.

Cancel Culture    คือ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมออนไลน์ เมื่อชาวเน็ทไม่สบอารมณ์กับบางสิ่งบางอย่าง และไม่รอช้าที่จะพุ่งทำลายเป้าหมายด้วยอาวุธที่รุนแรงอย่างตัวอักษรที่ปรากฏอยู่หน้าจอ  พวกเค้าสามารถขุดคุ้ยและปล่อยข่าวโจมตีอีกฝ่ายให้ย่อยยับ


แต่ในหลายๆดราม่า  มันอาจจะดูขัดแย้งกับความรู้สึกของคุณมากจนอยากจะถามว่า  นี่ถึงขนาดต้อง Cancel กันด้วยเหรอ ?

จะมีอะไรบ้าง  ลองตามมาชมกันค่ะ

ดราม่า Doja Cat  ขาวเกินไป

Doja  Cat ตอบ  "ก็ชั้นเป็นลูกครึ่งผิวขาวนี่ยะ!"

เรื่องการระบุ identity ของคนในสังคมอเมริกันกลายมาเป็นหัวข้อถกเถียงบนโลกออนไลน์เสมอ    ในขณะที่ Kim Kardashian และ Kylie  Jenner มักถูกแดกดันว่าเลียนแบบวัฒนธรรมและรูปลักษณ์ของคนผิวดำเชื้อสายแอฟริกัน    แต่เซเลบที่มีเชื้อสายผิวดำเองก็ต้องเจอกับคำครหาแทบทุกครั้งเมื่อชาวเน็ทเห็นภาพของพวกเค้าแล้วหาข้อสรุปกันเองว่า นั่นเป็นรูปลักษณ์ที่ดู "ขาวเกินไป"   

หากคุณย้อนกลับไปชม MV เพลง Say So ที่ทะยานขึ้นชาร์ทสร้างความโด่งดังให้กับ Doja  Cat    จะพบว่าเธอมีความสวยตรงตาม Stereotype ของศิลปินสาวเชื้อสายแอฟริกันเป๊ะ   ไม่ว่าจะเป็นผิวสีโกโก้  ส่วนเว้าส่วนโค้ง  เสื้อผ้าหน้าผม     

และเมื่อได้เห็นภาพที่ใช้ประกอบวีดีโอ #WCE บน Youtube ดราม่าก็บังเกิด ชาวเน็ทบางคนกล่าว Youtube ว่า edit สีผิวให้เธอดูเหมือนคนขาว บ้างก็ด่าเธอว่าทุ่มทำผิวให้ขาวขึ้นเพื่อจะได้กระตุ้นยอดขายจาก "กลุ่มเป้าหมายอื่น" *


* หมายถึงวิธีการตลาดตามความเชื่อว่า รูปลักษณ์ของคนผิวดำเชื้อสายแอฟริกันจะขายไม่ดีเท่ากับผู้ที่มีรูปลักษณ์ที่มีความเป็นยูโรเปี้ยนผสมผสานอยู่ด้วย เป็นเหตุผลที่ว่า ศิลปินหญิงชื่อดังในวงการหลายคนถูกจัดอยู่ในกลุ่ม light-skinned เช่น Beyonce, Rihanna ,Alicia Keys และ Cardi B แม้แต่การจัดลำดับผู้หญิงผิวดำที่สวยที่สุดก็มักจะเป็นสาวๆในกลุ่ม light-skinned เป็นส่วนใหญ่ ด้วยเหตุนี้ เซเลบหลายคนจึงถูกกล่าวหาว่า bleach สีผิวให้มีเฉดสว่างขึ้นเพื่อสร้างความนิยมในกลุ่มคนที่อยู่นอก black community

แม้การยืนยันมากมายหลายครั้งว่า ผู้หญิงที่มีสีผิวระดับ dark  จะได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมมากกว่าคนที่ที่มีผิวเฉดสว่างกว่า   นำไปสู่ปัญหา Colorism  ที่แม้แต่  Black Community ก็ยังเหยียดกันเอง

อย่างไรก็ตาม   คนที่พุ่งโจมตี Doja Cat  อาจจะไม่ได้ใส่ใจหาข้อมูลมาก่อนว่า  แม่ของเธอเป็นชาวอเมริกันผิวขาว  ส่วนพ่อเป็นชาวแอฟริกาใต้ที่มีเชื้อสายเผ่าซูลู      และเธอยังเปิดเผยตัวตนที่เป็นลูกครึ่งอย่างชัดเจนเสมอมา   

