[Empty&Re:Toner] เวลานี้ Bioderma HydraBio ต้องเข้าแล้วค่ะ

54 10
JEBAN GIVEAWAY / ได้รางวัลจากจีบันนี่แหละ!

สวัสดีค่าาาาา


พอดีคิสเพิ่งโพสคลิปเรื่อง AM regimens สำหรับวันอยู่บ้านไป


คิสมีโทนเนอร์ที่เปิดใช้ค่อนข้างเยอะมากกกกกก ซึ่งใช้งานต่างกรรมต่างวาระกันหมดเลย ตั้งแต่


Clinique 1.0 โทนเนอร์เบสิค สูตรไม่มีแอลกอฮอล์ ใช้งานได้ AM/PM


Mario Badescu Cucumber โทนเนอร์สูตรมีแอลกอฮอล์ ซึ่งคิสเปลี่ยนการใช้งานไปเรื่อยๆ เพราะสูตรค่อนข้างเยอะ คิสซื้อเปลี่ยนๆวนๆมาเกิน 10 ขวดแล้ว แต่จะเปลี่ยนเรื่อยๆ เพราะค่อนข้างขี้เบื่อ แต่ Mario จะ stand by ในกรุเสมอ เพราะราคาค่อนข้างถูกและคุณภาพดี


Thayers (ตอนนี้หมด ปกติต้องมีประจำการ ไว้ผ่านร้าน all about you ค่อยซื้อมาตุนไว้) โทนเนอร์เบสิคแบบไม่มีแอลกอฮอล์อีกเหมือนกัน ตัวนี้ใช้งานคล้ายๆกับ Clinique 1.0 แล้วแต่อารมณ์ค่ะ เพราะตัวนี้ถูกกว่า Clinique ก็จะสลับๆกันใช้


Pixi Glow Tonic ตัวนี้มีไว้ติดกรุเสมอ แต่คือไม่ได้ใช้งานทุกวัน ใช้เฉพาะวันที่รู้สึกว่าหน้าโสมม หมักหมมเหมือนไปเขาชนไก่ใช้ 3 วันก็รู้สึกไปก่อกวนผิวมากแล้วค่ะ มันแรงมาก ผิวใครแข็งแรงจะใช้เป็นเดือนก็เอาตามสะดวกเลย คิสห่วงผิวมากๆ


Curel Lotion III อันนี้ใช้เฉพาะเวลาแพ้ค่ะ เพราะอ่อนโยนมากๆ(เมื่อเทียบกับการใช้แต่ละครั้ง แต่เวลาแพ้มันต้องตัวนี้เท่านั้น เลยสแตนบายตลอด)


Lancome Tonique confort ตัวนี้เกือบบบบจะยกให้คนอื่นแล้วจ้าาาา คิสได้แถมมาขวดใหญ่อยู่ ก็คิดว่าคงไม่เหมาะกับผิวตัวเองแน่ๆ พออ่านรีวิวของใครสักคน(น้องพลอยมั๊ง) บอกว่าดี เอาวะ แอบใช้สักหน่อย ไม่เข้ากับเราค่อยยกให้คนอื่น โอ้ยยยย มันดีมากกกก ลูกรักเลยค่ะ ใช้ตอนเช้าวันอาทิตย์ที่ไม่ไปไหนนี่ฟินมาก เช็ดๆแล้วมาส์กหน้าต่อ ฟินมากพี่น้อง


Arcona Cranberry ลูกรักที่กำลังกลายเป็นลูกชัง ไม่ใช่เพราะว่าเธอไม่ดี แต่เพราะว่าเธอต้องเขย่าก่อนใช้ แรกๆที่ยังบ้าเห่อก็ยังสนุกกับการเขย่าอยู่ หลังๆคือเปลี้ยค่ะ หยิบมาก็อยากจะใช้แล้ว เลยรู้สึกกลายเป็นภาระไปได้ไงก็ไม่รู้ เร่งๆให้มันหมดๆไป


Melano CC ตัวนี้จริงๆมันเอสเซนท์ แต่คิสเอามาใช้เช็ดหน้าแทนโทนเนอร์ เพราะกลิ่นสดชื่นมาก และราคาก็โอเคอยู่นะ(ประมาณ 4-500) เทียบกับปริมาณคิสโอเคอยู่ เอามาใช้มาส์กหน้าแบบ Curel ก็ได้ สดชื่นมากกกกกกกกกก ตัวนี้คิสแบ่งใช้ทั้งบนโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เย็นเลย


เอาละ นี่คงพอบอกคร่าวๆได้ว่า คิสเปิดโทนเนอร์เยอะมากจริงๆ เยอะจนคิสก็หาจังหวะเข้าให้ Bioderma ไม่ถูก ยังไม่่เปิดก็กะว่ารอให้สักตัวพร่องก่อน และวันนี้ก็มาถึงค่ะ เวลา Landing อย่างงดงาม

Mario Badescu Special Cucumber Lotion

(limited edtion, 236 ml, 650 thb Made in USA)

PROs


- ให้สัมผัสที่อ่อนโยนมากกกกก Mario มีสูตร Cucumber original ที่ก็อ่อนโยน และให้ฟิลลิ่งที่ดีต่อผิว ต่อใจแบบนี้ แต่กลิ่นของตัวนี้มัน pamper กว่ามากๆ กลิ่นเหมือนแป้งเด็กเลยค่ะ เวลาใช้แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งคลอดออกมาจากท้องแม่ เบบี้มาก


หมดแล้วค่ะข้อดี พับผ่าสิ!! ชั้น...นึกออกแค่นี้จริงๆ


CONs


- สี!! ตอนซื้อไม่คิดอะไรเลยค่ะ เพราะคิสชอบสีเหลืองอยู่แล้ว เห็นสีเหลืองแล้วรู้สึกอารมณ์ดี๊ดี พอใช้บีบใส่สำลี ป๊าบบบบบ เฮ้ย คุ้นวะ เหมือนตอนเช็ดห้องให้ลูกชายมาก ขาดแค่กลิ่นค่ะ ชิโน่กลิ่นพลานุภาพทำลายล้างข้ามห้องข้ามชั้นมาก อันนี้กลิ่นหอมสบายจมูก soothing สุดๆ แต่สีมันแบบ....ใครใช้แรกๆคิสว่าต้องมีทำใจกันแน่ๆค่ะ


- แพคเกจ จริงๆนี่เป็นของเสียและข้อดีของ Mario ทุกรุ่นเลย เค้าทำแพคเกจออกมาได้สมราคามากๆ เพราะจริงๆมันเป็นยี่ห้อของดีราคาถูก ดีไซน์ขวดเค้าก็เป็นขวดพลาสติกที่บีบใช้งานง่าย แต่ฝาจะต้องใช้นิ้วดันฟลิปใหัขึ้นแล้วค่อยเท ซึ่งกะระยะเล็บกับหัวเปิดดีก็แล้วไป กะไม่ดี นิ้วไปโดนคือมันสกปรกอะ ใครมีจะเกทค่ะ เดี๋ยวหารูปมาแปะให้ดูว่ายังไง คิสว่าหลายคนอาจจะชอบ แต่คิสไม่ชอบค่ะ มันสกปรก


- มีแอลกอฮอล์ แต่...ข้อนี้คิสไม่ค่อยซีเรียสเลย เพราะจริงๆ คิสต้องการให้โทนเนอร์ที่ใช้ assorted หลายๆแบบทั้งมีและไม่มีแอลกอฮอล์ เพราะบางวันผิวหน้าเราสกปรกมาก และมีคราบที่เป็นแบคทีเรีย การใช้แอลกอฮอล์อ่อนๆก็พอให้อุ่นใจได้ว่าผิวหน้าเราสะอาดหมดจดจริงๆ คิสไม่ใช่พวก alcohol phobia ค่ะ เห็นบางคนกลัวกันเหลือเกิน เหมือนเห็นคำว่าแอลกอฮอล์ไม่ได้เลย เห็นแล้วแปลว่าไม่ดีไปซะหมด จริงๆมันไม่ใช่อะค่ะ


ตายละ ข้อเสียยาวมาก แต่คิสก็ยังซื้อ Mario Badescu เสมอค่ะ ในกรุก็มีรอสแตนบาย แค่ยังไม่เปิดใช้งาน

Ingredient Lists

Aqua (Water, Eau), Isopropyl Alcohol, Propylene Glycol, Cucumis Sativus (Cucumber) Fruit Extract, Polysorbate 20, Parfum (Fragrance), Sodium Chloride, CI 19140 (Yellow 5), CI 42090 (Blue 1), CI 15985 (Yellow 6)

มาถึงการ Introduction ถึงนางเอกคนใหม่ของคิสค่ะ ตัวนี้คิสได้รับมาจากกิจกรรม Jeban x Naos ที่ให้สาวๆทุกคนได้มาทำความรู้จักไลน์สินค้า HydraBio


รวมถึงการเปิดตัวแบรนด์ลูกในเครือ Naos ใหม่นั่นคือ Institute Esterderm (ตอนนี้ก็เป็นลูกรักคิสอีกเหมือนกัน แต่คิสค่อยๆใช้ทีละตัวเลยยังไม่สามารถนำมารีวิวได้แบบทันทีทันใดจริงๆ)


ตัวนี้คิสเชื่อสาวๆบ้านจีบันหลายคนได้เห็นผ่านหูผ่านตาจากโพสต่างๆของสาวๆหลายคนมากันแล้วว่า Toner ตัวนี้เป็น 1 ใน Collection ของ HydraBio


ซึ่งทั้ง 3 ตัวคิสก็ไม่รู้จะเลือกเชียร์ตัวไหนก่อนดี เพราะต้องบอกว่าจุดเด่นของเรื่องสิทธิบัตรที่ทางสถาบัน Bioderma by Naos ที่คิดค้นขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาของคนที่เจอปัญหา "ผิวขาดน้ำ" ได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด


คิสขอไม่ใช้คำว่า "ผิวแห้ง" มานิยาม "ผิวขาดน้ำ" นะคะ เพราะ "ผิวขาดน้ำ" เกิดขึ้นได้กับทุกๆคน ยิ่งกับผู้หญิงไทยที่อยู่ประเทศที่มีสภาวะอากาศร้อนจัด* และมลภาวะ ที่ทำให้ท่อส่งน้ำหล่อเลี้ยงผิวทำงานได้ไม่ดีเต็มที่


*ปัญหาของผิวที่มีน้ำหล่อเลี้ยงผิวปกติ เกิดขึ้นได้หมดในสภาวะอากาศที่เพี้ยนรุนแรง ไม่ว่าจะร้อนผิดปกติ หนาวเย็นผิดปกติ ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้ที่พัฒนาโดยสถาบันผิวหนังยุโรป ก็เหมาะกับปัญหาของคนที่อยู่ในภาวะ humid ด้วยเช่นกัน


ซึ่งไลน์ HydraBio ของ Bioderma ตัวนี้ จะทำงานด้วยหลักการที่ใช้สารสกัดจากเมล็ดแอปเปิ้ลและวิตามินบี 3 ซึ่งเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของแบรนด์ เข้ามากระตุ้นระบบการเปิดท่อส่งน้ำหล่อเลี้ยงผิว ปรับสมดุลให้ผิวไม่แห้งและก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมาในรูปแบบต่างๆ ทั้งผิวไม่แข็งแรง แพ้ง่าย เกิดริ้วรอยก่อนวัย ฯลฯ


(ในจินตนาการว่าผิวเราเหมือนผิวหน้าดิน น้ำที่อยู่ชั้นใต้ดินมีอยู่ค่ะ แต่โดนบล๊อคทางอยู่ นวัตกรรมของ Bioderma ตัวนี้คือเข้ามา boost up ให้ฐานดินและชั้นดินทำงานรับน้ำที่อยู่ใต้ดินขึ้นไปฟื้นฟูให้ผิวมีน้ำหล่อเลี้ยงตามธรรมชาติ ให้ชั้นผิวสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นจากการบำรุงผิวได้เหมือนเวลามีฝนตกแล้วดินสามารถอุ้มน้ำเก็บเอาไว้ได้ ไม่ระเหยหายไปจนแตกเป็นทุ่งกุลาร้องไห้ และให้ผิวแข็งแรงขึ้นด้วยการกระตุ้นให้ผิวมีเซราไมด์ตามธรรมชาติได้เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง)


ในไลน์เค้ามีตัว Micellar Water(คิสเปิดใช้แล้ว แต่ยังไม่ได้นำมารีวิว) และตัวซีรั่มที่คิสยังไม่ได้เปิดใช้ ถ้าคิสได้เปิดใช้งานครบทั้ง 3 ตัวแล้วจะกลับมารีวิวอีกครั้งนะคะ


ไหนๆก็หยิบตัวนี้มาพูด คิสขอพูดถึงความพิเศษของ Tonique ของตัวนี้หน่อยค่ะว่าทำไมถึงอยากนำเสนอเป็นตัวแรกเลย แทนที่จะเป็นซีรั่มตัวขายดีของเค้า หรือไมเซลล่าที่คิสเชื่อว่าสาวๆทุกคนเคยใช้ของ Bioderma มากันหมดแล้ว

Ingredient List

AQUA/WATER/EAU, GLYCERIN, POLYSORBATE 20, MANNITOL, XYLITOL, RHAMNOSE, FRUCTOOLIGOSACCHARIDES, NIACINAMIDE, ALLANTOIN, PYRUS MALUS (APPLE) FRUIT EXTRACT, HEXYLDECANOL, DISODIUM EDTA, SODIUM HYDROXIDE, CITRIC ACID, CETRIMONIUM BROMIDE, FRAGRANCE (PARFUM). [BI 532]

ตัวนี้คิสใช้งานไปได้แค่ 2 ครั้งนะคะ แต่ขอพูดในแบบ Preview ถึงความพิเศษของตัวนี้จากข้อมูลที่ได้รับมาจากในงานอีเวนท์ค่ะ


- ไม่มีแอลกอฮอล์ และอ่อนโยนต่อผิวจนใช้ได้ทุกวันและตลอดวัน


- มีสาร Niacinamide ซึ่งเป็นกลุ่มวิตามินบี ที่คิสกำลังคลั่งไคล้อยู่ในเรื่องการดูแลผิว หลังจากรู้ว่าตัวเองมีเม็ดสีผิวกระจายตัวฝังอยู่ใต้ผิวหนังจำนวนมาก (มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น) ซึ่งต้องบอกว่าไนซิอาไมด์แทบจะเป็นตัวสารพัดประโยชน์ที่คิสกำลังต้องการและมองหาในเวลานี้


- มีสาร Allantoin ที่ช่วยบรรเทาอาการผิวที่โดนอากาศและมลภาวะทำร้ายผิว


- อ่อนโยนจนเอามาใช้ Mask ตาได้ด้วย แบ่งใส่ขวดไว้แช่เย็นแล้วนับมาแปะตานอนพักเพื่อให้บรรเทาความเหนื่อยล้าของบริเวณใต้ตาได้โดยไม่ทำให้แห้งหรือระคายเคือง อเมิซิ่งเกินไปแล้วนะแม่


- ด้วยความที่มีสารประกอบของการเติมน้ำให้ผิว, ปกป้องผิวและบรรเทาอาการระคายเคืองของผิวจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ตัวนี้เอามาใช้ใส่ขวดสเปรย์และฉีดระหว่างวันได้เป็นอย่างดีค่ะ คอนเฟริมความ miracle ของนาง


สำหรับคิสแล้วตัวนี้พิเศษมากจนคิสเปิดใช้ก่อนเพื่อนเลย และจะซื้อต่อแน่นอน เพราะคุณสมบัติต่างๆครบเครื่อง อวทม.มากๆ ไม่มีเหตุผลไหนที่จะไม่ซื้อต่อค่ะ เริ่ดจริงๆ


(250 ml, 890 thb Made in France)


ทิ้งภาพไปด้วย ไอเท็มที่คิสหลงรักสุดๆจากงานเดียวกัน งานนี้ Naos ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ Institue Esterderm (aka IE อินสติตูว์ เอสเธอเดริม์) ซึ่งคิสก็ได้ร่วมเล่นเกมส์กิจกรรมและเอาแต้มไปแลกสเปรย์น้ำแร่จนหมดหน้าตัก


ตอนแลกไม่คิดอะไรเลยค่ะ คิดแต่ว่าตัวเองใช้เปลืองมากๆ พกติดตัวอยู่แล้วเพราะมีปัญหาผิวแดง แพ้แดดด้วย ยังไงก็ต้องซื้อ แต่พอใช้แล้วกริ๊ดแตกมากๆ ตัวนี้ดีที่สุดเท่าที่คิสเคยใช้สเปรย์น้ำแร่มาเลยค่ะ คือดีแบบ significant ต้องซื้อต่อแน่นอน อันนี้คือคิสเจอใครแนะนำหมดเลยว่าให้ไปหาซื้อกันตามลำบาก


จนตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเปิดเคาทเตอร์เมื่อไหร่ยังไงที่ไหนเมื่อไหร่ ตอนนี้ต้องสั่งกันเอาเองจากในเวบ official marketplace ก็ลองเซริชหากันดูนะคะ คอนเฟริมว่าลืมทุกยี่ห้อที่เคยใช้ค่ะ ใครชอบสายนี้ต้องลองจริงๆ ไม่ผิดหวังค่ะ มีแต่จะกลุ้มใจว่ามันมีไซส์ใหญ่มั๊ย คิสใช้เปลืองมากกกก


ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆทุกคนนะคะ หวังว่าจะได้ทางเลือกใหม่สำหรับโทนเนอร์และตัวช่วยสำหรับผิวขาดน้ำด้วยค่ะ ขอบคุณสาวๆที่ติดตามคิสมาเสมอนะคะ เอ๊าาาาา กราบบบบบ


^^


King of Eugenie

King of Eugenie

คิสรู้คุณรู้โลกรู้ ของดีโลกต้องรู้ :)

Line ID: kingofeugenie
FB: fb.me/911beaute

FULL PROFILE