขึ้น ผิวดีขึ้น

สำหรับตัวเนื้อเซรั่มของเค้า ก็ค่อนข้างที่จะซึมซาบไวนะคะ แล้วก็ไม่เหนอะหนะ ที่สำคัญอ่อนโยนต่อผิวมากๆเลยสามารถใช้ทาเป็นประจำได้ทุกวันค่ะ

วิธีใช้ก็ง่ายมากๆเลยค่ะเพียงแค่ใช้ครั้งละ1-2หยดทาให้ทั่วใบหน้า แค่นี้เองค่า 

สำหรับ B3 หรือ Niacinamide ดียังไง?
หลายคนคงเคยได้ยินว่า Niacinamide เป็นสารที่ช่วยรักษาสิวได้ แต่จริงๆแล้ว B3 หรือ Niacinamide คือตัวเดียวกันนั้นเอง
ตัว B3 เอง จะมีคุณสมบัติที่ช่วยรักษาสิวควบคุมความมันได้ดีและสามารถรักษารอยแดงจากการกดสิวได้ ‼️ การใส่ B3 แค่ 4% ก็สามารถรักษาสิวให้หายได้โดยใช้เวลาเพียง 8 อาทิตย์แต่ของ Dr.may มีส่วนผสมของ B3 ถึง 6% เพื่อประสิทธิภาพการรักษาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
ขอบอกอีกว่า B3 ยังสามารถช่วยลดริ้วรอยได้ด้วย และรักษาสิวได้นั้นเอง
ตั้งแต่เริ่มใช้มา รู้สึกได้เลยว่ารอยสิวจางไปเลย ได้ผิวที่ดีขึ้น เนื้อเซรั่มซึมไว ไม่เหนอะหนะ เซรั่มช่วยดีท็อกซ์ผิว ทั้งยังช่วยควบคุมความมัน ป้องกันการเกิด สิวเสี้ยน หรือรูขุมขนกว้างต่างๆ สำหรับ Dr.may เป็นแบรนด์สัญชาติไต้หวัน ที่ค้นพบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เซรั่มของเค้ามีส่วนผสมที่เรียกว่า FRSAB (ฟาซ๊าร์บ) เป็นสูตรเฉพาะของแบรนด์ ‼️ ซึ่งทางแบรนด์เค้าเคลมมาว่าแค่ดมกลิ่นก็ทำให้ผิวหน้าดีขึ้นได้ ?
อีกทั้งยังรู้สึกผ่อนคลาย คือว้าวมากก ?  

ถ้าทาก่อนนอน จะช่วยให้ผ่อนคลาย หลับสบายมากขึ้น และเค้ายังมีส่วนผสมของ B3,BHA,วิตามินอี,Thyme Kill ที่ช่วยปลอบประโลม และป้องกันสิวอีกด้วยค่า

สำหรับตอนนี้เองแอปเปิ้ลก็ยกให้เป็นลูกรักอีกหนึ่งตัวเลยค่า อ่อนโยน สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวัน ?☺️ ใครที่มีปัญหาสิว ก็สามารถหามาใช้กันได้น้า แนะนำเลยค่า

 #Drmay #เซรั่มต่อต้านสิวB3 #ผู้เชี่ยวชาญด้านการซ่อมแซมผิว