หรือศึกนี้จะใหญ่หลวง! Duchess Kate VS Tatler Magazine

50 9
Internet Queen อย่าง Kylie Jenner เพิ่งจะฉะกับ Forbes ที่กล่าวหาเธอว่าโกหกเรื่องมูลค่าทรัพย์สินไปหยก ๆ   แต่ทางฝั่งราชวงศ์อังกฤษกำลังก้าวสู่ความอื้อฉาวอีกครั้ง หลังจากTatler  สื่อดังตีพิมพ์เรื่องราวข่าวแซ่บของดัชเชส Kate      แต่สำนักราชวังออกมาโต้ตอบว่าเป็นบทความที่ไร้มูลความจริงใดๆ  และสร้างความเสื่อมเสียให้กับเชื้อพระวงศ์ที่แสนโด่งดัง


ซึ่งเมื่อคุณอ่านคำโปรยหน้าหกเพียงอย่างเดียว ก็อาจจะแปลกใจที่มีเรื่องราวขัดแย้งขึ้นมา เพราะดูเหมือนว่า Tatler จะยกย่องดัชเชสไว้สูงส่งถึงขนาดเรียกเธอด้วยคำว่า "The Great" ซึ่งมักใช้ขนานพระนามกษัตริย์ผู้เกรียงไกร แต่เนื้อหาภายใน จะทำให้ผู้อ่านต้องใคร่ครวญต่อไปว่า คำพูดสวยหรูจากฝีมือการเขียนของนักข่าวดังจะแฝงไปด้วยคำใส่ร้ายป้ายสีหรือไม่ ?


แน่นอนว่า  บทความที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์นี้ได้ดึงเอาสะใภ้รองอย่างดัชเชส Meghan มาเกี่ยวข้องโดยไม่ต้องเดาให้เหนื่อย!

ทั้งๆที่สื่อของชาวสังคมไฮโซอังกฤษจะยกให้เธอเป็น  "ผู้สร้างราชันย์"    แต่เพราะอะไรจึงมีข่าวลือออกมาว่า Tatler  ได้คำขู่ให้ลบบทความออกไปจาก website  มิเช่นนั้นจะถูกคู่ Cambridge ฟ้องร้อง   เรามาติดตามกันค่ะ  



ต้องขอย้อนความก่อนเหตุการณ์  "Sussexit"   ที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อดัชเชสชาวอเมริกัน  โดยเฉพาะกระแสโจมตีจากสื่อ   แม้ว่านักการเมืองหญิงของอังกฤษเคยลงชื่อกันเพื่อร่วมปกป้องและเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเธอมาก่อน  แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากแสดงความไม่พอใจในการตัดสินใจของสามีภรรยาราชนิกูลแห่ง Sussex   ที่แยกตัวออกจากราชวงศ์      จากนั้นเป็นต้นมา  ความนิยมในตัวของ ดัชเชส Kate ก็พุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน  ประกอบกับกรณียกิจเพื่อสังคมที่เป็นชิ้นเป็นอันมากกว่าในอดีต  ทั้งสื่อและชาวเน็ทต่างกล่าวขวัญว่า  ดัชเชสแห่ง Cambridge กำลังลบภาพลักษณ์ในด้านลบที่ติดตัวเธอมานานหลายปี นั่นคือฉายา  "Kate จอมขี้เกียจ"  นั่นเองค่ะ
ที่อังกฤษ จะมีรายงานข้อมูลความถี่การประกอบกรณียกิจของเชื้อพระวงศ์ในรอบปี  ไม่ว่าจะเป็นการตัดริบบิ้นเปิด event การเยี่ยมเยียนประชาชน  การปฏิบัติหน้าที่ประธานมูลนิธิ  หรือการต้อนรับแขกเมืองในดินเนอร์หรูก็นับรวมเข้ากับงานของผู้สูงศักดิ์   ด้วยตัวเลขของดัชเชส Kate ที่ออกมาน้อยมาก  เมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงคนอื่นๆ  ทำให้เธอสลัดฉายานี้ไม่หลุด       ในบางปี  แม้แต่เจ้าชาย Phlip ที่ทรงชรามากและพระพลามัยก็อ่อนแอลง ก็ยังมีตัวเลข engagement สูงกว่า    หลายคนนำเธอไปเปรียบเทียบกับสมเด็จพระราชินี และเจ้าหญิง Anne ที่ทรงปฏิบัติงานของเชื้อพระวงศ์ไม่ขาดตกบกพร่องแม้ว่าจะมีโอรสธิดาเช่นกัน    โดยเฉพาะที่เธออยู่ในฐานะว่าที่ราชินีในอนาคตข้างหน้า   ความคาดหวังที่จะได้เห็นดัชเเชสสร้างชื่อเสียงจากกรณียกิจต่างๆก็สูงตามไปด้วย  


