#รีวิวผลิตภัณฑ์บำรุงผม ฉบับคนชอบทำสีและยืดผม

เราเป็นคนนึง ที่ชอบทำสีผมมากกกก 

ยิ่งช่วงที่เป็นวัยรุ่น อยู่มหาวิทยาลัย และทำกิจกรรมเต้นคัฟเวอร์แดนซ์ 

ก็จะย้อมสีผมบ่อยมาก พอศิลปินเปลี่ยนสีผมที เราก็พยายามจะเปลี่ยนตาม 

หรือไม่..พอโคนผมเริ่มยาวเห็นผมสีดำ ก็หาสีใหม่มาย้อม

อีกสิ่งที่ทำบ่อยไม่แพ้กันคือการ "ยืดผม" เพราะโดยปกติแล้ว 

เส้นผมเราค่อนข้างชี้ฟู ไม่เป็นทรง อาจจะไม่ถึงกับหยักศก

แต่ถ้าไม่เซ็ตผม ผมก็จะดูยุ่งฟูเหมือนคนไม่ได้หวีผม 

ทั้งที่บางครั้งเราหนีบผมแทบตายผมก็ยังฟูอยู่ดี TT

พอทำบ่อย ๆ เข้า เส้นผมของเราก็มาถึงจุดทนไม่ไหว 

ปลายผมช็อต ขาด แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 

เราจึงต้องหาตัวช่วยมาฟื้นฟูเส้นผมที่พังมาก ๆ ให้กลับมาดูดีอีกครั้ง

วันนี้เราเลยจะมาเปิดกรุ #รีวิวผลิตภัณฑ์บำรุงผม ที่ใช้อยู่ในช่วงนี้ค่ะ

 Sunsilk Collagen Filler Super Conditioner 

สูตร Damage Rescue

180 ml / 135 บาท

เริ่มกันที่ตัวแรก เป็นครีมนวดผมผสมคอลลาเจน เราใช้สูตร Damage Rescue เหมาะกับผมแห้งเสีย สูตรนี้มีนอริชชิ่ง คอมเพล็กซ์ ช่วยเติมเต็มร่องผม เคลือบปิดเกล็ดผม ทำให้ผมนุ่ม ลื่น 

ถ้าใครผมแห้งมาก ๆ หรือมีผมเสียแบบเรา แนะนำมาก ๆ ให้ทุกคนได้ลองใช้สูตรนี้ค่ะ เพราะเป็นครีมนวดผมที่เข้มข้นมากเหมือนกับการใช้ทรีตเมนต์เลย ใช้ครั้งแรกก็รู้สึกได้เลยว่าผมนิ่มขึ้นมาก ผมที่ช็อตอยู่มันพันกันน้อยลง คือลองแล้วรักเลย

Texture & Use

ลักษณะเนื้อครีมสีขาวครีม มีความข้นสูง ล้างออกง่ายปานกลาง ต้องใช้เวลาล้างนิดหน่อย แต่ไม่ได้นานมากค่ะ สามารถใช้ได้ทุกวันโดยไม่ต้องใช้ทรีตเมนต์เพิ่ม โดยการหมักผมทิ้งไว้ 2-3 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด

 

 Caring treatment original 

500 ml / 159 บาท

ทรีตเมนต์บำรุงผมสุตรผสมคอลลาเจน มีวิตามินอี ช่วยบำรุงถึงภายในโครงสร้างเส้นผม พร้อมปรับสภาพผมให้หนานุ่มลื่น ไม่ลีบแบน สามารถใช้แทนครีมนวดผมได้ทุกวัน

ตัวนี้เป็นทรีตเมนต์บำรุงผมที่คุณแม่เราซื้อมาใช้ คุณแม่บอกว่าดีมาก ใช้แล้วผมนิ่ม เราก็เลยลองใช้ด้วยเพราะอยากรู้ว่าจะดีกับผมเราไหม ตอนแรกก็ว่าเฉย ๆ นะ แต่ใช้ไปใช้มาจนหมดกระปุกแล้วค่ะ

ส่วนตัวเราว่าสูตรนี้ก็ทำหน้าที่ของการเป็นทรีตเมนต์ได้ดีเลยค่ะ ผมนิ่มขึ้น แต่ยังไม่มากพอสำหรับผมเรา อาจเพราะว่าเป็นสูตรสำหรับทุกสภาพเส้นผม เลยจะไม่ได้เน้นการฟื้นบำรุงผมแห้งเสียจากการทำเคมีมากเป็นพิเศษ

แต่โดยรวมเราค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์อยู่ค่ะ ถ้าผมเราไม่ได้แย่ขนาดนี้เราน่าจะปลื้มมาก ๆ เหมือนที่คุณแม่เราชอบ 555

Texture & Use

เนื้อครีมสีขาว มีความข้นปานกลาง ล้างออกค่อนข้างง่าย สามารถใช้แทนครีมนวดได้ทุกวัน โดยหมักผมทิ้งไว้ 3-5 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด

 MOREMO Water Treatment Miracle 10 

200 ml /  249 บาท

ทรีตเมนต์สูตรน้ำ เข้มข้นด้วยสารบำรุงจาก Super Repair Complex-21 และสารสกัดธรรมชาติ ช่วยให้เส้นผมที่แห้งเสียจากการทำเคมีกลับมาแข็งแรง เงางาม ดูสุขภาพดี ไม่มีซิลิโคน พาราเบน มิเนอรัลออยล์ และสารอันตรายที่ก่อให้เกิดอาารแพ้

ตัวนี้เป็นทรีตเมนต์ที่แปลกใหม่สำหรับเรามาก ๆ ค่ะ เพราะมาในรูปแบบน้ำ เวลาใช้จะมีความรู้สึกอุ่น ๆ ที่เส้นผมและหนังศีรษะด้วย มีกลิ่นหอม เวลาใช้จะรู้สึกผ่อนคลายมาก 

ระหว่างที่ใช้จะรู้สึกได้เลยว่าเส้นผมนิ่มขึ้นมาก แต่พอล้างออกจะนิ่มน้อยลงกว่าตอนที่เราทาทรีตเมนต์ไว้ ข้อดีคือไม่ต้องทิ้งไว้นาน และสามารถล้างออกได้ง่ายมาก ๆ เราเขียนรีวิวไว้ ตามไปอ่านแบบเต็ม ๆ ได้ ที่นี่ เลยค่ะ

Texture  & Use

เป็นน้ำใส ๆ เหลวเหมือนน้ำเปล่า ไม่มีสี มีกลิ่นหอม ล้างออกง่าย สามารถหมักผมโดยทิ้งไว้เพียงแค่ 10 วินาที หรือนานกว่านั้นแล้วล้างออกด้วยน้ำให้สะอาด 

 L'oreal Paris Elseve ExtraOrdinary Oil 

8 ml / 59 บาท

ออยล์บำรุงผมที่มีสารสกัดจากดอกไม้ 6 ชนิด ช่วยบำรุงผมให้เรียบลื่น ไม่ชี้ฟู จัดทรงง่าย และเพิ่งความเงางามให้กับเส้นผม สุตรนี้สามารถใช้ได้กับทุกสภาพเส้นผม

ตัวนี้เป็นออยล์บำรุงผมที่หาซื้อง่ายมาก มีแบบขวดเล็ก ๆ ขายใน 7-11 ซึ่งเราก็ชอบซื้อไซส์นี้มาใช้มากกว่าไซส์จริง เพราะไซส์จริงเค้าเป็นขวดแก้วจะหนักกว่ามาก เจอขวดจิ๋ว ๆ แบบนี้หยิบใช้ พกพาสะดวกดีค่ะ

เห็นปริมาณแค่นี้ แต่เอาจริง ๆ ใช้ได้นานเลยนะคะ เราใช้อยู่เป็นเดือนเลยถึงจะหมด เรื่องประสิทธิภาพการบำรุงคือดีมาก ถึงแม้จะบอกว่าใช้ได้ทุกสภาพเส้นผม แต่ผมแห้งเสียแบบเราใช้แล้วก็เวิร์คมากเหมือนกัน

คือเค้าช่วยทำให้ผมมีน้ำหนักมากขึ้น ไม่ชี้ฟู และด้วยความเป็นออยล์ก็จะเข้มข้นมากช่วยให้ผมนิ่มขึ้น เราสังเกตปลายผมที่ช็อตเวลาใช้ออยล์บำรุงก่อนจัดทรง ปลายผมจะดูดีขึ้นมากเลย เป็นอีกตัวที่แนะนำสำหรับคนชอบใช้ออยล์บำรุงผมค่ะ

Texture & Use

เนื้อออยล์ มีความเหลวปานกลาง ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถทาบนเส้นผมได้ทั้งก่อนสระ หลังสระ ก่อนจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อน และหลังจัดแต่งทรงผม

