คดี chat มรณะ

73 14


Michelle Carter


สาว 17  ผู้ถูกกล่าวหาว่าผลักเพื่อนชายลงหุบเหวแห่งความตายผ่านข้อความทางโทรศัพท์


เมื่อไม่กี่วันมานี้ สำนักข่าวชื่อดังหลายแห่งได้พร้อมใจเสนอเรื่องราวของสาวสวยที่กำลังเดินสู่อิสรภาพจากการจำคุก เธอคือ Michelle Carter อดีตอาชญากรเยาวชนที่ได้ถูกให้เป็นคนที่ฆ่าได้โดยที่ไม่ต้องลงมือด้วยตัวเอง สิ่งที่เธอทำ คือการส่งข้อความนับร้อยนับพันไปถึงคนรักหนุ่มเพื่อรบเร้าให้เขาปลิดชีวิตตัวเองซะ!   


ย้อนไปในปี 2012 Michelle ในวัย 17 ได้พบกับ Conrad Roy ที่แก่กว่าเพียงหนึ่งปีผ่านทางญาติผู้ใหญ่ที่สนิทกัน แม้เมืองที่พวกเค้าอาศัยอยู่จะไม่ได้ห่างไกลกันมาก แต่ก็เดินทางมาพบตัวเป็นๆ กันเพียงแค่ 5 ครั้งเท่านั้น ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ได้ระบุสถานะว่าเป็นคนรักกัน ความสัมพันธ์ที่นำไปสู่คดีที่ลือลั่นอเมริกาได้เริ่มขึ้นผ่านการติดต่อทางโทรศัพท์






ผู้ตายเจ็บป่วยจากโรคซึมเศร้าและรับการบำบัดรักษามาโดยตลอด

 
หลังจากที่มีแรงดึงดูดเข้าหากันตั้งแต่แรกพบ Conrad เคยมีประวัติการพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว และดูเหมือนว่า มีเพียง Michelle เท่านั้นที่เขาเชื่อใจพอที่จะระบายความทุกข์ทรมานจากโรคซึมเศร้า ดูเหมือนว่า เธอเป็นผู้เดียวที่เข้าใจความรู้สึกที่ดำดิ่งไปในความมืดมนนี้ Conrad บอกเธอว่า ไม่มีใครช่วยเหลือเขาได้...

Conrad เก็บเรื่อง romance นี้เป็นความลับจากครอบครัว แม้จะส่งข้อความหากันตลอดเวลาจนแม่สังเกตได้ แต่เธอไม่รู้ว่าทั้งคู่สร้างโลกแฟนตาซีที่เปรียบเหมือนกับ Romeo และ Juliet ผ่านข้อความนับพัน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งงาน การมีลูก และยังรวมไปถึงความตายเพื่อหลีกหนีความเจ็บปวด


หลังจากส่งข้อความหากันมากมายมาสองปี   เพียงไม่กี่อาทิตย์ก่อนที่จะเกิดความสูญเสียขึ้น  Michelle ยังแนะนำให้แฟนหนุ่มขอรับความช่วยเหลือจากสถาบันจิตเวช และห้ามปรามเมื่อเขาบอกเล่าความปรารถนาที่จะจากโลกนี้ไปด้วยน้ำมือตัวเอง

แต่เรื่องราวพลิกกลับมาเป็นโศกนาฎกรรม ทั้งๆที่เธอเคยให้กำลังใจ Conrad ให้รักษาตัว ไม่กี่วันต่อมา Michelle ก็เริ่มตะล่อมให้ Conrad ฆ่าตัวตายไปจริง เริ่มจากคำแนะนำว่าให้ลอง google วิธีที่เหมาะที่สุด


เธอใช้เวลาอีกห้าวันต่อจากนั้นเพื่อชักจูงให้เขาฆ่าตัวตายให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการกล่อมด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเข้าอกเข้าใจ ไปจนถึงการบีบบังคับ เธอส่งข้อความถึงเขาซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า " เมื่อไรจะทำสักที" "ไม่รักษาคำพูดนี่นา " มัวแต่ลังเลอยู่นั่น" รวมไปถึงการแนะนำวิธีการฆ่าตัวตายที่น่าตกใจอย่าง "ดื่มน้ำยาฟอกขาวซะสิ"

เมื่อ Conrad เริ่มหวาดกลัวและรู้สึกสองจิตสองใจและให้เหตุผลว่า ไม่อยากให้ความตายของเขาทำร้ายครอบครัว Michelle ก็เริ่มหาเหตุผลมาหว่านล้อมให้เขาเปลี่ยนใจมามุ่งมั่นกับการฆ่าตัวตายต่อ

"ชั้นว่าครอบครัวของเธอรู้ดีอยู่แล้วว่าเธอทุกข์ใจมากแค่ไหน ชั้นไม่ได้หมายความว่าพวกเค้าอยากให้เธอทำมันหรอกนะ แต่ชั้นเชื่อจริงๆ ว่าพวกเค้ารับมันได้ พวกเขารู้ว่าช่วยอะไรเธอไปไม่ได้มากกว่านี้แล้ว พวกเค้าพยายามมาทุกอย่าง ทุกคนก็พยายามเต็มที่กันหมด แต่มันเลยจุดที่จะมีใครสามารถช่วยเธอได้แล้วล่ะ พ่อแม่เธอเห็นว่าเธอข้ามจุดนั้นมาแล้ว เธอเล่าว่าแม่เห็นเธอค้นเรื่องวิธีฆ่าตัวตายทาง computer ก็ไม่พูดอะไรสักอย่าง เธอรู้ดีอยู่แก่ใจล่ะว่าแม่เธอเตรียมใจไว้เรียบร้อย"


" ทุกๆ คนจะรู้สึกเศร้าโศกไปสักพัก แต่พวกเค้าจะทำใจได้แล้วก็ก้าวต่อไปข้างหน้า พวกเค้าจะไม่ซึมเศร้าหรอกนะ ชั้นจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น พวกเค้ารู้ว่าเธอมีความทุกข์มากขนาดไหนและเธอก็ต้องทำเพื่อจะได้มีความสุขสักที พวกเค้าจะเข้าใจและยอมรับมันได้ พวกเค้าจะจดจำเธอไว้ในใจตลอดไป"


นี่คงเป็นหนึ่งเหตุผลที่ครอบครัวของ Conrad ยังโกรธแค้นคนรักของลูกชายผู้ล่วงลับมาจนทุกวันนี้ เธอยกเอาครอบครัวที่รักเขามากมายมาหว่านล้อมให้เขาฆ่าตัวตาย และยังทำสิ่งที่ร้ายแรงไปอีกขั้น



นอกจากจะใช้คำพูดที่ฟังดูนิ่มนวลเพื่อกล่อมให้แฟนฆ่าตัวตาย  เธอก็เคยแสดงความไม่พอใจเมื่อรู้ว่าเขาเลือกที่จะมีชีวิตต่อไป และท้าทายให้เขารีบๆ ลงมือสักที

" เธอโกหกกันทุกเรื่องเลยนี่นา เธอบอกว่าจะไปในป่าแล้วก็ลงมือทำมัน เธอพูดจริงจังจนทำให้ชั้นเชื่อว่าเธอหมายความแบบนั้นจริงๆ และชั้นก็ทุ่มให้เธอจนหมดใจเพราะคิดว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้คุยกันแล้ว แต่เธอกลับกินยานอนหลับเท่านั้นเนี่ยนะ ชั้นรู้เลยว่าเธอโกหก เพราะเธอเคยบอกมาแล้วว่าเธอกินไปไม่เยอะเท่าไร ชั้นงงไปหมดแล้ว คิดว่าเธออยากจะตายจริงๆ ซะอีก แต่เธอกลับไม่ได้อยากตาย ชั้นรู็สึกเหมือนกำลังถูกปั่นหัวและรู้สึกโง่มากเลยด้วย"

เมื่อถูกแฟนกล่าวหาว่าเป็นคนโกหก Conrad จึงโต้กลับไปว่า เขาจะใช้การกระทำพิสูจน์ให้เธอเห็นเองและยังเผยถึงแผนการรมควัน Carbon monoxide แต่ก็ยังแสดงความลังเลจน Michelle ต้องเร่งเร้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า









หลังจากที่ Michelle ขอให้เขาสัญญาว่าจะฆ่าตัวตายให้เร็วที่สุด Conrad ก็ได้ตระเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมเพื่อจะรมควันในรถ เธอแนะให้เขาหาที่จอดรถที่ดูเปลี่ยวตาจากผู้คน

เมื่อถึงนาทีสุดท้ายที่เข้าใกล้ความตายจริงๆ ความหวาดกลัวได้โถมกระหน่ำจน Conrad เปลี่ยนใจและออกมาจากรถ แต่แฟนสาวที่เขาไว้ใจสั่งให้กลับเข้าไปทำต่อจนสุดทาง



Conrad จากโลกนี้ไปตลอดกาล...





