สวัสดีค่าาาาาา

อันนี้เป็นภาคต่อจากของเดิมที่คิสมาเห่อใน ขอกริ๊ดได้มั๊ยในฐานะที่ได้ลอง Clarins Bright Plus Serum ตัวใหม่

คิสใช้หมดพอดีเลยมารีวิวแบบครบทั้ง 7 ml (ไซส์ทดลอง จากกิจกรรมของทาง Official Clarins Thailand Facebook) งานนี้ทุบขวดได้ก็ทุบแล้วค่ะ แต่รู้ว่าทุบไปก็ไม่น่าจะเหลือ แถมจะได้เหยียบตำ XX ให้เจ็บใจเล่นซะเปล่าๆ

เป็นรีวิวที่เรียกว่าชะตาฟ้ากำหนดมากๆ เพราะขอแบ่งเป็น 2 เฟสว่าทำไมถึงใช้เวลากระปริบกระปรอยถึงประมาณ 10 วัน(เริ่มใช้งานวันที่ 15/3/20)

- ใช้งานแบบ AM/PM ใน 2 วันแรก

- ใช้งานแบบ PM อย่างเดียวใน 7 วันถัดมา

- หน้าพังยับเยินจากสกินแคร์ที่เปิดใช้อีกตัว(ไม่ขอระบุ) เลยใช้ PM แบบลุ้นๆข้ามๆ 3 วันถัดมา

และคุณน้อง Deluxe size ตัวนี้ก็ได้ตายในหน้าที่นะคะ หมดทุกหยดจริงๆ คิสใช้ปริมาณ 5 หยด Dropper ของขวดจิ๋ว ซึ่งปริมาณถือว่าไม่เยอะและไม่น้อยต่อครั้ง เดาว่าถ้าขวดของจริง ตัวหยดน่าจะได้ปริมาณมากกว่านี้

ก็สรุปสั้นๆว่า ใช้งานมาประมาณ 10 วัน และ 7 มิล ใช้งานแบบกำลังดีได้ 14 ครั้ง

ใช้ของไซส์จริงมาไม่รู้กี่ร้อยตัวยังไม่เคยมานั่งนับหยด นับ portion เลยนะนี่ เหมาะกับใครที่อยากรู้ค่ะว่าขวดนึงใช้ได้นานแค่ไหน จะได้ไปคำนวณกันเอาเอง

CLARINS

Bright Plus Advance brightening dark spot - targeting serum

 

Size: 30 ml, 50 ml (mine is deluxe sample size)

Price: 3,850 thb, 5200 thb

Made in France

Where: Clarins Official Website, Central etc

PROs

- ข้อแรกขอยกให้ "ได้ผลไว" เพราะวีคเดียวผิวดูไบรท์ขึ้น ถือว่าเร็วมากๆ จนเร็วเกินไปด้วยซ้ำ อนุมัติได้ผลไวเหมือนเงินติดล้อ สำหรับใครที่เลือกแบบ 30 ml แล้วไม่แน่ใจว่าขวดเดียวจะได้ผลมั๊ย คิสใช้ 7 ml ยังได้ผลเลยค่ะ 

 

- เนื้อสัมผัสเกลี่ยง่าย ใช้ง่าย ชื่อบอกว่าเป็นเซรั่ม แต่เนื้อเป็นเหมือนโลชั่นกึ่งเจล

- ไม่มีซิลิโคน เป็นอะไรที่หายากยิ่งกว่าทองฮั่วเซ่งเฮง คิสชอบข้อนี้ที่สุด ใช้เวลาตอนนอนคิสสบายใจเหมือนทำประกันโควิดไป 10 ฉบับ เพราะไนท์ครีมทุกตัวที่คิสเลือกใช้ ที่ยอมใช้ Jar type/dropper หลายๆตัวก็เพราะว่ามันไม่มีซิลิโคนนี่ละ หายากมากๆ

- ส่วนผสมที่เคลมเรื่องการเพิ่มความกระจ่างใสของผิว มาในหลักการที่คิสชอบ คือ "ใช้ส่วนผสมของธรรมชาติมาเพิ่มความกระจ่างใส" 

Clarins Bright Plus Serum ตัวนี้ได้ R&D และเทสแล้วว่าส่วนผสมของ Rose-myrtle และสารสกัดจากเมล็ด Acerola เมื่อนำมาไฝ้วกันแล้วนั่นจะได้มักผลบังเกิดมากกว่าความกระจ่างใส ผิวไบรท์ แต่...สิ่งที่ได้มาเป็นโบนัสโชคทองสองชั้นก็คือ "การเพิ่มออกซิเยนให้ผิว" (Oxygenation)

ถามว่า เพิ่ม O2 ให้ผิวแล้วยังไง?? หลายคนคงจะสงสัยในข้อนี้

คือโอเค เราเข้าใจอยู่ว่าการเพิ่มออกซิเยนให้อากาศเหมือนปลูกป่าช่วย purify มลภาวะ แล้วผิวจะได้อะไรเหมือนเราไปถีบเป็ดที่สวนลุมฯบ้าง คิสมีไปหาอ่านเรื่อง Oxygenation ที่มีผลต่อบำรุงผิว(ไม่ใช่เนื้อหาของ Clarins ไปหาอ่านเชิงสกินแคร์ ช่วงนี้ว่างจัด ทำได้หมด) คือ

- ทำให้สัมผัสสบายผิว ว่าง่ายๆคือคนรู้สึกหายใจปลอดโปร่ง กระบวนการนี้ต่อผิวก็เหมือนกัน ทำให้ผิวกระจ่างสดใสจากการที่ได้รับสารออกซิเยน

- ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของ Active ingredients ในบางประเภท ซึ่งสำหรับเซรั่มตัวนี้ได้ใช้หลักการมาแนวเดียวกับเซรั่มสาย Botanical Complex เน้นใช้สารสกัดจากธรรมชาติมายำตำถาดรวมกัน ดูจากในรายชื่อส่วนผสมแล้วชืนใจเหมือนอมฮอลล์

CONs

- อย่างที่บอกไปแล้วใน preview คือมันเป็น Dropper ซึ่งมีโอกาสที่จะสัมผัสกับอากาศได้ง่ายเมื่อมีการใช้งาน อันนี้คิสลองไปจับตัวจริงมา ขวดของจริงหน้าตาน่ารักมากกก เหมือนเป็นเซรั่มอวกาศเลย ชอบดีไซน์ และอ่านเจอมาว่ามันต้องมีทริคการกด Dropper (ขออภัยที่คิสจำเทคนิคการกดใช้งานไม่ได้ มันจะมีวิธีการกดอยู่ เพราะเป็น Dropper ที่เป็นแบบเฉพาะ)

- ข้อนึงที่คิสทำให้คิสต้องเปลี่ยนการใช้งาน AM/PM ระหว่างการใช้คือปัญหาเรื่องการ Ball up หรือการที่ใช้แล้วขึ้นขุ่ย อันนี้เจอสำหรับการใช้งานตอนเช้านะคะ เลยโยกตำแหน่งให้ทาเฉพาะตอนเย็นค่ะ อะไรที่ดูทรงแล้วมันผิดที่ผิดทางเราก็ put the right thing at the right place!! เราจะไม่โยกไปให้เพื่อนนะคะ / ตอนที่ลองที่เคาทเตอร์ BA มีแนะนำให้คิสนวดเวลาใช้งาน ก็ลองไปหาวิธีนวดดูก็มี Ig ของคุณเนตตี้(บล๊อคเกอร์คนจ๋วย ไอดอลคิสเอง) เค้าก็บอกวีธีการใช้อยู่ แต่อนิจจาแซมเปิ้ลคิสหมดซะก่อน ชั้นนี่มันเจอไม้งามเมื่อขวานหายซะงั้นอะพี่บัวลอย!!

บ่นขนาดนี้ ซื้อต่อมั๊ย??

ซื้อออออ ชั้นจะเอาาาา และจะซื้อไซส์ 50 ml ด้วย ขึ้นอยู่กับเรื่อง Dropper เพราะคิสตั้งใจจะสอบถามเรื่องตัว dispenser ปากขวดที่คิสเห็นว่ามันคืออะไร ถ้ามันทำให้ส่วนที่เป็น Tube สามารถ Vacuum ได้คิสก็จะซื้อขวดใหญ่ แต่ถ้าไม่ได้มีอะไรเลย คิสแค่เป็นเจ้าหนูจำไมขี้สงสัยไปเองก็คงเลือกเป็น 30 ml แทน ตอนนี้โปรของ clarins ดุมากๆ แต่คิสปิดงบดุลไตรมาสแรกของตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว ชอปโคตรดุในเดือน 1-2 ที่ผ่านมาเพราะว่างจัด ขึ้นงบใหม่เจอกันแน่นอน

เดี๋ยวคนจะขำเรื่องรูป Before - After ว่าทำไมภาพ Before ดูสว่างกว่า

ภาพคิสมักจะเก็บรูปคนละช่วงเวลาของวัน แสงจะไม่เท่ากัน และที่เด็ดไปกว่านั้นคือคิสปรับแสงรูปไม่เป็นด้วย คือมันน่าจะมีพวก white balance/auto balance อะไรแบบนี้ที่ไม่กระทบกับคุณภาพไฟล์รูป แต่คิสลองกด filter แล้ว กลายเป็นรูปฟรุ๊งฟริ๊งน้องหน้านวลไปเลย คิสเลยไม่ยุ่งกับเรื่องสีภาพดีกว่า

เอาว่าอยากให้ดูเรื่องรอยด่างดำ ผิว Before ก็ค่อนข้างขาวแล้วค่ะ เพราะคิสใช้สกินแคร์สายนี้หมดเลยในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่าน ถือว่าขาวมากๆและแดงลดลงมากแล้วจากเมื่อก่อน นี่มีความหวังเล็กๆว่ารอยแดงจะดีขึ้นแบบถาวรซะที

ช่วงนี้ก็เรียกว่า Work from Home, Shop from Home กันไปก่อนนะคะ ตัวคิสเองนิสัยไม่ชินกับการชอปปิ้งออนไลน์เลย ชอปไปซื้อหน้าเคาทเตอร์จิ๊จ้ะกับ BA ที่หาคู่บุญเจอ หายากนะ แต่ถ้าเจอแล้วก็ไม่หนีไปไหนแล้ว

(เว้นแต่เวบ Sephora เท่านั้นจริงๆที่คิสซื้อได้แบบสบ๊ายยย กับเวบที่เป็น Official ของแบรนด์นั้นจริงๆ อยากรู้สึกอุ่นใจว่าได้ของแน่นอนไม่ต้องลุ้น)

ก็หวังว่าจะเป็นรีวิวสำหรับใครที่สนใจ serum ตัวนี้กันอยู่นะคะ ขอบคุณสาวๆที่ิติดตามค่า ฝันดีนะค่า

^^