ของแถมจุกๆ แน่นๆ จาก "Christian Dior"

48 7

นี่คือของแถมจาก Christian Dior ทั้งหมดของเรา

จากการซื้อเพียง 2 ครั้ง ย้ำว่า 2 ครั้งเท่านั้นจย้าาา

STEP HOW TO GET IT!!


  • รอบแรกยอดที่เราซื้อทั้งหมดคือ 1,845 บาท ซึ่งทางพนักงานก็ได้ทำการสมัครสมาชิก การสมัครสมาชิกนั้น ไม่มียอดขั้นต่ำในการสมัคร เพียงแค่ซื้อครั้งแรกก็สมัครได้เลย

สรุปของแถมที่เราได้รอบแรกคือ.. เทสเตอร์น้ำหอม Miss Dior 1 ml. จำนวน 2 ชิ้น และรองพื้น Forever Skin Glow 3ml. จำนวน 1 ชิ้น บอกเลยว่าที่ให้มาสามารถลองใช้ได้ประมาณ 1 อาทิตย์เลยทีเดียว ไม่ไก่กาอาราเร่แบบ 2 ครั้งหมดด้วย


  • รอบสองจากการที่สมัครสมาชิกไปแล้ว การซื้อครั้งต่อๆ ไป ครั้งที่ 2, 3, 4,... จะมีของแถมตาม Step ให้ โดยพนังงานจะบอกแค่ว่า.. "ถ้าซื้อครั้งต่อไปจะได้... มาลองนะคะ" ซึ่งในส่วนนี้นั้นก็ไม่ได้กำหนดยอดขั้นต่ำในการซื้ออีกเช่นกัน

สรุปของแถมที่เราได้รอบหลังคือ.. ลิปสติก(จากการซื้อครั้งที่ 2 ของการเป็นสมาชิก) + สิ่งที่พนักงานให้เพิ่มมาคือ.. น้ำหอม Dior Joy, Capture Dream Skin Cushion และ ลิปสติก Dior Addict Stellar มีทั้งหมด 3 สี

บอกเลยว่าของที่ได้มาทั้งหมด ไม่มีคำว่า "ไก่กาอาราเร่เด้อออ"



จากข้อสังเกตของเรานะ เราคิดว่าช่วงนี้ Dior น่าจะปรับการทำการตลาดการขายด้านเคาน์เตอร์ตามห้างสรรพสินค้า คือแต่ก่อน 3-4 ปีที่แล้ว เราเคยซื้อ Dior ไปรอบนึง คือของแถมไม่เยอะขนาดนี้อะ ให้อย่างมากก็ 1-2 ชิ้น และไม่มีการให้แบบเป็น Step ครั้งที่ 1, 2, 3, 4,... บวกกับบางช่วงที่มีโปรโมชั่นลด 10% จากทางห้างสรรพสินค้าเราว่า คุ้มใช้ได้เลยทีเดียว

ต่อกันด้วย How To 

"ซื้อยังไงให้คุ้มที่สุด"


เราคิดว่าถ้าซื้อของครั้งนึงใครๆ ก็อยากได้สิ่งที่คุ้มค่าที่สุดใช่มั้ย?

เริ่มแรกคือ..

1. เช็คโปรโมชั่นก่อนเลยจ้า ห้างลดเท่าไร Sephora เอยยย.. ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั่งๆ เอย (ย้ำว่าเป็นทางการนะ.. เพื่อลดความเสี่ยงเจอของปลอม)

  • ห้างสรรพสินค้าจะลดอยู่ช่วงประมาณ 10% ตามช่วงเซลล์ของห้าง

  • บัตรสมาชิกตั่งๆ เช่น ของ M Card ลด 5-10% ตลอดเวลาทุกช่วงทุกวัน (ซึ่งขึ้นกับรูปแบบบัตร อย่างของที่เรามีคือเป็นของที่บ้าน สมัครไว้เป็น 10-15 ปีแล้ว เลยใช้ลดได้)

  • โปรเซลล์ตั่งๆ ของตัวแทนจำหน่าย

2. การสะสมแต้ม เช่น ถ้าซื้อกับห้างสรรพสินค้าแล้วได้แต้ม แล้วเอาแต้มไปแลกอย่างอื่นต่อคุ้มมั้ย, หรือของ Sephora เองก็ตามที่แลกแต้มแบบ 25 บาทในการซื้อ เท่ากับ 1 แต้ม ให้ลองคำนวณดูว่าของที่แลกมาแปลงเป็นเงินเท่ากับกี่บาท


3. กรณีนี้สำหรับเคาน์เตอร์ตามห้างสรรพสินค้านะ พยามยามซื้อที่เดิม สาขาเดิมให้พนักงานจำหน้าเราได้ จำชื่อเราได้ แล้วก็แวะเวียนมาดู มาอัพเดทของบ้าง บอกเปรยๆ กับพนักงานบ้างว่าอยากลองตัวไหน สุดท้ายให้บอกว่า "เดี๋ยวพาเพื่อนมาซื้อด้วย" แล้วก็ลากเพื่อนที่จะซื้อมาที่สาขาเดียวกับที่เราซื้อ 55555555 ง่ายๆ คือตีซี้แหละ พนักงานก็อยากขาย อยากทำยอดเหมือนกัน เราก็ช่วยๆ กัน เวลามีของใหม่ๆ เข้ามาเขาจะได้เอาเทสเตอร์ให้ลอง หรือไม่ก็ลองขอเทสเตอร์ได้เลย ว่าแบบ.. อยากลองตัวนี้

ขอแชร์ความประทับใจ น้องที่ขายอยู่เคาน์เตอร์ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน น้องน่ารักมากกกก ก.ไก่ล้านตัว  คือเราไปซื้อวันที่ 29 กพ. ช่วงแบบ.. อีก 15 นาทีห้างปิดอะ แล้ววันสุดท้ายของเดือนคือทางพนักงานจะยุ่งๆ เพราะต้องปิดยอด.. ช่วงที่เราไปคือแบบมีน้องคนเดียวที่เคาน์เตอร์ แล้วลูกค้ากลุ่มก่อนหน้าเราคือกลุ่มใหญ่มากกก 4-5 คนอะ ความชุนละมุนในการปิดการขายเอย ไหนจะยื้อแคชเชียร์ห้างเอยย คือน้องต้องขายกลุ่มก่อนหน้าเราก่อน น้องก็แบบ.. ไม่มีเวลาให้เรา เลยให้ดูข้อมูลในไอแพดไปพลางๆ และพยายามปลีกตัวมาทางเรามาเทสผลิตภัณฑ์บ้างเอย.. กลับไปกันคิ้วให้ลูกค้ากลุ่มแรกบ้างเอยย.. คือแบบ.. วุ่นสุดดด

แต่น้องก็ยังคงมาเทคแคร์เราประปราย ตลอดจนพาไปแคชเชียร์และกลับมาแพ็คของให้


อยากบอกว่า พนักงานหรือ BA ตามห้างไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะ อยากให้ลองเข้าไปคุย ไปลองใช้ผลิตภัณฑ์ดู ที่สำคัญคือให้คำแนะนำได้ดีกว่า และละเอียดกว่าตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ ด้วย



ปล. เหมือนช่วงนี้หลายๆ แบรนด์จะมีความแบบ.. ครีเอทในการแพคของเช่น ของ Burberry จะมี Charm ส่วนของ Dior ก็มีเช่นกัน คือเราซื้อ 2 เดือนติดกัน ริบบิ้นผูกถุงก็เปลี่ยนไปตามเดือนเช่นกัน


Na-nacha

Na-nacha

FULL PROFILE