เปิดถุงแปรง Hakuhodo แปรงดีมีคุณภาพจากญี่ปุ่น ภาค 2

58 20

สวัสดีครับ Jebanista ทุกคน


 มาแล้วสำหรับกระทู้ เปิดถุงHakuhodo ที่พรีวิวไปจากกระทู้ที่แล้ว
 นี่เป็นการเปิดถุงแปรงครั้งที่ 2 นะครับ 
ส่วนครั้งแรก อยู่ที่ลิงค์นี้ครับ https://www.jeban.com/topic/272061
 
รอบนี้ผมซื้อทั้งหมดจากที่โตเกียวต่างจากรอบที่แล้วที่ซื้อจากเกียวโต 
ซึ่งเอาจริงๆรู้แบบนี้ไปซื้อที่โตเกียวตั้งแต่แรกดีกว่า 
เพราะนอกจากไม่ไกลแล้ว 
ยังสามารถขอ Tax คืนได้ด้วย ปัจจุบันภาษีอยู่ที่ 10%  

โดยสาขาที่เกียวโตเป็น Flagship Store ไม่สามารถขอภาษีคืนได้
 
สาขาที่ผมไปซื้อมาที่โตเกียวมีอยู่สองสาขาซึ่งอยู่ในห้าง
 ทั้งสองสาขาสามารถยื่นขอ Tax  คืนได้ครับ 
สำหรับใครที่ชอบดูชอบฟัง ดูได้ที่คลิปนี้ครับ 
แต่ถ้าชอบอ่านมากกว่า ก็เลื่อนลงมาต่อได้เลยครับ

 ตอนแรกจะไม่ซื้อแล้วครับ เพราะรู้สึกว่าแปรงแต่งหน้าเรามีเยอะแล้ว
...
 ….. 
แต่ด้านมืดในจิตใจมันก็แย้งขึ้นมาว่า 

ด้านมืด: “แบงค์ ไหนๆก็มาญี่ปุ่นแล้วนะ ถ้ากลับไทยแล้วไม่ซื้อ แกจะเสียดายนะ” 

อังเคิลแบงค์: “อืม ก็น่าคิดนะ” 

ด้านดี: “แต่แบงค์ แกซื้อของถล่มทลายตั้งแต่ดิวตี้ฟรีไปแล้วนะ” 

อังเคิลแบงค์: “ เออใช่ ใส้แห้งมากอ่ะ” 

ด้านมืด: “แต่ถ้าแกไม่ไปดู แกจะนอนไม่หลับ จะคิดวกวนซ้ำๆหลอกหลอนไปเรื่อยๆเลยนะ” 

อังเคิลแบงค์: “ก็จริงวะ” 

ด้านดี: “แต่เรื่องเงอะ.....” 

อังเคิลแบงค์: “เรามีบัตร จบนะ” 

สรุปโดนด้านมือครอบคลุมจิตใจไปเรียบร้อย แพ้ราบ 
สาเหตุที่ไปมาสองที่เพราะรอบแรกไปแล้วด้วยกิเลสที่มีหนาเกินต้านของตัวเอง 
ทำให้กลับไปนอนฟุ้งซ่านที่โรงแรมสองสามคืนจนทนไม่ไหว 
ตัดสินใจไปรอบสองที่อีกสาขานึง ให้มันจบๆไป 

 สาขาแรกที่ผมไปคือ 

 สาขา Shibuya Hikarie ShinQs 

ใกล้ๆสถานี Shibuya นั่นแหละครับ 
(จริงๆจะไปสาขาโตคิวเพราะใกล้สถานีที่สุด แต่พอขึ้นไปถึงปุ๊บเค้าปิดปรับปรุงชั้น....) 
พนักงานเลยพยายามอธิบายทางไปสาขา Shibuya Hikarie อย่างเต็มที่
 กราบความน่ารักและความพยายามทำท่าทางภาษามือ 
ให้ผมไปจนถึงของพนง.ในโตคิวด้วยครับ
สาขานี้อยู่ชั้น B1F เป็นเค้าเตอร์ไม่ใหญ่ คนน้อยไม่แออัด แต่แปรงที่มีนั้นไม่ครบ
เรามาเริ่มกันที่ชิ้นแรกเลยครับ

  Eye lash Comb  600 Yen       

ราคาประมาณ 168 บาท
 อันนี้เป็นแปรงปัดขนตาที่หน้าตาดูน่าหวาดเสียวแบบนี้ 
เค้าจะเป็นซี่เหล็กคล้ายตะปู ที่เมืองไทยยังไม่เคยเห็นขายแบบนี้นะครับ 
แต่เหมือนจะฮิตกันที่ญี่ปุ่น ผมว่ามัดูอันตรายถ้าเราปัดไม่ระวัง 
สาเหตุที่ซื้อมาจริงๆคือซื้อมาหวีขนแปรงอีกทีครับ 
 
เวลาใช้งานไปนานๆ จะมีขนยุ่งออกมา หรือเวลาล้างแปรงแล้วขนยุ่ง 
ก็เอาหวีอันนี้มาหวีขนแปรงได้ ด้ามนี้เป็นของที่าคาถูกที่สุดที่ซื้อมาครับ

ด้ามต่อไปคือ

  Small highlight J6070 1,760 Yen (ขนแพะ+Synthetic)   

ประมาณ 492 บาท
หน้าตาเค้าจะประหลาดๆ ฟูๆแต่ตัดเฉียง
 ซึ่งจะสามารถเข้ากับช่วงโหนกแก้มได้ดี เห็นแบบนี้นุ่มมากเลยนะครับ 
แล้วด้วยความฟูของแปรงแบบนี้ จะสามารถทำให้เรากระจายไฮไลท์ออกมาได้ดี เนื่องจากแปรงที่ซื้อรอบที่แล้ว(ที่เป็นทรงพัดโค้งมน)
 มันนุ่มก็จริงนะครับ แต่เวลาใช้กับไฮไลท์หนังปลาทูอย่างของ Becca 
มันจะกระจายสีออกมายังไม่ฟุ้งเท่าที่ควร เพราะขนแน่นกว่า 
พอเจอไฮไลท์ที่ชัดๆ มันเลยจะทำให้หน้าเป็นปื้น

 ด้ามนี้กระจายสีได้ดี ลองแล้วรัก ปลาทูแค่ไหนก็ทาได้สบายๆ 
ปัดหนักปัดเบาได้ 
แต่ข้อเสียมีนิดเดียวเท่านั้นเลยคือ ด้ามมันสั้นไปหน่อย 
คนมือใหญ่อาจจะไม่ถนัดมือ แต่ด้ามสั้นก็จะดีเวลาพกใส่กระเป๋าเวลาเดินทาง 
รอบหน้าอาจจะซื้อขนาดใหญ่กว่านี้มา 

ด้ามต่อมานี้เป็นแปรงลงคอนซีลเลอร์ใต้ตา 
  เบอร์ I6451 2,750 Yen (ขนSynthetic)      
 ราคาประมาณ 770 Baht 
ตอนแรกจะไม่ซื้อแล้วเพราะว่ามีแปรงลงคอนซีลเลอร์ใต้ตาอยู่หลายอันแล้ว 
แต่พอหยิบอันนี้มาดูๆแล้วพนังงานรีบบอกเลยว่า “this one good! for under eye concealer” พร้อมยกนิ้วโป้งจริงจัง 

สรุปคือต้องซื้อใช่ไหม? ถ้าพนง. พูดขนาดนี้แล้ว.... 
ก็เลยสอยมาแบบง่ายๆ บางทีก็รู้สึกว่าโดนป้ายยาง่ายไป 

พอเอามาลองใช้จริงแล้วรู้สึกว่ามันดีอย่างที่เค้าบอกเลยครับ 
เนื่องจากเป็นขนสังเคราะห์ เลยสามารถใช้กับผลิตภัณฑ์เนื้อครีมได้เป็นอย่างดี
 เกลี่ยคอนซีลเลอร์ใต้ตาได้ดี ไม่บาดผิว ไม่ระคายเคือง
 แล้วที่ไม่เหมือนอันอื่นๆที่ผมมีในกรุแปรง คือ แปรงด้ามนี้จะมีความเฉียง
 ซึ่งจะเข้ากับใต้ตาเราได้องศาที่เหมาะสม เลอค่า 

แต่ถามว่าจำเป็นขนาดต้องตำไหม? 
ถ้าคุณมีพวก Real Techniques / Zoeva / Sephora Pro อยู่แล้ว
 พวกนี้ก็ใช้ได้เหมือนกันครับ แต่นี่คือสนองนี๊ทตัวเองล้วนๆ 

ด้ามต่อไปเป็นแปรงคอนทัวร์ครับ 

  I5606 6,050 Yen (ขน Synthetic)     

ราคาประมาณ 1,694 Baht 
พอดีว่าแปรงใช้ครีมคอนทัวร์ที่มีอยู่มันเริ่มบานออก เลยมองหาแปรงใหม่ 
ก็มาเจอเจ้าตัวนี้ครับ มีความแน่นของขนมาก และเป็นขนสังเคราะห์ล้วนๆ 

ด้วยความแน่นแบบนี้เลยจะทำให้การลงคอนทัวร์ หรือการเกลี่ยเนี่ยคมชัดมากขึ้น 
แน่นอนว่าเราคงไม่ต้องการให้คอนทัวร์มันฟุ้งกระจายในวงกว้างมากเกินไป 
ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นการลงบรอนเซอร์แทน 
(ซึ่งถ้าใช้ผลิตภัณฑ์คอนทัวร์ มันจะทำให้หน้าหมองเกินจำเป็น) 

 ด้ามนี้ลองใช้งานจริงๆแล้วก็โอเคครับ แต่ด้วยความที่ขนแน่น 
และเป็นขนสังเคราะห์ที่ค่อนข้างแข็ง เวลาใช้มันจะมีเสียงกร่อบแกร่บ
 แต่เกลี่ยสีได้ดีนะครับ หากเทียบกับราคาผมว่าด้ามนี้แพงเกินจำเป็น
 ตอนนั้นหน้ามืดซื้อมาเฉย.... 

ด้ามต่อมา สปอยตัวเองหน่อย
เพราะยังไม่เคยมีแปรงแป้งที่ทำจากขนกระรอกเทาเลย 
ให้พนักงานแนะนำ เค้าแนะนำด้ามนี้ให้ครับ 

  Powder Brush  B002   (ขน Blue Squirrel)  10,120 Yen    

ราคาประมาณ  2,833 Baht
 เป็นแปรงลงแป้งแบบแบน เหมาะกับการลงแป้งฝุ่น แป้งอัดแข็ง 
หรือเป็นการปัดผลิตภัณฑ์ส่วนเกินออกจากหน้า 

จะบอกว่า...... ขนนุ่มมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก มากแบบเคลิ้ม
 ไม่ทาแป้งแต่เอามาปัดหน้าเฉยๆก็ฟินสุดๆ 
ด้ามนี้นี่แหละเผลอทำหน้าฟินออกมาตอนลองที่ร้านเลย
 ขนกระรอกเทามันนุ่มแบบนี้นี่เองสินะ 
(แต่ก่อนมีแต่แปรงขนาดเล็ก จึงไม่สัมผัสความนุ่มได้อย่างเต็มที่)

 แต่ด้วยความนุ่มมากๆนี้นั้น ก็จะต้องแลกกับการจิกพิ้กเมนท์มาได้ไม่เยอะ
 จึงเหมาะกับการลงแป้งฝุ่นบางๆ ให้ finish ที่ดูบางเบาเป็นธรรมชาติ
ราคาเกือบ3,000 แต่ถ้าเราได้ใช้ทุกวัน และได้ความนุ่มเบอร์นี้ ผมว่าคุ้ม 

ปล. ขนมีร่วงบ้างเล็กน้อย แบบเล็กน้อยจริงๆ แต่ด้วยความhandmade และความนุ่ม เรายอม

ด้ามต่อมาเป็นแปรงคอนทัวร์อีกแล้ว 
ตอนแรกบอกเค้าคิดเงินแล้วครับ
 แต่มันไม่สามารถละสายตาจากมันได้...เลยหยิบมาพร้อมชูนิ้วชี้ตั้งขึ้น 
และพยักหน้าบอกพนักงานว่า “Sorry, this one too ^^’ 

  Blush Brush Maru G6440   

(ขน Blue Squirrel+Goat) 10,780 Yen       

ราคาประมาณ 3,018 Baht 

ด้ามบนนู้นเป็นคอนทัวร์สำหรับเนื้อครีม ด้ามนี้ซื้อมาใช้กับเนื้อฝุ่นบ้าง 
เป็นขนผสมผสานระหว่างขนแพะกับขนกระรอกเทา 
ความนุ่มคือดีงามตามท้องเรื่อง 
และพอผสมขนแพะมาด้วยก็จะช่วยเรื่องการจิกพิ้กเม้นท์สีขึ้นมาอีก 
พอเอามาใช้คอนทัวร์โครงหน้าจริงๆ พบว่าเกลี่ยสีได้ดี 
ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เวลาเกลี่ยบัฟบนผิวมันละมุน 
มันนุ่ม มันฟินนาเล่ 

สาขาShibuya Hikarie สอยมาทั้งหมด 6 ด้ามนี้ครับ... 

และอย่างที่บอกตอนต้นคือกิเลสหนามาก เลยกลับไปใหม่
 แต่ไปที่สาขา Ginza Mitsukoshi ซึ่งตั้งอยู่ที่สถานี Ginza 
อยู่ในห้าง Ginza Mitsukoshi 
 ออกจากสถานีมาก็จะเจอห้ามอยู่แถวไฟแดงเลยครับ หาไม่ยาก 
เคาเตอร์อยู่ชั้น B1 เหมือนกัน สาขานี้บอกเลยครับว่า “ละลานตา” 
ของเยอะมาก เกือบจะเท่าที่เกียวโต และคนก็เยอะเช่นกัน 
คือแน่นเหมือนมารับของแจกฟรีกัน 
ไม่แน่ใจว่าเพราะผมไปช่วงปลายปี คนเลยมาซื้อของขวัญปีใหม่ด้วยรึเปล่า 
แต่ด้วยความที่ใจรัก เราจึงฟันฝ่าอุปสรรคนั้นไป 

สิ่งแรกที่ไปหยิบมาว่าจะเอาคือกระเป๋าใส่แปรงครับ ผมเลือกขนาดนี้มา
ราคา 1,800 เยน (ประมาณ 504 บาท) 
วัสดุจะคล้ายๆหนังสีดำ มีขนาดคละกันใส่แปรงใหญ่แปรงเล็กได้
 แล้วเวลานั้นก็พับ หรือม้วนเก็บครับ
 ซื้อมาเพราะอยากให้ลูกๆ Hakuhodo มีบ้านอยู่อย่างเป็นกิจลักษณะ 

ตอนตรวจของ บอกเลยว่าได้อารมณ์ Hi-end มากครับ 
พนักงานจะใส่ถุงมือ แล้วค่อยๆแกะจากห่อ แล้วเช็คทุกจุดทุกมุม
 แล้วจึงให้เราตรวจเองอีกที ก่อนจะนำใส่ถุงและแพ๊คเก็บอย่างดี 
พิถีพิถันมาก (แต่ราคาคือเป็นมิตรสุด)

 ชิ้นต่อมาที่ซื้อคือแปรงชิ้นนี้ครับ มีคนแนะนำว่าเป็นแปรงที่ควรมี 
เลยไปลองหยิบๆจับๆแล้วก็เลือกมาเป็นด้ามนี้ 

  Retractable Brush J603  

 (ขน Blue Squirrel + Goat)  6,710 Yen   

ราคาประมาณ   1,708 Baht 
เค้ามี3 ขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ อันที่สอยมาเป็นขนาดกลาง ด้ามสีดำ 
ขนผสมระหว่างขนกระรอกเทาและขนแพะ ความนุ่มก็คือฟินสมแบรนด์ 

แต่ที่เลอค่าคือเป็นแปรงสำหรับพกพาได้สะดวก สามารถดึงเก็บใส่ปลอกได้เลย เหมาะกับการใส่กระเป๋าเวลาเดินทาง เอาไว้ลงแป้งเบาๆ ฮาคุโฮโดะชิคๆ

 ลองแล้วชอบเหมือนกันครับ ใครที่เดินทางบ่อยผมแนะนำเลย 
เพราะเราไม่ค่อยจะได้เห็นแปรงลักษณะนี้ที่มีความนุ่มคุณภาพสูงตามท้องตลาดกันซักเท่าไหร่ 

ด้ามต่อมาคือแปรง Blending  

  Blending G5522  

  (ขน Blue Squirrel + Goat)   2,800 Yen   

ราคาประมาณ 784 Baht 


เป็นแปรงเบลนดิ้งขนกระรอกเทาผสมขนแพะที่มีความนุ่มมาก 
เอามาอัพเกรดจากอันเดิมที่ซื้อมาคราวที่แล้ว 
เพื่อความละมุนในการเบลนสีตาให้คุณอั้ม 
ความนุ่มระดับนี้คือ ควรค่าแก่การมีจริงๆครับ 
เป็นแปรงที่ต้องใช้สัมผัสกับจุดที่อ่อนโยนอย่างเปลือกตา 
ต้องเกลี่ยปัดไปมาหลายรอบ ความนุ่มแบบนี้จึงไม่ระคายเคืองหนังตาเลย 
ไม่บาด และไม่ทิ่มตาให้ระคายเคืองด้วย
 พอคิดราคาออกมาแล้วผมว่าคุ้มค่าแก่การซื้อ ไม่แพงเลยจริงๆสำหรับด้ามนี้ 

ด้ามต่อไปคือเริ่มเสียสติแล้ว บอกพนักงานว่าอยากได้แปรงคอนทัวร์แบบเฉียง 
เค้าแนะนำชิ้นนี้มา 

  Angled Brush B512  

 (ขน Blue Squirrel+Goat)   6,200 Yen 

 ราคาประมาณ   1,736 Baht
 เป็นขนผสมระหว่างขนกระรอกเทากับขนแพะอีกเช่นเคย 
เอาไว้ลงคอนทัวร์แบบฝุ่น หรือลงบรอนเซอร์ก็ได้ 
เอามาแทนอันเก่าของ   MAC 168 (ที่จะบาดหน้าเล็กน้อย) 

อันนี้ไม่บาดหน้า ปาดบนหน้าคือละมุนผิวไม่ระคายเคือง
 แต่.... 
เพราะเสียสติไปแล้ว จริงๆแปรงคอนทัวร์ทรงกลมข้างบนนั้นก็มีแล้ว 
จะซื้อด้ามนี้อีกทำไม?????? แต่ก็นั่นแหละครับ 
ดวงน้องจะมาอยู่กับเรา มาอยู่ด้วยกันแล้วอุ่นใจ 

ด้วยความที่สงสัยเรื่องการล้างแปรง 
เลยถามพนักงานว่า
"เรามีสบู่ล้างแปรงของ Beauty Blender จะสามารถนำมาล้างแปรง Hakuhodo ได้รึเปล่า?"
 เค้าบอกว่าน่าจะล้างได้ แต่จะแนะนำสบู่ของ Hakuhodo มากกว่า เพราะมีความอ่อนโยนต่อขนแปรง 

ได้ยินแล้วรู้สึกแว๊บในหัวทันทีว่า “ทำไมง่าวอย่างนี้? เค้าก็ต้องขายของเค้าซี่!!!” 
เลยจัดมา 1 ก้อนครับ

  Soap 1,400 เยน   

 ประมาณ 392 บาท

 ผมเลือกก้อนใหญ่สีใสมา เค้าจะมีก้อนใหญ่และเล็ก และมีสีใสกับสีแดง

 ทางแบรนด์บอกว่าควรล้างแปรงปีละ 1 ครั้ง!!
เพื่อไม่ทำให้ขนสัตว์เสื่อม และด้วยความที่สบู่มีความอ่อนโยน
 จึงจะไม่ทำลายขนแปรง การที่เราใช้น้ำยาล้างที่แรงเกินไปนั้น 
จะเป็นการทำลายคุณสมบัติในการจิกสีของขนแปรง 
ซึ่งก็รวมไปถึงการใช้ ครีมนวดด้วย 
ใครที่ใช้ครีมนวดบำรุงขนแปรงที่ทำจากขนสัตว์เพื่อหวังว่ามันจะนุ่มนั้น
 ผมแนะนำว่าไม่ควรนะครับ 

ส่วนการทำความสะอาดโดยทั่วไปที่ทางแบรนด์แนะนำคือ 
ให้ปาดแปรงกับกระดาษทิชชู่ หรือถ้าเป็นแปรงแป้งขนาดใหญ่ 
ให้เคาะแปรงเบาๆกับอุ้งมือเพื่อเป็นการเคาะผลิตภัณฑ์ที่ติดอยู่ออก 
แล้วปาดแปรงบนกระดาษทิชชู่อีกที เป็นอันเสร็จ 

แน่นอนว่าเราเสียเงินลงทุนซื้อแปรงที่มีคุณภาพสูงและราคาก็สูงแล้วนั้น 
เราจึงต้องดูแลเค้าให้ดี ให้เค้าอยู่กับเรานานๆ
 ผมถือว่าเป็นการลงทุนระยะยาวเลยเพราะแปรงเค้าสามารถใช้ได้นานมากๆ 
แปรงเก่าที่ผมมีไม่มีแปรงด้ามไหนเสียทรงเลย

 สุดท้าย พนักงานแอบใส่กระจกพกมาเป็นของแถม บ
อกว่าเป็น Gift for you น่ารักมากๆเลยครับ 
เป็นครั้งแรกที่ซื้อแปรงจาก Hakuhodo แล้วได้ของแถม 
ขอบคุณพนักงานสาขา Ginza Mitsukoshi จริงๆ

 *********** 
ไหนเอาลูกๆบางส่วนมานอนในบ้านใหม่ซิ
ใครจะไปญี่ปุ่น แล้วตั้งใจจะไปซื้อแปรงHakuhodo   
ผมแนะนำสาขา Ginza Mitsukoshi  จริงๆ 
เพราะนอกจากแปรงจะมีเยอะแล้วนั้น สาขานี้ยังสามารถขอ TAX คืน 
และนอกเหนือจากนั้น!!! 
ยังสามารถสมัครบัตรสมาชิกห้างสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อรับส่วนลดเพิ่ม 5% 
สำหรับสินค้าชิ้นไหนที่ราคาเกิน 5,000 เยน 
มันดีอย่างงี้นี่เอง 
ถ้ารู้แบบนี้แต่แรก ผมจะมาซื้อที่นี่ที่เดียวเลย เดินทางสะดวกด้วย

 หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ และหวังว่าเพื่อนๆจะชอบนะครับ
 ยังไงเจอกันกระทู้หน้านะครับ
 ขอบคุณครับ

xoxo


  Can you bring high fashion by Uncle Bank   


Uncle Bank

Uncle Bank

สวัสดีครับ ผมชื่อแบงค์ Uncle Bank นะครับ
รักการช้อปปิ้ง และรีวิวสินค้า

ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆทุกคนนะครับ

YouTube: Uncle Bank
Instagram : hiunclebank

FULL PROFILE