หลังจากที่ Conrad เสียชีวิต เพื่อนๆ ต่างไปเยี่ยม Michelle เพื่อปลอบโยนให้คลายความเศร้า และยังไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจมากนักเมื่อได้รับการชักชวนจาก Michelle ให้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬา softball ที่เธอจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ Conrad และยังวางแผนนำรายได้จากงานนี้ไปช่วยเหลือในเรื่อง mental health


" เฮ้ ชั้นสร้างเพจ Homers For Conrad บน Facebook ลองไปดูหน่อยสิ ชั้นกลายเป็นคนดังไปแล้วนะ ฮ่าๆๆ"    นี่คือข้อความที่เพื่อนอ่านให้ผู้พิพากษาฟังระหว่างการไต่สวน  


เธอโพสต์ข้อความผ่าน social media ย้ำๆ ถึงความอาลัยรักในตัวแฟนหนุ่ม รวมถึงแฮชแท็ก - ยุติการฆ่าตัวตาย  ทั้งๆ ที่ไม่กี่วันก่อนได้ชักแม่น้ำทั้งห้าเพื่อทำให้เขาปลิดชีวิตตัวเอง สิ่งเหล่านี้กลายมาเป็นประเด็นร้อนแรงบนหน้าข่าว และอัยการไม่ลังเลเลยที่จะใช้เรื่องนี้มาตีตราว่าเธอเป็นจอมโกหกตีสองหน้าที่ใช้ความตายของแฟนมาสร้างภาพแสนดี 


ใครกันแน่คือผู้ควบคุมจิตใจของอีกฝ่าย ?




สิ่งที่หลายคนน่าจะสงสัยเหมือนกัน ก็คงจะหนีไม่พ้นคำพูดที่เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือหลังจากที่คบหากันมาถึงสองปี พวกเค้าได้เปิดใจพูดถึงเรื่องความทุกข์ทรมานจากโรคซึมเศร้ามาโดยตลอด Michelle เป็นฝ่ายให้กำลังใจและคอยห้ามปรามเมื่อเขามีความคิดที่จะใช้ความตายเพื่อให้พ้นจากความเจ็บปวด เธอดูเดือดร้อนใจเมื่อรู้ว่าเขาทำร้ายตัวเอง และแนะนำให้โฟกัสไปที่การบำบัดรักษาทางจิตกับผู้เชี่ยวชาญ


แต่ในเวลาสิบวันก่อนที่ Conrad จะเสียชีวิต โทนของบทสนทนากลับเปลี่ยนไป Michelle เปลี่ยนมาสนับสนุนความคิดเรื่องฆ่าตัวตายอย่างสุดตัว เธอฟังดูร้อนใจเมื่อพบว่า Conrad ยังเลือกที่จะมีชีวิตอยู่

ทนายของ Michelle พยายามแย้งว่า Conrad มิใช่เหยื่ออย่างที่หลายฝ่ายอยากจะให้เป็น แต่ฝ่ายอัยการเลือกเสนอแต่บทสนทนาในช่วงหลังๆ ที่ทำให้ลูกความของเขาดูเหมือนคนร้าย แต่เป็น Michelle ต่างหากที่ถูกบีบคั้นจิตใจในความสัมพันธ์นี้ เขาแนะว่า พวกเค้าน่าจะเหมือนกับตอนจบของ Romeo และ Juliet ( ที่ตายไปด้วยกัน) และขู่ว่า หากเธอเอาเรื่องที่เขาอยากจะตายไปบอกคนอื่นๆ เขาจะเกลียดเธอ ทนายได้เชิญจิตแพทย์ชื่อดังมาช่วยยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขาอันตรายในขั้น abusive และสิ่งที่ทำให้พวกเค้าวางแผนร่วมกันคือการใช้ยาต้านซึมเศร้าต่างหาก



ผู้ต้องหามีความเจ็บป่วยทางจิตใจเหมือนกับผู้เสียชีวิต



การนำเรื่องความเจ็บป่วยทางจิตใจมาสู้คดีไม่ใช่เรื่องแหวกแนวในวงการกฎหมาย แต่การเปิดเผยเรื่องอาการซึมเศร้าและโรคปฏิเสธอาหารของ Michelle ทำให้หลายคนต้องหันกลับมาพิจารณาเรื่องราวที่ซับซ้อนใหม่

หลังจากจิตแพทย์ที่อยู่ฝ่ายทนายจำเลยได้บอกเล่าข้อมูลเรื่องที่เธอเคยทำร้ายตัวเองด้วยการกรีด ทางอัยการก็สวนกลับว่า นี่คงจะเป็นหนึ่งในคำโกหกของเธอ เพราะเป็นเรื่องที่นำมาจากข้อความทางโทรศัพท์ถึงเพื่อนๆ ไม่ได้มีบันทึกทางการแพทย์เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตาม จิตแพทย์ก็ยังเสนอทฤษฎีว่า พฤติกรรมของ Michelle เป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยา Prozac เพื่อต้านซึมเศร้ามาเป็นเวลานาน มันทำให้เธอหลงผิดว่า การช่วยให้คนรักฆ่าตัวตายเปรียบเหมือนคุณงามความดีที่ทำให้เขาพบกับความสุขในที่สุด

"เธอไม่คิดว่าการกระทำของตัวเองคืออาชญากรรม" จิตแพทย์ฝั่งจำเลยยืนยัน



เด็กสาวผู้โหยหาความรักจากคนรอบข้าง


พยานที่คบหากับ Michelle ได้ให้ข้อมูลที่สอดคล้องกับหลักฐานข้อความจากโทรศัพท์ เธอรู้สึกโดดเดี่ยวและหวาดกลัวว่าถูกทิ้ง ในโลกแห่งความเป็นจริง เธอเข้ากับสังคมไม่เก่งนัก จึงถูกหมางเมินจนเคยโอดครวญกับเพื่อนสมัยเด็กว่า ไม่มีใครอยากจะเป็นเพื่อนกับเธอสักคน เมื่อได้พบปะกับคนหน้าใหม่ เธอจะพยายามตีสนิทผ่านการส่งข้อความเพื่อบอกเล่าปัญหาส่วนตัวที่หนักหน่วงให้พวกเค้าฟัง แม้จะยังไม่ทันรู้จักกันดีเลยก็ตาม และนั่นรวมไปถึงเรื่องราวของ Conrad ที่มีทั้งเรื่องจริงและการแต่งเติมเสริมแต่ง




อัยการได้เสนอต่อศาลว่า Michelle ได้ส่งข้อความบอกเล่าของ Conrad ให้เพื่อนรู้สองวันก่อนที่เขาจะฆ่าตัวตายจริงๆ เธอดัดแปลงเรื่องราวว่า Conrad หายตัวไปและไม่มีใครติดต่อได้ จนทำให้เธอหวั่นเกรงว่าเขาจะตัดสินใจทิ้งชีวิตโดยไม่บอกลา แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็ส่งข้อความเร่งเร้าให้ Conrad รีบลงมือ

" แค่ติดเครื่องยนต์ เธอก็จะได้เป็นอิสระและพบความสุข อย่าเอาแต่ยกเลิก อย่าเอาแต่รอสิ" นี่คือหนึ่งในข้อความที่ Michelle ส่งให้ Conrad ก่อนที่เขาจะรมควันตัวเองในรถ แล้วก็ส่งข้อความหาเพื่อนๆเพื่อแสดงความทุกข์ใจจากการหายตัวไปของแฟนหนุ่ม




อัยการเชื่อว่า เธอ Plot เรื่องขึ้นมาทั้งหมดเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นด้วยภาพของหญิงสาวผู้น่าสงสารที่ต้องเสียคนรักไปจากการฆ่าตัวตาย



และสิ่งที่น่าสะพรึงไปกว่านั้นคือ Michelle ยืนยันกับเพื่อนอีกคนว่า เธอถือโทรศัพท์ฟังเสียงที่ Conrad กำลังสิ้นใจอยู่ในรถ ทั้งยังยอมรับว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาตาย แม้ว่าเขาเปลี่ยนใจออกมาจากรถด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ยังยืนยันให้กลับเข้าไปเพื่อฆ่าตัวตายให้สำเร็จ



หลักฐานเหล่านี้เองที่ทำให้เธอรับโทษจำคุก 15 เดือนในข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา เพราะศาลเชื่อว่า เธอนิ่งเฉยไม่ยอมช่วยเหลือ Conrad ทั้งๆ ที่รับรู้ว่าเขากำลังทำอะไรลงไป



ปฏิกิริยาจากครอบครัวผู้เสียชีวิต



แม่ของ Conrad บอกเล่าเรื่องราวสุดรันทดว่า เมื่อที่ลูกชายจากไปในช่วงแรก Michelle ติดต่อมาเพื่อแสดงตัวว่าเป็นแฟนของเขา ( เธอส่งข้อความไปหาน้องสาวของเขา โดยที่แสร้งว่าติดต่อหา Conrad ไม่ได้ ทำให้ครอบครัวเริ่มออกตามหา) ห้แม่รู้สึกซึ้งใจในตัว Michelle ที้เฝ้าคอยให้กำลังในในช่วงเวลาแห่งความสูญเสีย แต่ก็เริ่มจับพิรุธบางอย่างได้ หลังจากที่ Michelle ย้ำซ้ำๆ ว่า "อย่ารู้สึกผิดไปเลย คุณพยายามที่จะช่วยเขาเต็มที่แล้ว หนูก็พยายามเหมือนกัน" แม่จึงแจ้งไปที่ตำรวจว่า แฟนของลูกชายน่าจะรู้อะไรมากกว่าที่เธอเล่า

เป็นที่มาของการสืบสวนที่รวบรวมเอาหลักฐานที่มัดตัว Michelle จนดิ้นไม่หลุด เมื่อแม่ของ Conrad ได้รู้ความจริงทุกอย่างก็ยิ่งใจสลายไปกว่าเดิม

"มันยากที่จะเชื่อว่าจะมีใครที่ร้ายกาจได้ขนาดนั้น จนถึงทุกวันนี้ ชั้นไม่สามารถทำใจอ่านข้อความที่เธอพยายามปั่นหัวลูกชายชั้นได้หมด มันเจ็บปวดเกินไป ชั้นรู้เป็นบางข้อความเท่านั้นค่ะ"

 แม่ยืนกรานว่า Michelle คือคนที่ผลักไสลูกชายของเธอให้ไปสู่ความตาย  แม้จะมีการอ้างเรื่องการใช้ยาต้านซึมเศร้ามาเป็นสาเหตุของพฤติกรรมนี้  แต่เธอเชื่อว่า    คนทีใช้ยาก็ยังแยกแยะถูกผิดได้  ส่วนพฤติกรรมที่ที่บิดเบี้ยวไปจากศีลธรรมนั้นย่อมเกิดมาจากจิตใจที่เลวร้ายนั่นเอง    


โทษทัณฑ์ของผู้ที่ยุยงให้ผู้อื่นฆ่าตัวตาย

William Francis Melchert-Dinkel คือพยาบาลที่ใช้เวลาว่างเข้าไปในห้องแชทด้วยชื่อของนางพยาบาลหญิงเพื่อค้นหาเป้าหมายคือคนที่สิ้นหวังในการมีชีวิตอยู่ เมื่อได้รับความไว้วางใจแล้วก็ชักจูงให้คนเหล่านั้นเลือกจากโลกไปด้วยวิธีต่างๆ ที่น่าสะเทือนใจไปกว่านั้นคือ  เขาล่อหลอกว่าจะร่วมฆ่าตัวตายไปพร้อมกับเป้าหมายด้วย ซ้ำยังกล่อมให้คนเหล่านั้นถ่ายทอดนาทีฆ่าตัวตายเว็บแคมให้คนอื่นได้ชม ก่อนที่ตำรวจจะตามตัวมาดำเนินคดีได้ ก็มีคนจบชีวิตไปตามคำแนะนำของเขาไปแล้วสองคน


โทษที่ได้รับคือ จำคุก 178 วัน (น้อยกว่า Michelle ) และต้องรับทัณฑ์บนอีก 10 ปี


อิสรภาพของ Michelle และการผลักดัน Conrad's law



เรื่องราวของคดีนี้ได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังจากที่ MIchelle ได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดเนื่องจากเป็นนักโทษที่มีพฤติกรรมดี จากแรกเริ่มเดิมทีที่เธอได้รับโทษจำคุกเพียง 15 เดือนเนื่องจากได้กระทำผิดในขณะที่ยังเป็นเยาวชน ทันทีที่ได้รับอิสระ ก็มีคำถามต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตว่ามีความรู้สึกเช่นไร พวกเค้าได้ประกาศสั้นๆ ว่า รู้สึกผิดหวังที่ผู้กระทำผิดไม่ได้ชดใช้สิ่งที่ทำลงไปเต็มเวลาที่ศาลกำหนด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเรียกให้ Conrad ฟื้นขึ้นมาได้ สิ่งที่แม่ของเขามุ่งมั่นต่อไป คือการผลักดัน Conrad's law ที่จะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำก้วยกฎหมายที่จะเอาผิดผู้ที่ยุยงหรือชักจูงให้บุคคลที่เจ็บป่วยทางจิตใจที่กำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการฆ่าตายให้ลงมือทำจริงๆ




เหตุการณ์ที่สะเทือนจิตใจในครั้งนี้อาจจะทำให้ผู้ใหญ่บางคนรู้สึกหวั่นใจที่ได้เห็นลูกหลานหมกมุ่นกับการ chat เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า คนที่เรารักไม่ได้ฟังเสียงกระซิบให้เลือกเส้นทางแห่งความตายอยู่ ?


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE