รีวิวแป้งพัฟถูกและดี #งบไม่เกิน300บาท | Beru bell

Mistine IDOLO PERFECTA COMPACT POWDER - #light

ตัวนี้เป็นเบอร์สว่างสุดในรุ่นนี้ค่ะ จะเห็นว่าเป็นโทนขาวอมเหลืองเหมาะกับผิวสาวไทย

Cathy doll Magic Dolly Face Two Way Cake - #21 lihgt beige

ตัวนี้เป็นเบอร์สว่างสุดในรุ่นนี้เช่นกันค่ะ แต่โทนสีจะมีความติ่งชมพูมาเล็กๆ เหมาะกับคนผิวขาวทั่วไป

Eglips Blur Powder Pact -  #21

ตัวนี้เป็นเบอร์สว่างลำดับ2 รองจากเบอร์ 13 ค่ะ แต่ก็ยังถือว่าเป็นสีที่สว่างที่สุดในทั้งหมด 3 ตัวนี้ เหมาะกับคนผิวขาวทั่วไปโทน Natural

**ผิวผสม - ค่อนแห้ง แพ้ง่าย มีสิวอุดตันประปราย**

สี #light  // ราคา 289.- 

ตัวแรกเป็นแป้งมิสทีนดิโอโล่ ความดึงดูดจุดนี้คือพรีเซนเตอร์เค้าคือ น้องนิว ฐิติภูมิ ขาวหล่อออร่ามาเลย ตัวตลับแป้งเค้าออกแบบได้สวยงาม ดูมินิมอลมากๆ ตลับแยกพัฟ กับแป้ง และให้กระจกมาบานใหญ่สะใจดีเด้อ น้องๆ นศ.พกใส่กระเป๋าชิคๆ ได้เลย ดูโคเรียมากๆ

ตัวนี้บอกเลยว่า ว้าววววมากกก คือแป้งเค้ามีความเย็น แถมเบาสบายผิว เหมือนผิวติดแอร์เลย ได้ฟิลล์เย็นๆ หลังทา เหมาะกับหน้าร้อนบ้านเรามากๆ แนะนำให้ไปลองเทสมันเย็นจริงๆ นะ 555+

ความปกปิด เค้าเบลอรูขุมขนได้ดีทีเดียว ให้ผิวเนียนกริบ แบบดูเป็นธรรมชาติ ไม่หนาเตอะใดๆ หลังใช้สีไม่ดรอประหว่างวันนะ เราเทสมาแล้ว ไม่อุดตันผิว สิวไม่เกิด 

โทนสี อย่างที่บอกคือ น้องเค้ามีความขาวอมเหลือง เบลล์จะเอาไว้ทาในวันที่อยากออกไปถ่ายรูปสวยๆ จะได้ผิวที่ดูสวย สีขึ้นกล้องมากๆ 

เหมาะกับเพื่อนๆ ที่อยากได้แป้งพัฟที่เบาสบายผิว แถมยังให้ความเย็นๆ ผิวด้วยหลังทา โทนสีอมเหลืองเหมาะกับสาวไทย ความคุมมันประมาณ 4 - 5 ชม. ซับๆ หน่อยก็ผ่องเหมือนเดิมจ้าา

สี #21 lihgt beige // ราคา 275.-

แป้งพัฟตัวที่สอง จากเคที่ดอลล์ ความดึงดูดของแป้งตัวนี้คือ คุณหลวงเป๊ก ผลิตโชคเป็นพรีเซนเตอร์ ฮ่าา นอกจากนั้นตลับเค้ามีความสีม่วง เงาวิ๊งค์สะดุดตาเวลาพกพา แต่ต้องเช็ดน้องเค้าหน่อยเพราะอาจติดรอยนิ้วมือบ้างตอนหยิบจับ ตลับเค้าจะเป็นแบ่งแป้ง และพัฟแยกกัน ให้กระจกมาบานขนาดใหญ่ แต่เล็กกว่าดิโอโล่เล็กน้อย แต่ไม่เป็นปัญหาใดๆ ตอนใช้ อิอิ

หลังทา

ตัวนี้เค้าเป็นแป้งพัฟแบบทูเวย์ สามารถใช้งานได้สองแบบ จะใช้ทาผิวเดี่ยวๆ หรือเอาพัฟจุ่มน้ำเพิ่มความปกปิดก็ได้เด้อ ส่วนตัวเราชอบใช้แบบปกติมากกว่า หลังทาจะได้ฟิลล์เบาสบายผิว

ความปกปิด ได้ผิวที่กริบ เบลอรูขุมขนได้ดีเลย เนื้อแป้งเค้าเบาผิว แต่จะมีความหนากว่าดิโอโล่เล็กน้อย ด้วยความที่เค้าเป็นทูเวย์นั่นแหละ ตัวนี้เราใช้แล้วสีไม่ดรอประหว่างวันด้วย 

โทนสี น้องเค้าเป็นแป้งที่โทนขาวอมชมพู เป็นสีตรงกับผิวเบลล์ที่สุดใน 3 ตัวนี้ เวลาทาเลยได้ผิวที่ดูกลืนๆ เนียนไปกับผิวมากๆ ซึ่งเหมาะกับเพื่อนๆ ที่มีผิวขาวซีด - ขาวอมชมพูจ้าา 

เหมาะกับเพื่อนๆ ที่อยากได้แป้งพัฟที่ผสมรองพื้นใช้งานได้สองแบบ เน้นความปกปิดผิว แต่ไม่หนักผิวจนเกินไป ตัวนี้ส่วนตัวเราใช้แบบปกติแล้วไม่อุดตันผิวใดๆ แต่ถ้าใครใช้แบบพัฟจุ่มน้ำ แนะนำให้ทำความสะอาดผิวมากขึ้นจะดีที่สุดจ้า สามารถคุมมันได้ประมาณ 3 - 4 ชม. ซับๆ ผิวไม่เป็นครอบเด้อ

Eglips Blur Powder Pact 

สี #21 // ราคา 225.-

ตัวสุดท้าย เราเชื่อว่าเพื่อนๆ น่าจะเคยได้ยิน หรือเคยใช้กันมาบ้างแล้ว เพราะน้องเค้าดังมากจริงๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ว่าเป็นแป้งเบลอรูขุมขนจากฝั่งเกาหลี แน่นอนว่าเราก็ใช้แล้วชอบเช่นกัน ฮ่าา ซึ่งอีกลิปส์ ตัวนี้เค้าเป็นตลับทรงกลมสีดำกระทัดรัด พกพาง่าย ตลับเค้าเล็กที่สุดในบรรดา 3 ตัวนี้ แน่นอนว่ากระจกต้องเล็กกว่าตามธรรมชาติ อิอิ ส่วนแป้งกับพัฟเค้ามีชั้นเดียว ไมีมีชั้นแยกให้ เวลาใช้เลยต้องมีฟิลม์มาขั้นแป้ง กับพัฟเอาเองนะจ้ะ

หลังทา

ตัวนี้เค้าเป็นแป้งที่เน้นเรื่องเบลอรูขุมขน ทาแล้วเบาผิว ไม่หนักหน้าใดๆ เราชอบใช้ในวันที่สบายๆ หยิบมาใช้ทาชิลล์ๆ ให้หน้าผ่องๆ นวลๆ อะไรแบบนี้ หรือไว้พกเติมระหว่างวันก็พกสะดวกดีเพราะตลับเล็ก

ความปกปิด ตัวนี้จะเน้นไปทางเบลอรูขุมขนแบบให้ความนวลผิว เรื่องความปกปิดจะน้อยที่สุดในบรรดทั้งหมด 3 ตัว เค้าจะเน้นความเป็นธรรมชาติผิว ใช้แล้วหน้าผ่องขึ้น

โทนสี น้องเค้าเป็นแป้งที่โทนขาวนู้ด ทาแล้วจะสว่างกว่าผิวเบลล์เล็กน้อย เน้นไว้ทาวันไหนที่อยากหน้าผ่องๆ แบบสาวเกาหลี ก็หยิบตัวนี้ขึ้นมา เบลล์เคยเทสสีเบอร์ 23 ปรากฎว่ามันเข้มไป สีนี้จึงตอบโจทย์กับผิวเบลล์มากกว่า 

เหมาะกับเพื่อนๆ ที่อยากได้แป้งพัฟที่ให้ความผ่องๆ กับผิว เบลอรูขุมขนได้กำลังผิว เน้นผิวสวยแบบธรรมชาติ ส่วนตัวใช้แล้วสีไม่ดรอประหว่างวัน และหลังใช้ไม่เกิดสิวอุดตัน สามารถคุมมันได้ 4 - 5 ชม. หลังซับ ก็พกแป้งไปรีทัชผิวหน่อยก็กริบเหมือนเดิมจ้าาา

ครบแล้วววสำหรับแป้งพัฟถูกและดี ที่เบลล์ขนมารีวิวให้เพื่อนๆ ดูกันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆ หรือน้องๆ ที่กำลังมองหาของถูกและดีกันนะคะ 

วันนี้เบลล์ไปก่อนจ้า เจอกันใหม่รีวิวหน้า

ม๊วฟฟฟฟ