มือใหม่หัดกำจัดขน! ตัวไหนเจ็บน้อยสุด เหมาะกับผิวแพ้ง่ายแบบเรา

52 12

ต้องเกริ่นก่อนว่า ช่วง Work From Home เก็บกดมาก อยากแต่งตัวไปออฟฟิศ อยากไปเที่ยว และต้องสารภาพว่าเพิ่งเคยเดินสายนี้ (สายแว๊กซ์) เป็นครั้งแรกแบบจริงจัง เพราะส่วนตัวเค้าไม่ค่อยมีขนแขนขาที่หนามากเลยชิวๆแต่พอเริ่มอยากแต่งตัวก็ค้นเจอเดรสสั้นเพียบเลยอ่า แล้วถ้าเราอยากจะคอมพลีทลุคให้ดูเนียนตา "ขนขาก็คือศัตรู" ช่วงนี้ก็ไม่เน้นไปคลีนิก พอว่างๆ หน่อยก็เลยเดินเข้า 7-11 และเปิดปิดเว็บไซต์ออนไลน์จนได้มาเพียบ ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ ลองรีวิวลงเผื่อมีเพื่อนๆ ว่างๆ อยู่สนใจเข้าวงการนี้

เค้ามีทั้งหมด แบรนด์ แบบด้วยกัน ขอแบ่งง่ายๆ เป็น ใบมีด แผ่นแว็กซ์ เนื้อครีมต่างๆ น้า

แบบที่ 1 มีดโกน 

Watsons Twin Blade Disposable Rezors ( 40 thb 2psc) ฟาดชื่อเต็มกันไปแต่ปกติจะเรียกมีดโกนสีชมพู 

ตัวนี้เบสิคสุด มีใบมีดคู่แล้วก็พกพาง่าย อันนี้เค้ามีอยู่แล้วและก็ชอบซื้อตุนเพราะว่าใช้กับแฟน ชอบมีโปร 1 แถม 1 ฮ่าๆ ตัวนี้ไม่มีอะไรรีวิวมาก เพราะเหมือนมีดโกนปกติเลย ค่อนข้างเกลี้ยงอยู่นะ แต่ว่าขนขึ้นไวมาก ก็เลยรู้สึกว่าไม่ตอบโจทย์กับขนขาเท่าไหร่ เค้าจะชอบเอามาไถน้องจั๊กแบบเร่งด่วนในวันที่ลืมถอนหรือต้องใส่แขนกุด

ผลลัพท์


ตัวนี้ใช้ง่ายพกพาสะดวก เร็ว แต่ขนขึ้นไวและขึ้นเป็นตอๆ ถ้าคนชอบถอนคงมันมือนะ 55555


ถามถึงความเจ็บ 

ตอบเลยว่าแล้วแต่น้ำหนักมือ ต้องระวังเวลาใช้นะ ยิ่งถ้าใช้กับส่วนที่ไม่เสมอกันบาดทีก็คือน้ำตาเล็ดค่ะแม่ขา เลือดออกไม่เยอะแต่เจ็บจุกจิกยืนยาว 555555

แบบที่ 2  แผ่นแว็กซ์

Farbera Clear & Soft Wax Strips For Legs & Body (180thb 4 psc in box)

คุณคนนี้เขามีส่วนผสมของน้ำผึ้งจากธรรมชาติหนืดๆ อยู่ตรงกลางแผ่น ฟิลคล้ายกับพวกพาสเตอร์ยาแปะแผลเลยแหละ ต้องลอกก่อนนะ ในกล่องก็จะมีมอยเจอร์ไรซิ่งออยล์จิ๋วๆ มาให้ด้วย เพราะหลังจากที่เราลอกเนี่ยผิวจะค่อนข้างแห้งแล้วก็ระคายเคืองได้ง่าย ทาปลอบประโลมผิวไว้ก็น่าจะดี


