เรื่องของสกินแคร์ 

หากไม่ได้ลองใช้ด้วยตัวเอง 

ก็เหมือนหนังสือที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน  ? ... 

แล้วจะรู้ได้อย่างไร ?? 

ว่ามันจะดีต่อเราหรือเปล่า

สำหรับเราแล้ว

      เราเปิดใจลองใช้ Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้วค่ะ 

เราใช้อย่างต่อเนื่องจนหมดและยังเคยหยิบเอาผลลัพธ์ที่ได้มาเล่าให้สาวๆ ได้อ่านกันแล้ว

มาวันนี้ อย่าได้สงสัยในการกลับมาใช้เป็นครั้งที่สอง

แน่นอนว่าสภาพผิวของเราเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ... อาจจะตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ 

การกลับมาใช้ Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution ของเราในครั้งนี้ จะได้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร ไปดูกันเล้ยยยยย

Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution

ข้อมูลจากแบรนด์ ?

เซรั่มสูตรเข้มข้นที่สามารถลดการก่อตัวของเม็ดสีและลดเลือนความเข้มจากรอยหรือจุดด่างดำต่างๆ เช่น รอยสิว ฝ้า กระ ให้จางลงได้อย่างเห็นผลชัดเจน ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ พร้อมปรับผิวให้สว่างกระจ่างใสมากขึ้น บอกลาความหมองคล้ำ เผยผิวดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำใหม่ๆ และป้องกันการเปลี่ยนสีของเม็ดสีผิวเมื่อใช้เป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง ผสานพลังแห่งการบำรุง และฟื้นฟูผิวจากวิตามินซีสกัด ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่อย่างอ่อนโยน โดยมีส่วนผสมหลัก ได้แก่

Activated C 

ส่วนผสมออกฤทธิ์รุ่นใหม่ ที่จัดการกับปัญหาความหมองคล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้อย่างล้ำลึก พร้อมปกป้องผิวจากการก่อตัวของเม็ดสีใหม่ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ให้ผิวดูขาวกระจ่างใส 

สารสกัดจาก White Birch 

ส่วนผสมที่ได้จากน้ำตาลซึ่งทราบกันดีว่ามีความสามารถในการฟื้นฟูระดับน้ำและสารอาหารในผิว 

สารสกัดจากดอกโบตั๋น 

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกับ Activated C เพื่อแก้ไขการสร้างเม็ดสีที่มากเกินไปของผิวพรรณ เพื่อผิวสวยกระจ่างใส

? ปราศจากซิลิโคน ปราศจากสารกันเสีย ปราศจากน้ำหอม ปราศจากสี ปราศจากเทคโนโลยีกระจายแสง (Optical Diffuser)

ลักษณะของผลิตภัณฑ์ ไม่มีสี  เนื้อเซรั่มใสวิ้งอยู่ในขวดที่เราคุ้นตา มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เป็นกลิ่นที่มาจากน้ำมันหอมระเหยจากลาเวนเดอร์

เซรั่มมีความหนืดเล็กน้อย 

วิธีใช้ 

บีบดรอปเปอร์ 1 - 2 หยด หรือตามความต้องการ (บางวันเราก็ใช้ 3 - 4 หยด) จากนั้นทาทั่วผิวหน้าหรือแต้มเฉพาะจุดก่อนการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป

เนื้อสัมผัสจะลื่นๆ หนึบๆ หน่อย แต่ซึมเข้าสู่ผิวไวนะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ นิดๆ เป็นกลิ่นที่มาจากน้ำมันหอมระเหยจากลาเวนเดอร์ เอาจริงๆ คือ ถ้าไม่สนใจเรื่องกลิ่นก็จะไม่ได้กลิ่น 5555

สภาพผิวก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์ ?

มองภายนอกอาจจะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง เพราะเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะบนใบหน้าทำให้สามารถลงสกินแคร์ตัวต่อไปได้แบบสบายๆ เลยค่ะ

ผลลัพธ์หลังการใช้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ขวดที่ 1 จนถึงขวดที่ 2  ?

พบว่า หลังจากใช้อย่างต่อเนื่องรอยแดงและรอยดำจากสิวจางลงจริง โดยเฉพาะรอยสิวทั้งรอยแดงและรอยดำที่เกิดใหม่ๆ หากใช้คุณคนนี้รอยดังกล่าวจะจางลงเร็วมาก จุดด่างดำเล็กๆๆๆ ที่เข้มๆ ก็ดูจางลงอย่างชัดเจน 

ส่วนเรื่องของรูขุมขนตอนแรกที่ใช้เป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดหวังเลย แต่น้องคนนี้เค้าทำให้รูขุมขนดูเล็กและกระชับมากขึ้นได้ด้วยค่ะ นอกจากนี้ผิวโดยรวมยังเรียบเนียนมากขึ้น ให้สีผิวที่กระจ่างใสและสีผิวที่สม่ำเสมอด้วย 

ส่วนเรื่องฝ้ากระจากภาพจะเห็นว่าเค้าช่วยให้มันดูจางลงได้ด้วยนะคะ แต่ต้องใช้เวลานานเหมือนกันน๊ากว่าจะเห็นผล เพราะฝ้ากระเป็นอะไรที่ฝังลึกและพอผิวโดนแดดมากๆ ฝ้ากระก็กลับมาเข้มขึ้นได้อีก ฉะนั้นการทาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม 

สิ่งที่เราประทับใจตั้งแต่ขวดแรกจนถึงขวดที่ 2 คือความอ่อนโยน เพราะไม่ทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง หรือบางลงจึงสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องแบบยาวๆไปเลยค่ะ

อ้อ!! อย่าลืมว่าสภาพผิวของแต่ละคนตอบสนองต่อสกินแคร์แตกต่างกันออกไปนะคะ ดังนั้นผิวของเราไม่ระคายเคืองก็ไม่ได้หมายความว่าผิวของคนอื่นๆ จะไม่ระคายเคืองตามไปด้วยน๊า

ภาพนี้อาจจะดูน่ากลัวไปหน่อยนะคะ เพราะเราปรับความคมชัดและความละเอียดให้มากขึ้น เพื่อจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้น สำหรับโทนสีของแต่ละภาพก็ให้แสงต่างกันเพราะถ่ายคนละช่วงเวลาค่ะ

เอาล่ะ เห็นผลลัพธ์ดีงามขนาดนี้เห็นที่ต้องมีขวดที่ 3 และ 4 ตามมาอย่างแน่นอนค่ะ 

ขอให้ทุกคนรอการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับผิวอย่างใจเย็น เพราะสกินแคร์ที่ดีมีคุณภาพเค้าจะค่อยๆ ฟื้นบำรุงปัญหาผิวของเราไปทีละน้อย จนในที่สุดเราจะได้ผลลัพธ์ตามที่เราคาดหวังและปลอดภัย

? ก่อนจบคอนเทนต์นี้เรามีข้อแนะนำเพิ่มเติม คือ

Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution  มีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิวแบบอ่อนๆ ดังนั้น คนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือยังไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวมาก่อน ควรเทสต์ก่อนใช้และทดลองใช้วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1-2 หยด หรือวันเว้นวันก่อนก็ได้นะคะ นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ AHA  BHA หรือสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิวเพื่อลดโอกาสที่จะทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองจากการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวซ้ำซ้อนกันนั่นเองค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

แล้วพบกันใหม่

บ๊ายบายคร้า