ส่วนผิวเฉดที่เข้มขึ้นมานั้น  Doja ได้ยืนยันชัดเจนว่าเป็นการอาบแดด       ช่วงที่ไม่ได้ออกจากบ้าน เธอย่อมมีผิวที่ดูสว่างขึ้นเป็นธรรมดา

"คุณคงเป็นพวกงี่เง่า ถ้ายังมาตามคอมเมนท์ใต้ภาพด้วยเรื่องพรรค์นี้ ดูกันซะบ้างสิว่าชั้นเป็นลูกครึ่งผิวขาว ถ้าไม่อาบแดดทำผิวแทน ผิวของชั้นจะสว่างขึ้นมาเยอะ ก่อนจะถ่ายแบบตัวนี้ ชั้นก็อยู่บ้านตลอด หาเรื่องอื่นมาด่าเหอะ"

จริงๆแล้ว  ไม่ว่าจะ race ใด เป็นลูกครึ่งหรือไม่   เราก็คิดเหมือนกันว่ามันพิลึกไปหน่อยที่จะคอยตามจับผิดคนอื่นว่าควรจะต้องมีเฉดสีผิวเข้มหรือสว่าง

แม้จะพ้นจากดราม่าสีผิวขาวเกินไปแล้ว  แต่ไม่กี่วันมานี้ Doja ก็ต้องเผชิญกับ  Cancel Culture อีกครั้ง  ทำให้ #DojaCatIsOverParty  กลายเป็น trending บน Twitter  จากการถูกขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตมาแฉว่าเธอได้เข้าร่วมกลุ่มแชทของพวกเหยียดผิว     คราวนี้เรื่องราวซีเรียสกว่ามากมายค่ะ  เจ้าตัวจะต้องชี้แจงเรื่องราวยืดยาว

ดราม่า  Adele ผอมลง


(เดาว่า Adele คงร้องออกมาดังๆ แปลได้ประมาณว่า "อิหยังวะ"!)

เรื่องนี้มันไปไกลกว่าเสียงวิจารณ์ว่า Adele ผอมลงแล้วสวยโดนใจผู้ชมหรือไม่   แต่มันลามไปถึงขนาดว่า  มีคนรู้สึกเหมือนถูกเธอ "ทรยศ"  ที่บังอาจลดความอ้วน!!

ชาวเน็ทหลายคนแสดงความผิดหวังในตัว Adele ที่ลดน้ำหนักจนดูเพรียวผิดตา    จากที่เคยยกให้เธอเป็น "ฮีโร่หญิง"  ซึ่งเป็นตัวแทนของ plus size community    และคาดหวังให้เธอเป้นกระบอกเสียงต่อสังคมว่า  ถึงจะมีหุ่นอวบหรืออ้วนในสายตาคนอื่น   แต่ก็สวยได้ไม่แพ้ใคร     เมื่อ Adele เปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าไซส์ใกล้เคียงกับ Katy Perry   บางคนจึงกล่าวหาเธอว่าเป็น "คนทรยศ"  !!! 

theaustralian.com  ตั้งข้อสังเกตว่า   นักเคลื่อนไหวเพื่อชาว plus size หลายคนรู้สึกไม่พอใจที่ผู้คนออกมาตื่นเต้นเรื่องรูปร่างของ Adele และเปรียบเทียบว่าเป็นความสำเร็จอันน่าชื่นชม   แม้แต่ quora.com ก็มีคนตั้งคำถามอย่างงุนงงว่า ทำไมถึงมีคนวิจารณ์เรื่องการลดน้ำหนักของ Adele อย่างเสียหายล่ะ ?