คุณคนนี้จะเหมาะกับสายซาดิสถ์ ชอบความรุนแรงและรวดเร็ว แต่!! มีคำเตือนตัวใหญ่ว่าเหมาะกับคนที่มีขนเยอะพอสมควร เพราะของเค้าขนไม่เยอะใช่มะ พอลอกมันต้องลอกสวนแนวขนเรา และข้างซองเขาบอกว่ายิ่งลอกเร็วเท่าไหร่ยิ่งทำให้ขนหลุดออกมาเยอะ แต่เพราะเราไม่ค่อยมีขนที่ขา แม่เจ้า T^T หนังถลอกเลยจ้า เป็นแผลตกสเก็ดอยู่ตอนนี้ ฮ้องไฮ้แรว๊งงง T_T

ผลลัพท์


อย่างที่บอกยิ่งลอกไวเท่าไหร่ขนยิ่งหลุดเยอะ เราก็เลยด้วยความไวแสงจ้า ขนหลุดออกมาเยอะอยู่น้า แต่จะถึงรากถึงโคน แต่ว่าผิวเราจะมีความเหนียวๆ คล้ายๆ กาวติดอยู่ เวลาทำความสะอาดต้องถูแรงหน่อยถึงจะออกจ้า


ถามถึงความเจ็บ


หากถามว่าเจ็บมั้ย ขอตอบลากเสียงแบบพี่เบิร์ดเลยว่า เจ็บมากกกก!! แงงงง ไม่เอาอีกแล้วแบบแผ่นแว็กซ์ คือเค้ายังไม่เคยลองฟอร์มูล่าอื่นของแบรนด์นี้นะว่าเป็นไง แต่แบบแผ่นแว็กซ์คือแพ้บาย เหมือนพอไม่ค่อยมีขนแล้วมันลอกหนังเราออกมาด้วย ฮือ ทายาแผลเป็นวนไป

แบบที่ 3  เนื้อครีมหรือเนื้อมูส


แบบนี้เท่าที่เราอ่านรีวิวและหาข้อมูล เป็นแบบที่นิยมมากที่สุด เจอหลายแบรนด์มากเลย แต่เลือกช้อปปิ้งมาแค่ 3 แบรนด์ที่น่าสนใจ

แบรนด์แรกคือ Veet Silk & Fresh Technology สำหรับผิวบอบบาง  (139 thb 50g)

จริงๆ ตัวนี้เราเคยใช้เมื่อนานมาแล้ว แต่ตอนนั้นซื้อมาลองเล่นๆ แล้วทำไม่เป็นเลยทิ้งจนหมดอายุไปอย่างเหงาๆ 5555 แต่พอรอบนี้ศึกษาวิธีกำจัดขนมาอย่างดีละ เลยเลือกคุณที่เหมาะกับผิวบอบบางมา เขามีสารสกัดจากว่านหางและวิตามินอีผสมด้วยนะ ก็จะช่วยพวกปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองนั่นแหละ สัมผัสแรกคือกลิ่น กลิ่นคุณเขาฉุนเอาเรื่องเลยทีเดียว เราลอกในห้องแอร์ก็คือฟุ้งจ้าแม่ เห็นรีวิวคนอื่นบอกว่าหอมหรือต้องเป็นสูตรอื่นก็ไม่รู้ T^T ฟิลคล้ายๆ น้ำยาทำสีผมเลยง่ะ ไม่รู้ใครเป็นมั่ง มาพร้อมไม้สีเขียวสำหรับเกลี่ยซึ่งตรงนี้คือชอบนะ เหมือนกำลังทำไอติมผัดบนผิว สนุก 5555555 ตัวเนื้อครีมนิ่มแล้วก็เกลี่ยง่ายเหมือนครีมทากลางคืนเลย แค่ไม่ซึมหายลงไปในผิวเรา