แต่เมื่อเจ้าชาย  Harry และชายาประกาศถอนตัวจากราชวงศ์    สื่อหลายเจ้าก็ลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า  นี่คือจังหวะที่เหมาะที่สุดที่ดัชเชส Kate จะสลัดภาพเดิมๆ และสร้างชื่อเสียงในฐานะเชื้อพระวงศ์ผู้อุทิศตนเพื่อสังคม

แน่นอนว่า  ภาพลักษณ์ใหม่ของดัชเชส Kate จะสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆที่เฝ้ารอให้เธอเปล่งประกายในฐานะว่าที่ราชินีในอนาคต
Tatler  เป็นสื่อชื่อดังของอังกฤษที่มีอายุกว่าหนึ่งศตวรรษ มีความแตกต่างจากแทบลอยด์ทั่วไปเพราะตั้งกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้อ่านชนชั้นกลางไปจนถึงชนชั้นสูง และโฟกัสการนำเสนอเรื่องราวของ "ผู้ดีอังกฤษ"   ด้วยการผนึกกำลังในกองบรรณาธิการที่มีพื้นเพเป็นชนชั้นสูงรวมถึงผู้ที่มีเส้นสายใกล้ชิดกับชาวไฮโซทั้งหลาย       ไม่น่าแปลกใจที่ดัชเชส Kate จะเป็นราชนิกูลที่สื่อเจ้านี้นำมาตั้งเป็นประเด็นดึงดูดความสนใจจากสังคมอยู่บ่อยครั้ง

แต่บทความล่าสุดที่ฟังดูเผินๆเหมือนจะเป็นการ "อวย" ดัชเชสคนงาม ได้สร้างความร้าวฉานระหว่างนิตยสารดังกับสำนักราชวัง Kensington


เนื้อหามีอะไรบ้าง ?



"เจ้าหญิงผู้สร้างราชา"


ดัชเชส kate ได้รับความนิยมจากข้าราชสำนัก เพราะเธอไม่ใช่คนเรื่องมากและมีความสามารถในการทำงานให้สำเร็จลุล่วง ตลอดทศวรรษที่ผ่านเธอพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้เป็นเพียงชายา แต่เก่งกาจจนได้รับการขนานนามว่า "ผู้สร้างราชา" อันเป็นสมญานามที่สูงที่สุดที่เจ้าหญิงเคยได้รับมา



"ขวัญใจเด็กๆ"

ดัชเชส Kate  รู้ดีว่าชาวอังกฤษต้องการสิ่งใด   เธอสามารถเลี้ยงดูลูกๆได้อย่างสมบูรณ์แบบ  จากการปรากฏตัวผ่านแอพ Zoom และ Podcast จะเห็นได้ชัดว่า เธอคือคุณแม่ผู้แสนติดดิน


"หน้าที่อันแสนหนักหนา"

 เธออาจจะยิ้มแย้มและแต่งกายสวยงามมีกาลเทศะเสมอ แต่เธอไม่ได้อยากทำงานหนักขนาดนี้   เธอรู้สึกเหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาด และรู้สึกเหมือนถูกกักขัง    เธอทำงานหนักราวกับ CEO ระดับ top   ต้องออกหน้างานตลอดเวลาและโดยที่ไม่ได้มีวันหยุดนานๆ








"ผู้คู่ควรกับตำแหน่งว่าที่ราชินี"


"เธออดทนมาเสมอ เพราะการเป็นราชินีคือรางวัลที่แสนเลิศเลอ เธอแสดงออกเหมือนราชินี และพูดจาเหมือนราชินี"


"แม่ของเธอคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ"

Carole มีอิทธิพลต่อเธอเป็นอย่างยิ่ง เพราะเธอมีความมุ่งมั่นทะเยอทะยานเป็นทุนเดิม สื่อดังอ้างแหล่งข่าวจากเพื่อนของอดีตแฟนของน้องชายดัชเชสว่า " Carole เป็นผู้วางแผนชักใยอยู่เบื้องหลังลูกๆของเธอ"



"สาเหตุของความบาดหมางของสองสะใภ้หลวงมาจากชุดเพื่อนเจ้าสาวตัวจิ๋ว"

จากอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้เปิดความไม่ลงรอยเรื่องชุดเพื่อนเจ้าสาว ว่าควรจะใส่ถุงน่องหรือไม่ Kate ต้องการทำตามประเพณีของเชื้อพระวงศ์ แต่ Meghan ไม่อยากให้เด็กๆใส่ และราชสำนักเตือนให้ Meghan รู้จัก"ฐานะของตัวเอง" และตำหนิเธอที่พูดจาไม่ดีกับสต๊าฟ



"การกระทำเจ้าชาย Harry และดัชเชส Meghan ทำให้เด็กๆฝั่ง Cambridge ตกที่นั่งลำบาก"

เพื่อนคนหนึ่งของเจ้าชาย William และดัชเชส Kate บอกกับ Tatler ว่า Will & Kate อยากจะทำหน้าที่พ่อแม่ให้ดีที่สุด แต่ลูกๆทั้งสามของพวกเค้าได้รับผลกระทบจากการกระทำของบ้าน Sussex" แหล่งข่าววงในยืนยันว่า การตัดสินใจถอนตัวจากราชวงศ์นั้นเห็นแก่ตัวจนทำให้ครอบครัว Cambridge ต้องลำบาก การไปส่งเด็กๆที่โรงเรียนในตอนเช้ายังเป็นเรื่องยาก

.

" ดัชเชส Kate  มีกิริยามารยาทที่ไร้ที่ติ"

วงในคนหนึ่งเล่าว่า   ในรั้ววังนั้น  มักจะมีข่าวร่ำลือมากมากจากปากสต๊าฟที่ต้องรับมือกับเชื้อพระวงศ์  แต่คุณจะไม่มีทางได้ยินเรื่องเสียหายใดๆเกี่ยวกับ Kate   ผู้ที่มีกิริยามารยาทที่สามารถเรียกได้ว่าไร้ความด่างพร้อย    แต่ในขณะเดียวกัน  เพื่อความอยู่รอดแล้วเธอก็มีความเลือดเย็นอันเป็นคุณสมบัติที่เหมาะเจาะกับราชวงศ์ Windsor


ไม่น่าแปลกใจที่ชาวเน็ทหลายคนรู้สึกตรงกันว่า    มีคือบทความที่เขียนขึ้นมาชื่นชมดัชเชสแห่ง Cambridge ว่ามีความเลอเลิศ  แตกต่างดัชเชสชาวอเมริกันที่ถูกเสียดสีว่า "จู้จี้เรื่องมาก"  และ "เห็นแก่ตัว"  และย้ำหลายครั้งว่า  Kate คือผู้ "คู่ควร" กับราชวงศ์อันสูงส่ง    เป็นที่รับรู้ในวงกว้างว่า  มันเป็นเรื่องธรรมดาเหลือเกินที่สื่ออังกฤษจะเขียนข่าวโจมตี Meghan และเชิดชูความสมบูรณ์แบบของ Kate ( หลังจากที่เคยเล่นงานเธอมาเกินสิบปี)      เมื่อสำนักพระราชวังได้แถลงการณ์ปฏิเสธว่าบทความนี้ไม่เป็นความจริง   รวมถึงมีข่าวตามมาว่า  ดัชเชส Kate ได้ส่งคำขู่ฟ้องร้องไปถึงแม็กกาซีนดังก็ได้สร้างความฮือฮาในกลุ่มผู้ติดตามราชวงศ์อังกฤษ

แต่ชาวเน็ทหลายคนก็ได้ลงความเห็นว่า ที่ Kate ออกมาขู่ฟ้อง Tatler นั้นก็ไม่น่าประหลาดใจนัก เพราะ feedback จากบทความนี้ แทนที่จะสร้างภาพลักษณ์อันดีงามให้กับเธอ กับฟังดู "หลับหูหลับตาอวย" จนทำให้เกิดกระแสต่อต้านในโลกออนไลน์ อย่าลืมว่า ภาพลักษณ์ของราชวงศ์ได้สั่นคลอนมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จู่ๆ จะยกย่องให้เธอเป็นเจ้าหญิงผู้ทำงานหนักราวกับผู้บริหารระดับ top ทั้งๆที่เพิ่งมีความเปลี่ยนแปลงหลังจากครอบครัว Sussex ถอนตัวออกจากราชวงศ์ก็สวนความรู้สึกของผู้คนไม่น้อยเลย เพราะไม่จะอย่างไร ผลงานต่างๆของบ้าน Cambridge ก็ยังไม่ใกล้เคียงกับเชื้อพระวงศ์อาวุโส แม้การพบปะประชาชนผ่าน Zoom จะได้มีเสียงตอบรับอันดีถึงความเป็นกันเองของราชิกูลผู้โด่งดัง แต่เมื่อเทียบกับกรณียกิจต่างๆ เชื้อพระวงศ์รุ่นใหญ่แล้ว มันยังอยู่ในช่วงการเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงเท่านั้น  และหากจะโทษแต่ครอบครัว Sussex  โดยไม่กล่าวถึงเจ้าชาย Andrew ก็อาจฟังดูไม่เป็นธรรม  เพราะความอื้อฉาวของเสด็จอาทำให้ต้องถอยออกจากกรณียกิจต่างๆ  และอาจทำให้ต้องจัดสรรหน้าที่เพิ่มให้กับเชื้อพระวงศ์ที่เหลือ    


ความเกี่ยวข้องของบรรณาธิการบริหาร Tatler กับ บ้าน Cambridge
Richard Dennen   บรรณาธิการบริหารที่มีพื้นเพ "ผู้ดี" มีรุ่นราวคราวเดียวกับกับ Will&Kate   เขายังเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันกับทั้งคู่  และมีรายงานว่า เขามีมิตรภาพอันดีงามกับดัชเชสแห่ง Cambridge   แม้จะไม่ใช่เพื่อนซี้ปึ้ก แต่ก็เคยไปท่องเที่ยวแบบกลุ่มเพื่อนในช่วงเรียนจบด้วยกันมาแล้ว   ในสัมภาษณ์กับ CNN เขาก็ยังยกย่อง Kate  ว่า เป็นหญิงสาวที่มีการคิดคำนวณและควบคุมตัวเองได้ดีเยี่ยม และเป็นคุณสมบัติสุดperfect ในการเข้าสู่ราชวงศ์ Windsor


เมื่อสำนักราชวงศ์ออกมาเตือนให้นำบทความออก แต่ Tatler ไม่ได้ทำตามแต่อย่างใด ตัวแทนจากนิตยสารได้ประกาศว่า

" Richard Dennen ผู้เป็นบรรณาธิการบริหารขอรับรองบทความของ Anna Pasternak และแหล่งข่าวของเธอ สำนักราชวังรู้ก่อนหน้ามาหลายเดือนแล้วว่าเรากำลังจะจัดทำบทความประกอบหน้าปก Catherine the Great และเราได้ขอให้พวกเค้าให้ความร่วมมือในการทำงานงานชิ้นนี้ด้วย ที่พวกเค้าออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อนไม่ได้เป็นความจริงเลย"


ชาวเน็ทบางคนตีความแถลงการณ์นี้ว่า แท้จริงแล้ว ฝ่ายราชสำนักคือผู้อยู่เบื้องหลังบทความที่มอบฉายาให้ Kate ว่า "มหาราช" และอีกหลากหลายคำชื่นชมเรื่องการทำหน้าที่เจ้าหญิงที่คู่ควรกับราชวงศ์ รวมไปถึงการโจมตี Meghan ที่ช่างเรียกร้องบงการ แต่เมื่อกระแสตอบรับของผู้อ่านไม่ได้โสภานัก ( เข้าตำรายิ่งอวยเท่าไร ยิ่งไม่ประทับใจ) จึงกลับลำ โยนให้ Tatler เป็นผู้ร้าย โดยเฉพาะแฟนคลับของบ้าน Sussex ที่ติดแฮชแทก #KateMiddletonTopCEO ล้อเลียนส่อเสียดเธออย่างสนุกปาก







ส่วนฝ่ายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับทีม Sussex ก็ปักใจเชื่อว่า Meghan คือผู้บงการสื่อผู้ดีด้วยความพยาบาทมาดร้าย แม้ว่าจะไม่ได้อาศัยในอังกฤษอีกต่อไป ก็ส่งพรรคพวกเข้าไปร่วมมือกับนิตยสารที่ถูกยกให้เป็น "ไบเบิลแห่งสังคมผู้ดี" ด้วยการให้ข้อมูลอวย Kateมากๆเพื่อเรียกความหมั่นไส้ไปพร้อมกับการใส่สีตีไข่เรื่องอื่นๆ และยอมเป็นตัวล่อให้สื่อดังโจมตีเธอเสียๆหายๆว่าเป็นเป็นนางร้ายประจำราชสำนักและทิ้งงานการไว้มากมายจนครอบครัว Cambridge ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกๆได้เต็มที่อย่างที่หวัง
 รวมไปถึงThe Sun  ที่นำเสนอทฤษฎีว่า Meghan คือผู้ร้ายตัวจริงในการก่อเหตุ "หายนะหน้าปก Tatler "    ด้วยการตั้งข้อสังเกตว่าเพื่อนของเธอเคยติดต่อกับนิตยสารไฮโซมาก่อน  

มันอาจยากเย็นที่จะฟันธงได้ว่าใครที่อยู่เบื้องหลังบทความนี้กันแน่ ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร แต่หากคำร่ำลือที่ว่าสมเด็จพระราชินีคือผู้อ่านนิตยสารสังคมผู้ดีเป็นเรื่องจริง นับจากนี้ ก็คงไม่มีใครเห็น Tatler ในรั้ววังอีกต่อไป



The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE