เทรนด์ทรงผมน่ารู้จากทั่วโลก

62 9


อังกฤษ  
The Chelsea Blow Dry


ชื่อทรงผมนี้ได้มาจากซาลอนใน Chelsea ย่านสุดหรูแห่ง London และมันได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของสาวสังคมชั้นสูงของอังกฤษมายาวนานนับทศวรรษ


แล้วทรงนี้มีความโดดเด่นเช่นไร?
คุณอาจจะคิดว่าทรงผม  signature ของดัชเชสผู้โด่งดังแห่งราชวงศ์อังกฤษจะต้องเป็นอะไรที่ดู minimal     แต่ที่จริงแล้ว  เธอคือคนนำเทรนด์ Chelsea Blow Dry ที่ถูกมองว่าเป็นทรงผม volume อลังการ ลอนเด้งดึ๋ง        Duchess    Kate  ไม่โปรดปรานผมรีดจนตรงเรียบ  แต่เธอมักจะปรากฏกายด้วยผมเป็นคลื่น ทั้งดกหนาและเงางามสะดุดตา

   Richard   Ward      hairdresser  ชื่อดังแห่ง Chelsea ได้สร้างชื่อเสียงจากทรงผมของดัชเชส   เขาเนรมิตผมที่ดูสุขภาพดีและหนานุ่มของเธอให้โด่งดังตั้งแต่ที่เธฮยังเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเจ้าชาย William    
ดัชเชสเยื้องย่างออกมาจากซาลอนของ Richard   Ward   เธอใช้เวลา 4 ชั่วโมงในการทำผมสวย  และสนนราคาปัจจุบันในการจองคิวทำผมกับตัวเจ้าของซาลอนชื่อดังแห่ง Cheasea อยู่ที่ประมาณ 12,000 บาท   ( ราคารวม สระ, นวด. ซอย เซ็ท)

Chelsea Blow Dry ยังเป็นที่นิยมในหมู่สาวไฮโซของอังกฤษ และถือว่าเป็นลุคที่แพงมาก

ทรงผมของสาวไฮโซแห่ง  Made In Chelsea     reality show สุดแซ่บที่เปิดเผยชีวิตของชนชั้นสูงในย่าน West London 



ยุโรปและอเมริกา  

The Mullet 
ทรงผมปราบเซียนที่แม้แต่บางคนที่มีเบ้าหน้าเริ่ดก็ยังเอาไม่อยู่   เป็นอะไรที่ทำให้เรานึกถึงนักร้องดนตรี Rock และ  Country ในอดีต   หลายคนมีอคติกับทรง mullet มาก   เพราะเคยได้รับความนิยมในหมู่ redneck  ( คนผิวขาวชนชั้นแรงงานที่ถูกดูถูกว่าไร้การศึกษา มีพฤติกรรมหยาบคาย หรือแม้กระทั่งถูกมองว่าเป็รพวกเหยียดผิว)


แต่เชื่อรึเปล่าคะว่า ทรงผมที่ถูกเย้ยหยันว่าอัปลักษณ์สุดๆนี้ ได้รับความนิยมในช่วง 80s - 90s    ทั้งวงการกีฬา  วงการแสดง   วงการดนตรี   ใครกล้าตัดผมทรงนี้ก็แสดงถึงความขบถต่อ beauty standard ทั่วไป    Icon อย่าง David Bowie ก็เคยโชว์ผมไถข้าง-รากไทรมาแล้ว


หลายคนอาจจะมองว่า ผมทรงนี้ดูห่างไกลจากคำว่า modern    เพราะเป็นทรงประจำตัวนักร้องเพลง countryก็ว่าได้     อาจจะได้เจอmullet บนหน้าปก fashion magazine หรือ runway บ้าง  แต่ก็เป็นเรื่องของการ "ฉีกลุคเดิมๆ"   เพื่อสร้างกระแสมากกว่า
ผมทรงนี้ ยังไม่จางหายไป  แม้แต่ Morgan Wallen  นักร้องเพลง country ที่อายุไม่ถึง 30  ก็หันมาตัด mullet เพื่อแสดง root ของดนตรีแนวนี้ (พ่อเค้าก็ตัด mullet ตอนยังหนุ่ม)  และต้องประหลาดใจที่เห็นผู้ชมเริ่มหันมาตัด mullet กันมากขึ้น
แต่คุณน่าจะเห็นได้ชัดเจนว่า mullet ของ Blake Shelton และ Taylor Swift บนปก Vogue นั้นแต่างกันพอสมควร
Mullet ไม่ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับโลก fashion ในอเมริกาเท่านั้น  แต่คุณจะได้พบกับผมทรงนี้ทั้งในวงการกีฬายุโรปและอเมริกา    Basketball Football  Tennis   Hockey   Ruggy   นักกีฬาชายหลายคนดูจะปลื้มทรงนี้กันเหลือเกิน
อย่างไรก็ตาม  ทรง mullet ในยุคปัจจุบัน ถูกปรับแต่งให้ดูmodern มากขึ้น   ถึงจะคง concept เดิม  แต่ซอยและset ให้โฉบเฉี่ยวไม่ใช่เฉิ่มเชย
mullet ยุคใหม่จะไม่ได้สร้างรู้สึกฟูฟ่อง หรือถูกยีเป็นรังนก  รากไทรก็ซอยเข้ารูปทรงดูเปรี้ยวแบบเท่ๆ
เกาหลี

Wolf Cut
ทรงที่มีไอดอลเกาหลีเป็น trendsetter   และเราคิดว่า มันคือ mullet แบบเกาหลีนั่นเอง
wolf cut ที่เป็นที่นิยมในวงการ K Pop ไม่ได้เน้นรากไทรให้เป็นฝอยพองเหมือน mullet ยุค 80s  และหลายคนก็ไว้รากไทรแค่สั้นๆเลยติ่งหูมานิดเดียวเท่านั้น    แต่ช่วงแรกๆที่ G Dragon เปิดตัวทรงนี้   แฟนๆจำนวนไม่น้อยที่ไม่อินกับลุคนี้    (  จากค่านิยมที่ไม่ได้เปิดรับสิ่งที่ "สวนกระแส" มากนัก  )      แต่ต่อมาก็ดูเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย  
อย่างตอนที่ BaekHyun ตัด wolf cut แฟนๆก็ต่างปลาบปลื้มชื่นชมว่า ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีใครที่ทำทรงนี้แล้วดูดี  แต่กลับทำให้ไอดอลหนุ่มสุดหล่อดูเท่สุดๆ

ผมทรงนี้เคยได้สร้างความฮือฮาในเกาหลีในยุค 90s ตอนที่วัฒนธรรมอเมริกันเริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อ fashionและดนตรีของชาวเกาหลีอย่างชัดเจน ตอนนั้นผู้รักษาประตูทีมชาตินามว่า Kim Byung-ji ตัดผมทรง Mullet ค่ะ มันจึงเป็นที่รู้จักว่านี่คือทรง Kim Byung-ji แต่เมื่อเปลี่ยนยุคไปก็อาจจะใช้ชื่อเรียกให้เหมาะกับไอดอลมากขึ้น

กลายเป็นว่า ทรง wolf cut นี่ ฮิทในหมู่ไอดอลไม่แพ้ทรงหน้าม้า และก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ถึงตอนนี้ค่ะว่า ตกลงแล้วมันดูดีจริงหรือ ?   ยังมีชาวเน็ทที่ออกอาการยี้ทรงนี้อยู่ไม่น้อยทีเดียว


(  ส่วนเรามองว่า  อยู่ที่การจัดทรงว่าเข้ากับบุคลิกของแต่ล่ะคนค่ะ  แต่จะให้เป็น 80s มาเลยก็ไม่ไหวนะ)


ญี่ปุ่น

Hime cut

เห็นทรงนี้มาตั้งแต่เด็กค่ะ   ตอนเริ่มอ่านโชโจก็เจอเลย  เพิ่งมารู้ตอนโตว่านี่คือทรงฮิเมะหรือทรงเจ้าหญิง
ในโชโจ   ตัวการตูนที่ทำผมทรงนี้มักจะเป็นสาวผมดำผิวขาวจั๊วะที่มีภาพลักษณ์แบบสง่า  ลึกลับ ให้ความรู้สึกแบบคุณหนู   อาจอยู่ในฝ่ายประธานนักเรียนหรืออาจจะมีทักษะที่เก่งกาจในบางอย่าง  (  แต่มีหลายแคแรคเตอร์ก็สดใสร่าเริง)    และในชีวิตจริงก็มีคนตัดผมทรงเจ้าหญิงจริงๆด้วยนะ
เป็นทรงผมที่อยู่เคียงข้างสาวญี่ปุ่นมานานนนนนนนนนนนนนนนนนนนน จริงๆนะ
แม้จะผ่านไปนานเท่าไร   ทรงเจ้าหญิงก็ยังได้รับความนิยมอยู่เสมอ  
จากภาพด้านบน Megumi Asaoka ไอดอลที่โด่งดังมาตั้งแต่ยุค 70s (เกือบห้าสิบปีก่อน

ภาพล่าง  Momo   ไอดอลสาวญี่ปุ่นที่ไปชื่อเสียงในวงการ K Pop 
ทรงเจ้าหญิงดูจะไม่ยุ่งยาก  ไม่ว่าจะไว้ผมม้าหรือไม่  แต่ต้องซอยผมด้านข้างให้สั้นตรงในระดับเดียวกัน มีความยาวเพียงปลายหู หรือเหนือคางนิดหน่อย
แต่การรักษา layerผมด้านข้างให้เรียบตรงเสมอก็ไม่ใช่เรื่องชิลๆนัก     แม้จะเป็นสาวผมตรง  แต่ถ้าถูกความชื้น หรือลมพัด   ผมก็อาจจะกระดก
ไม่น่าแปลกใจที่ผมทรงนี้ยังเป็นที่นิยมอยู่มาก   เพราะความอ่อนหวาน สง่างาม อ่อนเยาว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเจ้าหญิงนั้นคือความงามในอุดมคติของผู้หญิงญี่ปุ่นจำนวนมากนั่นเองค่ะ


Latin America

Velaterapia


เทรนด์ "ไฟเทียนลนผม"   ว้าว!  มันจะออกมาเป็นยังไง!
เมื่อบิดแล้วเผาส่วนที่แห้งเสียแตกปลายที่ทิ่มตัวออกมา    ตอนม้วนผมจะจับช่อสวยไม่มีผมแห้งเสียโผล่มาให้ระคายใจ
สาวๆละติน่าจะให้ความสำคัญกับผมสวยอลังการ  ถ้าจะตรงก็ตรงเป็นไม้บรรทัดระดับชุบโครเมียม    ถ้าจะ volume ก็ต้องพองฟูเด้งดึ๋ง     การเผาผมแบบนี้ เชื่อกันว่าจะกำจัดผมแตกปลายที่ชี้โด่เด่ทำให้ผมดูแห้ง  ช่อลอนเล็กๆจะทำให้ดูสวย sexy ไม่แพ้ลอนใหญ่เด้งดึ๋ง

ไม่ใช่เผาอย่างเดียวค่ะ พอกำจัดผมชี้ฟูไปแล้วก็ลงทรีทเมนท์เน้นๆ  นางแบบชาว Brazilian จาก Victoria's Secret  รู้จัก velaterapia  กันดี  ทั้ง Alessandra Ambrosio      Barbara Fialho   และ Lais Ribeiro  ก็ปลาบปลื้มทรีทเมนท์ไฟเทียนนี้  เป็นสิ่งสาวๆในละตินอเมริกาคุ้นเคยมาเป็นทศวรรษแล้ว

นอกจากสาว Brazilian ทั้งสามแล้ว   ยังมีนางฟ้าคนอื่นๆที่ลองใช้เทคนิคนี้ในการกำจัดผมเสียโดยไม่ทำให้เสียความยาวไป  อย่าง  Candice Swanepoel  และ Magdalena Frackowiak

แม้จะมีคำเตือนออกมาว่า  เป็นวิธีที่อันตรายเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ   แต่สาวละติน่าหลายคนก็ยืนยันว่าจะเข้าซาลอนเผาผมต่อไป    แต่ก็แนะนำกันะคะว่า ทำได้อย่างมากปีละ 2-4ครั้ง และอย่าทำเองเด็ดขาด




The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE