[Review] ตีแผ่เบส JSM ยกตระกูล ตัวไหนต้องมี ตัวไหนไปพักก่อน

60 14

สวัสดีค่าาาาา 


วันนี้คิสจะมาระเบิดระเบ้อรีวิว JSM Make Up Base ให้คลายทุกข์ข้อสงสัย เพราะมันชักจะออกมาเยอะเกินไปละแม่


ก่อนหน้านี้ JSM ออกมา 5 สูตร คิสมาตั้งคำถาม รวมถึงไปถามในไลน์สแกรวร์ก็ไม่เคยได้รับคำตอบเลย ซึ่งก็เข้าใจอยู่ ใครจะมีเบสถึง 5 หลอดในคนๆเดียว หรือแม้แต่ลองก็ตาม มันก็ตอบลำบาก ตอนนี้ออกมาเพิ่มอีก 2+1 ตัว กลายเป็นเบส 8 ตัว!!


ออกตัวนะคะว่ารีวิวนี้ ถึงคิสไม่ได้ลองกับหน้าทุกตัว และคิสก็ไม่รู้ว่าคิสจะซื้อเบสไปได้ยังไง 8 สูตร คิสไม่สามารถค่ะ นอกจากคิสจะไปอันยองงงงป้าจองว่าคิสขอมาใช้เป็นวิทยาทาน อันนั้นคงพอจะมีสิทธิ์ได้ละเลงบนหน้าทุกสูตร ซึ่งคิสก็มีโอกาสได้สวอชจากการเข้า workshop กับทางแบรนด์ก่อนหน้านี้อย่างสาแก่ใจ และสวอช "นับครั้งไม่ถ้วน" ทุกครั้งที่มีโอกาสแวะ JSM


ย้ำ คิสสวอชเบส JSM บ่อยมากๆ มากพอคิสมั่นใจว่า BA ทุกสาขาต้องมีสักคนจำหน้าคิสได้ เพราะฉะนั้นรีวิวนี้คิสขอความกรุณานะคะ รีวิวนี้ทำจากการสวอชซ้ำๆ และการใช้งานจริงทั้งหมด 3 สูตรบนหน้าตัวเอง ครอบครองเอง 2 สูตร หากมันไม่ยังไม่พอ และยังไม่น่าเชื่อถือสำหรับใคร รบกวนกดปุ่มขวาบนได้เลยค่ะ ที่อุตสาหะทำ เพราะตัวเองหาข้อมูลเองก็หาไม่ได้ เลยตั้งใจเขียนไว้ให้คนอื่นที่เจอปัญหาเดียวกัน และที่ทำนี้ ไม่ได้อะไรจากใคร ไม่ว่าแบรนด์หรือผู้ไหนทั้งสิ้น คิสโดนบั่นทอนจิตใจกับการรีวิวบนเพจตัวเองมาพอแล้ว มาโพสตรงนี้ เพราะเสียดายเวลา+ความตั้งใจตัวเองล้วนๆ อยากให้คนเจอปัญหาเดียวกันได้อ่าน ขอบคุณมากค่ะ


คิสไม่ได้เรียงลำดับตามแบรนด์ว่า debut ตัวไหนก่อน แต่แยกกลุ่มจากเนื้อเป็นหลัก เอาแต่ใจตั้งแต่เริ่มต้นเลยทีเดียว

กลุ่ม 3 ตัวแรก เบสกลุ่มเนื้อเบา ไม่มี coverage ไม่ปกปิด ใช้ได้ทุกสภาพผิว สภาพสุขภาพกาย สุขภาพจิต LGBT เหมาะกับไว้ Combine ตัวอื่นเป็นหลักค่ะ

1. Water Sun Base SPF50* (ขีดเหลือง/ ตัวใหม่)


- เบสเนื้อเจลแทบจะ transparent ใครที่เกลียดการทากันแดดต้องเข้าแล้วค่ะ ตัวนี้ไม่รู้สึกว่าตัวเองทากันแดด หรือมัน...ไม่ใช่กันแดด สับสนมากแม่


- เนื้อเบาเจลแทบจะเป็นน้ำ ไม่มีสี แต่กลับรู้สึก hydrate ผิวได้ไงไม่รู้


- ตัวนี้คิสสงสัยในเนื้อมากที่สุดในเบสทั้ง 7+1 ตัวเพราะเบาสุด เลยขอ BA ดูกล่องและดูส่วนผสม ไม่มีแอลกอฮอล์นะคะ อยากรู้เพื่อเอามาบอกต่อโดยเฉพาะ เสี่ยงโดนกระทืบทั้งอำเภอเพราะจีบันแกงค์เดียวเลยรู้ยัง


Remark: ถ้าใช้ JSM Mool Cream แนะนำให้ลงก่อน Mool Cream เพราะเป็น water base และมี Hya ผสมด้วย


2. Smoohting Base (ขีดฟ้าอ่อน)


- ตัวนี้นับเป็นตัวที่ BA เกือบทุกๆคนที่คิสได้คุยด้วยจะแนะนำคิสกันหมดเลย เพราะคิสมีปัญหาเรื่อง prone skin อย่างชัดเจน เพราะตัวนี้เป็นตัว fundamental ของการแต่งหน้าของ JSM ที่เน้นให้ผิวดูสวยก่อนจะแต่งหน้าเหมือนแคนวาสที่ดีก่อน แล้วเดี๋ยวภาพมันสวยเอง


- ตัวนี้ช่วยอำพรางรูขุมขน แต่ไม่ใช่การที่ใช้สารไปกระชับซึ่งทำร้ายผิวและหลอกให้ผิวดูดีขั่วคราว แต่ให้ Hya เข้าไปเติมร่องผิว เนื้อเบา เบาจนทาไปงงไป ทาไปถึงไหนแล้ว เพราะมัน transparent อีกแล้ว ไม่ออกสีเลยค่ะ


Remark: ตัวนี้เหมาะกับการ combine การแต่งหน้าเท่านั้น ไม่งั้นทาไปก็เหมือนน้ำเปล่า เหมือนความรักค่ะ มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้เมื่อมันหายไป ปรัชญาขีวิตก็มา



3. Glowing Base (ขีดชมพูอ่อน)


- ก่อนอื่นเลยมันขีดชมพู แต่อย่าเพิ่งหลอนว่ามันเป็นเบสชมพูนะคะ คิสว่ามันเป็น Glow Base ที่มีเนื้อวาวน๊อยยยยมาก คือถ้าเทียบกับ Glowing Base/ Shimmer Base อื่นๆที่ใช้มา คิสว่ายังเทียบกันไม่ได้ เพราะตัวนี้ไม่ได้ดีไซน์ออกมาให้หน้าออกมามีวิ๊งแบบนั้น(แต่ถ้าใครรู้สึกไม่เหมือนกัน แชร์กับคิสที) ฟินิชที่ได้คือผิวมีมิติมากขึ้น ผิวใสๆ ส่วนเนื้อสี พิคเม้นท์มันแทบจะไม่ออกด้วย เนื้อสีที่บีบออกมา ไปทางแชมเปญที่น่าจะ blendable ไปกับทุกสีผิว


- ตัวนี้คิสเองเคยกลัวตอนที่ไป workshop เพราะใช้ Mool Cream ลงไปแล้วมันฉ่ำมากกกกกกกกกก ฉ่ำแบบหน้าปลิ้นไปถึงเมืองแทกูเลยทีเดียว แต่พอมาลองเนื้อแบบนี้ มันไม่ได้ฉ่ำเมือกนะคะ ใครที่กลัวความเมือกอันนี้ไม่ใช่ค่ะ


Remark: เหมือนข้อ 2 ถ้าเงินเหลือๆ ก็ใช้คนละส่วนของใบหน้าค่ะ อารมณ์ผู้หญิงเราจะมี 2 กระเพาะ อาหารคาวหวานเราไม่รวมกัน


จบไปทำสำหรับเฟสแรกนะคะที่เป็นกลุ่มที่คิสว่ามันเน้นการ Combine ซะมากกว่า แต่ไม่ได้ Corrector ผิว มาที่ 3 ตัวถัดไปที่มีคุณสมบัติของการปรับสภาพสีผิวค่ะ กายพร้อม ใจพร้อม เราทำได้ กระทิงแดงอยู่ไหนคะ ขอเลย

4. Tone Correcting Base SPF50* (ขีดเขียว/ ตัวใหม่)


- เบสเขียวจ้าาาา เบสเขียว ไบแอสแรงมาก คิสมีเบสเขียวในชีวิตมาราวๆ 10 ยี่ห้อได้ คือตัวไหนว่าดี คิสซื้อหมดอะ givenchy, makeup forever, red earth, smashbox, laneige, sulwhasoo etc. มีมาหมดแล้วค่ะทุกท่าน เพราะโรคผิวหนังประจำตัวคือโรซาเชีย เบสเขียวเอามาตัดผิวแดงได้ดีเริ่ดที่สุด ตัวนี้มีส่วนผสมของ Cica หรือใบบัวบกเพื่อปลอบใจลูบหน้าลูบหลังให้เราคลายกังวลไปด้วย


- ถามว่าจากการใช้งานส่วนตัวว่ายังไม่รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างเบสเขียวของ JSM กับเบสเขียวอื่นๆที่เคยใช้มา เว้นในเรื่องของโทนสีที่ไปทางเบสเขียวของสายเกาหลี ที่จะมีพิคเม้นท์ที่ไปปรับสีของโทนผิวเดิมให้สว่างขึ้นมากกว่าเบสของแบรนด์ยุโรป ซึ่งใครเคยใช้มาก่อนคงรู้ว่าแบรนด์ไฮเอนท์ของยุโรปบางทีแทบจะไม่ได้ลดความแดงคงไปเลย ทำเอาเจ็บใจเล็กๆเหมือนโดนสับขาหลอกที่เซิ่นเจิ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคิสว่าเป็นสไตล์ของการแต่งหน้าด้วย อันนี้ระบุไว้เพื่อให้ใครที่ริอาจจะใช้เบสเขียวทั้งๆที่ไม่ได้มีปัญหาผิวที่แดง ไม่ว่าจากพิคเม้นท์ผิวผิดปกติหรือรอยแดงจากสิว เบสตัวนี้จะไปปรับสีผิวเดิมของคุณให้สว่างขึ้น หรือแม้แต่รองพื้น ถ้าใครใช้แล้วลงผิวพอดีก็ยินดีด้วย ใครวอกล่องลอยเป็นผีแคสเปอร์ก็ปรับระดับ tuning กันเอาเองนะฮะ อันนี้อิชั้นก็ขอยกให้เป็นภาระของคุณฐาปนีย์ ไปเลย คุณแยมคะ คุณแยมต้องเข้าแล้วค่ะ


remark: ในเบสทั้งหมดของ JSM คิสว่าตัวที่มีเนื้อสีชัดเจนเห็นจะมีแค่ตัวเบสเขียวและเบสสูตรของคุณผู้ชายไปเลย วิธีการใช้งานที่คิสแนะนำมากที่สุดเลยเป็นการผสมกับรองพื้นหรือเบสอื่นๆที่ใช้อยู่ก่อนลง เพื่อให้เบลนด์ง่ายขึ้น ไม่เป็นด่างดวงเหมือนมีเชื้อราขึ้นบนหน้านะคะทุกคน(เม็ดสีเขียวของ JSM ถือว่าไม่ต่างกับแบรนด์เอเชียอื่นๆค่ะ เบสเขียวแพงแค่ไหนก็จะประมาณนี้ละ เดี๋ยวคนอ่านแล้วจะกลัวกัน 55)

5. Tone-up Sun Case SPF50* (ขีดสีพีช) 

Highly Recommended!!


- ม้ามืดเลยค่ะตัวนี้ คิสไม่คิดว่าจะชอบตัวนี้เลยให้ตายสิ ด้วยไบแอสที่เนื้อเป็นสีพีชแอมชมพู บีบออกมาก็ผะอีดผะอมจะค่อนไปทางชมพูมากกว่าด้วย หลอนมากแม่


- ตัวนี้ปาดออกมาเม็ดสีก็ออกชัดในระดับนึง(ไม่ถึงกับเบสเขียว แต่คือคือว่าไม่ได้โปร่งแสง) แต่ blendable มากๆ เกลี่ยง่าย มือใหม่หัดใช้เบสก็ใช้งานได้สบาย อย่างที่บอกว่าไม่ถึงกับ transparent คือเห็นได้ว่าสีผิวสว่างใสขึ้น ผิวไบรท์ขึ้น ผิวเหมือนติดหลอด led มันไบรท์ ใสๆ ผิวดูเฟรชตลอดวัน และรู้สึกสบายผิวมากๆ รู้สึกว่าผิว hydrated ในระดับที่กำลังดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป ผิวมีมิติ คือมองหน้าตัวเองแล้วชอบมาก มีครบทุกสิ่งเหมือนเมอรี่คิงค์ กริ๊ดแตกค่ะ


Remark: ถ้าคิสไม่ได้มีปัญหาผิวแดง คิสคงจะเลือกสูตรนี้เป็นหลอดแรกแน่ๆ เพราะเหมือนผนึกกำลังระหว่าง Water Sun + Smoothing + Glowing Base มาไว้ในหลอดเดียวกัน คือกันแดดก็มี ผิวเนียนสม่ำเสมอและดูมีมิติด้วย เพิ่มเติมคือผิวดูสว่างใสแบบไม่มีสาเหตุเหมือนผิวกุศลแรงแนวๆ JSM Mool Cream/ ใครที่มีปัญหาผิวแดง หรือกลัวว่าหน้าจะอมเทาจากเบสชมพูที่ไม่ได้เข้ากับสีผิวคล้ำๆของคนไทย คิสแนะนำว่าให้ผสมกับเบสตัวอื่นๆหรือรองพื้นที่ใช้อยู่ก่อนลงค่ะ หรือลงแบบเลเยอร์ก็ได้ แต่จะใช้เวลานิดนึง


ที่จริง Base ของ JSM ทุกๆตัวจะมี Hya อยู่แล้ว มากน้อยคิสไม่รู้ รู้แต่ว่าเป็นสารบำรุงเบสิคของแบรนด์นี้ ถ้าใครยังคิดไม่ออกบอกไม่ถูก ไม่รู้จะเลือกใครดี ก็แนะนำสูตรนี้ก่อนค่ะ


6. Tone Balancing Base SPF50* (ขีดเบจ)


- ตัวนี้คิสอยากจะ rename มันเป็น Tinted Moisturizer มากๆ เพราะมันก็คือ Tinted Moisturizer เลยละที่รัก ไม่เชิง CC cream นะ


- คิสเชื่อว่าถ้าใครไปลองสวอชที่หน้าเคาทเตอร์จะบอกว่า ถ้าต้องเลือกเบส 1 หลอด ควรจะเป็นหลอดนี้สิ เพราะทาแล้วสวยเลย คือเป็นทางลัดจบในหลอดเดียว บนๆล่างๆซ้ายขวา สวยเลย ใช่ค่ะ แต่เพราะคิสมองว่าถ้าใช้งานแบบ foundation แบบลัดจบไม่ต้องลงต่อ คิสคงเลือกตัวนี้ แต่เพราะคิสยังติดการลงเมคอัพตัวอื่นๆอยู่ คุณสมบัติของเบส ที่ไว้ปรับสภาพผิว คิสเลยชอบตัว Tone up sun มากกว่า


- แล้ว Tone Balancing เหมาะกับใคร?? เหมาะกับคนที่ทาแล้วอยากลงแป้งฝุ่นแล้วสวยเลย ได้ลุคแบบงานผิว no makeup makeup ปกปิดแบบ light coverage (อยากจะใช้น้อยกว่านั้นหน่อยๆ แต่ก็ถือว่า light) 


- เนื้อโทนสี neutral มาก ไม่ฝักไฝ่ฝ่ายใด ไม่ต้องห่วงถ้าซื้อเป็นไปของฝากบัดดี้ ของขวัญคริสตมาส ใช้งานได้ทุกสีผิว สีค่อนข้าง blend/build ง่าย แต่!! กลับไม่เหมาะเลยในการ Build ด้วย foundation ประเภทอื่นๆ เช่น ลงแล้วตามด้วยคูชั่น, แป้งผสมรองพื้น


Remark: กลัวคนอ่านสับสนว่าตัวไหนกันแน่ที่ highly recommended คิสยกให้ Tone-up Sun เพราะเหตุผลที่คิสเองยังใช้อย่างอื่นในการแต่งหน้าร่วมด้วย นิยามของ "make up base" คิสเลยยกให้ Tone up Sun เป็นทางเลือกที่ foolproof ค่ะ

เอาละเว้ยยยยยยย เหลืออีก 2 ตัวแล้ววววววววว แป้นพิมพ์จะหลุดแล้วจะแม่


((ในรูปคิสต้องเอาตัว Tone up Balancing มาเทียบกับสูตรหลอดดำนะคะ เพราะตาจะเป็นต้อแล้วค่ะ พยายามเก็บเนื้อสติ ท่องคาถาชินบัญชร เพราะมันต้องใช้สมาธิพอสมควรว่าเรารู้สึกยังไง))


7. Tone Manner Base SPF30* (หลอดดำ)


- หน้าตาผีผิดจากเพื่อนสุด ฝากใครซื้อแล้วหยิบผิดนี่ไม่่ต้องไปสอบใบขับขี่แล้วนะคะ ตายแน่นอน ฝากฝังชีวิตไว้ไม่ได้แน่ๆ


- คิสคงรีวิวตัวนี้สั้นมากๆ เพราะตอนแรกคิสอยากได้ตัวนี้ที่สุดเลย มันเป็น Tinted Moisturizer คล้ายๆกับ Tone up Balancing แต่ดูน่าเชื่อถือมากกว่า แถมมีคำว่า Manner ใช้แล้วมารยาทอาจจะดีขึ้น(เกี่ยวมั๊ยบักคิส?? ตอบตัวเองในใจพอ) ความจริงคือตัวนี้ไม่ได้เกี่ยวว่ามีส่วนผสมใดๆหรือฮอร์โมนเพศที่เข้ากับผู้ชายเท่านั้นแต่อย่างใด เบสตัวนี้หลอดดำเพราะเป็นเรื่องของ packaging ล้วนๆที่ทำให้ impulse ให้ผู้ชายรู้สึกไม่เคอะเขินเวลาเดินเข้าไปซื้อ แต่ผู้หญิงใช้งานได้(ยิ่งบนผิว NC20-35 range นี้ใช้งานได้หมด)


Remark: หลักๆคือพิคเม้นท์จะออกเหลืองและเข้มกว่า Tone up Balancing และมี coverage ที่มากกว่า และฟินิชที่แมทกว่าด้วย คิสเลยขอแนะนำเหมือนกัน ถ้าจะใช้ตัวเดียวแล้วจบ จะทาแป้งฝุ่นหรือไม่ลงต่อไม่รู้ละ แต่จะลงเท่านี้ ชั้นรีบ ชั้นตื่นสาย ชั้นต้องรีบไปทำธุรเวรธุรกรรม ชีวิตชั้นวุ่นวาย เอาตัวนี้ไปเลยค่ะแม่ หลอดดำคือคำตอบค่ะ


8. Tone up Sun SPF50* Cushion (คูชั่นตัวใหม่+ รีฟิล)


- ตัวนี้ง่ายๆคือตัว Tone up Sun ข้อ 5 แต่มาอยู่ในรูปแบบคูชั่นแทน


- ถามว่าต่างกันมั๊ย คิสยอมรับว่าด้วย Applicator ของเนื้อคูชั่นที่เวลากดมาใช้งานปริมาณที่ติดพัฟมันจะน้อยกว่า ทำให้การลง layer ผิวมันจะไม่เป็นก้อนๆ หรือว่าง่ายๆคือมัน practical กว่ามากๆ ถ้าบีบเบสหลอดกับหลังมือแล้วเกลี่ย กับเอาคูชั่นมากด ตัวคูชั่นทำให้ฟินิชของผิวดูเรียบร้อยกว่าแบบรวดเร็วมากๆ ปาดๆๆๆๆ จบเลย เร็วมากค่ะ


- คิสแนะนำสูตร cushion เหมาะมากๆสำหรับคนที่ใช้ cushion คู่กับการแต่งหน้าอยู่แล้ว เพราะ layer ที่ได้มันดีกว่า บางกว่า ได้งานผิวที่เร็วกว่า ถ้ารีบคือคิสว่าไม่เกิน 5 นาที ออกจากบ้านได้แล้ว


Remark: อย่างที่บอกไว้ข้างบนว่าตัวนี้มันเหมาะกับการใช้แต่งหน้าร่วมกับ foundation ประเภทอื่นๆด้วย อาจจะเป็นแป้งผสมรองพื้น หรือ Tinted Moisturizer/ CC cream/ Foundation อื่นๆร่วมด้วย ถ้าใครทีต้องการ coverage ต้องข้ามไปค่ะ ตัวนี้ไม่ใช่คำตอบค่ะ


ชอบปรัชญาแบรนด์นี้มาก "เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด เซื่อก่อนสิว่าเจ้านั่นงามหลาย เดี๋ยวป๊าดดดมันสิงามเอ๊งงง"


สำหรับใครที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แล้วรู้สึก...ว่างเปล่าเหมือนตอนเดินเข้าห้องสอบไฟนอล...คิสขอ breakdown ง่ายๆ


1. คนที่อยากมีหลอดเดียวแล้วจบ


1.1 ผิวธรรมดา, ผิวแห้ง, ผิวผสม Tone Up balancing
1.2 ผิวมัน, ผิวมีปัญหาสิว Manner


2. คนที่อยากมีเบสหลอดเดียว และแต่งหน้าตามขั้นตอนปรกติ


2.1.ผิวทั่วไป Tone up Sun, Tone up Sun Cushion
2.2 ผิวมีปัญหารอยแดง Tone Correcting


3. สายเปย์ เสียเงินชั้นไม่ว่า แต่ขอให้สวยพร้อม combine เหมือนโจมาโลนก็พอ


3.1 ผิวแห้ง Glowing Base + Water Sun
3.2 ผิวมัน Smoothing Base + Water Sun
3.3 ผิวผสม Glowing Base + Smoothing Base พร้อมทากันแดด**


**Glowing + Smoothing + Water Sun Base รวมกันออกมาก็จะไม่ได้ให้ฟินิชเหมือน Tone up Sun แต่จะดูเป็น transparent ไปเลยแค่บาลานซ์ผิวแต่ละส่วนให้ดูฉ่ำน้ำและดูเป็นผิวที่ฟูสวย งงมั๊ยหนอ คือเบส 3 ตัวแรกทารวมกัน คุณสมบัติคล้ายๆ Tone up Sun แต่ก็ยังไม่ได้มีการ Tone up ผิวค่ะ มันจะดูโปร่งแสง แค่ผิวหน้าเรียบเนียน และกระจ่างใส มีมิติในจุดที่ทาแต่ไม่ปรับสภาพสีผิว


*SPF ของ JSM ทุกตัว SPF+/PA+++ ทั้งหมดนะคะ


((ราคาทุกสูตร 40 ml ราคา 1,100 thb, cushion 14*2 g. 1,500 thb))

ตอนแรกว่าจะเขียนถึง JSM Mool Cream ต่อด้วย แต่กลับตัวก็ไม่ได้ ให้ไปต่อไปก็ไปไม่ไหว 55555555555555555555555 แป้นจะหลุดและตาก็จะหลุดไปด้วยเหมือนกัน


ความเห็นที่คิสรีวิวเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะคะ หากใครมีความเห็นอื่นๆหรือแม้แต่ BA ใครที่ใช้อยู่อยากจะแนะนำอะไรเพิ่มเติมคิสยินดีเลยค่ะ เพราะอันนี้คิสรีวิวจากจากสวอชนับครั้งไม่ถ้วน ไปสวอชบ่อยมากๆ แต่ถ้ากลุ่มเบสที่คิสใช้กับผิวหน้าจริงๆมีแค่ smoothing, tone correcting, tone up sun base เท่านั้นค่ะ

ขอบคุณเคาทเตอร์ JSM สาขา Siam Center ที่เอื้อเฟื้อสถานที่และไม่จิกคิสที่เทสนานมากด้วยค่าาาา 


King of Eugenie

King of Eugenie

คิสรู้คุณรู้โลกรู้ ของดีโลกต้องรู้ :)

Line ID: kingofeugenie
FB: fb.me/911beaute

FULL PROFILE