เปิดกล่องรางวัล + รีวิว Kindness Happy Glow ฉบับเภสัชชะลอวัย :)

หลังจากที่หญิงรู้ตัวว่า...
ได้เป็นหนึ่งใน 20ผู้โชคดี ได้รับรางวัลจากจีบัน ได้รับรางวัลนี้
หญิงก็ดีใจ และรอคอยลอยคอมากค่ะ จนในที่สุด....

"ปิ๊งป่อง รับพัสดุด้วยค่ะ"

เอาล่ะ
เราอย่ามาพูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลากันเลย

มาเปิดกล่อง และรีวิววิเคราะห์สูตรเล็ก ๆ น้อย ๆ กันสักหน่อยเลยดีกว่าเนาะ 

หญิงได้รางวัลเป็นตัวนี้มาค่ะ 

• สูตร Happy glow Antioxidant Radiance Moisturizer

• ขนาดจริง 30mL

ตรวจสอบแล้ว Kindness เป็นแบรนด์ไทย 

ผลิตโดย จูน แลบอราทอรีส์ 

จดแจ้งเครื่องสำอางเรียบร้อย สถานะยังคงอยู่

เมื่อเปิดกล่องออกมา

• บรรจุภัณฑ์เป็นหลอดพลาสติกสีขาว 

• เนื้อครีมสีน้ำตาลส้มอ่อนๆ

• ลองทาแล้วการดูดซึมปกติ 

• กลิ่นออกไปทางสารสกัด ไม่ฉุน

แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นกลิ่นของสารสกัดในสูตรหรือกลิ่นน้ำหอมที่ใส่ลงไป

มาวิเคราะห์ส่วนประกอบเบื้องต้นในส่วนของสารสำคัญกัน

สารสำคัญของสูตรนี้ คือ Alpha arbutin, Astaxanthin, Vitamin B3, Witch Hazel, Vitamin E, ว่านหางจระเข้, ชะเอมเทศ, ไฮยาลูรอน

การใช้สารสำคัญทั้งหมดรวมกันโดยภาพรวมเป็นสูตรที่ออกแบบมาเพื่อความชุ่มชื้นและความกระจ่างใส ก็ถือว่าเป็นสูตรที่เหมาะกับสาววัย 30+ ที่ผิวแห้งอย่างหญิงดี

ข้อสังเกต

• การใช้ Sodium Hyaluronate ในสูตรถือว่าเป็นเรื่องดี ดีกว่าใช้ไฮยาลูรอนที่เป็น Hyaluronic acid ซึ่งเป็นแบบฟอร์มที่ทาลงผิวแล้วดูดซึมไม่ได้
• ส่วนสารสำคัญอื่น ๆ ที่มีผลต่อสูตรมาก เช่น Astaxanthin กับ Alpha arbutin นี่ไม่แน่ใจ เนื่องจากเค้าไม่ได้ระบุชัดเจนจึงไม่รู้ว่าเค้าใช้เกรดดีแค่ไหน

ยกตัวอย่าง Alpha Arbutin ซึ่งเป็นสารที่หลายคนรู้จักดี จริง ๆ แล้ว... สารนี้มีหลายเกรด หลากรูปแบบ มากที่มา จุดกำเนิดตั้งต้นของ Alpha arbutin มาจาก Switzerland แต่ปัจจุบันสามารถผลิตได้ในหลายประเทศ เช่น China และสามารถผลิตได้หลายรูปแบบด้วย

แม้จะไม่ใช่เกรดสวิสฯ ก็ใช่ว่าจะไม่ดีนะคะ อย่างเกรด China แบบ Enzymatic synthesis นี่ก็ถือว่าดีเพราะเป็นวิธีที่ใกล้เคียงจากต้นกำเนิดประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ส่วนแบบ Crystal form ก็ถือว่าดี เพราะเป็นแบบที่ประกันได้ว่าเป็น Alpha arbutin จริง ๆ ไม่ใช่ Beta arbutin ซึ่งคุณภาพต่ำกว่ามาก ( ราคาเกรดสวิสฯ ~100บาท ต่อ 1กรัม ส่วนเกรดไชน่าทั้งสองแบบ ~25บาท ต่อ 1กรัม)

• ส่วน Vitamin E ในสูตรระบุว่าใช้ Tocopheryl Acetate ตัวนี้ไม่แน่ใจว่าในสูตรใส่ในความเข้มข้นที่ช่วยเรื่องผิวได้มากแค่ไหนหรือใส่แค่ในปริมาณที่ช่วยให้สูตรคงตัว ตัวสาร Tocopheryl Acetate ที่เค้าใช้นี้เป็นตัวที่คงตัวดี เครื่องสำอางส่วนใหญ่ก็นิยมใช้กัน แต่ถ้าเค้าใช้ตัวที่ดีกว่าอย่าง dl-alpha tocopherol ก็จะช่วยให้สูตรน่าสนใจมากขึ้น

ข้อดี

• ไม่มี Paraben, ไม่แต่งสี, ไม่มีแอลกอฮอล์
• มีการทดสอบ Dermatologically Tested For sensitive skin
• ใช้ สารสกัดว่านหางจระเข้ ที่เป็น Ecocert

ข้อเสีย

• สูตรระบุ Ecocer for Aloe vera ก็เข้าใจว่าสารออแกนิคในสูตรมีแค่ ว่านหางจระเข้เท่านั้น สารสกัดอื่น ๆ ไม่เป็นออแกนิค ส่วนสารอื่นๆพวกกลุ่มก่อเนื้อครีมและสารกันเสียในสูตรเป็นเคมีแน่นอนอยู่แล้ว
• มีน้ำหอม
• รู้สึกว่าราคาเต็มแพงเท่าแบรนด์สากล ( 30ml 1590บาท)

สำหรับผลการใช้

หญิงขอทดลองใช้ก่อนนะคะทุกคนนนน ??