ผลลัพท์


เค้าทิ้งไว้ประมาณ  5-6 นาที เพราะข้างหลอดย้ำเลยว่าไม่ควรเกิน 10 นาที อย่างเค้าขนไม่เยอะมากก็ทิ้งไว้ไม่นานมาก ระหว่างนั้นจะมีความยิบๆ ที่ผิว พอเช็ดออกรอบแรกก็ค่อนข้างเกลี้ยงน้า แต่บางจุดยังมีตออยู่บ้าง แต่ด้วยผิวเค้าค่อนข้างแพ้ง่ายมากๆ อย่างเวลาไปกางเตนท์นอนป่ากลับมาก็คันเป็นอาทิตย์ พอหลังจากทำความสะอาดเรียบร้อย เราก็คันอยู่พักใหญ่ ไม่รู้เป็นที่เราคนเดียวมั้ย น่าจะระคายเคืองแหละ



ถามถึงความเจ็บ


พอเป็นครีม เวลาเช็ดออกก็เลยไม่เจ็บนะ แต่อาจจะต้องรีบล้างให้สะอาดไม่งั้นระคายเคืองแน่นอนจ้า

Ha-Mo-I Hair Remover by Boyz2Girlz (360thb 100ml)

รูปทรงดูญี่ปุ่น แต่จริงๆ เป็นแบรนด์ของคนไทยน้า

เฮ้ยแก เห็น package คิวท์ๆ แบบนี้ไม่ไก่กานะจ๊ะ เป็นแบรนด์ที่เห็นรีวิวจาก Jeban นี่แหละเลยอ่ะ..ลองสั่งหน่อยสิ เขามีขายออนไลน์อย่างเดียวเน้อ คุณคนนี้ก็เป็นเนื้อครีมเหมือนกัน แต่ก็เข้มข้นกว่าทุกตัวที่ลองใช้เลย ตอนแรกเราคิดว่าเกลี่ยยากแน่ แต่ไม่น้า แถมพอด้วยเนื้อที่ดูหนาๆ หน่อยทำให้ไม่ต้องใช้เยอะ 

ว่ากันด้วยเรื่องกลิ่นมีกลิ่นแบบฟรุตตี้ๆ หน่อย ยิ่งอยู่ห้องแอร์กลิ่นยิ่งชัด เลิฟกลิ่น เค้าทิ้งไว้ไม่เกิน 10  นาที คุณเขามีวิตามิน E ที่ช่วยขัดเซลล์ผิวออกแล้วก็ทำให้ผิวดูขาวขึ้นนิดนุง

อ๋อ…อีกอย่างเค้าไปอ่านที่เพจมาเห็นบอกว่า ชื่อแบรน์อย่าง Hamoi สามารถอ่านว่า “ฮามอย” ที่แปลว่าทาได้ยันจิมิ๊อีกด้วย 5555555 ลองพูดแล้วจั๊กกะจี้ดี ซึ่งพอได้ลองใช้แล้วก็คิดว่าทาได้จริงๆ แหละ ไม่ต้องกลัวแสบเพราะไม่รู้สึกคันยิบๆ เวลาใช้นะ เรื่องความอ่อนโยนน่าจะมาเต็ม

ผลลัพท์


เกลี้ยง เฮ้ย เกลี้ยงจริงไม่ได้อวย แบบไม่มีตอด้วยอ่ะ ลูบแล้วผิวเนียน ไม่ยิบๆ ไม่ระคายเคืองเริ่ดๆ


ถามถึงความเจ็บ


อย่างที่บอกด้วยเนื้อครีมก็คือไม่เจ็บ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่ชอบความเจ็บปวดนะ 555555

Dimples Hair Removal Spray Foam (249 thb 200ml)

หัวสเปรย์ เนื้อมูสๆ หน่อย

ข้ามมาที่ฝากมูสกันบ้าง คือนอกจากสกินแคร์เป็นพวกหลอดคล้ายๆ หลอดทดลองแล้ว เราก็มีสกินแคร์ที่เป็นกระป๋องสเปรย์เยอะมาก มันเป็นฟอร์มูล่าที่เราชอบม๊ากมาก แต่ด้วยความที่เป็นหัวสเปรย์และกระจาย เวลาฉีดก็แอบคอนโทรลน้ำหนักยากกว่าพวกครีมนะ ก็เลยแอบเฟลๆ หน่อย แต่กลิ่นดีค่ะ ค่อนข้างหอมดอกกุหลาบผู้ดีมาก แต่ต้องฉีดทิ้งไว้นานอยู่นะ ประมาณ 10 นาทีได้ ห่างจากประมาณ 10-15 เซนติเมตร ข้อดีคือไม่ยิบไม่คันจ้า แต่ก็แนะนำแค่กับขนแขนและขา จิมิ๊ไม่น่าจะเวิร์ค อยากจะเลอะเทอะเปรอะเปื้อนได้ง่ายจ้า

