เปลี่ยนวันเหงาๆ ยามอยู่บ้าน ให้เป็นการดูแลผิวแบบจัดเต็มด้วย 3 ไอเทมจากแบรนด์ mesoestetic

66 12
ช่วงนี้เป็นเวลาที่เรากลับมาดูแลตัวเองเยอะมาก ส่วนนึงอาจเพราะการที่สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมาะที่จะไปเดินเล่นข้างนอกเท่าไหร่นัก ทำให้เรามีเวลาคิดสูตรดูแลผิวใหม่ๆ หยิบนั่นผสมนี่ เพื่อดูแลตัวเองมากขึ้น อย่างเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเราลองหยิบผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ mesoestetic ที่มีอยู่มาลองใช้ร่วมกัน แล้วปรากฏว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีทีเดียวหละ อยากรู้แล้วหละสิว่าเราใช้อะไรบ้างไปดูกันเลยฮะ....


Let's Start...

เราขอทำเป็น info graphic เพื่อให้เพื่อนๆ เข้าใจสเต็ปการดูแลผิวของเรามากขึ้น โดยหลังจากทำความสะอาดใบหน้าเป็นที่เรียบร้อย เราก็จะเริ่มเช็ดทำความสะอาดด้วย....

Step 1 : mesoestetic pre-produce cleansing wipe

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ช่วยสิ่งอุดตันตามรูขุมขน เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ (dead cells) ลดความมันส่วนเกินบนผิว รวมไปถึงช่วยขจัดเครื่องสำอางค์ที่ตกค้างบนผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีใช้ : ใช้เช็ดบริเวณผิวหน้าและลำคอ หลังทำความสะอาดผิว โดยหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา

Texture / Scent / Packaging

  • Texture : แผ่น wipe มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร เนื้อสัมผัสของแผ่น wipe ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่หนาและนุ่มกำลังดี (เราแนะนำให้ตัดแบ่งเป็น 2 ส่วน เพื่อเก็บไว้ใช้ในครั้งถัดไป)
  • Scent : กลิ่นออกแนวสะอาดๆ เหมือนเรากำลังอยู่ในคลินิกยังไงยังงั้นเลยหละ ซึ่งส่วนตัวแล้วเราชอบนะ ให้ความรู้สึกสะอาดดีทีเดียวหละ
  • Packaging : เป็นอีกจุดที่เราชอบมากๆ เลยหละ เพราะแต่ละแผ่นจะบรรจุในซองแยกกัน ไม่ต้องกังวนเรื่องการปนเปื้อนเวลาเปิดใช้บ่อยๆ

Let's Try...

จากที่เราได้ลอง mesoestetic pre-produce cleansing wipe จัดว่าเป็นแผ่นเช็ดหน้าที่ใหญ่มาก เนื้อสัมผัสก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว และสังเกตุว่าเมื่อเช็ดลงบนผิวจะมีฟองเล็กๆ ใสๆ เกาะอยู่บนผิวเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ซึมเข้าสู่ผิวจนหมด ซึ่งเราจะเช็ดทั่วใบหน้าและลำคออย่างเบามือ โดยเว้นบริเวณรอบดวงตา
เมื่อเช็ดแล้วไม่พบอาการแสบ ระคายเคืองผิวแม้แต่น้อย แต่ในขณะเดียวกันกลับให้ความชุ่มชื้นบนผิวได้ดีทีเดียว ซึ่งถือว่าจุดนี้เป็นโมเม้นท์ที่ดีม๊าก เพราะผลิตภัณฑ์กลุ่มผลัดเซลล์ผิวหลายๆ ตัวที่เข้มข้นมากๆ มักจะระคายเคือง หรือแสบผิวได้ง่าย