 Mise En Scene Perfect Serum 

70 ml / 299 บาท

ออยล์บำรุงผมที่ดังมาก ๆ จากเกาหลี มีหลายสูตรให้เลือกใช้ สูตรที่เราใช้มี 2 สูตร คือ

• Rose Petal Edition เหมาะสำหรับผมแห้งเสีย ชี้ฟู ไร้น้ำหนัก มีสารสกัดจากดอกกุหลาบสายพันธุ์ดามาส์ก ประเทศบัลแกเรีย, อาร์แกน ออยล์, นมผึ้ง ช่วยบำรุงผม หอมกลิ่นกุหลาบเป็นเอกลักษณ์

• Styling เหมาะสำหรับแผมแห้งเสีย ปกป้องผมจากความร้อน และการจัดแต่งทรงผม มีกลิ่นหอมสดชื่นจากพีช และดอกไม้หลากชนิด

ทั้งสองสูตรนี้เราใช้แล้วชอบมาก ๆ แนะนำไปหลายคนแล้วว่าต้องลอง เพราะอย่างแรกเลยคือกลิ่นหอมมาก ๆ หอมติดผมนานมากด้วย ช่วยบำรุงผมให้ดีขึ้น โดยเฉพาะปลายผมที่ช็อตเสีย จะดูดีขึ้นมากหลังจากที่ได้ทาออยล์บำรุง

ส่วนตัวเราชอบสูตร Rose มากกว่า เพราะบำรุงได้ดีกว่า เนื้อเข้มข้นกว่า เวลาทาออยล์ตัวนี้ แล้วดัดผม ผมจะเงางามมาก ๆ เหมือนคนผมสุขภาพดี เราแอบรู้สึกว่าเค้าช่วยให้ลอนผมอยู่ทรงนานขึ้นด้วยค่ะ

ส่วนสูตร Styling จะบางเบากว่า ทั้งเนื้อออยล์และกลิ่น เหมาะกับคนที่ไม่ชอบให้ผมมัน ช่วยในการจัดแต่งทรงผมให้ผมเงางามมากขึ้น

Texture & Use

• Rose Petal Edition เนื้อออยล์เข้มข้น ทาแล้วให้ความรู้สึกหนักผมนิด ๆ

• Styling เนื้อเข้มข้นน้อยกว่า จะมีความบางเบากว่า ทาแล้วไม่รู้สึกหนักผม

ทั้งสองตัว สามารถทาก่อนสระ หลังสระ ก่อนใช้ความร้อนจัดแต่งทรงผม หรือหลังจัดแต่งทรงผมได้

 Raip R3 Argan Oil 

100 ml / 200 บาท (แล้วแต่ร้าน)

เป็นออยล์บำรุงผมจากเกาหลีที่กำลังมาแรงเหมือนกันค่ะ มีสารสกัดจากอาร์แกนออยล์ ช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งเสีย ช่วยให้ผมนุ่ม เงางาม ไม่หยาบกระด้าง ไม่มีส่วนผสมของ Alcohol ตัวนี้มีหลายกลิ่นโดยที่ดัง ๆ คือกลิ่น baby powder หรือกลิ่นแป้งเด็ก แต่เราไม่ได้อินกับกลิ่นแป้งเด็กขนาดนั้น เลยเลือกกลิ่น elegance เป็นกลิ่นหอมดอกไม้มาใช้ค่ะ

ตัวนี้เนื้อจากบางเบากว่า Mise En Scene และ L'oreal มาก ๆ เลยค่ะ ทาแล้วจะให้ความเบาสบายผมมาก แต่ก็ช่วยบำรุงผมได้ค่อนข้างดี เวลาทาก่อนที่จะไดร์ผมจะช่วยให้ผมนิ่ม ไม่แห้ง ปลายผมที่ช็อตไม่พันกัน เป็นตัวบำรุงที่ถูกและดีเลย ถ้าใครผมมันง่าย ไม่ชอบเนื้อออยล์หนัก ๆ ลองดูแบรนด์นี้ได้เลยค่ะ

ส่วนเรื่องกลิ่นหอมจะไม่ได้แรงเท่ากับ Mise En Scene จะเป้นกลิ่นหอมอ่อน ๆ เบา ๆ ไม่ฉุน และไม่ได้ติดทนนานมากเท่าไร

Texeure & Use

เนื้อออยล์ใส ไม่มีสี ค่อนข้างเหลว ไม่เหนียวเหนอะหนะ  สามารถทาก่อนสระ หลังสระ ก่อนใช้ความร้อนจัดแต่งทรงผม หรือหลังจัดแต่งทรงผมได้

 Lolane Pixxel Care Heat Protection Straight 

200 ml / 125 บาท (แล้วแต่ร้าน)

ผลิตภัณฑ์บำรุงผมเนื้อโลชั่น มีสารสกัด Japanese Rice Extract และ Olive Oil ช่วยบำรุงผมแห้งเสีย ปกป้องเส้นผมจากความร้อนด้วยเทคโนโลยี Heat  Protection Fiber และช่วยให้สามารถไดร์ผมได้ง่ายมากขึ้น ช่วยให้ผมตรงสวยมากขึ้น ปราศจากแอลกอฮอล์

ตัวนี้พี่สาวที่เปิดร้านทำผมแนะนำมาค่ะ เค้าบอกว่าจะช่วยป้องกันความร้อได้ดี และเนื้อไม่หนัก จริง ๆ Lolane Pixxel รุ่นนี้มี 4 สูตร เป็นสูตรเพิ่มวอลลุ่ม สูตรบำรุงก่อนการทำเคมี ออยล์เซรั่ม และสูตรผมตรงสวย ซึ่งโดยปกติเราชอบหนีบผมก็เลยเลือกเป็นสูตรผมตรงมาลองใช้ค่ะ

พอใช้แล้วก็ชอบจริง ๆ นะคะ คือเนื้อโลชั่นเค้าไม่หนักเลย ปกติเคยใช้ของยี่ห้ออื่นที่เป็นเนื้อโลชั่น เนื้อครีมแล้วผมมันจะเป็นก้อน ๆ เหนียว ๆ เราเลยชอบใช้ออยล์มากกว่า แต่ของ Lolane Pixxel ใช้แล้วผมไม่เหนียว ไม่เป็นก้อนเลยค่ะ 

เค้าช่วยบำรุงผมได้ค่อนข้างดี อาจจะไม่เข้มข้นเท่าออยล์ 3 ตัวบน แต่จุดเด่นคือ เค้าช่วยให้เราหนีบผมได้ง่ายมากขึ้นค่ะ เราจะใช้ตัวนี้เวลาหนีบผม จะทำให้หนีบผมง่ายขึ้น ผมอยู่ทรงได้นานขึ้นด้วย ถือว่าประทับใจเลย ใครไม่ชอบใช้เนื้อออยล์ลองดูตัวนี้เลยค่ะ

แนะนำว่าซื้อจากร้านขายส่งเครื่องสำอางจะได้ราคาที่ถูกและคุ้มค่าค่ะ

Texture & Use

เนื้อโลชั่นสีขาวคล้ายน้ำนม มีความข้นปานกลาง ไม่เหนียว สามารถทาในขณะที่ผมยังหมาด ๆ ก่อนใช้ความจัดแ่งทรงผม หรือหลังจัดแต่งทรงผมได้

 

ปิดท้ายด้วยเนื้อผลิตภันฑ์บำรุงผมทั้งหมดค่ะ ต้องขออภัยด้วยที่เราใช้ Caring หมดพอดี เลยไม่ได้ถ่ายเนื้อครีมเค้าไว้ให้ดู

จริง ๆ ยังมีออยล์ของ L'oreal  สูตรสีชมพู ที่เราก็ชอบใช้เหมือนกันกัน ซึ่งใช้หมดไปสักพักแล้วก็เลยทิ้งขวดไปแล้ว  รวมถึงออยล์ของ Sunsilk ที่มีกลิ่นมะพร้าว ตัวนั้นก็คือชอบมากเหมือนกัน ใช้หมดไปหลายขวดแล้วเช่นกัน ใช้แล้วให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กันค่ะ คือไม่หนักผมมาก และกลิ่นหอมมาก 

ตอนนี้เราก็พักการยืดผม และการย้อมผมมาได้ประมาณ 3 เดือนกว่า ๆ แล้วค่ะ สภาพเส้นผมของเราตอนนี้คือค่อนข้างดีขึ้นจากเดิมมาก แต่ก็ยังไม่ได้กลับมาสุขภาพดีเหมือนเมื่อก่อนที่ยังไม่ได้ทำเคมีกับผมนะคะ อันนี้เราต้องทำใจแล้วล่ะ 555

ถ้าชอบทำสีผม ยืดผมแบบเรา ลองพิจารณาผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่เราแชร์ได้นะคะ :)