ผลลัพท์


เกลี้ยงอยู่นะ แค่ใช้เวลานานหน่อย เช็ดออกไม่ยาก อาจจะมีตอๆ อยู่มากแต่ถ้าไม่สังเกตก็จะไม่เห็นน้า


ถามถึงความเจ็บ


คุณคนนี้ก็ไม่เจ็บค่ะ เป็นมูสเป็นครีมไม่เจ็บ และก็จะเย็นๆ หน่อยเวลาฉีดโดนผิว คิดว่าเพราะด้วยความเป็นหัวสเปรย์ด้วยแหละ

นี่คือผลลัพท์ของทั้งหมดยกเว้นมีดโกนนะ คิดว่าทุกคนคงเคยผ่านกันมาหมดแล้ว 5555555  ถ้าให้เราเลือกมาแค่อย่างเดียวที่อยากแนะนำสำหรับมือใหม่และรู้สึกว่าคุ้มจริงๆ ก็คงเป็นแบรนด์น้องคิวท์หรือ Hamoi จ้ะ เพราะว่าได้หลอดใหญ่แล้วก็มีงานบำรุงครบ สำหรับผิวที่แพ้ง่ายหรือคนที่ไม่ได้แพ้ง่ายหรอกแต่เพิ่งเริ่มเข้าสู่วงการนี้ แล้วกลัวว่าใช้แล้วระคายเคือง อีกอย่างคือนอกจากขนที่แขนและขาก็สามารถใช้กับน้องจั๊กและน้องจิมิ๊ได้ คุณคนนี้มีขายเฉพาะออนไลน์น้า เค้าซื้อมาจาก Shopee แต่เท่าที่ดูในเพจ (ค้นชื่อแบรนด์เจอเลย) ใน Lazada ก็มีค่า เค้าผูกกับ airpay เลยสั่งชอปปี้แล้วคือ WFH กดจ่ายง่ายมาก ง่ายไป๊บางที 555555


ส่วนเรื่องขนจะขึ้นเมื่อไหร่นั้น เค้าเพิ่งใช้ไปอาทิตย์ก่อนเอง ถ้ามีความคืบหน้ายังไงเดี๋ยวมาอัพเดทให้เด้อ แต่อย่างน้อยๆ เท่าที่ถามเพื่อนที่เคยทำก็บอกว่า ขนที่ขึ้นมาใหม่จะไม่แข็งไม่เป็นตอ และอยู่ได้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับผิวของคนด้วยแหละ

แท๊นแทน เนื่องจากน้องฮาโมอิคือคนที่เราใช่ ดังนั้นตรงจุดอื่นๆ ที่ไม่ได้ลองแว๊กซ์เราก็เลยใช้น้องเขาทาจนหมด พวกตามหัวเข่าไรงี้ (เราจะมีขนตรงนี้เยอะหน่อย) และคือความเกลี้ยงจ้าที่ได้ ไม่คันยิบด้วย ใครลองใช้ฮาโมอิแล้วชอบแบบเค้า หรือว่าใช้แบรนด์อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ เอามาแชร์กันได้น้า มาเป็น #สายอยากลองต้องได้ลอง กันดีกว่าาา


Thita Wiriyaratanaporn

Thita Wiriyaratanaporn

มาเฟียนักเขียน นักเล่าเรื่อง
Organic Skincare / Sensitive Skin / Real Users

line : dearpolaris.ta
page : หลงไปด้วยกัน (Travel - Food)
page : หลงไปรีวิว Longpaireview ( Beauty - Skincare - Lifestyle )

FULL PROFILE