Key Ingredients

  • Glycolic Acid : กรดไกลโคลิกหรือที่เรารู้จักกันดีในอีกชื่อนึงว่า "AHA" เป็นสารผลัดเซลล์ผิว ทำหน้าที่ในกำรผลัดเซลล์ผิวโดยจะผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกออก ด้วยโมเลกุลที่มีขนาดเล็กสามารถซึมสู่ผิวได้ดีกว่ากรด AHA ชนิดอื่นๆ เช่น Lactic acid จึงสามารถผลัดเซลล์ผิวได้ดีกว่า (แต่ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสระคายเคืองผิวที่มากกว่าเช่นกัน)
  • Lactic Acid : กรดแลคติกทำให้เกิดกระบวนกำรที่ทำให้ผิวหนังชั้นบนสุดหลุดลอก(ช้ันหนังกำพร้ำ) และทำให้ผิวชั้นถัดไปขึ้นมาแทนผิวเดิม กระบวนการเหล่านี้ทำให้จุดด่างดำจางลง รอยเหี่ยวย่นตื้นขึ้น ซึ่งจากการทดลองในห้องปฏิบัติการพบว่ากรดแลคติก ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวน้อยกว่า Glycolic Acid แถมยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว เปรียบเสมือนกำแพงป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำอีกด้วย
  • Salicylic Acid : หรือที่เราเคยได้ยินว่า "BHA" ใช้รักษาโรคผิวหนังที่มีผื่นหนา เป็นขุย ลดเลือนริ้วรอย และรักษาสิว BHA โดยจะไปทำให้ Keratin ที่แข็งอ่อนนุ่มลง ทำให้ผิวที่แห้งเป็นขุยหลุดออกได้ง่าย และลดการอักเสบในสิว BHA ช่วยให้การหลุดลอกของเซลล์เยื่อบุในรูขุมขนช้าลง ป้องกันการอุดตัน และช่วย สลายสิวอุดตันท้ัง รวมทั้งลดการอักเสบของสิวอักเสบในคนผิวแห้งหรือแพ้ง่าย
  • Lactobionic Acid : คือตัวเดียวกันกับ PHA พัฒนามาจากสารสกัดจาก AHA มีคุณสมบัติเหมือนกับ AHA แต่มีความพิเศษอยู่ตรงที่ มีความอ่อนโยนกว่าและไม่ก่อให้เกิดกำรระคำยเคืองผิว อีกท้ังยังมีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Anti-Oxidant) ที่ช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของมลภาวะ และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว 
  • Alpha-bisabolol : เป็นสำรสกัดดอกคาโมไมล์ (Chamomile Extract) ทำหน้าที่เป็นสารต้านการอักเสบ (Anti-Inflammation) ช่วยปรับสมดุลผิว ป้องกันการระคายเคือง ลดการอักเสบ และต้านเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ผิวไม่ระคำยเคือง ไม่แพ้ง่าย

Step 2 : mesoestetic melatonin ampoules

ทรีทเม้นต์ในรูปแบบแอปพลูเข้มข้น สำหรับฟื้นฟูผิวในตอนกลางคืน ช่วยต่อต้านริ้วรอยอย่างล้ำลึก เร่งกลไกการป้องกันอนุมูลอิสระ บรรจุมาในรูปแบบหลอดแก้วสีชา เพื่อคงประสิทธิภาพของสารสกัดให้สดใหม่อยู่เสมอ

Texture / Scent / Packaging

  • Texture : เนื้อสัมผัสเบาสบาย ไม่หนักผิว แต่ก็ไม่ได้เหลวเป็นน้ำเปล่าซะทีเดียว หลังลงแล้วแนะนำให้นวดเบาๆ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิว ส่วนใครที่จะลงผลิตภัณฑ์ต่อจากตัวนี้ ควรรอให้เค้าซึมเข้าสู่ผิวจนหมดก่อนเน้อ
  • Scent : ส่วนตัวแล้วเราไม่รู้สึกกลิ่นอะไรเป็นพิเศษจาก ampoules สูตรนี้ แต่ note ไว้หน่อยละกันว่าเค้ามีส่วนผสมของน้ำหอมนะครับ
  • Packaging : อยู่ในรูปแบบหลอดแก้วสีชา ซึ่งสามารถคงประสิทธิภาพของส่วนผสมไว้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด มาพร้อมกับอุปกรณ์ในการหักหลอดแก้ว ที่ตั้ง และฝาปิดสำหรับเก็บใช้ในครั้งถัดไป


Let's Try...

เมื่อทา mesoestetic melatonin ampoules ลงบนผิวผิวจะค่อยๆ absorb ตัว ampoules เข้าสู่ผิวซึ่งในจังหวะนี้เราก็จะค่อนๆ นวดเบาๆ บนผิว ถือว่าเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดไปใด้วยในตัว  

Key Ingredients

Step 3 : mesoestetic post-peel crystal fiber mask

มาส์กสูตรนี้ออกแบบมาเพื่อกระบวนการฟื้นฟูและปรับโครงสร้างชั้นไขมัน เพิ่มระดับความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยปลอบประโลมผิวที่ผ่านการฉีด ทำเลเซอร์ หรือการผลัดเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี

Texture / Scent / Packaging

  • Texture : แผ่นมาส์กมีความน่าสนใจตรงที่มาในรูปแบบเส้นใยนาโน 3 มิติที่ทำจากธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัยสูง 
  • Scent : มาส์กแผ่นนี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ดังนั้นผู้ที่มีอาการแพ้/ระคายเคืองง่าย หรือไวต่อน้ำหอมสามารถใช้ได้อย่างไม่ปัญหาเลยหละครับ
  • Packaging : เมื่อฉีกซองจะพบชีทมาส์กทั้งหมด 3 ชั้น ให้ลอกชั้นนอกสุดทั้ง 2 ชั้นออก และชั้นที่เป็นเส้นใยนาโนตรงกลางสำหรับมาส์กหน้า 


Let's Try...

Key Ingredients

Before - After

หากสังเกตุจะดีๆ จะเห็นว่าหลังมาส์กเสร็จ โทนแดงบนผิวดูจางลงไปพอสมควร นอกจากนี้ผิวโดยรวมยังดูกระจ่างใสขึ้น ดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจุดนี้เราคาดว่าน่าจมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ร่วมกันทั้ง 3 Step ไม่ว่าจะเป็นการผลัดเซลล์ผิวด้วย mesoestetic pre-produce cleansing wipe ต่อด้วยการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวแบบเต็มสตรีมด้วย mesoestetic melatonin ampoules และปิดท้ายด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้น และปลอบประโลมผิวด้วย mesoestetic post-peel crystal fiber mask 

นอกจากความกระจ่างใสที่เราเห็นชัดๆ แล้ว อีกจุดหนึ่งที่เราชอบคือความชุ่มชื้นบนผิวที่กำลังพอดี ไม่มากจนเกินไป สามารถใช้ชีวิตต่อได้จริง ซึ่งต่างจากมาส์กบางแบรนด์ที่มาส์กเสร็จหน้าเมือกมาก จนสุดท้ายต้องลุกไปล้างออก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลลัพธ์ที่ Based-on สภาพผิวของเราเป็นหลัก ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

นี่แหละครับคือวิธีการดูแลผิวของเราในช่วงที่ต้องอยู่บ้านนานๆ ไม่สามารถออกไปทำทรีทเม้นต์ หรือนวดหน้าที่เคาน์เตอร์ได้ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ ยังไงก็ลองเอาไปปรับใช้กับดูเน้อ

Note : สำหรับคำถามว่าใช้แล้วจะแพ้ไหม สิวจะขึ้นไหม จะอุดตันหรือไม่ ? เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากแต่ละคนมีสภาพผิว ไลฟ์สไตล์ การดูแลผิว และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนที่จะลองผลิตภัณฑ์ใหม่ เราแนะนำให้ทดสอบอาการแพ้ที่บริเวณท้องแขนหรือลำคอก่อน 1 คืน แล้วค่อยใช้จริงบนใบหน้านะครับ


Wanviset

Wanviset

✨ สวัสดีฮะ ชื่อบูม นะครับ ✨
สกินแคร์คือหนึ่งในความสุขเล็กๆ ของเราและด้วยความอยากรู้อยากลอง ชอบแชร์ทำให้เราลองเขียนบล็อกเล็กๆ ขึ้นมาฝากเพื่อนๆ ติดตามผลงานของเราด้วยน้า

FULL PROFILE