--- แกะถุงช้อปปิ้งจากนาโกย่ากันค่ะ --- รูปและของเยอะมาก!! เราเตือนแล้วน้าาา

42 13

สวัสดีค่ะทุกคน 

มาพบกับกระทู้อวดของ 5555
จริงๆ ไม่ได้อวดน้า แต่เป็นคนชอบช้อปปิ้งมาก
ยิ่งเวลาไปประเทศแถบเอเชียด้วยกัน แบบเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน
แล้วได้เจอของที่เราใช้อยู่ปกติ แต่ในราคาที่ถูกกว่าเกินครึ่ง
หรือแม้แต่ของใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยใช้
มันรู้สึกแฮปปี้มากค่ะ เลยเอามาเป็นไอเดียเผื่อใครไปช้อปปิ้งโดยเฉพาะแบบเรานะค้า
ทริปนี้เราไป Nagoya มาค่ะ
ของส่วนมากที่ซื้อก็ตาม Drugstore แบบ ดองกี้ มัตซึคิโยะ อะไรแบบนี้ค่ะ
เราชอบเข้าร้านพวกนี้มาก เหมือนเจอขุุมทรัพย์ 555 เข้าไปแล้วอยู่ได้เป็นชั่วโมง
ในนี้เราจะไม่ได้เรียงตามหมวดหรืออะไรนะคะ ก็จะถ่ายให้ดูทั้งหมดที่ซื้อมา
หลายๆ ชิ้น ก็มีขายในไทยอยุ่แล้วค่ะ และหลายๆ ชิ้นเราก็ไปซื้อซ้ำ
แล้วก็จะมีของใหม่ที่เพิ่งซื้อมาครั้งแรกรวมๆ อยู่ด้วยค่ะ
ไปค่ะ ไปรื้อกองพะเนินเทินทึกนี่กัน

ชิ้นแรก

ขอเริ่มที่ item โปรดของเราค่ะ ไปญี่ปุ่นทุกครั้งต้องหอบกลับมาทุกครั้งค่ะ
  • ถุงลอกเท้าค่ะ ตัวนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไปแบบง่ายดายค่ะ ไม่เจ็บใดๆ ทั้งสิ้น ปกติเค้าก็จะแนะนำให้กับคนที่ส้นเท้าแตกอะไรแบบนี้ค่ะ แต่เราไม่ส้นเท้าแตกก็ใช้ทุกเดือนค่ะ 5555
  • วิธีใช้ ในซองจะมีถุงใส่น้ำยามาให้ 2 ถุง สำหรับแช่เท้าทั้ง 2 ข้างค่ะ เราแข่ไว้ 1 ชม. แต่ไม่ต้องกลัวนะคะเพราะไม่แสบ ไม่มีอาการใดๆ เลย เหมือนเอาเท้าแช่น้ำเย็นๆ ปกติเลย พอครบแล้วก็ไปล้างน้ำเปล่าออกค่ะ
  • ผลลัพธ์ ผ่านไปสักประมาณ 3-7 วัน เซลล์ผิวที่ตายแล้วก็จะเปื่อยๆ แล้วหลุดออกมาเองค่ะ แต่ก็จะกระจายไปทั่วพื้นบ้านค่ะเวลาเดิน 555555
  • ราคา ที่ญี่ปุ่นประมาณ 300 บาทไทย ที่ไทยมีขายประมาณ 590 บาทค่ะ