ตั้งแต่ที่เดินหน้าหย่าร้างกับสามีและมีภาพโผล่ออกมาเรื่อยๆว่าไซส์ของเธอลดลงไปมาก Adele ไม่เคยเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นจุดจบของชีวิตคู่หรือรอบเอวที่หดลง แต่เมื่อหลายปีก่อน เธอเคยประกาศแล้วว่า จะไม่พยายามลดน้ำหนัก "หากมันไม่ได้กระทบกับสุขภาพและชีวิตบนเตียง"

เมื่อโลกออนไลน์ตื่นเต้นเรื่องลุคใหม่ของ Adele   ก็มีความเห็นโต้แย้งตามมาว่า  Adele สวยมาตั้งนานแล้ว   จะอ้วนหรือผอมก็ไม่เกี่ยวกันซะหน่อย  ทำไมเพิ่งจะมาทำเห่อเพียงเพราะเธอลดน้ำหนัก

 แต่สิ่งที่เรามั่นใจก็คือ ลุคใหม่ของ Adele ไม่ใช่สิ่งที่เกิดชั่วข้ามคืน ตอนที่เธอแจ้งเกิดในอังกฤษ Adele ตัวใหญ่กว่าตอนที่ปล่อยอัลบั้มล่าสุดเมื่อหลายปีที่แล้วอย่างชัดเจน รูปร่างของเธอค่อยๆเปลี่ยนไปในชั่วเวลาหลายปีมานี้ และก่อนที่สังคมจะฮือฮากับลุคใหม่ของเธอ Adele เธอก็เปิดเผยว่า น้ำหนักลดลงไปจากการลดน้ำตาล และแม้ว่าจะเกลียดการออกกำลังมาก ก็ต้องฟาดฟันเพื่อดูแลสุขภาพ (ไม่ต่างจากเราๆ) และเธอก็เริ่มเลือกซื้อเสื้อผ้าที่แขวนในห้างได้แล้ว จากแต่ก่อนที่หาเสื้อผ้าไซส์ตัวเองแทบไม่ได้ แต่พอไซส์เล็กลงมาก็สะดวกขึ้น

แต่คำถามของเราก็คือ เราจะปล่อยให้ Adele มีชีวิตของตัวเองไปไม่ได้เลยหรือ ? เธอไม่เคยเปิดปากสักครั้งว่า ได้ทุ่มเทลดน้ำหนักอย่างที่มีข่าวลือหรือไม่ หรืออะไรคือเหตุผลที่เธอตัดสินใจลดน้ำหนักจนผิดหูผิดตา เสียงชื่นเรื่อง "ความสำเร็จ" เรื่องการลดน้ำหนักของเธอนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะพวกเราต่างคุ้นเคยกับการแชร์เส้นทางการลดน้ำหนักของมากมายหลายคนที่อาจจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพและความมั่นใจในตัวเองจากส่วนเกินที่เพิ่มพูนขึ้นมาจนถูดจัดอยู่ในกลุ่มของคนน้ำหนักเกิน และพวกเค้าต้องทุ่มเทในการเปลี่ยนแปลงนิสัยการรับประทานอาหารและออกกำลังกาย ที่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้

ดราม่า  Kim You Jung เช็คเล็บ

ในอุตสาหกรรมบันเทิง   ยิ่งคุณเป็นคนดังอายุน้อย ก็ยิ่งได้รับความกดดันให้รักษาภาพความสมบูรณ์แบบต่อหน้าสาธารณชน    และถ้าคุณแบกรับรับหน้าทีนี้ไม่ได้ทุกวินาที   ดราม่าก็จะบังเกิดทันที

เรามารู้เรื่องนี้ตอนที่ search ข้อมูลการจัดลำดับสาวงามที่ "หน้าสวยแบบธรมชาติ" ของวงการเกาหลี และพบว่า อดีตดาราเด็กอย่าง Kim Yoojung ไม่ได้อยู่ในหนึ่งในสิบ หรือยี่สิบ แต่อันดับไปอยู่ไกลเอาเรื่อง ทั้งๆที่เราเคยได้ยินเสียงชื่นชมเรื่องพัฒนาการความสวยของเธอมาโดยตลอด และมีชาวเน็ทหลายคนแสดงความประหลาดใจว่าเหตุใดจึงไม่มีชื่อ Kim Yoojung ในลำดับสูงๆ และมีคนมาเฉลยว่า เธออาจจะได้รับคะแนนโหวตน้อยอันเนื่องมาจาก scandal ของเธอ

เราจึงค้นหาเรื่องข่าวฉาวของ Kim Yoojung ทันที

และก็ได้พบว่า

- เธอไม่ได้มีข่าวชู้สาวกับไอดอลหรือพระเอกที่มีแฟนคลับสุดดุเหมือนงูจงอางหวงไข่

- เธอไม่ได้แสดงความเห็นทางการเมืองที่ขัดต่อค่านิยมของสัคม

- เธอไม่ได้แสดงท่าทางหยิ่งใส่แฟนๆ

แต่เธอ......


ไขว้ขาไปด้านหลังแล้วเปลี่ยนมาหย่อนเข่าด้านหน้า และเช็คเล็บในช่วงเสี้ยววินาทีตอนที่โพรโมทผลงานบนเวทีกับเพื่อนนักแสดง...

รอยยิ้มสดใสและการโค้งหัวแทบจรดพื้นจะถูกหักคะแนนจนติดลบ   เมื่อเธอไม่สามารถจดจ่อกับการโพรโมทหนังด้วยท่าทางที่อ่อนน้อมสมกับเป็นผู้เยาว์ และกลายเป็นตัวอย่างไม่ดีจนถูกตำหนิถึง "ทัศนคติ"และ "การวางตัว" ที่ไม่สมกับการเป็นนักแสดงที่ประชาชนตั้งความหวังไว้สูงลิบลิ่วว่าต้องสมบูรณ์แบบไปทุกกระเบียดนิ้ว

ในซีรีส์เกาหลีหลายเรื่อง มีการตีแผ่ชีวิตนักแสดงผ่านซีรีส์เกาหลีถึง "ตัวตน"ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของมวลชน   และอาจจะย้ำเตือนให้คุณตระหนักได้ว่า ในชีวิตจริงนั้น  จะมีสักกี่คนที่วางตัวเป็นมนุษย์แสนดีได้โดยไม่พลาดเลยสักครั้ง ?   โดยเฉพาะเยาวชนที่ผ่านความเป็นเด็กมาเพียงไม่กี่ปี  แม้ Kim Yoojung   จะทำงานในวงการมาหลายปีและอาจเป็นไปได้ว่าเธออาจจะเป็นผู้ใหญ่เกินตัว    แต่ในสังคมคนปกติ เรามักจะมีการยกเว้นกับข้อผิดพลาดของเยาวชน โดยถือว่า การผ่านประสบการณ์มาน้อยกว่าผู้ใหญ่อาจจะทำให้ตัดสินใจผิดพลาดไปได้บ้าง     และอาจจะตักเตือนกันอย่างหอมปากหอมคอเพื่อช่วยปรับปรุงพฤติกรรม

แต่ Kim Yoojung ก็ถูกตราหน้าไปแล้วว่าเป็นนางเอกสาวผู้หยาบคาย ไม่ให้ความเคารพและไม่เป็นมืออาชีพ และต้องประกาศขอโทษที่ทำให้แฟนๆผิดหวังผ่านคำแถลงการณ์ของต้นสังกัด

( หลายคนอาจจะไม่สงสัยเรื่องคำขอโทษ เพราะเรากำลังพูดถึงสังคมที่คนดังต้องออกมาขอโทษแฟนๆตอนประกาศความสัมพันธ์ การแต่งงาน การหย่า หากเข้าใกล้กับ scandal เพียงแค่นิดเดียว ก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้ แม้ว่าพวกเค้าจำทำความผิดหรือไม่เกี่ยวข้องใดๆเลยก็ตาม)


และอคติของชาวเน็ทที่ขึนชื่อลือชาไปหลายประเทศก็ไปได้ไกลขนาดว่า ตอนที่เธอล้มป่วยจากการตรากตรำทำงานทั้งๆที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ กลับต้องถูกโจมตีว่า fake และไม่เป็นมืออาชีพ บางคนยืนยันความคิดแบบไม่แยแสเรื่องความเป็นมนุษย์ว่า

"ก็เธอมีหน้าที่ทำตัว perfect ก็ต้องทำให้ได้สิ"


และนั่นก็ย้อนมาอธิบายว่า เหราะเหตุใดคนดังเกาหลีใต้หลายคนจึงเข้าสู่วงจรของ mental illness และจุดจบที่แสนเจ็บปวด    อย่าว่าแต่การดูเล็บตัวเอง  แค่ถอนหายใจ หรือชักสีหน้าเพียงนิดเดียว  อนาคตในการเป็นคนดังที่ได้รับความรักจนมีคำว่า "แห่งชาติ"  พ่วงตามชื่ออาจจะด่างพร้อยไปเลยทันที!