ชิ้นต่อมา

  • วิตามินของ  FANCL ค่ะ ชิ้นนี้เราเคยซื้อตามที่พนักงานร้านขายยาแนะนำ แล้วซื้อกลับมาให้คุณแม่ด้วย รู้สึกว่าดี เลยกลับไปเอามาอีกค่ะ
  • ตัวเลขหน้าซองคือช่วงอายุค่ะ เค้าจะมีซองสีฟ้าสำหรับผู้ชาย สีชมพูสำหรับผู้หญิง แล้วก็จะมี 30, 40, 50 ค่ะ เราเอา 30 มาของตัวเอง และ 50 มาให้คุณแม่ค่ะ 
  • ด้านในซองจะมีแยกเป็นซองๆ ไว้เลยสำหรับแต่ละวัน เราชอบตรงที่มันง่าย พกไปไหนสะดวก แบบถ้าเดินทางไปไหนสัก 3 วัน ก็หยิบซองด้านในไป 3 ซองค่ะ แต่ละซองจะเป็นวิตามินที่เหมาะกับช่วงอายุที่เราเลือกมาค่ะ เช่นอายุ 30 ก็จะมีวิตามิน B, C, Q10, DHA บำรุงร่างกายโดยรวมค่ะ มีทั้งหมด 7 เม็ดต่อวัน แต่ของอายุอื่นๆ ก็จะต่างออกไปค่ะ
  • แพคเกจที่เราซื้อมาคือสำหรับ 15 วันค่ะ แล้วเค้าจะมีสำหรับ 30 วันด้วย
  • ราคาแล้วแต่ร้านนะคะ แต่ตีเป็นเงินไทยตกอยู่ประมาณ 300 ค่ะ ลดหลั่นไปตามร้านที่เราซื้อนะคะ

ชิ้นต่อมา

  • เจลบอลซักผ้าค่ะ บางทีก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าต้องหอบเจลบอลซักผ้ากลับมาด้วยหรอ 555 ตัวนี้รู้จักตอนไปอยู่บ้านพักหลังนึงที่จองผ่าน Airbnb ค่ะ แล้วมีเครื่องซักผ้า เจ้าของบ้านให้เจลบอลแบบนี้ไว้ ใช้แล้วรู้สึกสะดวกมาก โยนก้อนนึงเข้าเครื่องซักผ้าคือจบ เพราะรวมทั้งน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มไว้ในก้อนเดียว เหมาะกับคนขี้เกียจอย่างเรา แล้วกลิ่นนี้ก็หอมดี เลยซื้อกลับมาค่ะ
  • ที่ไทยมีขายนะคะ แต่คนละยี่ห้อกัน แต่เรารู้สึกว่าที่ไทยค่อนข้างแพง ส่วนอันนี้ราคาที่ญี่ปุ่นประมาณร้อยกว่าบาทค่ะ

ชิ้นต่อมา

  • ยาแต้มสิว IHADA ของชิเซโด้ค่ะ ตัวนี้เป็นครีมสีขาวใช้แต้มสิวตามปกติเลยค่ะ ไม่แสบ ไม่ร้อนใดๆ ซื้อมาเพราะตอนไปเที่ยวแล้วสิวขึ้น พนักงานที่ร้านขายยาแนะนำว่าตัวนี้ดีค่ะ แล้วเห็นว่าเป็นของชิเซโด้ ไว้ใจได้ เลยเอามาค่ะ
  • ส่วนตัวเราใช้แล้วเฉยๆ ค่ะ อาจจะแบบชอบซาดิสท์ แบบว่าแต้มไปต้องรู้สึกอะไรบ้างสิ ไม่ใช่เฉยๆ ไรเงี้ยค่ะ 555
  • อันนี้จำราคาไม่ได้จริงๆ ค่ะ แต่น่าจะราวๆ สามสี่ร้อยบาท

ชิ้นต่อมา

  • ตัวนี้เป็นครีมหมักผมที่เราชอบมากตัวนึงเลยค่ะ ของชิเซโด้ บางคนก็ใช้ครีมนวดผมปกติก่อนแล้วอาจจะใช้ตัวนี้ตามหลังสุด แต่เราใช้แค่แชมพูแล้วตัวนี้เลยค่ะทีเดียว ไม่อยากใช้หลายตัว รู้สึกว่าหมักแล้วผมนุ่มมากค่ะ ผมเราจะชอบพันกันมาก เวลาสระก็พัน แต่ใช้ตัวนี้รู้สึกว่าผมไม่พันกัน
  • ถ้าจะลองใช้ก็กระปุกเดียวได้ค่ะ ค่อนข้างหนักในการหิ้วกลับไทย 555 แต่เราซื้อแบบแพค 3 กระปุกมาเลยค่ะ เพราะไม่แน่ใจว่าที่ไทยมีไหม
  • ราคาราวๆ สองสามร้อยบาทนะคะ จำตัวเลขเป๊ะๆ ไม่ได้ แต่ถ้าหาร้านที่มีโปรดีๆ จะถูกมากกว่านี้อีกค่ะ

ชิ้นต่อมา

  • ชิ้นนี้สารภาพว่าไม่รู้จักมาก่อน แต่ปกติเราจะใช้ Cleansing water ทุกวันอยู่แล้วค่ะ แล้วเห็นคำว่า Natural Organic เลยหยิบมา น้ำใสมากกกกก เชื่อละว่าเป็น Water จริงๆ 555
  • พอเอามาลองใช้จริง รู้สึกว่าดีเกินคาดเลยค่ะ ล้างเครื่องสำอางได้เกลี้ยงดี แต่เราไม่ใช้ล้างตรงตานะคะ ที่สำคัญเจ้านี่ขวดใหญ่เบิ้มแถมราคาถูกมาก จำได้ว่าไม่เกิน 200 บาทไทย
  • ถ้าไปอีกแล้วหาเจอก็กะจะหอบมาอีกสักขวดค่ะ มากกว่านี้ไม่ไหว หนักมาก 500 ml แน่ะ

ชิ้นต่อมา

  • หมวดน้ำยาหยอดตานี้เป็นหมวดที่เราชอบมากสุดละค่ะ ด้วยความที่เราใส่คอนแทคเลนส์เพราะสายตาสั้น แถมทำงานที่ต้องใช้คอมตลอดเวลา มันทำให้ตาล้า และแห้งมาก เราก็จะใช้น้ำตาหยอดตาพวกนี้บ่อยมากค่ะ รู้สึกตาแห้งเมื่อไหร่ก็หยอด เวลาไปญี่ปุ่นจะซื้อกลับมาแทบทุกรุ่นทุกยี่ห้อ เป็นแบบสิบๆ กล่องทุกรอบ
  • ตัวนี้เป็นยาหยอดตาที่เค้าเคลมว่าทำให้ตาขาวค่ะ หมายถึงตรงลูกตาขาวอย่างเดียวนะคะ 555 คืองี้ค่ะ เวลาเราใช้สายตาเยอะๆ หรือใส่คอนแทคเลนส์ มันมีผลทั้งทำให้ตาแดงๆ แล้วตรงลูกตาขาว บางทีจะออกสีหม่นๆ ไม่ขาวใสวิ้งๆ ใช่มั๊ยคะ เจ้าแบรนด์นี้เค้าก็เลยเคลมว่าเค้าช่วยให้ตาขาวกลับมาใสปิ๊งเหมือนเดิมค่ะ
  • มีให้เลือก 2 แบบนะคะ สำหรับคนใส่คอนแทคเลนส์กับไม่ใส่คอนแทคเลนส์
  • จริงๆ ใช้ไปก็ชอบนะคะ แต่ยังไม่ได้คิดว่าตาขาวมันใสวิ้งขนาดนั้น แล้วราคาเจ้ารุ่นนี้ก็แพงกว่าเพื่อน ราคา 1500 เยนแน่ะ ตก 400 กว่าบาทไทย แต่ถามว่าไปทุกครั้งก็ซื้อรุ่นนี้กลับมาทุกครั้งนะคะ กล่องสองกล่องเพื่อความอุ่นใจ 5555

ชิ้นต่อมา

  • ยังอยู่ที่น้ำยาหยอดตาค่ะ ตัวนี้เป็นตัวที่เราชอบมากอีกตัวนึง 
  • กล่องนึงจะมีเป็นหลอดเล็กๆ 30 หลอดค่ะ เค้าทำมาให้สำหรับ 1 หลอดใช้ 1 ครั้งให้หมดพอดี 
  • เวลาใช้ก็คือบิดจุกที่ปิดออก แล้วหยอดตาซ้ายขวาค่ะ เราว่าปริมาณค่อนข้างเยอะเหมือนกัน เพียงพอที่จะใช้สำหรับหยอดตา 2 ข้างใน 1 ครั้ง บางทีจะล้นด้วยซ้ำ
  • ข้อดีของเจ้ารุ่นนี้คือเราก็พกแยกไปเป็นหลอดเล็กได้ค่ะ วันนึงจะใช้กี่ครั้งก็พกไปตามนั้น แถมไม่ต้องกลัวเสียหรือหมดอายุ เพราะปกติน้ำยาหยอดตาถ้าเปิดฝาแล้วควรรีบใช้ให้หมดเร็วที่สุดนะคะ ไม่เกิน 1 เดือน แต่ยี่ห้อนี้เราก็แกะแล้วใช้เลย ดังนั้นไม่ต้องกลัวเรื่องความสะอาดค่ะ
  • ราคาประมาณ 3 - 400 บาทไทยค่ะ

ชิ้นต่อมา

  • ตัวนี้เป็นตัวที่ฮิตมาก ขายดีมากของ Rohto เราว่าเป็นเพราะแพึคเกจมันน่ารักค่ะ ก่อนนี้มีออก limited edition เป็นเซเลอร์มูนด้วย ตัวน้ำยาหยอดตาเป็นรูปหัวใจ มีตราเซเลอร์มูนแปะอยู่ โอ้วโหวววว โดนไปเกือบสิบกล่องค่ะ 555
  • ตัวนี้เวลาหยอดก็จะเย็นๆ นิดนึงค่ะ คนที่ยังไม่เคยใช้น้ำยาหยอดตาพวกนี้อาจจะว่าเย็นมาก แต่เราเคยใช้ตัวอื่นที่เย็นกว่านี้ ตัวนี้เลยเฉยๆ ค่ะ ส่วนตัวแล้วเราก็ชอบให้มันเย็นๆ ค่ะ เคยใช้แบบไม่เย็นแล้วมันเหมือนไม่ได้หยอดยังไงไม่รู้
  • ราคาประมาณร้อยกว่าบาท - สองร้อยบาทไทยค่ะ แล้วแต่โปรร้านนั้นๆ ค่ะ

ชิ้นต่อมา

  • Lululun Precious Cream ตัวนี้จะเป็นครีมแบบเข้มข้นของแบรนด์นี้ค่ะ เราเป็นคนชอบทาครีมที่เข้มข้นก่อนนอนค่ะ เพราะเป็นคนผิวผสมค่อนไปทางแห้ง ความชุ่มชื้นผิวเราอยู่แค่ 34% เลยชอบหาอะไรที่ทำให้ผิวชุ่มชื้นค่ะ ซึ่งตัวนี้เข้มข้นชุ่มชื้นตอบโจทย์ แต่เราไม่ใช้ตัวนี้ตอนเช้านะคะ เพราะงั้นถ้าใครผิวแห้ง ไม่ชุ่มชื้น อยากลองครีมแบบเข้มข้นแล้วราคาไม่แพง ก็แนะนำตัวนี้ค่ะ เป็นแบรนด์เดียวกับมาส์คหน้าซึ่งขายดีเหมือนกันในบ้านเราค่ะ
  • ราคา 1,800 เยนค่ะ ก็ราวๆ ห้าร้อยกว่าบาทค่ะ

ชิ้นต่อมา

  • ตัวนี้ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าซื้อมาทำไม แต่คนที่ซื้อตัวนี้ต้องเป็นคนที่จิตใจดี เอาใจใส่ต่อผู้อื่นและแคร์คนรอบข้างแน่ๆ ค่ะ 5555
  • ตัวนี้เอาไว้หยอดลงในโถส้วมหลังจากเราใช้ห้องน้ำเสร็จแล้วค่ะ แบบสมมุติถ้าเราไปเข้าห้องน้ำสาธารณะ แล้วไม่อยากให้คนที่เข้าต่อรู้สึกว่ามีกลิ่นเหม็น ก็ใช้อันนี้หยดไป 1 หยด เท่านั้นเองจย้าาา ก็จะเป็นคนเข้าห้องน้ำแล้วหอมทันที คนที่เข้าทีหลังก็จะแบบ โอ๊ะ!!ประหลาดใจ 5555
  • ราคาจำไม่ได้แน่นอนค่ะ แต่ไม่แพงค่ะ ร้อยนิดๆ ถ้าจำไม่ผิด

ชิ้นต่อมา

  • อีกหมวดนึงที่เราบ้าซื้อมาตลอดก็คือพวกแผ่นมาส์คหน้าค่ะ เพราะแต่ก่อนหน้าพังมาก เป็นรอยดำรอยสิว ผิวแห้งนั่นนี่ เอาเป็นว่ามีปัญหาทุกอย่าง แต่พอใช้แผ่นมาส์คหน้าบ่อยๆ รู้สึกว่าหน้าดีขึ้นมาก เวลาไปที่ที่แผ่นมาส์คราคาดีๆ แบบญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน จะซื้อกลับมาเป็นหลักร้อยแผ่น จนคุณแม่ใช้ตามไปด้วย หน้าเด้งมากข่าาา 555
  • ตัวนี้เป็นแบบ 7 แผ่นนะคะ สามารถใช้ได้ทุกวัน ที่ซื้อมาเพราะเห็นเขียนว่าทำจากสมุนไพรธรรมชาติ แพ้คำว่า Natural ค่ะ เพราะเราใช้อะไรพวกนี้บ่อยๆ เลยอยากได้อะไรที่ธรรมชาติ สารเคมีน้อยที่สุด จะได้ไม่มาระคายเคืองผิวหน้าค่ะ
  • ราคาซองละ 300 เยนค่ะ เท่ากับแผ่นละ 10 กว่าบาทไทยเองค่ะ

ชิ้นต่อมา

  • เซ็ตนี้เป็นของยี่ห้อ Kose ค่ะ เรื่องของเรื่องคือเค้ามีไอเดียในการนำแผ่นมาส์คที่ทำจากเส้นใย Handmade ใช้สูตรญี่ปุ่นแบบโบราณในการทำออกมาให้นุ่มที่สุด ผสมกับสารสกัดต่างๆ และน้ำจากบ่อน้ำแร่ธรรมชาติ อะไรแบบนี้ค่ะ
  • ซองแดงเป็นสูตรสาเก + amino acid ค่ะ ช่วยให้ผิวใสนุ่ม 
  • ซองสีฟ้าเป็นสูตรลูกเดือย ช่วยให้ผิวกระจ่างใสค่ะ
  • ซองสีเหลืองเป็นสูตรน้ำผึ้ง ให้ผิวชุ่มชื้นค่ะ
  • ซองสีชมพูเป็นสาเกเหมือนกัน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น แต่น้อยกว่าสูตรน้ำผึ้งนะคะ
  • ทุกซองมี 7 แผ่นค่ะ ราคา 400 เยนเท่านั้น ถูกมว๊ากกกก จริงๆ มีสูตรอื่นอีกนะคะ ที่เราดูใน website ของ Kose แต่ร้านที่เราไปมีแค่ 4 สีนี้ค่ะ

ชิ้นต่อมา

  • กล่องนี้เป็นมาส์คที่มีส่วนผสมของลูกพีชค่ะ แกะออกมาใช้ก็จะหน้าฉ่ำๆ นิดนึง ไม่รู้อุปทานไปเองหรือเปล่า 555 แต่ชอบกลิ่น เหมือนอยู่ในสวนผลไม้อะไรงี้ เราเคยซื้อมาแล้วชอบ ก็กลับมาซื้ออีกค่ะ
  • ในไลน์ของเค้ายังมีพวกน้ำตบ ครีม โฟมล้างหน้าด้วยค่ะ แต่เราซื้อมาแค่มาส์ค มี 4 แผ่นนะคะในกล่อง
  • ราคาจำไม่ได้แน่นอนค่ะ แต่ตกแผ่นละประมาณ 40 บาท

ชิ้นต่อมา

  • มาส์คข้าวค่ะ ตัวนี้ขายดี อยู่ตรงโซนสินค้าแนะนำตลอดค่ะ ช่วยลดลิวเสี้ยน พวกสิวหัวดำ สิวอุดตันไรงี้ค่ะ แล้วเค้าก็มีขายพวกโทนเนอร์ สบู่ ในไลน์เดียวกันด้วยค่ะ
  • สำหรับเรา ก็เฉยๆ นะคะ ไม่ได้เห็นผลไรมาก อาจเพราะไม่ค่อยมีสิวเสี้ยนด้วยค่ะ แต่ว่าชอบกลิ่นนะคะ 
  • ราคาน่าจะตกอยู่ประมานสองร้อยบาทค่ะ จำตัวเลขแน่นอนไม่ได้ ที่ไทยมีขายนะคะ แต่แพงเอาเรื่องอยู่

ตัวต่อมาค่ะ


  • สำลีเช็ดหน้าชิเซโด้ค่ะ เพื่อนๆ อาจคิดว่าสำลีอะไรก็เหมือนกัน ขอบอกว่าไม่ค่าาาาา 555 หลังจากที่เราเจอช่วงหน้าพังมาต่างๆ นานา ก็เลยสรรหาสำลีที่รู้สึกว่าเช็ดแล้วไม่บาดหน้า ไม่ระคายเคือง หรือสากเกินไป ซึ่งก็ลองมาหลายยี่ห้อมาก แล้วก็เจอดีๆ หลายยี่ห้อนะคะ ตัวนี้ก็เป็น 1 ในนั้นค่ะ
  • กล่องนี้ปริมาณเยอะมาก เราเอาไว้ใช้เช็ดเครื่องสำอางค่ะ ใช้กับ cleansing water เนื้อสำลีหนานุ่ม แล้วก็ซึมซับดีค่ะ ไม่ใช่เท cleansing water ไปทีแล้งเปื่อยจนเช็ดไม่ได้
  • รอบก่อนลองเอากล่องเดียว เห็นมันวางๆ อยู่ ปรากฎใช้ดี รอบนี้เลยหอบมาเพียบค่ะ

ไอเทมต่อมาค่ะ


  • ตัวนี้เป็น stick แท่งๆ ค่ะ เอาไว้ถูจมูก ขัดพวกสิวเสี้ยนต่างๆ เป็นไอเท็มชายดีมาก ตอนเราไปซื้อ มีนักท่องเที่ยวจีนมาเหมา บางคนหยิบไปเป็น 10 อัน น่าจะฮ๊อตมากในบ้านเค้าค่ะ แต่ที่ญี่ปุ่นเองก็ขายดีนะคะ พนักงานบอก
  • ตัวแท่งนี้จะเนื้อคล้ายๆ ยางลบอ่ะค่ะ หนืดๆ หน่อย ล้างหน้าเสร็จแล้ว ซับให้แห้ง แล้วก็เอาตัวนี้ถูๆ ค่ะ
  • เราใช้แล้วไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก เพราะไม่ค่อยมีสิวเสี้ยนที่จมูกเยอะค่ะ แต่ถ้าใครมี ก็ควรลองค่ะ

ชิ้นต่อไปค่า


  • ตัวนี้เป็นสเปรย์ฉีดหลังค่ะ ลดสิว ลดรอยดำอะไรแบบนี้ค่ะ
  • ตัวนี้เราชอบค่ะ เพราะเคยใช้สเปรย์ฉีดหลังยี่ห้ออื่นมาก่อน ทั้งของไทยและของที่อื่น กลิ่นจะแรง เหมือนกลิ่นยาค่ะ แต่ตัวนี้ไม่มีกลิ่นแบบนั้นค่ะ เสียดายที่ซื้อมาขวดเดียว
  • ค่อนข้างเห็นผลอยู่ค่ะ ปกติเวลาร้อน หรือบางทีอาบน้ำแล้วอาจจะเช็ดหลังไม่เห็น ก็จะเป็นผดๆ ที่หลัง แต่ใช้ตัวนี้ช่วย ก็ไม่ขึ้นแล้วค่ะ

ชิ้นต่อไป เป็นชิ้นโปรดของเราอีกชิ้นค่ะ


  • ตัวนี้เป็นกระดาษซับมันที่เราชอบมากค่ะ ครั้งแรกเลยคือไป Drug Store ร้านนึงใต้สถานีรถไฟ แล้วซื้อของอย่างอื่น แต่ยังไม่ครบ 5000 เยน ก็ยังทำ tax refund ไม่ได้ หันไปเห็นกระดาษซับมันอันนี้ก็เลยหยิบมาแค่อันเดียวเพื่อให้ครบตามยอดค่ะ
  • ปรากฎว่าดันใช้ดี เอ้อ!!! ทีนี้พอไปญี่ปุ่นรอบต่อมา ก็ไปเดินๆ ตามหาตาม Drug Store ต่างๆ ก็หาไม่เจอค่ะ ด้วยความที่ชื่อรุ่นชื่อยี่ห้อก็ไม่ได้ถ่ายไว้ ใช้หมดก็ทิ้งซองไปเลย เพราะคิดว่าที่ไหนก็มี หาง่ายอะไรแบบนี้ 555
  • ครั้งนี้พอเจอ เลยเอามาให้สาแก่ใจค่ะ ตัวกระดาษจะเป็นสีน้ำตาลเหมือนซองนะคะ ออกแนวรักษ์โลก ซับแล้วเครื่องสำอาง แป้ง ไม่หลุดออกมาค่ะ แล้วซับหายมันจริง ดีมากค่ะอันนี้

ไปกันต่อค่า


  • ชิ้นนี้เป็นสินค้าขายดีมากกกก คนเรามักซื้อของเปลี่ยนไปตามอายุใช่มั๊ยคะ 555 ตอนเด็กซื้อของเล่น พอโตมาหน่อยซื้อเครื่องสำอาง ซื้อรองเท้า กระเป๋า พออายุมากขึ้นก็เป็นแผ่นแปะแก้ปวดงี้หรอ 555
  • กล่องนี้ก็จะมี 80 ชิ้นข้างในค่ะ จริงๆ เค้ามีหลายไซส์มากๆ มีทั้งแผ่นเล็ก แผ่นใหญ่ เราเลือกไซส์นี้มาเพราะเอามาแปะช่วงบ่าไหล่ค่ะ เวลาพิมพ์งานนานๆ จะปวดจะเมื่อย ก็เลยคิดว่าไซส์นี้เหมาะสุดค่ะ
  • ว่าไม่ได้นะ อันนี้นักท่องเที่ยวคือหยิบๆ เหมาๆ กันแทบทุกคน อารมณ์เดียวกับมาบ้านเราแล้วซื้อยาดม ยาหม่อง ยาทาคลายปวดเมื่อยอะไรแบบนั้น

ของใช้ในครัวเรือนชิ้นต่อไปค่ะ 555


  • เป็น Stamp โถส้วมค่ะ จริงๆ มีหลายยี่ห้อมากค่ะ อีกยี่ห้อที่เป็นตัวหมีน่ารักๆ เราก็ซื้อมาใช้ รอบนี้ลองตัวใหม่ค่ะ
  • วิธีใช้ก็คือเราจะยิงตัวเจลนี้ไว้ด้านในโถส้วมค่ะ ทีนี้เวลากดชักโครก น้ำก็จะไหลผ่านตัวนี้ กลิ่นก็จะหอมค่ะ
  • เราชอบมาก แปะไว้ตลอดๆ 555 พอใช้ไปหลายๆ วัน น้ำก็จะชะล้างเจ้าตัวนี้ให้ละลายจนหมด เราก็ยิงเจล stamp ตัวนี้เข้าไปใหม่ แค่นั้นเองค่ะ

ตัวต่อไปค่า


  • ชิ้นนี้ไปเดินเล่นใน Loft แล้วเจอเลยหยิบมาแบบงงๆ ค่ะ
  • เป็นครีมไว้ขัดรักแร้ให้ขาวเนียนเหมาะกับการโหน BTS ค่ะ 5555 
  • วิธีใช้คือใช้ตอนผิวแห้งนะคะ บีบครีมแล้วถูๆ ไปค่ะ ถ้าครีมยังขาวก็แปลว่ารักแร้สะอาดพอควรค่ะ 555 แต่ถ้าครีมเป็นสีเทาๆ ก็คือควรใช้อย่างต่อเนื่องเลยค่ะ


Beetagenz

Beetagenz

ซื้อเอง ใช้เอง รีวิวเองค่ะ :P

FULL PROFILE